ตอนที่ 7 เธอสามารถจัดการได้เองกับมือ
ทำไมจิรภาสถึงปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้! แล้วนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมา แทรกแซงเรื่องนี้ ทุกคนรู้จักฐานะของบริษัทเค.เอฟในวงการบันเทิง เป็นอย่างดี เดาได้เลยว่าจิรภาสก็รู้สึกว่าจิดาภาได้ทำผิดพลาดครั้ง ใหญ่ไปแล้วแน่ๆ
จิดาภาเอาตัวเองกระโดดลงไปในกองไฟจริงๆ นับจากนี้ไป ตำแหน่งราชินีจอเงินของเธอได้กลายเป็นอากาศธาตุไร้ที่ยืนใน สังคมไปแล้ว
ในตอนที่ผู้คนต่างคิดว่าจิรภาสมาเพื่อโจมตีจิดาภา กลับกลายเป็น ว่าเขาเดินมายืนอยู่ข้างๆ จิดาภา แล้วพยักหน้าพลางพูดชมเชยเธอ “การแสดงของคุณไม่เลวเลยนะ”
จิดาภาเบิกตากว้างมองเขา นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาชื่นชมการ แสดงของเธอ และยังเป็นคนที่เสนอตัวมาช่วยเหลือเธอ…คนคนนี้ คือสามีที่เธอเพิ่งจะแต่งงานด้วย!
จิรภาสสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางทุกอย่างของจิดาภามาตลอด เขา หันไปมองคุณณัฏฐ์ “คุณผู้กำกับ คุณคิดว่ายังไงครับ”
“การแสดงของคุณจิดาภาเป็นธรรมชาติและไร้ที่ติ ในจุดนี้ผมเชื่อ ว่าทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว” คุณณัฏฐ์กวาดตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ยากที่จะเผชิญ “แต่ว่าเมื่อกี้นี้เธอเพิ่งจะ.”
“ผมคิดว่านี่ไม่นับว่าเป็นปัญหาใหญ่เลยนะครับ”
แม้ว่าผู้จัดละครจะเกรงกลัวตำแหน่งของเขา แต่ก็ยังกัดฟัน พูดออกมา “ไม่ได้ บทนักแสดงหญิงสมทบจะต้องเป็นของชนิศา เท่านั้น”
พวกเขาลงทุนไปตั้งมากเท่าไหร่ จะมาเปลี่ยนแผนการง่ายๆ เพราะ คำพูดของจิรภาสประโยคเดียวได้ยังไง
“ต้องเธอเท่านั้นเหรอ หรือพวกคุณคุยกันแล้วแต่แรกว่าจะยกบท นักแสดงหญิงสมทบให้กับชนิศาน่ะ” จิรภาสพูดออกมาอย่างสบายๆ แต่น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและเฉยเมยอำนาจที่ กดดันอีกฝ่ายให้เปลี่ยนความคิด “แต่ในมุมมองของผม ชนิศายังไม่ ดีพอ แถมยังเข้าถึงจิตวิญญาณของตัวละครนี้ไม่ได้…จิดาภาต่าง หากที่เหมาะสมกับบทนี้มาก
ทัศนคติของเขาแบบนี้โจ่งแจ้งมาก ถ้าไม่โง่ก็จะมองออกว่าจิรภาส ใช้อำนาจของตนจนถึงที่สุด
จิดาภาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าอยู่ดีๆ เขาก็จะปรากฏตัว แถมยังมา ยืนข้างเธอเพื่อช่วยเหลือเธอแม้ว่ามันจะน่าตกใจ แต่ก็อบอุ่นมากอยู่ เหมือนกัน
น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เหล่าผู้ถือหุ้นไม่กล้าที่จะขัดคอเขา จึงบ่น พึมพำออกมาสองประโยคจากนั้นก็ไปหาชเยศและบริษัทs.jเพื่อ จัดการกับเรื่องนี้ด้วยความโกรธ
“งั้นเรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้ก่อนชั่วคราวละกันนะ” คุณณัฏฐ์มองจิรภาส
และพูดออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
จิรภาสก็มองจิดาภาแวบหนึ่งด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง แล้วพาเลขาเดิน
ออกไป
นักข่าวที่รุมล้อมจิดาภาอยู่เมื่อครู่ก็วิ่งกรูตามเขาไป ผ่านไปไม่นาน ก็ไม่มีใครอยู่ข้างกายจิดาภาแล้วสักคน
ต่อสายไปสี่ห้าครั้ง ถวิตก็เดินมาที่กลางเวทีแล้วมองจิดาภาด้วย ความโกรธ จากนั้นก็พูดออกมาอย่างรังเกียจว่า “จิดาภา แกนี่มัน ฤทธิ์เยอะจริง รอก่อนเถอะ คุณชเยศไม่ปล่อยแกไว้แน่”
จิดาภาได้รับความสุขและความอบอุ่นจากการถูกจิรภาสช่วยเอา ไว้เมื่อครู่ เธอถือโอกาสโยนผ้าปิดปากลงถังขยะแล้วมองไปที่ถวิตอ ย่างไม่มีท่าทีว่าจะยอมจำนนเลยแม้แต่น้อย “ก็ดี ฉันจะรอนะ”
เพราะว่าเธอก็จะไม่ปล่อยพวกเขาเอาไว้เหมือนกัน!
จิดาภาฉวยโอกาสตอนที่นักข่าวยังไม่กลับมารีบวิ่งหนีไปทาง ประตูหลัง แต่ก็เจอกับรถของจิรภาสที่ขับออกมาจากโรงจอดรถ พอกระจกรถติดฟิล์มดำที่อยู่ตรงหน้าเธอถูกเลื่อนลงก็เห็นว่าเขาอยู่ ในรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยไร้ความรู้สึก แต่กลับยิ้มให้เธอเป็นห่วง กังวลใจ “ขึ้นรถสิ”
จิดาภาพยักหน้า “เมื่อกี้…ขอบคุณมากนะคะ”
เพราะคุ้นเคยกับวงการนั้นเป็นอย่างดี จิดาภารู้ดีว่า ถ้าจิรภาสไม่ ปรากฏตัวละก็ เธอก็คงจะจบเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วยตัวเองไม่ได้
แน่นอน
“คุณเป็นภรรยาของผมแล้ว คุณคิดว่าผมจะทนให้คนอื่นมาดูถูก เหยียดหยามผู้หญิงของผมได้ง่ายๆ เหรอ”
เขาเลิกคิ้วสูง คำพูดที่ดูเผด็จการหลุดออกมาจากปากของเขา
ความหมายในคำพูดนั้นเหมือนว่าจะปกป้องเธอแบบนี้ไปตลอดงั้น เหรอ
“ถ้าเพราะฉันทำให้บริษัทเค.เอฟกับคุณลำบากละก็ ฉัน…” เธอนั่ง ลงข้างกายเขาแล้วปิดประตู จิดาภาจับปลายนิ้วของตน เม้มปาก เพื่อหยุดคำพูดที่ตนอยากพูด
จิรภาสแค่มองเธอด้วยสายตาที่ปราศจากกามตัณหา “ถ้าผมกลัวมี ปัญหา ก็คงไม่จดทะเบียนกับคุณหรอก”
ในใจเธอเต้นตุบๆ เพียงแค่รู้สึกว่าบรรยากาศในรถดูอบอุ่นขึ้นมา มาก แล้วเธอก็นั่งอยู่ข้างผู้ชายคนนี้อีก ในไม่ถึงเลยว่าใจจะเต้นเร็ว ขึ้นจนควบคุมตัวเองได้ยากแบบนี้
“ตอนนี้เรากำลังไปไหนกันคะ” เธอเอ่ยถามอย่างรีบร้อนลนลาน
“บ้านของผม”
หลังจากที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบเงียบ ก็เห็นว่าจิดาภาดูเหม่อ ลอยเล็กน้อย เขาเลยยิ้มอ่อนแล้วพูดว่า “เวลาผมทำอะไรไม่ชอบให้ มันยืดเยื้อ ถ้าเธอตกลงละก็ ผมก็จะจัดงานแต่งงานที่คุณลืมไม่ลง ให้คุณได้นะ”
ใบหน้าของจิดาภาแดงก่ำเล็กน้อยเหมือนคนเมา เธอยังคงยืนหยัด ตอบไปว่า “ยินดีค่ะ”
ไม่ใช่เห็นด้วย แต่ยินดีเลยต่างหาก เธอรู้ทางเลือกของเธอเป็น อย่างดี ชื่อของจิรภาสได้ถูกตีตราลงไปในชีวิตเธอแล้ว ไม่มีทางจะ เช็ดออกได้
เธอยินยอมพร้อมใจที่จะมอบตัวเธอเองให้กับเขา