บทที่ 584 ซักถาม
มันไม่ง่ายเหมือนอย่างที่นายคิดหรอก
ได้ยินแบบนั้นเหม็งหยี่ก็ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ก่อนที่วันสิ้นโลกจะมาถึง การวิจัยใน A นั้นมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว พวกเรานั้นแค่ติดตามและคอยบันถึงข้อมูลเท่านั้น เพราะงั้น A ก็จะถูกเก็บไว้เฉยๆภายในคลังเก็บชีวภาพเท่านั้น และเพราะแบบนี้ พวกเราจึงไม่เคยได้รู้ชัดเจนถึงศักยภาพด้านการต่อสู้ของ A เสียที ในความคิดของพวกเรา A นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของ แผน A ดังนั้นพวกเราควรจะทดลองและเก็บข้อมูลมันให้ได้มากที่สุด รวมถึงศักยภาพในการต่อสู้ด้วย…
เมื่อพูดไปแบบนี้ใบหน้าของเหม็งหยี่ก็ดูจะฝืนยิ้มอยู่เล็กน้อย เพราะงั้น เราถึงไม่ได้คิดที่จะขนย้ายมันลงมาตั้งแต่แรกเมื่อพวกเราลงมาชั้นใต้ดินเช่นนี้ เพราะข้อมูลของ A มันถูกแยกเอาไว้ เอาจริงๆเลยนะ ต่อให้โลกไม่ได้จบสิ้นขึ้นมาจริงๆ A ก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรอยู่แล้ว และการอยู่เฉยๆไปเรื่อยๆแบบไม่มีวันสิ้นสุดนั่นแหละ คือจุดจบของมัน…
หลังรับรู้ได้ว่าเหม็งหยี่กำลังรู้สึกแย่หลินเฉิงก็ขมวดคิ้วช้าๆ เขานั้นยังรู้สึกไม่เข้าใจเธออยู่บางอย่าง ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงดูมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างจะลึกลับเมื่อพูดถึง A แบบนี้
เหม็งหยี่นั้นเริ่มจะรับรู้ตัวเองได้ว่าเธอกำลังรู้สึกแย่เพราะงั้นเธอจึงรีบควบคุมความคิดและพูดต่อ เหตุผลข้างบนนั่นน่ะ เพราะว่าคุณเฉินไม่เห็นด้วยที่จะส่งใครมาช่วยพวกเราขนย้าย A จากด้านบน ฉันคิดว่าเหตุผลที่เขาปฏิเสธ ถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลที่เรามีอยู่นั้น มากพอที่จะสร้าง A ขึ้นมาใหม่ได้ ก็เป็นเพราะพวกเขานั้นมองว่าตัวเองสำคัญกว่าทุกๆอย่าง ยังไงก็แล้วแต่ สภาพแวดล้อมภายในเมืองนั้นอันตรายเกินไปด้วย ถ้าไม่จำเป็น ฐานใหญ่ก็คงจะไม่ส่งคนเข้ามาในเมื่องนี้ง่ายๆ!
โอเค…
ฟังเหม็งหยี่อธิบายหลินเฉิงก็พยักหน้าอยู่แล้ว และการอยู่เฉยๆไปเรื่อยๆแบบไม่มีวันสิ้นสุดนั่นแหละ คือจุดจบของมัน…
หลังรับรู้ได้ว่าเหม็งหยี่กำลังรู้สึกแย่หลินเฉิงก็ขมวดคิ้วช้าๆ เขานั้นยังรู้สึกไม่เข้าใจเธออยู่บางอย่าง ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงดูมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างจะลึกลับเมื่อพูดถึง A แบบนี้
เหม็งหยี่นั้นเริ่มจะรับรู้ตัวเองได้ว่าเธอกำลังรู้สึกแย่เพราะงั้นเธอจึงรีบควบคุมความคิดและพูดต่อ เหตุผลข้างบนนั่นน่ะ เพราะว่าคุณเฉินไม่เห็นด้วยที่จะส่งใครมาช่วยพวกเราขนย้าย A จากด้านบน ฉันคิดว่าเหตุผลที่เขาปฏิเสธ ถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลที่เรามีอยู่นั้น มากพอที่จะสร้าง A ขึ้นมาใหม่ได้ ก็เป็นเพราะพวกเขานั้นมองว่าตัวเองสำคัญกว่าทุกๆอย่าง ยังไงก็แล้วแต่ สภาพแวดล้อมภายในเมืองนั้นอันตรายเกินไปด้วย ถ้าไม่จำเป็น ฐานใหญ่ก็คงจะไม่ส่งคนเข้ามาในเมื่องนี้ง่ายๆ!
โอเค…
ฟังเหม็งหยี่อธิบายหลินเฉิงก็พยักหน้าเข้าใจ เขาเข้าใจการกระทำของฐานใหญ่
ถ้ายึดตามการทำงานของเขาในหยางจิงหลายวันมานี้หากเป็นคนทั่วๆไปที่ต้องทำงานอย่างปลอดภัยภายในเมืองนี้ มันมีแค่ 2 ทางที่จะช่วยได้ นั่นคือ หากไม่มาเหยียบพื้นดินโดยเฮลิคอปเตอร์เลย ก็ส่งกำลังคนมาวัก 100 คนเพื่อจัดการพวกมันก่อน!
แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ตามท้ายสุดแล้วเดี๋ยวก็เจอปัญหาเรื่องทรัพยากรไม่พออยู่ดี ทุกๆการกระทำ คือการผลาญทรัพยาการธรรมชาติ ภายในการพิจารณาเรื่องพวกนี้ พวกคนระดับสูงภายในฐานบัญชาการใหญ่ ก็คงจะไม่ส่งคนของพวกเขาลงมาช่วยนักวิจัยเหล่านี้ขนย้ายร่างทดลองที่ไม่มีประโยชน์ในอนาคตหรอก
แต่พอคิดถึงเรื่องนี้ข้อสงสัยใหม่ก็เกิดขึ้นมาในความคิดของหลินเฉิง นั่นคือ เรื่องที่เหม็งหยี่บอกว่า ร่างทดลอง A ถูกทำให้อยู่ในสภาพจำศีลภายในห้องเก็บร่างทดลองชีวภาพอยู่ตลอดเวลา แต่ทำไมเขาถึงได้เจอมันในห้องเก็บศพได้กันนะ?
เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างมันไม่ถูกต้องหลังจากที่คิดอยู่พักหนึ่ง หลินเฉิงก็ไม่ได้ถามออกไปทันทีเกี่ยวกับกลับกันเขาถามเหม็งหยี่ด้วยคำถามอื่นแทน แล้วพลังของ A ที่เธอว่าคืออะไร?
พลัง?
ได้ยินดังนั้นเธอก็สงสัย ทำไมจู่ๆก็ถามขึ้นมาล่ะ?
ตอบมาเถอะน่า!
หลินเฉิงดุเธอขึ้นมาทันทีเมื่อเธอไม่ยอมตอบคำถามตรงๆ!
เมื่อเห็นหลินเฉิงที่ค่อยๆกลับไปเยือกเย็นเหมือนเดิมเหม็งหยี่จึงค่อยๆลดความตกใจลงครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับอย่างรวดเร็ว A ทำได้แค่ล่องหนแหละ
อ่า…
หลินเฉิงยิ้มหลังจากได้ยินคำตอบและยืนพร้อมกับสะบัดมือขวาและทันใดนั้นก็เกิดดาบน้ำแข็งขึ้นมาในมือของเขาอีกครั้ง!
*ชิ้ง!*
ในขณะที่เหม็งหยี่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลินเฉิงผู้ที่เรียกดาบน้ำแข็งขึ้นมาก็ฟันเข้าไปที่คอของเธอแทบจะทันที!
ไม่นะ!
เมื่อรับรู้ได้ถึงจิตสังหารและความเยือกเย็นจากหลินเฉิงร่างกายของเธอมันก็เหมือนถูกตรึงไว้กับเก้าอี้ด้วยแรงกดดันมหาศาล เธอทำได้เพียงมองคมดาบที่กำลังเข้ามาใกล้คอเธอมากขึ้นเรื่อยๆ และในขณะที่ดาบน้ำแข็งนั้นกำลังจะดันคอเธอ เธอก็ไม่สามารถยับยั้งความกลัวได้อีกต่อไป มันแผ่กระจายออกมาพร้อมๆกับที่เธอตะโกนออกไปเสียงดัง!
หืม?
ทันทีที่เธอตะโกนออกมาดาบน้ำแข็งนั้นก็หยุดไป คมดาบของมันนั้นอยู่ห่างจากคอเธอไม่ถึงมิลลิเมตรด้วยซ้ำ! ถ้าเหม็งหยีลังเลที่จะพูดไปมากกว่านี้แม้แต่นิดเดียวล่ะก็ บางทีเธออาจจะกลายเป็นศพที่ 3 ภายในห้องนี้ไปแล้วก็ได้!
ฟู่…ฟู่…ฟู่…
หลังจากที่ขจัดแรงกดดันนั้นไปได้เธอนั้นก็ไม่รู้เลยว่าทำไมจู่ๆก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ในตอนนี้ เหม็งหยี่นั้นไม่มีกระจิตกระใจที่จะตอบคำถามอีกฝ่ายแล้ว เธอนั่งลงไปบนเก้าอี้ก่อนจะหายใจอย่างหนักหน่วงพร้อมกับเหงื่อที่ไหลซึ่มออกมาจากหน้าผากไม่หยุด
ทำไม?
เมื่อเริ่มที่จะดีขึ้นแล้วหลังจากผ่านมาราวๆ5 นาที เหม็งยี่ก็จัดการอารมณ์ตัวเองต่างๆให้ออกมาจากความกลัวตายเมื่อครู่นี้ เธอมองไปยังหลินเฉิงก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า
ทำไมงั้นเหรอ?
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็ทำเสียงฮึดฮัดหลังจากเก็บดาบออกไปด้วยการสะบัด เขาก็เดินไปยังโต๊ะชาพร้อมกับหยิบบุหรี่มาจุดสูบจากนั้นจึงเอ่ยถาม ฉันก็อยากรู้ว่าทำไม อยากรู้ว่าทั้งๆที่เธอรู้ว่าฉันเป็นคนไม่ดี แต่ทำไมยังกล้าโกหกต่อหน้าฉันอีก!
ฉันโกหกตรงไหนน่ะ!
เหม็งหยี่โกรธมากๆหลังจากได้ยินดังนั้นเธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอต้องมาเสี่ยงตายกับการที่เขาคิดว่าเธอนั้นพูดโกหกด้วย!
ใช่โกหกมาหน้าด้านๆเลย!
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงพูดเหมือนตัวเองไม่ผิดอยู่หลินเฉิงก็ดูดบุหรี่หนักๆและพ่นควันหนาออกมาก่อนจะพูด ถ้างั้นฉันจะถามเธอ ว่า A มันถูกทำให้จำศีลอยู่ในห้องเก็บร่าวชีวภาพ ถูกมั้ย?
ใช่มีปัญหาอะไร?
ได้ยินแบบนั้นเหม็งหยี่ก็จ้องแบบเยือกเย็นแล้วถามกลับเลย
ฮึ่ม!
เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาดุร้ายจากอีกฝ่ายราวกับอยากจะตัดเขาเป็นชิ้นๆ หลินเฉิงก็ไม่ได้สนใจอะไร เขายังคงถามต่อ ถ้างั้นเธอบอกฉันได้หรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงเจอร่างทดลองนั่นในห้องเก็บศพ? แล้วก็-
เขารีบใช้มือหยุดอีกฝ่ายที่กำลังจะพูดแทรกขึ้นก่อน ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่เคลียร์ว่าพวกคนที่มีความสามารถนั้นปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ฉันก็มั่นใจได้ว่ามันต้องเป็นก่อนวันสิ้นโลกแน่ๆ ไม่ว่าจะซอมบี้ หรือนักล่าที่มีพลังใดๆด้วยก็ตาม เพราะงั้นเธอบอกฉันได้ไหมว่าเธอรู้ เวลา’เกิด’ ของพวกมันก่อนวันสิ้นโลกได้อย่างไร? แล้วก็สิ่งที่เธอเห็นมากที่สุดอย่าง อะไรคือพลังพิเศษของร่างทดลองพวกนั้นในวันสุดท้าย?
หลังจากถามไปหมดแล้วหลินเฉิงก็กลับไปยังโซฟา หยิบบุหรี่มาจุดสูบอย่างใจเย็นเพื่อรอให้หญิงสาวพูด