บทที่ 594 สัมผัสผู้ติดเชื้อ!
SC:บทที่594 สัมผัสผู้ติดเชื้อ!
เขาไม่ได้สนใจเหม็งหยี่เลยหลินเฉิงนั้นยังคงสังเกตอาการของชิงหยาอย่างระมัดระวัง เขานั้นคิดว่าเด็กสาวที่ผอมแห้งคนนี้ดูๆแล้วไม่มีอะไรที่แตกต่างเป็นพิเศษเลย แต่หลังจากที่เธอเงยหน้ามามอง หลินเฉิงก็พบว่าเธอคนนี้จริงๆแล้วก็แค่ผอมเท่านั้น
เด็กสาวคนนี้หากมองดีๆแล้วเธอนั้นสวยมากๆเหมือนกับหินโมราก้อนเล็กๆ ดูเหมือนว่าเธอนั้นจะได้รับสารอาหารครบถ้วนก็จริงแต่ใบหน้าของเธอนั้นกลับดูซีดมากๆ นัยน์ตาสีเทาดำของเธอนั้นดูเหมือนกับพวกซอมบี้ มันดูไร้จิตใจ เพราะงั้นสิ่งที่เหม็งหยี่บอกเขาว่าเธอไม่เป็นพิษภัยทั้งกับมนุษย์และสัตว์ คงเป็นเพราะเธอกำลังอยู่ช่วงก้ำกึ่งระหว่างมนุษย์และซอมบี้แน่ๆ…
ฮ่า…
เพียงแค่ถอนหายใจหลินเฉิงก็ยืนขึ้นและตัดสินใจที่จะรออยู่ที่ฐานวิจัยใต้ดินนี่ก่อน
นายทำอะไรลงไป!ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ!? ทำไมนายถึงทำให้ B001 ตอบสนองได้!
เหม็งหยี่โดนหลินเฉิงเมินอีกครั้งในตอนนี้เธอทั้งกังวลและโกรธ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก ทำได้เพียงปล่อยวางความตื่นเต้นภายในใจนั้นก่อนจะถามอีกครั้งเมื่อหลินเฉิงยืนขึ้น
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็หันกลับไปมองเธอ จะรีบร้อนไปไหนเนี่ย? มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดที่นี่นะ เราจะพูดเรื่องนี้กันทีหลัง!
ออกไปๆ!
ได้ยินดังนั้นเหม็งหยี่ก็ช็อกและถาม นายหมายความว่าไงน่ะ? อย่าบอกนะว่านายกำลังจะพาฉัน…
ไร้สาระน่า!
ก่อนที่เหม็งหยี่จะพูดจบหลินเฉิงก็จ้องเธอก่อนจะขัดคอไว้ก่อน ถึงแม้เธอจะอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดภายในนี้ให้ฉันฟัง สำหรับฉัน เธอก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นอีก! และ…
ขณะที่พูดถึงสิ่งนี้เขาก็สังเกตเห็นว่าเหม็งหยี่ดูหดหู่ลงเรื่อยๆ เพราะงั้นเขาจึงค่อยๆพูดช้าลงและเปลี่ยนไปอธิบายแทนด้วยน้ำเสียงนุ่ม เธอคิดว่าพวกการ์ดนั่นจะยอมให้เธอออกไปง่ายๆหลังจากที่เธอมาคลุกคลีอยู่กับฉันนานสองนานหรือไง? เธอน่ะหลังจากที่รู้เรื่องที่สถาบันวิจัยนี่หลอกเธอแล้ว ที่นี่ยังจะมีค่าอะไรกับเธออยู่อีกหรือไง?
ต-แต่…
ฟังคำพูดของหลินเฉิงแล้วเหม็งหยี่เองก็พอจะเข้าใจได้และเห็นด้วย เธอนั้นขายความลับของที่นี่ไปเกือบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ หรือเหตุผลใดๆก็ตาม เธอขายความลับไปหมดแล้วจริงๆ หากคิดถึงฐานใหญ่ในตอนนี้ล่ะก็ เธอรู้ตัวเองดีว่าทำอะไรลงไป ไม่ว่าจะใช้กี่ชีวิตก็คงไม่พอเท่าให้เธอตาย!
แต่ในขณะเดียวกันถึงเธอจะออกไป เธอก็ไม่รู้จะไปอยู่อยู่ดี
ทางด้านหลินเฉิงเองก็ไม่คาดคิดหากเขาไม่คิดว่าเธอมีค่ามากพอ เขาก็คงจะไม่เอ่ยปากชวนด้วยตัวเอง และนี่มันก็นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอแบบนี้!
ในตอนนั้นมันจะเป็นอะไรที่เอาชีวิตรอดได้ยากมากหากคนๆนั้นไม่มีความสามารถพิเศษอะไร!
หลังจากผ่านช่วงลังเลมาครู่หนึ่งเหม็งหยี่ก็ตาเป็นประกายขึ้นมาพร้อมกับจับแขนของหลินเฉิงไว้ก่อนจะพูด นาย…นายจำได้ไหมว่านายสัญญาอะไรกับฉันไว้?
ฉันสัญญาอะไรกับเธอไป?
หลินเฉิงขมวดคิ้วและด้วยความสงสัยเขาจึงถามเธอออกไป
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงดูจะจำไม่ได้เหม็งหยี่ก็ดูกังวลขึ้นมาพร้อมกับพูดกับเขา นาย…นาย..นายสัญญากับฉันไว้ว่า ตราบใดที่ฉันยอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้นายฟัง แล้วนายสัญญาว่าจะช่วยฉันไง!
อ้อแล้วเธอบอกมาแล้วเหรอ? ฉันจำได้แล้วเธอพร้อมจะบอกแล้วหรือไงว่าจะให้ฉันทำอะไร?
ฟังคำพูดของเหม็งหยี่แต่เขาก็ยังสนใจอยู่กับร่างกายของชิงหยาอยู่ หลินเฉิงนั้นตอบโต้เธอแค่พยักหน้าและถามกลับเท่านั้น
แค่จำได้ก็พอแล้ว!
เมื่อเห็นหลินเฉิงจำได้เธอก็โล่งใจขึ้นมา ฉันยังไม่เร่งเร้ามันตอนนี้หรอก ไว้รอออกไปที่ที่ปลอดภัยได้ก่อนค่อยว่ากัน!
เธอพูดออกไปโดยที่ไม่ลังเลก่อนจะหันไปและเตรียมตัวหาทางหนีทีไล่ให้หลินเฉิง
*ติ๊ด*
เพียงแค่เหม็งหยี่เดินไปที่ประตูเพื่อจะเปิดมันออกเสียง *ติ๊ด* ที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากภายในห้อง เมื่อได้ยินดังนั้นเหม็งหยี่ก็หน้าเปลี่ยนสีในทันที เธอรีบหันกลับไปหาหลินเฉิงและตะโกนบอกอีกฝ่ายด้วยเสียงเบา ดูเหมือนจะมีใครกำลังเข้ามาจากข้างนอก!
อะไรนะ!? ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ขมวดคิ้ว เธอบอกเองไม่ใช่หรือไงว่ามันไม่มีทางที่ใครจะเข้ามาในนี้ได้น่ะ!?
ฟังคำถามของหลินเฉิงแล้วเหม็งหยี่ก็เกาหัวตัวเองแบบทำอะไรไม่ถูก ก็นี่มันไม่คาดคิดนี่! บางทีอาจจะเป็นเพราะมีนักวิจัยคนอื่นพบว่ากล้องมันปิดอยู่ก็ได้! เพราะงั้นก็เลยส่งคนมาดู!
ค-คนเรามันก็ต้องผิดพลาดกันบ้างสิ!
เห็นเหม็งหยี่โทษตัวเองแบบนั้นแล้วหลินเฉิงก็ไม่ได้คิดจะดุเธอเพิ่มเขาผึ่งหูฟังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด จากตอนนี้ การกระทำทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของฉัน เข้าใจมั้ย?
รับทราบ!
ในตอนนั้นเหม็งไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะในห้องนั้นเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อให้รับแรงปะทะกับร่างทดลอง หากมันคุ้มคลั่ง เพราะงั้นผนังทั้ง 4 ด้านนั้นจึงถูกทำขึ้นมาจากเหล็กเรียบหนาหลายเมตร ซึ่งแม้แต่มดยังไม่สามารถปืนออกจากที่นี่ได้ และถ้าพวกเขาทั้งสามต้องการจะออกไปจากที่นี่นั้น ทางเดียวที่ออกได้ ก็คือทางที่เข้ามาตรงหน้านั่นแหละ!
สาวน้อยไม่ต้องงงนะ เธอไม่อยากมากับฉันเหรอ?
เมื่อรู้แล้วว่าคนจำนวนมากกำลังจะมาที่นี่ได้ตลอดเพราะงั้นเขาจึงไม่ลังเลและย่อตัวลงไปเพื่อพูดกับชิงหยาที่ดูแข็งทื่อสุดๆอยู่
ในขณะนั้นชิงหยายังคงจับแขนของหลินเฉิงไว้อย่างแน่นด้วยมือของเธออยู่ แต่มันก็ไม่มีอะไรอื่นนอกจากนั้น ไม่มีคำพูดใดๆ เมื่อเห็นดังนั้น หลินเฉิงก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปจับข้อมือของชิงหยากลับก่อนจะพาเธอลุกขึ้นมา!
ภายใต้สถานการณ์วิกฤติเช่นนี้การกระทำของหลินเฉิงมันดูลวกๆนิดหน่อย แต่กระนั้นชิงหยาก็ยังคงเงียบเหมือนตุ๊กตาที่บอบบางที่ปล่อยให้หลินเฉิง ปู้ยี่ปู้ยำ
ด้วยชิงหยาที่อยู่ด้านหลังหลินเฉิงหยิบเอาเชือกออกมาจากคลังแคปซูลและมัดชิงหยาไว้กับเขา หลังจากมั่นใจแล้วว่าเธอจะไม่ตกลงมาง่ายๆ เขาก็เดินไปยังประตูและพยักหน้าให้เหม็งหยี่ผู้ที่แสดงสีหน้ากังวลออกมา คนที่อยู่ข้างนอกจะมาที่นี่และเปิดประตูเข้ามาในทันที เมื่อประตูเปิด เธอต้องตามฉันมาติดๆ ห้ามทำอะไรนอกเหนือจากนี้ เข้าใจนะ?
เข้าใจแล้ว!
เหม็งหยี่พยักหน้าและไม่รู้จะต้องทำตัวยังไงนั้นฝากความหวังทุกอย่างไว้กับหลินเฉิงแล้วเมื่อเขาเห็นเธอพยักหน้า หลินเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายื่นมือออกไปที่ประตูตรงหน้าเขาจากนั้นก็รอเงียบๆ
ไม่นานนักหลังจากนั้นหลินเฉิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปล่อยมือและหันมาพูดกับเหม็งหยี่ที่กำลังงุนงงอยู่ข้างๆ เปิดประตู ข้างนอกโอเคแล้ว
โอะ–โอ้!
เธอไม่เข้าใจว่าหลินเฉิงทำอะไรไปแต่เหม็งหยี่ก็ไม่ได้กล้าที่จะถามเขานัก เธอหยิบบัตรสีดำขึ้นมาและสอดไปที่ช่องบนประตูอีกครั้ง จากนั้นก็มีเสียง *ครืน* ประตูลับที่ประตูก็เปิดขึ้น!