ตอนที่ 6 แกเป็นใคร
คุณณัฏฐ์ถือบทแล้วยืนขึ้น เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเทคนิคการ แสดงของชนิศาถึงพัฒนาได้รวดเร็วขนาดนี้ ทีแรกเป็นเพราะเขา ถูกอำนาจของบริษัทs. บังคับ ได้เชิญชนิศามาเข้าร่วมการอ โดยที่ไม่ได้ยินยอมให้เธอมาด้วยซ้ำ
แต่ว่าการแสดงของชนิศาเมื่อสักครู่นั้นเกิดความคาดหมายของ เขามาก เทคนิคการแสดงแบบนี้ดีพอที่จะเป็นนักแสดงนำหญิงเบอร์ หนึ่งได้เลย
ผู้กำกับที่เตรียมจะเดินลงจากเวทีอย่างแล้ว ให้สัญญาณกับผู้ช่วยเป็นนัยว่าให้ดำเนินการออดิชั่นต่อไป
แต่ในเวลานั้น มีโวยวายอยู่หลังเวที “ชนิศาแสดงบทร้อง ไห้ได้เหรอ นี่มันเรื่องตลกชัดๆ”
ผู้คนต่างเดินไปตามเสียงนั้น นักแสดงนำหญิงเบอร์หนึ่งเดิน ออกมา แล้วชี้ไปที่ที่ยืนอยู่กลางเวที “ฉันพูดได้เลยว่า เธอไม่ใช่ชนิศา เธอต้องเป็นที่ชนิศาส่งมาให้แสดงแทนแน่ๆ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผ้าปิดปากจะหน้าตาเป็นยังไง”
“เธอพูดเพ้อเจ้ออะไร ระวังฉันจะแจ้งความข้อหา” อยู่แก่ใจ รีบวิ่งมาขวางอยู่ข้างหน้า จิดาภา
“จะแจ้งจับฉันข้อหาหมิ่นประมาทเหรอ ได้! แกให้นังนั่นเอาปิดปากให้ทุกคนมั่นใจว่านั่นจริงๆ”
“อาการป่วยของศารุนแรงมาก ถ้าเอาผ้าปิดปากออกเชื้อโรคอาจ แพร่กระจายไปสู่คนอื่นได้นะ พวกเราไม่เห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอก” ถ วิตยังคงโต้กลับอย่างรุนแรงเหมือนเดิม
“ไม่กล้าก็คือไม่กล้า หาข้อแก้ตัวมาได้แย่มาก” ทยิดาเบะปากด้วย ความดูถูกเหยียดหยาม “คนที่อยู่ในโรงละครนี้ไม่มีสักคนที่มีความรู้ ด้านการแพทย์บ้างเลยเหรอ”
“แก…” เสียงของถวิตติดขัดเพราะไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป ทำได้ แต่เพียงจ้องไปที่จิดาภา เพื่อบอกเธอเป็นนัยว่าไม่ว่ายังไงก็ห้ามเอา ผ้าปิดปากออก
“ผู้กำกับ เอาไงต่อดีครับ” ผู้ช่วยผู้กำกับเห็นว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ของผู้คนรอบๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ “มีนักข่าวอยู่เยอะแบบนี้ ไม่แน่ว่า..”
คุณณัฏฐ์ขมวดคิ้วแล้วมองจิดาภาที่อยู่บนเวทีด้วยสีหน้าที่สับสน
“คุณชนิศา คุณอยากจะทำให้คนอื่นตกใจเล่นใช่มั้ย ในช่วงเวลาที่ ผ่านมานี้คุณแอบฝึกฝนซุ่มซ้อมการแสดงอย่างหนักใช่มั้ยคะ” มีนัก
ข่าวแย่งกันถามคำถาม
นักข่าวและผู้คนที่เบียดเสียดขึ้นมายืนล้อมอยู่บนเวที ทำให้ถวิต ถูกเบียดจนออกไปอยู่ด้านนอกฝูงชน
“คุณชนิศาคะ คุณป่วยหนักจริงๆ ใช่มั้ยคะ ทำไมถึงถอดหน้ากาก ออกไม่ได้คะ”
“คุณคือคุณชนิศาจริงๆ รึเปล่าครับ”
จิดาภาค่อยๆ ก้มหน้า มองไปที่ถวิตที่กำลังกังวลใจอยู่ด้านนอก กลุ่มคน เธอต้องการจะทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศของชนิศาถูก ทำปู่ยี่ปู่ย่จนป่นปี้ เธอทำตามที่เธอได้ตัดสินใจไว้ สูดลมหายใจ เข้าลึกๆ แล้วดึงผ้าปิดปากออกท่ามกลางสาธารณชน
เธอหันไปโค้งคำนับให้กับคุณณัฏฐ์ทีหนึ่ง “คุณณัฏฐ์ ขอโทษนะ คะ ฉันไม่ใช่ชนิศา”
จากชนิศาดาราสาวที่สวยแต่ไร้ความสามารถและชอบใช้คนหนุน หลังในวงการบันเทิงนั้น กลับกลายเป็นคนที่ได้รับรางวัลนักแสดง ยอดเยี่ยม แต่จิดาภาที่อำลาวงการไปนานสองปี ทำให้ทุกคนสับสน งุนงงมาก ตั้งแต่ที่จิดาภาออกจากวงการบันเทิง เธอก็ค่อยๆ ดับลง ไม่ดังเท่าแต่ก่อนแล้ว แต่ก็คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จะตกอับถึงขั้นมา ออดิชั่นลองบทแทนคนอื่น!
“เกิดอะไรขึ้น แล้วชนิศาล่ะ! ”
“จิดาภา เธอออกจากวงการไปสองปีกว่าแล้ว ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้มา ปรากฏตัวขึ้นที่นี่”
“ทำไมคุณถึงมาออดิชั่นแทนคุณชนิศา หรือว่าคุณต้องการจะใช้ โอกาสนี้ในการกลับมาเป็นดารายอดนิยมอีกครั้งคะ”
“พวกเรารู้ว่าหลังจากที่คุณพักการเล่นละครไป บริษัทsj ก็
สนับสนุนคุณชนิศาอย่างเต็มที่ และยังให้ชนิศาเข้าไปในวงการนานาชาติ ที่คุณมาปรากฏตอนนี้ก็เพื่อมาแย่งตำแหน่งนี้จากคุณ ชนิศาเหรอครับ”
คำถามเยอะแยะมากมายผุดขึ้นมา จิดาภาไม่รู้จะตอบคำถามไหน ก่อนดี และไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเหล่านั้นอย่างไร
“เธอถูกคนดูลืมไปหมดแล้ว…”
“ก็ถือว่าแสดงได้ดี แต่ไม่มีใครยกย่องเธอแล้ว ไม่มีประโยชน์ หรอก!”
ทีมงานในโรงละครรู้สึกว่าถูกหลอก รวมถึงคุณณัฏฐ์ด้วย เขาถอน หายใจออกมาอย่างแรง ถ้าจิดาภาบอกเรื่องนี้กับเขาก่อนละก็ เขา คงจะดีใจจนนอนไม่หลับแน่ๆ เพราะได้เชิญเธอมาแสดงละครด้วย แต่ว่าตอนนี้เธอหลอกทุกคนไปแล้ว
จิดาภาถูกนักข่าวรุมล้อมโจมตี เธอถูกเบียดอยู่ตรงกลางเวทีโดย ไม่มีทางจะปลีกตัวออกมาได้ พอถึงหูของผู้ถือหุ้น ก็ตะโกนถามจิดา ภาบนเวที “เธอคิดว่าตัวเองเป็นอะไรที่กล้าไปทดสอบบทแทนชนิศา คิดว่าตัวเองเหมาะมากนักรึไง”
เสียงที่โหดร้ายดังก้องไปทั่วโรงละคร จิดาภาทนรับมันเอาไว้ ทั้งหมดอย่างเงียบๆ
แม้ว่าเธอมีลางว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่พอเกิดขึ้นจริงๆ ความ อัปยศแบบนี้แทบทำให้เธอไม่รู้จะรับมือยังไงดี
ในตอนนั้น ประตูใหญ่ก็ถูกเปิดออก จิรภาสก้าวเท้ายาวเดินเข้ามา
“เป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ
เสียงที่ฟังดูเข้มเหมือนเหล้า ท่าทางที่เย็นชาและเย่อหยิ่งของเขา นั้นทำให้ผู้คนนับถือ เมื่อเห็นเขาเดินตรงมา พวกนักข่าวก็รีบยก กล้องถ่ายเขาทั้งสองข้างทาง และเว้นทางตรงกลางให้เขาสามารถ เดินได้ นี่คือท่านประธานบริษัทเค.เอฟ เป็นผู้ที่มีอิทธิพลอย่างมาก ในวงการบันเทิง