ตอนที่ 15 เยี่ยมผู้ป่วย
“บริษัทเราไปเซ็นสัญญากับดาราที่ดับแล้วอย่างเธอได้ยังไงกัน รีบเก็บข้าวของแล้วออกไปซะ อย่ามามีผลกระทบกับอนาคตของ บริษัทเรา”
จิดาภาสังเกตลักษณะท่าทางของพวกหล่อนที่ดูวัยรุ่น เรือนร่าง โฉมงาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นแบบนี้แล้วจะสามารถดัง ได้…เธอไม่สามารถที่จะไปห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ได้ อย่างน้อยตอนนี้ก็อยากให้ข่าวในส่วนของตัวเองนั้นเงียบสงบลง ซะก่อน ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนก็สามารถที่จะมารังแกเธอก็ได้
“คิดอยากจะดัง ก็ต้องหัดปฏิบัติตัวและทำตัวให้ดี” เธอโทรไปที่ ห้องทำงานของชเยศ “ที่บริษัทมีคนใหม่สองสามคนวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่ฉันหนุนชนิศา ฉันรู้สึกว่ามันจะไม่ดีต่อชื่อเสียงของบริษัท ถ้า พวกเขาไปพูดจาซี้ซั้่วในรายการที่ถ่ายทอดสด สิ่งที่เธอพยายาม ทำมาทั้งหมดมันก็จะสูญเปล่านะ”
“เดี๋ยวฉันไปเดี่ยวนี้แหละ” เสียงชเยศดังออกมาจากโทรศัพท์
ห้านาทีต่อมา ชเยศก็รีบพาเลขามาด้วย และประกาศ ณ ตรงนั้นว่า ในระยะอันสั้นนี้ห้ามสามคนที่มาใหม่นั่นรับงานใดๆ ทั้งสิ้น
สามคนใหม่นั้นก้มหัวขอโทษจิดาภาอย่างไม่หยุด พวกเขาตกใจ จนหน้าขาวซีดเผือด
“พี่จิดาภา ขอโทษค่ะ พวกเราสำนึกผิดแล้วค่ะ!”
จิดาภาไม่ได้สนใจพวกหล่อน และพูดออกมาอย่างตลกขบขัน ว่า “ดูเหมือนว่า ตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถอยู่เหนือฉันได้แล้วสินะ หรือว่าฉันจะอำลาวงการอย่างเป็นทางการแล้วกลับไปรับมรดก ทรัพย์สินของตระกูลวีรภัทรเมธีดีนะ อย่างน้อยที่นั่นก็ไม่มีใครที่ กล้ามองฉันต่ำ”
ตลอดมาเธอไม่ได้เป็นคนที่ชอบต่อสู้กับคนอื่น แต่ถ้าหากคนอื่น ดื้อรั้นต้องการที่จะมารังแกเธอ เธอก็จะไม่ยอมอ่อนมือให้เหมือนกัน
“จิดาภา อย่าพูดจาซี้ซั้วน่า ฉันมีเรื่องที่อยากจะรบกวนเธอพอดี น่ะ” สีหน้าชเยศหนักแน่น และจับแขนเธอไว้ “ถึงแม้ว่าคุณณัฏฐ์เขา ตอบรับให้ศาแสดงบทของน้ำ แต่เธอก็มักแสดงได้ไม่ดี เธอไปช่วย สอนหล่อนซะหน่อยสิ ทำให้เธอพูดจาหว่านล้อมคุณณัฏฐ์สักสอง สามประโยค บางทีเขาอาจจะให้เธอแสดงบทรองๆ ก็ได้นะ”
จิดาภาพยายามที่จะอั้นความโกรธที่อยู่ภายในใจเอาไว้ ดังนั้นจึง
ไม่ด่าออกเสียงออกมา
ชเยศมองเธอเป็นลูกไก่อ่อนจริงๆ คาดว่าความคิดนี้ก็น่าจะเป็น ชนิศาที่คิดขึ้นมาแล้วเสนอเขา คิดอยากที่จะฉวยโอกาสทำให้จิดา ภาอับอายขายหน้า แต่นึกไม่ถึงเลยว่าชเยศกลับพูดออกมาจริงๆ
“ชนิศาแสดงเก่ง ก็ล้วนมีผลดีต่อบริษัทและตัวของฉันเอง คิดซะว่า ทำเพื่อฉัน คุณก็ไปสอนเธอให้ดี ทำให้เธอสามารถแสดงความเก่ง ในตัวออกสู่สาธารณชนให้รับรู้ให้ได้ พวกคุณเป็นศิลปินของบริษัท ความสัมพันธ์ก็ไม่ค่อยจะดีนัก ถ้าข่าวแพร่กระจายออกไปต้องไม่ดี
แน่”
ชเยศก็แค่ตามน้ำตามความหมายของชนิศา ก็แค่พูดออกมา นึก
ไม่ถึงเลยว่าจิดาภาจะยอมตอบรับ
“ได้ คุณพาฉันไปเถอะ” จิดาภาตอบรับไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่
น้อย
“ดีจริงๆ ฉันรู้น่าว่าเธอหน่ะ เอาใจใส่เป็นที่สุด”
เอาใจใส่?
จิดาภายิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วขึ้นรถไปกับชเยศ เธอเอาใจใส่แค่ กับคนที่คู่ควรเท่านั้น ดังนั้นการเอาใจใส่ของเธอจึงไม่เข้ากับคน อย่างเขาและชนิศา
แต่ตอนนี้ ใครแพ้ใครชนะก็ยังไม่สามารถที่จะรู้ได้
ได้เป็นตัวแสดงประกอบคนต่อไป ก็สามารถเดินรอยตามได้เหรอ
ใครบอกเธอกัน!
บนถนน ชเยศกำลังเล่นโทรศัพท์มือถือ คงจะส่งข้อความไปหา ชนิศา จิดาภาเงยหน้ามองไปนอกหน้าต่าง ซึ่งผ่านบริษัทของจิร
ภาสพอดี
“ชเยศ ถ้าพูดถึงความสามารถจริงๆ บริษัท.jกับบริษัทเค.เอฟ บริษัทไหนเก่งกว่ากันเหรอ”
“เรื่องนี้…ตอนนี้เค.เอฟก็ยังเป็นบริษัทบันเทิงที่มีศักยภาพมากที่สุดนะ” ชเยศตอบอย่างตรงไปตรงมา
ผู้ช่วยของชเยศที่นั่งอยู่ข้างหน้าพูดขึ้นมาสองสามประโยค
“คุณชายครับ ปีหน้าเราต้องแซงเค.เอฟได้แน่นอนค่ะ รอให้ชนิศา ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแล้ว ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา แล้วครับ”
จิดาภาไม่ได้สนใจพวกเขา ตานั่นพูดออกชี้ชั่วออกมาได้ไงว่าใคร จะแซงใคร!
พวกเขาเอาแต่พึ่งเล่ห์กลแบบนี้ ถึงจะผ่านไปกี่รุ่นก็คงไม่มีทางเป็น ไปได้ทันใดนั้น จิดาภากลับรู้สึกว่าตัวเองคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลา ที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาหน่อยๆ คิดถึงความอ่อนโยนและจูบของเขา
ตอนที่รูปร่างของเขาปรากฏขึ้นมาในสมองของเธอนั้น ในแววตา ของจิดาภาก็เต็มไปด้วยความสุข แต่ตอนนั้นชเยศมัวแต่คุยกับ ชนิศาอยู่ เลยไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนที่รอให้รถขับไปถึงซอยต่อไป จิดาภาก็ก้มหน้าเห็นข้อความที่
ยังไม่ได้อ่านบนมือถือ
“พี่ทำเรื่องทุกอย่างไว้เสร็จสิ้นเรียบแล้วนะสามารถเปิดเผยรูป ออกไปได้ตลอดเวลา”
ให้พี่นัฎจัดการเรื่องให้สามารถวางใจได้จริงๆ
จิดาภาไม่ได้ตอบกลับข้อความของพี่นัฏ แล้วลงจากรถเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น แล้วเดินไปยังห้องผู้ป่วยที่ชนิศาอยู่