ตอนที่ 23 คุยต่อหน้ากัน
“แต่ถ้าคุณทิ้งบทนี้ไป ผมจะพิจารณาให้โอกาสเธออีกครั้งหนึ่ง” ชเยศแสยะยิ้ม พร้อมวางสัญญาเลิกจ้างไว้ในมือจิดาภา “ทั้งหมดนี้ อยู่ที่คุณจะตัดสินใจ คุณก็รู้ว่าผมแคร์คุณที่สุด”
สิ่งที่ปั่นหัวจิดาภาตลอดมา นั่นก็คือคำลวงที่แสนหวานของเขา
“ชเยศ ฉันเองก็แคร์คุณนะคะ ดังนั้นตั้งแต่นี้ไป พี่นัฏไม่ใช่ผู้ จัดการของฉันอีกแล้วค่ะ” ตากลมของจิดาภาจ้องมองชเยศ ทั้งหมดนี้ก็อยู่ในการคาดการณ์ของเธอเหมือนกัน
เธอพาพี่นัฏออกมาจากออฟฟิศของชเยศ ถอนหายใจอย่างอัดอั้น “พี่นัฏ ตอนนี้พี่เป็นอิสระแล้วนะ”
เธอส่งหนังสือไล่ออกให้กับพี่นัฏ หันหลังกลับ ก็เห็นชเยศที่ตาม ออกมา” จิดาภานี่มันอะไรกัน!”
ชเยศสังเกตเห็นในสัญญาที่พี่นัฎนำมา ในสำเนาสัญญาว่าจ้างนี้ ข้างบนได้ลายเซ็นของจิดาภากำกับให้พี่นัฏเป็นผู้ช่วยพิเศษของ เธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันที่เซ็นก็คือวันนี้
“ยังไงหรือคะ มันมีปัญหาอะไรหรือ” จิดาภาถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ เธอคล้องแขนพี่นัฏไว้” ฉันชอบทำงานกับพี่นัฏค่ะ รอคุณปั๊มตราให้
ฉันก็ต้องออกกองแล้ว และมันต้องพาคนสนิทไปด้วย”
“พี่นัฏนั้นเหมาะสมที่สุด”
ชเยศแทบจะเป็นบ้าเพราะผู้หญิงคนนี้
“มาหาผมเดี๋ยวนี้” เขาหวังจะดึงตัวจิดาภาไว้ แต่จิดาภาก็เบี่ยงตัว
หลบไปเสียก่อน
“มีเรื่องอะไรก็รีบพูดเถอะค่ะ ฉันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องไปทำอีก ไม่ ค่อยมีเวลาเสียด้วย” จิดาภารู้ว่าตอนนี้เธอคือภรรยาของจิรภาส แล้ว แน่นอนว่าต้องคอยรักษาระยะห่างกับผู้ชายคนอื่นๆ
ยิ่งเธอใจเย็น ชเยศยิ่งร้อนใจขึ้นเป็นเท่าตัว
“ผมแค่คิดว่าคุณไม่ค่อยประสีประสาอะไร แต่ไม่คิดว่าคุณจะไร้ สาระถึงขนาดนี้ แล้วคุณไปเซ็นสัญญากับเขาทำไม”
“นักแสดงของบริษัททั้งหมดไม่ใช่ว่าต้องเซ็นสัญญากับผู้จัดการ หรือคะ แล้วทำไมพอเป็นฉันมันกลับกลายเป็นเรื่องไร้สาระล่ะ ถ้า เป็นชนิศาทำแบบนี้บ้าง คุณจะโมโหแบบนี้ไหมคะ”
“จิดาภา!”
ชเยศตะโกนเรียกชื่อของเธอ
“ไม่ต้องตะโกนฉันได้ยินค่ะ ฉันมาถึงวันนี้ เรื่องที่ฉันทำไปทั้งหมด ในวันนี้ฉันทำมันด้วยความสมัครใจของฉันเองค่ะ ถ้าคุณ ไม่อนุมัติ ให้ฉันแสดงนางรองของเรื่องกาลเวลา ไม่อนุมัติให้พี่นัฏเป็นผู้ช่วยของฉัน คุณก็ช่วยหาเหตุผลมาพูดให้ฉันฟังค่ะ ไม่ใช่มาตะโกน
เรียกฉันที่หน้าออฟฟิศแบบนี้”
“คุณเปลี่ยนไป เมื่อก่อนคุณไม่ได้เป็นแบบนี้”
“คนที่เปลี่ยนไปมีแค่ฉันหรือคะ” ในใจของจิดาภาไม่ได้รู้สึกเจ็บ ปวดอีกต่อไป เธอแค่รู้สึกว่าการแสดงละครของชเยศนั้นน่าขันสิ้นดี
ชเยศกุมขมับ พร้อมทั้งขยำสัญญาในมือทิ้ง” ผมไม่อยากแต่งงาน กับผู้หญิงที่ทำให้ผมรู้สึกไม่คุ้นเคยแบบนี้ งานแต่งงานเองก็คงต้อง ขอเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเช่นกัน!”
เขาใช้เรื่องนี้มาปั่นหัวจิดาภามาหลายครั้ง
เขาจงใจแสดงสีหน้าเสียใจออกไปรอคอยความอ่อนแอของจิดา ภา และยอมรับออกมาว่าเรื่องที่เธอทำนั้นมันไร้สาระ
บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างเงียบงัน
จิดาภามองหน้าชเยศ เหมือนกำลังใช้ความคิด ใบหน้านั้นเต็มไป
ด้วยความสับสน
ในช่วงเวลาที่ชเยศคิดว่าได้จิดาภากลับมาในกำมืออีกครั้ง เธอก็ ตอบกลับมาเสียงเรียบว่า” ได้ค่ะ ฉันไม่มีความคิดเห็นใดๆ”
ท่าทางโล่งใจของเธอทำให้ชเยศตกใจอย่างสมบูรณ์
เขายังคงสงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดหรือไม่ เลยใช้แรงคว้าข้อมีอของจิดาภาไว้ “คุณได้ยินชัดแล้วใช่ไหม ผมกำลังพูดถึงงาน แต่งงานของเราอยู่นะ”
“หูของฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ ความสามารถทุกอย่างก็ไม่มี ปัญหาเลยค่ะ เมื่อคุณสงสัยในความรู้สึกของฉัน เลยอยากเลื่อน งานแต่งงานออกไป นอกจากเห็นด้วยฉันยังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ คะ”
ปฏิกิริยาของจิดาภานั้นบริสุทธิ์ การออกห่างจากชเยศนั่นคือทาง เลือกที่ดีที่สุดของเธอ และเธอจะไม่มีวันเสียใจกับคำพูดของตัวเอง ในวันนี้อย่างแน่นอน
พี่นัฏฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินเข้าลิฟต์ไปกับจิดาภา
ชเยศสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจิดาภา แต่ไม่ทันได้มี เวลาคิดใดๆ เขาต้องรีบไปปลอบใจชนิศาก่อน พอเวลาผ่านไป เขา เชื่อว่าจิดาภาคงกลับไปเป็นเหมือนเก่าก่อนเองอย่างแน่นอน
เพราะที่ผ่านมาจิดาภาคือคนที่เชื่อฟังเขามาโดยตลอด
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้จิดาภาได้เกิดใหม่แล้ว อยากให้เขาเสียใจหรือ ไม่
คู่ควร
จิดาภาที่อ่อนแอนั้นคงอยู่แค่ในความทรงจำของพวกเขาเท่านั้น เธอมีจิรภาสที่รักเธอมากขนาดนี้ จะใครหน้าไหนเธอก็ไม่ต้องการ
“จิดาภาเธอโอเคไหม”
พี่นัฏเห็นเธอยอมอ่อนข้อให้กับชเยศมาหลายต่อหลายครั้ง เลย กังวลมาเธอจะกลับไปติดกับดักอีก
“ฉันมีอะไรแปลกไปหรือคะ” ดวงตาจิดาภานั้นสบนิ่ง เหมือนกับ ว่าเธอไม่ได้ใส่ใจกับการทะเลาะกันเมื่อครู่ด้วยซ้ำ “ฉันสังเกตอย่าง ถี่ถ้วนแล้ว ในสายตาของชเยศ ฉันเป็นแค่หมากที่มีประโยชน์แก่ เขาแค่นั้น ฉันไม่มีทางเสียใจเพราะเขาอีก”
ใจของเธอ เธอยกให้จิรภาสไปแล้ว
“ดีแล้ว ได้ยินแบบนี้ฉันก็สบายใจ ฉันมองว่าชเยศไม่มีทางไม่เซ็น ชื่อ พรุ่งนี้ฉันจะไปพบคุณณัฏฐ์ เพื่อคุยเรื่องรายละเอียดอีกครั้ง”
“อื้อ พี่นฎท่าเรื่องให้ ฉันสบายใจที่สุดแล้ว”
จิดาภายิ้มหวาน ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการจนถึงตอนนี้ พี่นัฏเป็นคนที่ ซื่อสัตย์ต่อเธอเสมอมา คอยตัดสินเรื่องต่างๆ แทนเธอ
เมื่อแยกกับพี่นัฏ จิดาภารู้สึกดีขึ้นมาก เธอเรียกรถไปบริษัท เค.เอฟทันที หยุดอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ด้วยความลังเลใจ การ แต่งงานเธอกับจิรภาสยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน แล้วการที่ เธอมาหาถึงบริษัทอย่างนี้มันจะดีจริงๆ หรือ
เธอจะอธิบายการมาบริษัทนี้กับประชาสัมพันธ์อย่างไร
จิดาภาถอนหายใจด้วยความอึดอัดในใจ อยู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจที่มา จู่รองเท้าส้นสูงสีฟ้าของเธอก็เกิดพลิกขึ้น แต่หลังของเธอก็สัมผัสกับความรู้สึกที่คุ้นเคยและน้ำเสียงเอาแต่ใจที่เอ่ยขึ้นมา” ยืนนิ่งๆ”
ผู้ช่วยที่อยู่บนอาคารเห็นจิดาภา ก็รีบไปบอกกับจิรภาสทันที
ผู้หญิงที่สวยอย่างจิดาภานั้นจำได้ง่ายจะตาย
เขาเห็นเธอเม้มปากและสังเกตไปรอบๆ ขมวดคิ้วก่อนจะก้าวไป ข้างหน้า ยืดตัวยืนซ้อนหลังของเธอ ก่อนจะกระซิบเสียงแหบที่ ข้างๆ หูของเธอ “ไม่ใช่ว่าคุณพบผมหรือ”
“แน่นอนว่าใช่…” จิดาภาแค่อ้าปาก เธอก็รู้อายจนต้องก้มหลบ สายตา “ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะใช้สถานะอะไรไปพบคุณ ในเมื่อคุณคือ ประธานบริษัทเค.เอฟ และพวกเรา…”
ในใจของเธอรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ตอนคุณขอผมแต่งงาน คุณไม่เห็นจะกังวลแบบนี้เลย” การที่เขา พูดออกมาได้อย่างหน้าตาย นั่นทำให้จิดาภาหน้าขึ้นสีเข้ม
“ฉัน…”
การแสดงออกของเธอช่างน่ารัก จิรภาสตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่ลุ่มลึกจิดาภา นั้น ช่างน่าดึงดูด ดังนั้นเขาจึงหันไปบอกผู้ ช่วยที่อยู่ข้างหลังของเขา “ยกเลิกนัดทานข้าวเย็นนี้ซะ” และเดินไป ดึงมือจิดาภาแล้วลากเธอขึ้นรถไปทันที
“แล้วฉันจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของคุณหรือไม่คะ” จิตา
ภากะพริบตาปริบๆ แต่ยังลังเลที่จะดึงมือออกจากฝ่ามืออุ่นนั้น
“ยัยบ๊อง ต้องไม่อยู่แล้วสิ…” จิรภาสไม่ได้เรียกคนขับรถมา และ เลือกที่จะขับรถด้วยตัวเอง “เพราะว่าผมอยากพบคุณเช่นกัน”
พวกเขาใจตรงกันตั้งแต่แรก
ใบหน้าที่ดูดีและความอบอุ่นของเขาทำให้จิดาภาหลงใหลอย่าง มาก โดยเฉพาะเส้นโค้งที่ริมฝีปากของเขา
จิดาภารู้สึกสนุกกับการสังเกตผู้ชายข้างกาย การแสดงออกของ เขาเป็นภาพที่ไม่ควรละสายตา เมื่อรถเริ่มออกตัว จิดาภาเอ่ยถาม เสียงแผ่ว “พวกเราจะไปไหนกันหรือคะ”
จิรภาสไม่ได้ตอบกลับ แต่ดึงมือของจิดาภาไปกุมไว้หลวมๆ “ถึง แล้วเดี๋ยวก็รู้เอง เส้นทางยังอีกยาว คุณพักผ่อนก่อนเถอะ”
จิดาภารับคำอย่างยินดี แค่มีเขาอยู่ข้าง เธอก็วางใจได้อย่าเต็ม ร้อยแล้ว