ตอนที่ 26 ใครกันแน่ที่มันทุเรศ
รอจนกระทั่งนักแสดงกลุ่มนั้นได้สติจากการอึ้งในฝีมือ การแสดงของจิดาภาแล้ว เธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าทุกคน พอดี ตอนนี้พวกคุณยังสงสัยในฝีมือการแสดงของฉันอยู่ อีกไหม
ทีมงานที่อยู่ข้างๆ สองคนพูดเสียงต่ำว่า “ไม่รู้ว่าพวก เขาเองแสดงเป็นยังไง ถึงกล้าใช้คำว่าแข็งที่อกับระดับ นางเอกยอดเยี่ยมขนาดนี้”
“ก็ดีนับว่าไม่เลวเท่าไหร่
พวกเขามองหน้ากัน กลับหลังหันเตรียมเดินหนี ในใจ กลับหวาดระแวง เพราะก่อนหน้านี้ชนิศาบอกกับพวกเขาว่า ฝีมือการแสดงของเธอนั้นแย่มาก ผู้หนุนหลังก็ไม่มี พวก เขาจึงกล้ามาหาเรื่องเธอ แต่ตอนนี้ดูๆ แล้ว มันไม่ใช่แบบนี้ นะสิ”
“เดี๋ยวก่อน!”
จิดาภาเรียกกวาดสายตามองไปตรงที่ชนิสานั่ง “ฉันบอกไปแล้วไงว่าพวกเธอต้องขอโทษฉัน”
“ขอ…ขอโทษ!”
จิดาภารู้ดีว่าคนทั้งหมดนี้ครึ่งหนึ่ง ถูกชนิศาซื้อตัวมา ค่อยๆ เงยหน้าสบตา พูดขึ้นเสียงดังว่า “การอยู่ในวงการนี้ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด อย่าได้หัวอ่อน โดนใช้เป็นเครื่อง มือของใครได้ง่ายๆ มันจะเป็นการทำลายชื่อเสียงอนาคต ตัวเองเสียเปล่า”
คำพูดสองประโยคนี้ของจิดาภา ความหมายครบใน ประโยคอยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าพวกเขาตกอยู่ในเนื้อมือใคร อาจจะถูกตามล้างแค้นได้ง่าย แม้ขนาดงานละครก็จะไม่มี โอกาสได้รับเลย
จิดาภาเชิดหน้าขึ้น ด้วยท่าทางที่ทะนงตัว แล้วหันหลัง เดินจากไป
เดิมคิดว่าจะกลับเข้าห้องพักสักหน่อย รอดูว่าพรุ่งนี้จะ ถ่ายละครเรื่องอะไร พี่นัฏลุกลี้ลุกลนวิ่งเข้ามาหยุดอยู่ตรง หน้า “จิดาภา เธอรีบไปดูเร็ว มีคนเตรียมบางอย่างที่จะ ทำให้เธอประหลาดใจ”
“ประหลาดใจ?”
จิดาภาชะงักไปครู่หนึ่งพี่นัฏลากเธอมาที่หน้าประตู
รถเบนซ์สามคันที่เต็มไปด้วยข้าวกล่องและผลไม้ มีป้าย เขียนไว้ชัดเจนว่า “อวยพรล่วงหน้า (กาลเวลา) จิดาภา”
“ร้าว การกระทำที่ไม่ใช่ธรรมดาข้าวกล่อง ทั้งหมดคือ หอยเป๋าซื้อ และก็เนื้อสเต๊ก”
“ดูท่าคงจะมีคนคอยสนับสนุนจิดาภาอยู่เบื้องหลังจริงๆ และที่สำคัญคนนั้นมีอำนาจเยอะกว่าประธานจุมพลที่ดีแต่ พูดอย่างแน่นอนเลย!”
จิดาภาฉุดแขนพี่นัฏ “เกิดไรขึ้นคะ ทั้งหมดนี้ฉันไม่ได้ซื้อ นะคะ”
“พี่ถามเขาแล้ว เหมือนว่าเป็นคนของบริษัทเค.เอฟ” พี่นัฐ แอบๆ ขยิบตา
ทีมงานละครเข้าแถวกันรับข้าวกล่อง คุณณัฏฐ์ผู้กำกับยิ้ม น้อยๆ เดินไปเดินมา “จิดาภาเธอนิสิ้นเปลืองจริงๆคาดไม่ถึงว่าจะมาเลี้ยงข้าวกล่องที่หรูหราแบบนี้”
“ไม่มีอะไร..”จิดาภายิ้มตอบเสร็จรีบโทรศัพท์ไปขอบคุณ จิรภาส
ทันใดนั้นเอง มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งใส่ผ้าปิดหน้ารุดเข้ามา ชี้ หน้าด่าจิดาภาเสียงดัง “เป็นเธอคนนี้ ที่แย่งความสนใจของ ชนิศาไป”
ไข่ไก่ ลูกพลับ ถูกโยนใส่เข้าหาจิดาภา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้วุนวายเหลือเกิน
พี่น้ฏปกป้องเธอจนพากลับไปถึงโรงแรม นั่งสงบอยู่ข้าง เตียงจัดการกับไข่ที่ติดอยู่บนหัว
อีกฟากคือพี่นัฎที่กำลัง กดตัดสายเหล่านักข่าวปาปารัสซี ทั้งหลาย
“พี่ถามชัดเจนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวของชนิศาเป็นผู้ บงการอยู่เบื้องหลัง รวมถึงเธอยังชื่อช่องสื่อ ตอนนี้ทั่วทั้ง อินเทอร์เน็ต ลงสื่อว่าเธอถูกบีบบังคับให้เล่นเป็นนางเอก ถูกกลั่นแกล้งรังแกขนาดไหน”
“พี่นัฏคะ ทั้งวิดีโอและคลิปเสียงเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ใช่ไหมคะ” จิดาภาแววตาแน่นิ่ง เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ในเมื่อ เธอหาเรื่องตายเอง งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจเธอแล้ว พี่นัฏคะ ลงมือได้!”
พี่นัฏสะบัดมือกำหมัด ขวักมือถือขึ้นมาเริ่มออกปฏิบัติการ
ตามแผน
เวลาสั้นๆ ครึ่งชั่วโมง คลิบวิดีโอเปิดโปงของพี่นัฏได้รับ ผลสะท้อนกลับมาอย่างมาก
นักข่าวต่างรายงานความเคลื่อนไหวของคลิปวิดีโอ ชัดเจ นว่าชเยศกำลังเหยียบเรือสองแคม และชนิศารู้ทั้งรู้ว่าทั้งคู่ คือคู่มั่นกัน ยังแอบทำแบบนี้อยู่ ดูจากคลิปวิดีโอแล้ว ไม่ใช่ เป็นการถูกบังคับข่มใจอย่างแน่นอน
เพราะภาพเสียงทุกอย่างในคลิปวิดีโอมีความเป็นจริงสูง มาก ภาพลักษณ์อันใสซื่อบริสุทธิ์ของหญิงสาวถูกลบไป จนหมดสิ้น ทั้งเว็บไซด์ กระทู้ต่างๆ เต็มไปด้วยคำด่า แฟน คลับของเธอเริ่มแสดงท่าทีออกมาว่า การชอบดาราแบบนี้ คือความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของชีวิตพวกเขา
“เธอคือเมียน้อยของชเยศจริงๆ ด้วย ทำลายความ สัมพันธ์ของจิดาภาละชเยศ แล้วยังใช้จิดาภาเป็นเครื่องมือ ผู้หญิงโสเภณี แบบนี้ช่างน่ารังเกียจจริงๆ เลย!”
“ฉันยังได้ยินข่าวมาว่า เธอยังส่งคนไปก่อความวุ่นวายที่ กองถ่าย หนำซ้ำยังทำร้ายจิดาภาอีกด้วย!”
และยังมีหลายคนแสดงความคิดเห็น ให้เธอไปแสดง ความขอโทษต่อจิดาภา
ในขณะเดียวกันชเยศที่กำลังพาชนิศาออกจากกองถ่าย ไปทานข้าวกับทีมหุ้นส่วนเพื่อคุยงานเรื่องการลงทุนในขั้น ตอนถัดไป
โทรศัพท์ดังกระหน่ำขึ้น “ขอโทษนะครับ ขออนุญาตรับ โทรศัพท์”
“เขายังไม่ได้เอ่ยอะไร ปลายสายกลับตะโกนโวยวาย เสียงดัง “คุณชเยศ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คุณรีบกลับเข้ามาที่ บริษัทเถอะ”
“มันเกิดอะไรขึ้น? คุณค่อยๆ พูด…” ชเยศยิ่งฟัง สีหน้ายิ่ง เครียด “ผมเข้าใจแล้ว ผมจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้!”
แต่เขายังไม่ได้เอ่ยอะไร คณะทีมลงทุนก็ได้รับข่าวนี้แล้ว
เช่นกัน
“คุณชเยศ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่พวกเราคุณยังโกหกลงได้ เรื่องลงทุนพวกเราไม่เอาด้วยแล้ว พวกเราจะไม่รวมงาน กับบริษัทของคุณอีกต่อไป ไม่งั้นพวกเราอาจจะโดนลาก เข้าไปเกี่ยวด้วยเข้าสักวัน”
“เฮ้ย! คุณ”
ชเยศร้องอุทานอย่างขัดใจมองลงไปข้างล่างเห็นนัก ข่าวมากมายกำลังวิ่งเข้ามา เขาจึงรีบพาชนิศาออกจากที่นี่ ชนิศาเองหลังจากดูคลิปวิดีโอจบก็รู้สึกมึนที่อไปทั้งตัว
แม้ว่าคลิปจะเบลอหน้าเธอไว้ แต่ผู้คนกลับดูออกเกือบ
ทั้งหมด
เปรี้ยง
เธอตบไปที่ใบหูของชเยศ “นี่นายแอบถ่ายหรอ!”
“เธอใจเย็นก่อนสิ ฉันจะเป็นคนถ่ายได้ไง ฉันจะกระโดดลงนรกเองทำไม?” เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำเอาชเยศ สับสนจนทำอะไรไม่ถูก ไม่ ไม่เคยคิกจะทำลายความรู้สึก ของชนิศา จึงจับมือหญิงสาวเอ่ยขึ้นว่า “ฉันขอคิดก่อนนะ แต่ว่าใครกันที่มันทำเรื่องนี้”
“นอกจากจิดาภายังจะมีใครอื่นอีกหรอ? ฉันก็แค่อยากให้ เธอถอนตัวจากวงการไป แต่เขาล่ะ? กลับทำลายชื่อเสียง ของฉัน เพราะข่าวด้านเสียหายพวกนี้ ทำให้กระแสฉันตก ไป นี่เท่ากับต้องการจะทำลายชีวิตกันเลยนี่นา แล้วต่อไป ฉันจะมีหน้าไปพบใครได้เนี้ย?”
ชนิสาร้องไห้เช็ดน้ำตายกใหญ่ กระทืบเท้าด้วยความ โมโห “ฉันไม่สน คุณรีบติดต่อจิดาภาเดี๋ยวนี้เลย ต้องให้ เธอแถลงข่าวขอโทษฉัน!”
“ไม่ได้ ตอนนี้ถ้ามีเรื่องอะไรเพิ่มมาอีกผมและคุณก็จบเห่ กันจริงๆ นะสิ ผมจะไปส่งคุณที่คอนโดก่อนในช่วงนี้ คุณ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด กิจกรรมทั้งหมดให้เลื่อนออกไป ก่อนเรื่องกองถ่าย เดี๋ยวผมจะจัดการเอง
“ชเยศ คุณจะทิ้งฉันไปแล้วใช่ไหม?” ชนิศา มองชายตรง หน้าตาโต “เพราะทำเพื่อคุณ ฉันถึงต้องตกต่ำถึงจุดนี้ ถ้า เกิดว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว…”
ชเยศดึงเธอเข้ามากอดทันใด “เด็กโง่เอ๋ย ผมจะทิ้งคุณได้ ยังไงกัน? ผมก็แค่ไม่สามารถมาเจอคุณได้ชั่วคราวเท่านั้น เชื่อผมนะ ผมจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
ชนิศา เดินลงรถด้วยอาการเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มองจน กระทั่งรถขับลับตาไป ในสมองตอนนี้มีคำว่า เกลียด คำ เดียวเท่านั้น
ผู้จัดการของเธอตามมาติดๆ มองเห็นเธอยืนเหม่ออยู่ข้าง ถนน “เลิกมองได้แล้ว ขึ้นห้องเถอะ ไม่งั้นนักข่าวจะตามมา ทันเอานะ” เขากระซิบเตือนเธอ
“ฉันยังมีโอกาสกลับตัวอยู่ไหม?”
ผู้จัดการส่วนตัวกลัวว่าเธอจะคิดสั้น รีบพูดขึ้นว่า “มี แน่นอนสิ เด็กในท้องคือไพ่ใบสุดท้ายของเธอชเยศจะไม่มี ทางทิ้งเธอแน่นอน!”
“ลูกหรอ?” ชนิศาลูบท้องตัวเองเบามือ สายตาเริ่มมี
ประกายความหวังขึ้นมา
ใช่ ฉันยังมีลูกอยู่