ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1233+1234

บทที่ 1233+1234

บทที่ 1233 แม่นางท่านนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร?

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว เธอออกมาหนึ่งชั่วยามกว่าแล้ว เธอยังต้องกลับไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง มิอาจรั้งรอที่นี่ได้อีก เมื่อเห็นข้ารับใช้เก็บไข่มุกที่เกลื่อนเต็มเวทีได้ครึ่งหนึ่ง เพียงพอที่เธอจะใช้แล้ว เธอเคลื่อนย้ายไปตรงหน้าของข้ารับใช้ผู้นั้น “ขอบใจมาก เอาให้ข้าแค่นี้ก็พอแล้ว ที่เหลือเหล่านั้นเป็นรางวัลของเจ้า”

เธอหยิบไข่มุกในมือเขามา เทลงในถุงเก็บของของตัวเองดังโครมคราม…

“แม่นาง ท่านไม่ร้องก็ได้ ข้าพอมีบุญวาสนาคบหาเจ้าเป็นเพื่อนได้หรือไม่?” หลานเฝ่ยไม่ยอมแพ้ เดินเข้ามาอีก

กู้ซีจิ่วเงยหน้า ยังไม่ทันได้พูดจาอันใด ห่างไปไม่ไกลมีเสียงพิณดัง ‘ตึง!’ สองที เสียงพิณประหนึ่งผ้าไหมฉีกขาด สั่นสะท้านความรู้สึกในจิตใจของทุกคน และยังมีเสียงก้องดังดุจน้ำไหลตามมากับเสียงพิณ “ไม่ได้!”

ฝูงชนเงยหน้ามองตามเสียง มองเห็นเสาธงพลิ้วไหวที่ห่างไปไม่ไกลมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่

อาภรณ์ขาวนวลสะบัดพลิ้วไปตามสายลม ในอ้อมกอดมีพิณคันหนึ่ง รูปร่างสูงสง่า สวมใส่หน้ากากบนใบหน้า คือตี้ฝูอีนั่นเอง

“คุณชายหวง!”

“โอ้ คุณชายหวง!”

“คุณชายหวงมาแล้ว!”

ฝูงชนแตกตื่นดังหม้อระเบิด ในพริบตาเดียวก็โหวกเหวกโวยวายกันขึ้น พรั่งพรูความปีติยินดีต่างๆ นานา ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่โค้งคำนับลงไป

เห็นได้ชัดว่าตี้ฝูอีเป็นที่นิยมชมชอบของคนที่นี่ อีกทั้งดูจากการวางท่าแล้วเค้าคงเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว อย่างน้อยที่สุดประชากรชาวเงือกมากมายขนาดนี้ต่างจำเขาได้ บูชาเขา หลานเฝ่ยก็ตกตะลึง ทักทายไปทางนั้น

กู้ซีจิ่วขบเม้มริมฝีกปากเล็กน้อย ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน

ตี้ฝูอีเคลื่อนไหวร่างกาย ร่อนลงตรงหน้าของกู้ซีจิ่ว เอื้อมมือไปดึงนาง “อยากมางานชุมนุมบุปผาไยไม่รอข้า?”

กู้ซีจิ่วถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลีกหนีจากมือของเขา พูดอย่างเรียบเฉย “ท่านอยากมาจับข้ากลับไปขอโทษสหายของท่านอย่างเป็นทางการงั้นรึ? ความจริงแล้วท่านไม่จำเป็นต้องมา ข้าบอกแล้วว่าสองชั่วยามจะกลับไปก็คือสองชั่วยามกลับไป ไม่มีทางหลีกหนีอาญา”

นางถอยหลังไปอย่างเยือกเย็น มือของตี้ฝูอีคว้าได้เพียงความว่างเปล่า เขาตกใจเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววรู้สึกผิด “ซีจิ่ว เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ แต่เป็นพวกเขาที่ติดค้างคำขอโทษเจ้า”

กู้ซีจิ่วยิ้มมิเชิงยิ้ม “ว่าอย่างไรนะ?”

“แม่นางกู้ เรื่องนี้ไม่โทษเจ้า จิ้งอี๋นางก่อเรื่องก่อน ข้ารับใช้ก็เสียมารยาท ข้าต้องขออภัยแม่นางด้วย” หลานเหยากวงปรากฏกายกลางอากาศ ในพริบตาก็ร่อนลงมาที่เวที ประสานมือโค้งคำนับมาทางนาง

“ประมุขเงือกเสด็จแล้ว!”

“ถวายบังคมประมุขเงือก!”

ประชาชนที่เพิ่งลุกขึ้นยืนก็ยินดีปรีดากันขึ้นมาอีกครั้ง ต่างทยอยคารวะประมุขเงือก

ทว่าทุกคนยังคงงุนงงไม่น้อย สายตานับไม่ถ้วนร่อนลงบนร่างกู้ซีจิ่ว ที่มาที่ไปของแม่นางผู้นี้ต้องไม่ธรรมดา คุณชายหวงอยากจับมือพูดจากับนาง ประมุขเงือกก็ขออภัยต่อนาง…

ที่แท้แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

แม่นางท่านนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร?

หลานเหยากวงมองกู้ซีจิ่วด้วยสายตาจริงใจ “เพื่อแสดงความจริงใจ ข้าขอชดใช้ให้แม่นาง วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่นางซื้อในงานชุมนุมบุปผาให้ลงบัญชีข้าไว้ทั้งหมดได้เลย”

ใบหน้างดงามของกู้ซีจิ่วเผยให้เห็นลักยิ้มบางๆ “ไม่จำเป็นหรอก ฝ่าบาททำไปด้วยใจที่ต้องการปกป้องน้องสาว และไม่ได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด ลงมือหยุดยั้งเพียงเล็กน้อยไม่นับว่าผิดอันใด ซีจิ่วไม่ใช่คนไร้เหตุผล ไม่ถือโทษโกรธฝ่าบาทอันใด ดังนั้นซีจิ่วไม่ต้องการการชดใช้ของฝ่าบาท”

หลานเหยากวงโล่งอกไปที แม่นางท่านนี้มีหลักการอันชอบธรรม เป็นแม่นางมีมารยาทท่านหนึ่ง!

เขาหัวเราะ “ฮ่าๆ ดีเหลือเกิน! แม่นางช่างใจกว้างอย่างที่คิดไว้มิผิด เพลงที่แม่นางร้องก็ไพเราะยิ่งนัก ข้าฟังแล้วยังหลงลืมตัวไป ผู้ที่โดดเด่นที่สุดในการแข่งขันร้องเพลงครั้งนี้ควรเป็นแม่นางกู้ ไข่มุกราตรีเม็ดนั้นของข้าเป็นของแม่นางแล้ว”

————————————————————————————-

บทที่ 1234

เมื่อสะบัดชายเสื้อ ไข่มุกราตรีเม็ดโตบนโต๊ะนั้นก็ลอยมาอยู่ตรงหน้ากู้ซีจิ่ว สะท้อนทั้งตัวเธอดังแสงพระพุทธสาดส่อง

กู้ซีจิ่วถอยหลังไปอีกก้าวหนึ่ง พูดอย่างเรียบเฉย “ซีจิ่วร้องเป็นอย่างไรในใจย่อมรู้ดี ร้องได้ดีก็จริง แต่ยังเทียบไม่ได้กับองค์ชายหลายเฝ่ยผู้นี้ ไข่มุกนี้ควรจะเป็นสมบัติของเขามากกว่า”

กู้ซีจิ่วก็เป็นผู้เชี่ยวชาญการร้องเพลง ย่อมเข้าใจดี

ที่เธอร้องเพลงจนได้รับความนิยมขนาดนี้ ก็เป็นเพราะเพลงที่ร้องค่อนข้างแปลกใหม่ ท่วงทำนองก็ดี แต่หากมองจากศิลปะการร้องเพลงจริงๆ เธอยังเป็นรององค์ชายหลานเฝ่ยท่านนั้น สิ่งนี้ไม่ใช่ของของเธอ เธอไม่อยากได้

ด้านล่างปรบมือเสียงดังขึ้นมา

สายตาที่ประชาชนด้านล่างมองมาที่กู้ซีจิ่วมีความนับถือเลื่อมใสที่แท้จริง

แม่นางท่านนี้ไม่เพียงแต่ร้องเพลงได้ดี แท้จริงยังใจคอกว้างขวาง ตรงไปตรงมา!

สายตาที่หลานเหยากวงมองกู้ซีจิ่วค่อนข้างซับซ้อน “แม่นางกู้…” ขณะที่กำลังจะพูดบางสิ่ง กู้ซีจิ่วก็เอ่ยปากตัดบทเขา “ฝ่าบาท ในเมื่อเรื่องราวเป็นมาอย่างไรก็ตรวจสอบกระจ่างแจ้งแล้ว เช่นนั้นซีจิ่วก็เป็นอิสระแล้วกระมัง?”

“แน่นอน! ข้าไม่เคยคิดจำกัดอิสรภาพแม่นางตั้งแต่แรกแล้ว…”

กู้ซีจิ่วยกริมฝีปาก “เช่นนั้นก็ดี ฝ่าบาท ซีจิ่วมีเรื่องที่จะขอร้องท่าน”

“แม่นางกู้ เชิญบอกมาได้เลย”

“อีกประเดี๋ยว ขอฝ่าบาทโปรดจัดหาคนส่งซีจิ่วออกไป”

หลานเหยากวงตะลึงงัน อดไม่ได้มองตี้ฝูอีแวบหนึ่ง ตี้ฝูอีมองลึกเข้าไปในดวงตาของกู้ซีจิ่ว แต่กู้ซีจิ่วไม่ได้มองทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสักนิดตั้งแต่ต้นจนจบ

หลานเหยากวงกระแอมหนึ่งครา “เหตุใดแม่นางจึงรีบร้อนจะออกไป? ยากนักที่จะได้มาที่นี่สักครั้งหนึ่ง ข้ายังไม่ได้จัดสำรับต้อนรับดีๆ สักหน่อย อีกทั้งอาณาจักรเงือกนี้ไม่เหมือนบนบก ที่กินที่เที่ยวมากมาย แม่นางควรไปเดินเล่นให้มากหน่อย อยู่ให้นานอีกนิด ให้ข้าได้ต้อนรับขับสู้ให้สมกับเป็นเจ้าบ้าน”

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “ขอบพระทัยฝ่าบาท แต่ซีจิ่วยังมีธุระอื่นต้องไปสะสาง ไม่ขออยู่นาน” เธอไม่อยากตอบโต้กับอีกฝ่ายอีก “ฝ่าบาท ครึ่งชั่วยามหลังจากนี้ ซีจิ่วจะไปรอคนของท่านที่หน้าประตูวังเงือก ข้าทูลลา!” เมื่อหันกายก็เคลื่อนย้ายหายไปในทันที

หลานเหยากวงพูดจาอันใดมิออก

ฝูงชนต่างแน่นิ่ง

หลานเหยากวงมองไปที่ตี้ฝูอี ดวงตาฉายแววเห็นอกเห็นใจ “พี่หวง…”

ตี้ฝูอีกล่าว “ไปเตรียมการตามที่นางบอก” แล้วหายตัวไปในทันใด

……

กู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายมาถนนสายที่ขายสมุนไพรนั้น จับจ่ายสมุนไพรที่ตัวเองต้องการนั้นอย่างรวดเร็ว และใส่เข้าไปในถุงเก็บของ

ผู้คนที่เดินไปมาบนถนนสายนี้ส่วนมากเป็นประเภทหมอโอสถ และคนประเภทนี้ส่วนมากไม่ชอบสถานที่พลุกพล่าน ดังนั้น เรื่องที่กู้ซีจิ่วโดดเด่นออกหน้าออกตาตรงนั้น คนที่ถนนสายนี้ไม่มีผู้ใดรู้

ชาวเงือกโดยทั่วไปหน้าตาสะสวย หญิงสวยชายงามตามท้องถนนมากมายยิ่งนัก ดังนั้นกู้ซีจิ่วใช้รูปโฉมเดิมเดินอยู่ในที่แห่งนี้ก็ไม่ค่อยสะดุดตา และไม่มีทางถูกรุมมอง

เธอได้ไข่มุกมาไม่น้อย หลังจากที่เธอซื้อสมุนไพรที่อยากได้แล้ว ยังมีเหลืออีกมากนัก เธอจึงวางแผนเดินเตร็ดเตร่ตามใจชอบ พบเจอสิ่งใดเหมาะสมถูกใจก็ซื้อขึ้นมา

สิ่งของของชาวเงือกมากมายนักที่หาไม่ได้บนบก อีกทั้งยังล้ำค่าเหนือธรรมดา กู้ซีจิ่วคิดจะซื้อของขวัญเล็กๆ น้อยๆ กลับไปฝากพวกเพื่อนๆ อีกด้วย

เธอเดินมาถึงถนนสายเครื่องประดับ

จากนั้นเธอจึงพบว่าตัวเองเป็นยาจก เงินเล็กน้อยที่เธอได้มานั้นยังซื้อกำไลคริสตัลสักวงไม่ได้เลย

ดูเหมือนว่าของใช้ประจำวันที่นี่ราคาถูกหน่อย สิ่งของอย่างอื่นราคาแพงยิ่งนัก เธอลูบกระเป๋าตัวเองดู ไข่มุกด้านในเหลือไม่ถึงหนึ่งพันเม็ด

ช่างเถอะ กลับไปซื้อสมุนไพรสำรองไว้ดีกว่า!

เธอวางกำไลคริสตัลที่มีมูลค่าเทียบเท่าไข่มุกสองพันเม็ดในมือลง เมื่อหันกายก็เกือบไปชนเข้ากับอ้อมกอดของคนผู้หนึ่ง!

————————————————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

Status: Ongoing
   เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท