ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1373+1374

บทที่ 1373+1374

บทที่ 1373 ถือเสียว่าหลายปีมานี้ข้าตาบอด

กู้ซีจิ่วมองหวังอวิ่นหยวน “เจ้าก็ไม่มีเยื่อใยใดๆ ต่อภรรยาอีก เขียนหนังสือหย่าร้างแล้ว ต่อจากนี้ บุรุษแต่งงานสตรีออกเรือนมิมีอันใดเกี่ยวข้องกันอีก?”

สีหน้าหวังอวิ่นหยวนแปรเปลี่ยน เขาสูดลมหายใจเข้าลึก เดินไปข้างกายภรรยาทันใด “ไม่! ข้าเสียนางไปไม่ได้! ข้ายอมละทิ้งโอกาสนี้…”

สีหน้านางหวังเปลี่ยนไป “ท่านไม่อาจเป็นเพราะข้า…”

หวังอวิ่นหยวนกุมมือนาง “ลวี่เอ๋อร์ ข้าไม่ต้องการแยกจากเจ้า!” บุรุษแต่งงานสตรีออกเรือนมิเกี่ยวข้องกันอีก เขาทำไม่ได้! เมื่อคิดถึงว่าภรรยาตัวเองต้องออกเรือนไปกับคนอื่นในอนาคต หัวใจของเขาก็เหมือนถูกแผดเผา…

ดวงตาของภรรยาหวังแดงก่ำ “ท่าน…ท่านอย่าทำอะไรโง่ๆ…”

หวังอวิ่นหยวนกอดนาง “ข้ารู้ดีว่าข้าต้องการอะไร เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว” แล้วเงยหน้าขึ้นมองกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว ข้าขอเลือกอยู่ที่นี่ต่อ”

กู้ซีจิ่วโล่งใจ แย้มยิ้มครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดจาอันใด

สามีภรรยาเดิมทีก็คือวิหคในพงไพร เมื่อเกิดภัยพิบัติ พวกเขามีทางเลือกโบยบินแยกจากหรือร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน เคราะห์ดีที่ทางเลือกของพวกเขาไม่ได้ทำให้เธอสิ้นหวังในธรรมชาติของมนุษย์

กู้ซีจิ่วหันหน้าไปมองโจวเทียนชื่อ กล่าวอย่างเรียบเฉย “ข้าพาไปได้แต่คนที่เห็นความสำคัญของความรู้สึกและศีลธรรมเท่านั้น ขออภัย ครั้งนี้ข้าไม่อาจพาเจ้าไปได้”

อยู่ที่นี่ เขาละทิ้งภรรยาที่รักเขามาโดยตลอดได้เพื่อเห็นแก่อิสรภาพ เช่นนั้นหลังจากออกไป ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย เขาอาจทรยศต่อมโนธรรมของตัวเอง และอาจทรยศสหายของตนได้อย่างง่ายดาย เธอจะพาคนเช่นนี้ออกไปเพื่ออะไร? สร้างความรำคาญใจให้ตัวเองหรือ?

โจวเทียนชื่อหน้าถอดสี “เจ้า…เจ้าไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน! เห็นได้ชัดว่าเจ้า…”

เดิมทีตี้ฝูอีมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ด้านข้างด้วยรอยยิ้ม ยามนี้สีหน้าไม่สู้ดี น้ำเสียงเย็นชา “เห็นได้ชัดอะไร? แม้แต่ภรรยาเจ้ายังละทิ้งได้ ยังมีอะไรที่เจ้าละทิ้งไม่ได้อีก?”

พลังอำนาจของเขากล้าแข็งนัก โจวเทียนชื่อตกตะลึงอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเขียวคล้ำและซีดสลับไปมา “ข้า…ข้าไม่ได้ละทิ้งนาง ข้าเพียงแค่…เพียงแค่…ข้ากับนางไม่มีความรู้สึกอันใดต่อกันแล้วจริงๆ ไม่มีผู้ใดตั้งกฎเกณฑ์ว่าชอบใครคนหนึ่งแล้วจะต้องชอบคนนั้นไปชั่วชีวิตไม่ใช่รึ? พวกเจ้าตัดสินกันเยี่ยงนี้ไม่ยุติธรรม!”

“เจ้ากับนางไม่มีความรู้สึกสักเพียงนิดต่อกันแล้วจริงหรือ? กู้ซีจิ่วไล่เลียง

“ใช่!”

“เช่นนั้นเจ้าจงให้สัตย์สาบาน เจ้ากับนางกรวดน้ำคว่ำขันกันไปแล้ว ต่อจากนี้ไปไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางหวนคืนดี หากผิดคำสาบานขอสวรรค์จงลงโทษทัณฑ์!” ตี้ฝูอีกล่าวอย่างเย็นชา

โจวเทียนชื่อตะลึงงัน เพื่อพิสูจน์ตัวเองเขาจึงตัดสินใจให้สัตย์สาบานตามที่ตี้ฝูอีบอก

เสียงฟ้าร้องดังครืนกลางท้องนภา แสดงถึงการรับคำสัตย์สาบาน

สีหน้านางโจวซีดขาวดังหิมะ กล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ถือเสียว่าหลายปีมานี้ข้าตาบอด!”

ใบหน้าโจวเทียนชื่อซีดเผือดไม่พูดไม่จา เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไร

ตี้ฝูอียิ้มเล็กน้อย “ดีมาก!” เขากวาดตามองฝูงชนโดยรอบ พูดขึ้นอย่างเชื่องช้า “ความจริง ลิขิตสวรรค์ยังมีอีกแถวหนึ่ง ข้าเพิ่งตีความได้เมื่อไม่กี่วันมานี้ เกี่ยวกับการออกไปของฝูงชนที่อยู่ต่อที่นี่”

ฝูงชนต่างหูตั้งกันหมด

ตี้ฝูอีกล่าวอีก “พวกเจ้าใช่ว่าจะไม่มีโอกาสอีกเลย ยังออกไปกันเป็นกลุ่มได้ ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณถึงขั้นเก้าครบเก้าคนนับเป็นหนึ่งกลุ่ม สามารถใช้วิธีพิเศษเปิดเขตแดนนี้ ออกกันไปได้ตามลำดับ”

แววตาทุกคนพลันวาบไหว!

ความจริงหลายวันมานี้ทุกคนฝึกฝนประลองแข่งขันกัน คนที่บรรลุขั้นแปดแล้วมีไม่น้อย พวกเขาฝึกฝนกันต่ออีกไม่กี่ปีก็บรรลุขั้นเก้าได้แล้ว โดยเฉพาะภรรยาของโจวเทียนชื่อ เพื่อการเดิมพันครั้งนี้ พลังวิญญาณของนางบรรลุถึงขั้นแปดตอนปลายแล้ว อีกนิดเดียวก็จะบรรลุขั้นเก้า…บางทีอาจใช้เวลาไม่ถึงสองปี นางก็จะทะลวงขั้นเก้าได้แล้ว!

กู้ซีจิ่วหยิบถุงเล็กออกมาถุงหนึ่งยื่นให้นางโจว…

————————————————————————————-

บทที่ 1374 ทุกคนมีความหวังที่จะออกไปแล้ว

กู้ซีจิ่วหยิบถุงเล็กออกมาถุงหนึ่งยื่นให้นางโจว “นี่คือยาลูกกลอนทะลวงขั้นเก้าหนึ่งร้อยเม็ดสำหรับทุกคน เมื่อผู้ใดใกล้จะทะลวงขั้นเก้าให้มารับจากเจ้าไปใช้ คนกลุ่มถัดไปที่จะได้ออกไปก็ให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ”

แววตาของนางโจวพลันวาบไหว กล่าวขอบคุณแล้วจึงรับไป นางไม่ได้เอ่ยปาก ทว่ารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของกู้ซีจิ่วอย่างสุดซึ้ง

กู้ซีจิ่วกวาดตามองฝูงชน เลือกคนอีกสองสามคนมาเป็นผู้ช่วยของนางโจว ให้พวกเขามาคอยคุ้มครองนาง พร้อมกับตั้งกฎข้อหนึ่ง ให้นางเป็นผู้นำคนกลุ่มถัดไปที่จะออกจากที่นี่…

นางโจวมั่นคงหนักแน่น พลังยุทธ์ไม่เลวทีเดียว มีปฏิสัมพันธ์อันดีกับคนที่นี่ อีกทั้งยังรู้จักจัดการ โดยปกตินางก็เป็นผู้นำการทำงานของพวกผู้หญิงในหมู่บ้าน ยามนี้ให้นางเป็นคนบังคับใช้กฎที่หลัวจั่นอวี่ตั้งขึ้น ก็ไม่ทำให้ที่นี่เกิดปัญหาต่างๆ และถือว่าเป็นการร่วมมือซึ่งกันและกัน

ทุกคนมีความหวังขึ้นใหม่อีกครั้ง ย่อมสุขใจกันเป็นอย่างมาก เมื่อทำลายบรรยากาศอึมครึมเมื่อสักครู่ออกไป ก็กลับมาครึกครื้นกันไม่น้อย

หวังอวิ่นหยวนและภรรยากุมมือกระชับแน่น สบตากันและกัน หวังอวิ่นหยวนดึงภรรยาเข้าสู่อ้อมกอด “ข้าจะเร่งฝึกฝนเจ้า เมื่อถึงเวลาพวกเราออกไปพร้อมกัน!”

ภรรยาหวังพยักหน้า กอดรัดเอวเขาแนบแน่นมิคลาย

โจวเทียนชื่อยืนทึ่มทื่อตรงที่เดิม!

เขามองภรรยาของตนเอง “เสี่ยวถง…”

ชื่อของนางโจวก็คือเล่อเสี่ยวถง นางเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาแล้วเดินจากไป

เล่อเสี่ยงถงอ่อนโยนทว่าหนักแน่น ทำการสิ่งใดเป็นขั้นเป็นตอน รูปโฉมงดงาม เคยเป็นที่หมายปองของบุรุษที่นี่นับไม่ถ้วน

ยามนี้นางได้รับคืนอิสรภาพแล้ว ในที่สุด พวกผู้ชายที่ยังคงพึงใจนางก็มีโอกาส มีชายสามสี่คนรายล้อมข้างกายพูดคุยกับนางแล้ว

เดิมทีโจวเทียนชื่อเป็นคนขี้หึงมาก ชายอื่นพูดคุยกับเล่อเสี่ยวถงมากหน่อยก็จะหึงหวงอยู่นาน ยามนี้กลับไม่มีที่เหลือให้เขาหึงหวงได้อีกแล้ว ไม่มีที่ให้เขายืนเคียงข้างนางอีกต่อไปแล้ว

เล่อเสี่ยวถงผู้นี้ดูเหมือนอ่อนโยน แต่ความจริงเด็ดขาดยิ่งนัก หากปล่อยวางสิ่งใดแล้วจะไม่หันหลังกลับไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเพิ่งให้สัตย์สาบานไปอีก…

นางไม่ใช่ภรรยาของเขาอีกต่อไปแล้ว…

ตี้ฝูอีเหลือบมองเบื้องล่างอีกครั้ง “กลุ่มที่สองที่จะออกไปจากยอดเขาที่แปดนี้ ต้องให้กู้ซีจิ่วนำทางนอกเขตแดน มิเช่นนั้น ต่อให้พวกเจ้าทั้งหมดฝึกฝนจนเลื่อนขั้นสิบกันได้ทุกคนก็ออกไปไม่ได้ นางจะกำหนดวันเพื่อมารับพวกเจ้า ต่อไปทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้…”

เมื่อฝูงชนได้ยิน ย่อมส่งเสียงโห่ร้องขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนมีความหวังที่จะออกไปแล้ว!

มีเพียงโจวเทียนชื่อเท่านั้นที่ใบหน้าซีดเผือด

หากกลุ่มถัดไปมีเพียงเล่อเสี่ยวถงเป็นผู้นำ ถึงเวลานั้นเขาขอร้องนางมากหน่อยก็ได้ อย่างไรเสียนางก็เคยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาเขา อีกทั้งยังเคยชอบเขามากขนาดนั้น ตัวเองแค่เพียงต้องเยินยอเอาใจนางหลายครั้งหน่อย บางทีอาจจะหว่านล้อมนาง ให้นางเลือกเขาได้

ทว่าหลังจากออกไปแล้วยังต้องให้กู้ซีจิ่วนำทาง กู้ซีจิ่วรังเกียจเขาแล้วอย่างเห็นได้ชัด…

เขาคงไม่มีความหวังที่จะออกไปได้แล้ว!

ทั้งหมดนี้จัดกาได้อย่างเรียบร้อย คนที่จะจากไปกลับห้องจัดเก็บข้าวของ บอกลามิตรสหาย…

กู้ซีจิ่วก็กลับไปในห้องของตัวเอง เธอมองไปรอบห้อง อยู่ที่นี่มาแปดปี วันนี้ต้องจากไปแล้ว ต่อไปคงไม่ได้กลับมาอีก ในใจกลับรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง

“นายท่าน พวกเราจะกลับมาอีกหรือไม่?” เจ้าหอยยักษ์ใช้ฝาหนีบชายเสื้อกู้ซีจิ่ว

“ไม่กลับมาอีกแล้ว สถานที่แห่งนี้เสมือนห้องคุมขัง โลกภายนอกดีกว่ามากนัก” เสียงเด็กน้อยดังกังวานขึ้น เด็กน้อยในชุดสีแดงคนหนึ่งเบ้ปากอยู่ด้านข้าง

มันคือลู่อู๋น้อย แปดปีมานี้ ในบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งสามตัว การฝึกฝนของมันรวดเร็วที่สุด ฝึกจนกลายเป็นร่างมนุษย์ได้แล้ว

————————————————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

Status: Ongoing
   เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท