ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1415+1416 (1)

บทที่ 1415+1416 (1)

บทที่ 1415 เขาไม่ปองร้ายข้าหรอก

อันที่จริงกู้ซีจิ่วก็เห็นแล้วเช่นกัน อยู่ที่นี่อย่าว่าแต่ขอพบหลงซือเย่เลย ต่อให้เป็นศิษย์ระดับล่างขอพบผู้คุ้มกฎเบื้องบน ก็ต้องแจ้งเรื่องขั้นแล้วขั้นเล่า จากนั้นก็ค้อมกายรออยู่ด้านนอก ยืนนิ่งเสมือนเสาไม้ ไม่อนุญาตให้เดินเพ่นพ่านไม่อนุญาตให้พูดคุยไม่อนุญาตให้หงุดหงิด…

หากว่าเข้าพบหลงซือเย่ตามขั้นตอนปกติ คาดว่าคงต้องเข้าแถวรอไปจนถึงปีวอกเดือนม้า และยังไม่แน่ว่าจะได้พบ กู้ซีจิ่วใคร่ครวญเล็กน้อย “ข้าจะเร้นกายเข้าไปคนเดียว เจ้าหาสถานที่ซ่อนตัวรอ อย่าได้เผยตัวชั่วคราว”

หลีเมิ่งซย่าไม่วางใจ “บางทีพวกเราน่าจะหาวิธีอื่นดูก่อน เจ้าเข้าไปคนเดียวออกจะเสี่ยงอันตรายไปหน่อย” ก่อนหน้านี้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายได้พูดคุยกับนาง สั่งให้นางอารักขาอยู่ข้างกายกู้ซีจิ่ว อย่าให้เกิดอุบัติเหตุแม้สักน้อย มิเช่นนั้นให้หิ้วหัวไปพบเขาได้เลย…

กู้ซีจิ่วยิ้ม “จะมีอันตรายอะไรกัน? หลงซือเย่เป็นสหายของข้า วางใจเถอะ เขาไม่ปองร้ายข้าหรอก” พลางเคลื่อนย้ายจากไป

….

ยอดเขาหิมะ เรือนไผ่ เหมยแดง ราวบันไดวกวนเรียบง่ายเก่าแก่

ให้บรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์เฉกเช่นนักพรตที่ถือสันโดษ บนเรือนไผ่จารึกอักษรตัวใหญ่ไว้สี่ตัว ‘ฟ้ายั่งดินยืน’ สองฟากยังแขวนโคลงคู่ไว้ด้วย

โคลงท่อนบนคือ ‘หากสวรรค์อาดูรสวรรค์จักชรา’ โคลงท่อนล่างคือ ‘หากจันทราไร้ชังจันทราจักเต็มดวง’

ลายอักษรเป็นฝีพู่กันของหลงซือเย่ หงส์ร่อนมังกรรำ งามสง่าเยือกเย็น แฝงความทระนงดั่งต้นเหมยยามวสันต์

กู้ซีจิ่วทราบมาจากบทสนทนาของศิษย์สำนักถามสวรรค์คนอื่นๆ ที่นี่เป็นสถานที่ที่หลงซือเย่พำนักอยู่เป็นประจำ ระยะนี้ในช่วงเวลาสิบวันหลงซือเย่จะพำนักอยู่ที่นี่เสียแปดวัน

สถานที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามของสำนักถามสวรรค์ ตามปกติแล้วศิษย์ทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่ ต่อให้เป็นศิษย์สายตรงของหลงซือเย่ถ้าจะมาพบเขาที่นี่ ก็ต้องสั่นกระดิ่งเงินพิเศษชนิดหนึ่งที่อยู่ด้านนอกก่อน หากว่าหลงซือเย่ต้องการพบพวกเขา ก็จะสั่นกระดิ่งตอบ

หากว่ากระดิ่งเงินใบนั้นไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย นั่นแสดงว่าวันนี้หลงซือเย่ไม่อยากพบผู้ใด พวกเขาทำได้เพียงคอตกกลับไป

กู้ซีจิ่วซ่อนตัวอยู่หินผา มองคนสองคนที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงจุดเคาะกระดิ่ง คล้ายว่ากำลังรอเสียงตอบกลับอยู่

หนึ่งชายหนึ่งหญิง ผู้ชายอายุราวสามสิบปี เป็นจีเฟิงหล่างศิษย์คนโตของหลงซือเย่

ส่วนผู้หญิงนั่นเป็นคนคุ้นเคยกัน กู่ซีซีศิษย์ปิดขบวนของหลงซือเย่ ตอนที่กู้ซีจิ่วเพิ่งทะลุมิติมาเคยพัวพันกับนางอยู่บ้าง ซ้ำยังเคยแข่งขันเดิมพันกับนางมาก่อนด้วย ยามนี้จู่ๆ ก็ได้เห็นนาง เรื่องราวเก่าก่อนเหล่านั้นแวบเข้ามาในสมองของกู้ซีจิ่ว ในใจเธอบังเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนเล็กน้อย

เมื่อก่อนได้ยินว่าหลงซือเย่ลงโทษศิษย์คนนี้ให้ไปหันหน้าเข้ากำแพงสามปี ภายหลังกู้ซีจิ่วจึงไม่ได้เห็นนางอีกเลย ลืมเลือนนางไปนานสามชาติเศษแล้ว นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้จะบังเอิญพบนางเข้า

อันที่จริงหลงซือเย่ปฏิบัติต่อลูกศิษย์อย่างดีเสมอมา ถ่ายทอดทักษะวิชาแพทย์อันใดให้โดยไม่ปิดบัง เมื่อปีนั้นกู่ซีซีผู้นี้ถูกขนานนามว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักถามสวรรค์ วิชาแพทย์ถ่ายทอดมาจากหลงซือเย่โดยตรง หลงซือเย่ยังค่อนข้างเอ็นดูศิษย์ปิดขบวนคนนี้ยิ่งนักด้วย

ไม่ได้พบกันแปดปี ใบหน้าเฉิดฉันของกู่ซีซีดูกร้านโลกขึ้นเล็กน้อย แต่ดูกระปรี้กระเปร่ายิ่งนัก ดวงตาก็ดูมีชีวิตชีวามากเช่นกัน

ผ่านไปครู่หนึ่ง กระดิ่งที่แขวนอยู่ทางด้านนี้ก็ส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งขึ้นมา นี่แสดงว่าพวกเขาสามารถเข้าไปกราบคารวะอาจารย์ได้แล้ว

จีเฟิงหล่างถอนหายใจอย่างโล่งอก ยิ้มแล้วเอ่ย “ศิษย์น้องเล็ก ยังคงเป็นเจ้าที่มีหน้ามีตาที่สุด! ศิษย์คนอื่นอยากเข้าพบอาจารย์อย่างเร็วก็ต้องรอเกือบครึ่งชั่วยาม…” หนนี้พวกเขารออยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น

กู่ซีซียิ้มมุมปากแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดเป็นอื่น “ไปกันเถอะ อย่าให้ท่านอาจารย์คอยนานเลย”

ทั้งคู่ผลักประตูบานนั้นแล้วก้าวเข้าไป

กู้ซีจิ่วนั่งกอดเข่าอยู่บนหินผาก้อนหนึ่ง มองเห็นทุกอย่างตรงนั้น ไม่คิดพบหน้าศิษย์เหล่านี้ของหลงซือเย่ อย่างไรเสียการมาของเธอครั้งนี้ก็เป็นความลับ ถ้าต้องการเชื้อเชิญหลงซือเย่ก็ต้องเชิญเขาลงเขาอย่างลับๆ ด้วย ย่อมต้องทำให้เรื่องเงียบเข้าไว้ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี

————————————————————————————-

บทที่ 1416 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (1)

ในเมื่อสองคนนั้นเข้าไปแล้ว นั่นก็ยืนยันได้ว่าหลงซือเย่อยู่ที่นี่จริงๆ เธอไม่ถึงกับคว้าน้ำเหลว

ช่วงเวลาที่สองคนนั้นเข้าไม่นานนัก ประมาณหนึ่งเค่อ กู้ซีจิ่วมองพวกเขาออกมาจากด้านใน กู่ซีซีเม้มริมฝีปากนิดๆ คล้ายจะว่าไม่พอใจอยู่บ้าง จีเฟิงหล่างศิษย์พี่ใหญ่ของนางเอ่ยปลอบนางเสียงเบา “ท่านอาจารย์ไม่ให้เจ้าซักถามเรื่องของกู้ซีจิ่ว เจ้าก็ยุ่งให้น้อยหน่อยเถอะ ไม่จำเป็นต้องงัดข้อกับท่านอาจารย์เลย”

กู่ซีซีกำมือเล็กน้อย “ตั้งหลายปีแล้ว ท่านอาจารย์ยังไม่ลืมหญิงผู้นั้นเลย…”

จีเฟิงหล่างถอนหายใจ “เจตนาของท่านอาจารย์ที่มีต่อกู้ซีจิ่วทั้งแผ่นดินล้วนทราบกันทั่ว…เหตุใดเจ้าต้องแส่หาความทุกข์ด้วยเล่า?”

กู่ซีซีเม้มริมฝีปากเล็กๆ แน่น “หญิงผู้นั้นหายสาบสูญไปนานถึงเพียงนี้แล้ว ข้าสงสัยว่านางจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว อีกอย่างนางเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง เดิมทีรักใคร่อยู่กับท่านอาจารย์ แต่ภายหลังเห็นว่าฐานะของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสูงส่งกว่าท่านอาจารย์ นางจึงโผไปหาทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย หญิงคนนั้นเป็นนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ มากชายหลายบุรุษ บุรุษพวกนี้ก็บัดซบ ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกนางล่อลวงจนหลงหัวปักหัวปำ ข้าประหลาดใจเหลือเกิน หญิงผู้นั้นมีดีตรงไหนกัน? คู่ควรให้บุรุษเหล่านี้โผใส่ดั่งแมลงเม่าบินเข้ากองไฟหรือ?”

จีเฟิงหล่างขมวดคิ้ว “ศิษย์น้องเล็ก อย่าพูดจาเหลวไหล! เรื่องของท่านอาจารย์มิใช่เรื่องที่เจ้ากับข้าจะถามซอกแซกได้…อีกอย่างมิใช่ว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสลัดนางทิ้งแล้วหรอกหรือ? ยามนี้ส่งคนนับไม่ถ้วนไปตามหาล่าสังหารนางแล้ว…”

กู่ซีซีเบะปาก “นี่แหละข้าถึงเป็นกังวล หากว่าหญิงผู้นั้นไม่ตาย นางถูกทูตสวรรค์ฝ่ายไล่ล่าสังหาร ไม่แน่ว่าอาจวิ่งแจ้นมาขอหลบภัยกับท่านอาจารย์ที่นี่ ด้วยความรักที่ท่านอาจารย์มีต่อนาง จะต้องถูกนางล่อลวงได้อีกครั้งอย่างง่ายดาย…”

“เอาล่ะๆ หยุดพูดเถอะ” จีเฟิงหล่างจูงนางให้ออกเดิน “ท่านอาจารย์ไม่อยากให้ผู้ใดวิจารณ์เรื่องของนาง เจ้าเหิมเกริมเช่นนี้ ไม่รักชีวิตแล้วสินะ!”

“ข้าแค่ไม่พอใจนิดหน่อยเท่านั้น ท่านว่าชื่อกู่ซีซีที่อาจารย์ตั้งให้ข้ายามที่ข้ายังเล็ก มีสาเหตุมาจากนางด้วยหรือเปล่า?”

จีเฟิงหล่างหัวเราะฮ่าๆ “บังเอิญน่า บังเอิญเท่านั้น ไปเถอะ”

กู้ซีจิ่วมองศิษย์พี่ศิษย์สองทั้งสองหายลับไป ถอนหายใจเบาๆ นวดคลึงหว่างคิ้ว บอกไม่ถูกว่าในใจรู้สึกอย่างไร ดูเหมือนหลงซือเย่จะยังไม่ลืมความรู้สึกที่มีต่อเธอ ส่วนเธอก็ถูกลิขิตไว้แล้วว่าไม่อาจตอบรับเขาได้…

เช่นนั้นตนยังต้องเชิญเขาลงจากเขาไปช่วยเหลืออยู่หรือไม่?

ขณะที่กู้ซีจิ่วใคร่ครวญอยู่ ยันต์ถ่ายทอดเสียงตรงบั้นเอวก็ส่องแสงวาบเล็กน้อย เธอหยิบขึ้นมา มีเสียงของหลัวจั่นอวี่ถ่ายทอดออกมาจากยันต์ถ่ายทอดเสียง ‘น้องเล็ก สถานการณ์ไม่ค่อยดีแล้ว! ยามนี้ในอาณาจักรเจาหยางมีโรคประหลาดอย่างหนึ่งระบาดอยู่ ผู้ป่วยร่างกายแข็งทื่อปานเหล็ก พละกำลังมหาศาล อานุภาพทำลายล้างสูง และไม่มีสตินึกคิด พบสิ่งใดกัดสิ่งนั้น คนถูกกัดก็จะติดเชื้อไปด้วย…’

กู้ซีจิ่วใจหายวาบ พิษผีดิบสายพันธุ์ใหม่หรือ?!

ไม่จำเป็นต้องถามแล้ว พิษผีดิบนี้หลงฟั่นเป็นผู้คิดค้นขึ้น ดูเหมือนเพื่อครอบครองใต้หล้าแล้วไอ้บัดซบผู้นี้จะไม่เลือกวิธีการเลย

พิษผีดิบนี้กู้ซีจิ่วแก้ได้ แต่ต้องหลอมยาลูกกลอนระดับหกขึ้นไปมากมายยิ่งนัก ลำพังตัวเธอไม่ไหวแน่

ดีที่สุดคือรวบรวมปรมาจารย์หลอมโอสถระดับหกทั้งหมดของโลกนี้มาหลอมโอสถด้วยกัน ถึงจะสามารถยับยั้งหายนะครั้งนี้ได้…

……………………………………

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

Status: Ongoing
   เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท