ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1510+1511

บทที่ 1510+1511

บทที่ 1510 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 5

ถึงแม้ข้ามิอาจเห็นด้วยกับหลักการนี้ของเขา ทว่าก็หยุดยั้งเขาไม่ได้ ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ส่งข้ามาช่วยเหลือเขาก่อนกักตน บอกว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นผู้ตัดสินโชคชะตา ให้ข้าฟังเขาทุกเรื่อง ดังนั้น ข้าจึงไม่เอ่ยถามเขามากมายนักเมื่อทำการสิ่งใด เพียงแต่สอนวิชาเซียนให้เขาบ้าง ใครจะไปคาดคิดว่าเขากลับเป็นตัวปลอม…”

เซียนหญิงลี่หวางผู้นี้ฝีปากดียิ่งนัก ยามนี้นางผลักความรับผิดชอบออกได้อย่างหมดจด แม้แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกนางลากลงน้ำไปด้วย

นางเตรียมการมาดียิ่งนัก โดยปกติ ถึงแม้นางสนิทสนมกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม ทว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมล้วนเป็นผู้สั่งการเรื่องราวเลวร้าย นางแทบจะไม่ได้ปริปากพูดจาอันใดเลย ดังนั้นในสายตาของพวกชาวบ้าน นางเป็นแค่ตัวประดับข้างกายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเท่านั้น เป็นบุคคลที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเคารพ และไม่เห็นว่านางทำเรื่องเลวร้ายอันใดจริงๆ…

พวกชาวบ้านยังไม่เข้าใจความเป็นจริง อีกทั้งผู้คนนับถือเทพศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด ย่อมเห็นนางสูงส่งเช่นกัน

เมื่อนางพูดถ้อยคำเหล่านี้ออกมา พวกชาวบ้านล้วนมองหน้ากันไปมา ทว่ากลับไม่มีใครโต้แย้ง

ตี้ฝูอีกลับยิ้มด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย ทว่าแววตากลับแหลมคมยิ่งนัก “ข้าจะตรวจสอบเรื่องราวที่เจ้ากระทำเหล่านั้นอย่างถึงที่สุด หากเจ้าทำเจ้าก็หนีไม่รอด หากเจ้าไม่ได้ทำก็สาวไม่ถึงตัวเจ้า เรื่องราวเหล่านี้ยังไม่ต้องเอ่ยถึง เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นรึ? เจ้าคงรู้ว่าการแอบอ้างเป็นฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์จะได้รับโทษทัณฑ์เยี่ยงไร?”

เซียนหญิงลี่หวางหยุดชะงัก “เดิมข้าก็คือฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ จริงแท้แน่นอน จะมาแอบอ้างอันใดกัน?!”

“ใครเป็นผู้แต่งตั้งฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างเจ้า? มีหลักฐานหรือไม่?” ตี้ฝูอียกมือกอดอก

“ย่อม…ย่อมเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ยอมรับ พวกเราเป็นสามีภรรยากันยังจะต้องให้ผู้ใดมาเป็นพยานอีกเล่า? หากเจ้าต้องการพยานหลักฐานจริงๆ เทพศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานให้ข้าได้!” เซียนหญิงลี่หวางเชิดหน้าขึ้น

ตี้ฝูอีเคยพบเจอคนหน้าด้าน ทว่าไม่เคยพบเจอคนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน!

ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไร ซุ่มเสียงเยือกเย็นดุจหยกน้ำแข็งสายหนึ่งพลันส่งผ่านกลางอากาศ “ข้ามีฮูหยินที่เป็นคนสำคัญขนาดนี้อย่างเจ้าตั้งแต่เมื่อใด?”

ซุ่มเสียงแฝงไอสลัวอันเย็นยาบของภูเขาและสายธาร นั่นคือเสียงของเทพศักดิ์สิทธิ์

ฝูงชนล้วนนิ่งอึ้ง

สายตานับไม่ถ้วนมองตามเสียงกลางอากาศไป มีหลายคนยืนอยู่กลางอากาศอย่างสง่าผ่าเผย

ผู้นำอาภรณ์ตัวใหญ่ เกศาขาวดุจหิมะ เรือนกายปานหยก มีลำแสงหมุนวนรอบกาย ท่าทางของเขาทรงพลังยิ่งนัก เมื่อปรากฏกายราวกับยึดครองลำแสงฟ้าดิน ทำให้ทุกคนที่รายล้อมเขาล้วนกลายเป็นฉากหลัง

ความจริงคนที่ยืนรอบกายเขาก็เป็นบุคคลที่มีฐานะสูงส่งเช่นกัน เทียนจี้เยวี่ย เชียนเยวี่ยหร่าน ฮวาอู๋เหยียน หลงซือเย่…

สีหน้าของพวกชาวบ้านล้วนกลายเป็น “ศูนย์”

ทุกคนต่างรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองได้กำไรแล้วจริงๆ!

สานุศิษย์สวรรค์ทั้งห้าล้วนมาถึงแล้ว! ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ เทพศักดิ์สิทธิ์ผู้ลึกลับซับซ้อนมาตลอดก็มาถึงแล้วเช่นกัน!

เทพศักดิ์สิทธิ์ไม่ปรากฏกายสักครั้งในรอบหลายปี วันนี้กลับปรากฏกายที่นี่เป็นครั้งแรก พวกชาวบ้านแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง!

หลังจากกู่ฉานโม่ตกตะลึงครู่หนึ่ง แววตาฉายแววความปีติยินดี โบยบินขึ้นไปคารวะในทันที “เทพศักดิ์สิทธิ์!”

หลังจากคนอื่นๆ ตกตะลึงแวบหนึ่ง ก็คุกเข่าบนพื้นดินอย่างตื่นเต้นดีใจ “เทพศักดิ์สิทธิ์!”

“เทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว!”

“โอ้สวรรค์ เทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้วจริงๆ!”

พวกมู่เฟิงมองหน้ากันเหลอหลา จากนั้นสายตาพลันร่อนลงบนร่างของตี้ฝูอี

ตี้ฝูอีก็ตกตะลึง สายตาจดจ้องที่เรือนกายของเทพศักดิ์สิทธิ์ ไม่พูดจาอันใดและไม่ขยับเขยื้อน

เทพศักดิ์สิทธิ์ลงมาอย่างรวดเร็ว ร่อนลงบนแท่นสูงในทันที โดยฝ่าเท้าไม่แตะถูกพื้นโลกีย์

บนร่างเขามีกลิ่นอายแฝง กลิ่นอายที่ทำให้คนอยากจะหมอบราบกราบกรานลงไป

ดังนั้นแม้แต่คนเหล่านั้นบนแท่นสูงล้วนหมอบกราบลงไป! คุกเข่าหมอบกราบกันยกใหญ่

มีเพียงทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอียังคงยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับตกตะลึง ให้ความรู้สึกนกกระเรียนยืนอยู่กลางฝูงไก่อยู่บ้าง

เทพศักดิ์สิทธิ์ลอยล่องร่อนลงข้างกายเขา วางมือข้างหนึ่งลงบนไหล่ของเขา ซุ่มเสียงดุจหยกน้ำแข็ง ทว่าถ้อยคำที่พูดออกมากกลับแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น “ลำบากเจ้าแล้ว”

————————————————————————————-

บทที่ 1511 ท่านสอบสวนเองเถิด

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสะบัดมือของเขาลง “สมควรแล้ว” น้ำเสียงแฝงความเย็นชา

ฝูงชนมองหน้ากันแวบหนึ่ง รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเทพศักดิ์สิทธิ์กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไม่ค่อยธรรมดา…

เทพศักดิ์สิทธิ์ไม่เก็บเอาการกระทำไม่ไว้หน้าเขาของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาใส่ใจ เขาก้าวไปด้านหน้ายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหรี่ตามองเขาแวบหนึ่ง ถอยหลังกลับไปก้าวหนึ่ง เว้นระยะห่างจากเขาสักเล็กน้อย อมยิ้ม “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ สตรีนางนี้เรียกตัวเองว่าเป็นฮูหยินของท่านไม่ขาดปาก ท่านสอบสวนเองเถิด”

เขาลุกขึ้นยืน ไปแก้มัดให้คนตระกูลกู้เหล่านั้นในทันที คนที่ยังมีระเบิดติดตัว มีเพียงเขาที่แก้ออกได้…

สายตาเทพศักดิ์สิทธิ์มองตามเขาครู่หนึ่งแล้วมองกลับมา ในที่สุดก็ร่อนลงบนร่างของเซียนหญิงลี่หวาง “เจ้าเป็นลี่หวางจากที่แห่งหนใด แอบอ้างเป็นฮูหยินของข้ามีจุดประสงค์อันใด?”

ใบหน้าพริ้มเพราของเซียนหญิงลี่หวางเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว ดวงตาเทพศักดิ์สิทธิ์เยือกเย็นไร้ซึ่งความอบอุ่น ทว่ากลับมีแรงกดดันบีบบังคับ นางก็มีลับลมคมใน แทบจะยืนไม่อยู่ นางอยากเงยหน้ามองเขาตรงๆ ทว่ากลับไม่กล้า อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปสองก้าว “ข้า…ข้า…ข้ามาจากดินแดนเบื้องบน…”

กล่าวถึงตรงนี้นางรู้สึกมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้น “จักรพรรดิดินแดนเบื้องบนส่งข้าลงมาเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านทวีปเฟยซิงนี้ให้มีชีวิตที่สงบสุข ข้าเรียกตัวเองว่าฮูหยินของท่านก็…ก็ไม่ได้แอบอ้างไปเสียหมด จักรพรรดิดินแดนเบื้องบนเคยมีรับสั่งอย่างชัดเจน ให้ข้ามีครองคู่กับผู้สูงส่งที่สุดในอาณาจักรเฟยซิงได้ ร่วมกันปกครองใต้หล้า ถึงแม้ข้าเรียกตัวเองว่าฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งที่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากท่าน ทว่าก็ทำไปเพื่อความผาสุกของชาวบ้านในทวีปแห่งนี้ เหมาะแก่การทำการใดๆ อีกอย่างช้าเร็วอย่างไรท่านก็ต้องแต่งงานกับข้า ดังนั้น จะพูดเร็วหรือช้าอย่างไรก็ไม่มีอันใดแตกต่าง…”

ฝูงชนนิ่งอึ้ง จักรพรรดิดินแดนเบื้องบนคือผู้ใด? กลับมาจัดแจงงานแต่งงานของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์?

ตี้ฝูอีที่กำลังแก้มัดเชือกของคนตระกูลกู้พลันหยุดชะงักมือ หันกลับไปมองเทพศักดิ์สิทธิ์แวบหนึ่ง

เทพศักดิ์สิทธิ์กลับสงบเยือกเย็น ดวงตายิ่งเย็นและชา “แต่งงานกับเจ้า?”

เมื่อเขายกมือขึ้น พลันปรากฏระลอกบิดเบี้ยวกลางอากาศ ภาพลวงปรากฏขึ้นเป็นกระจกเงาตรงหน้าของเซียนหญิงลี่หวางในทันใด สะท้อนภาพรูปลักษณ์ทั้งหมดของเซียนหญิงลี่หวาง

การแต่งตัวของเซียนหญิงลี่หวางในวันนี้งดงามยิ่งนัก และเนื่องจากการต่อสู้เมื่อสักครู่ไม่ได้กระทบถึงนาง ดังนั้นยามนี้สภาพนางจึงไม่น่าจนตรอก นางเหลือบมองภายในกระจกแวบหนึ่ง มองไม่เห็นว่าตัวเองมีสิ่งใดผิดปกติ อดไม่ได้ที่จะเพ่งพิศในกระจกเล็กน้อย เงยหน้าแย้มยิ้มให้เทพศักดิ์สิทธิ์ “เทพศักดิ์สิทธิ์ นี่คือ?”

น้ำเสียงของเทพศักดิ์สิทธิ์เรียบเฉย “รบกวนเจ้ามองตัวเองในกระจกอีกครั้งหนึ่ง ทั้งตัวของเจ้ามีส่วนไหนคู่ควรกับข้าบ้าง?”

เซียนหญิงลี่หวางนิ่งอึ้ง

ฝูงชนหลุดส่งเสียงหัวเราะออกมา

แม้แต่ตี้ฝูอีก็อดไม่ได้ที่จะหยักยิ้มมุมปาก

ใบหน้างดงามของเซียนหญิงลี่หวางแดงก่ำ “เทพศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ท่านจะเป็นเทพสูงศักดิ์ที่สุดในทวีปแห่งนี้ ทว่าก็จำเป็นต้องฟังรับสั่งจากจักรพรรดิดินแดนเบื้องบน เขาเป็นคนกำหนดการแต่งงานของพวกเรา…” นางเกรงว่าเทพศักดิ์สิทธิ์จะไม่เชื่อ จึงส่งสัญญาณมือให้คนยักษ์เกราะทองที่อยู่ข้างกาย คนยักษ์เกราะทองนั้นหยิบของสิ่งหนึ่งอย่างระมัดระวังออกมาจากช่องมิติ ของสิ่งนั้นเปล่งแสงทอประกาย ไอมงคลมากมาย ลักษณะเหมือนราชโองการหนึ่ง และยอดเยี่ยมยิ่งกว่าราชโองการหลายระดับ

เซียนหญิงลี่หวางเปิดของสิ่งนั้น ตัวอักษรหลายแถวปรากฏขึ้นกลางอากาศ ‘เซียนหญิงลี่หวางจะครองคู่กับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปซิงเยวี่ย ร่วมกันปกครอง ผู้ใดมิอาจคัดค้าน หากมีผู้ใดคัดค้านต้องได้รับโทษทัณฑ์ของจักพรรดิ!’

ตัวอักษรไม่กี่ตัวนั้นทรงพลังและงามสง่ายิ่งนัก

————————————————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

Status: Ongoing
   เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท