ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1652+1653

บทที่ 1652+1653

บทที่ 1652 การทดสอบ 3

หรงเจียหลัวก็กำลังมองนาง นัยน์ตาล้ำลึกราวท้องฟ้ายามรัตติกาล ริมฝีปากหยักรอยยิ้มบางๆ คล้ายพึงพอใจและคล้ายกำลังคิดสิ่งใดอยู่

เมื่อเสาพลังวิญญาณปล่อยลำแสงหลากสีห้าสายออกมาปกคลุมฮั่วฉีฟาง ผู้คนนับหมื่นที่จัตุรัสเงียบเชียบ เงียบจนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหนึ่งเล่มร่วงหล่น

ลำแสงหลากสีห้าสายหมุนวนรอบกายฮั่วฉีฟาง มีสี่สายจางหายไปในพริบตา ทว่าลำแสงสีเขียวกลับไม่พุ่งเข้าในร่างกายของฮั่วฉีฟาง ทำให้รอบกายเขามีลำแสงสีเขียวท่วมท้น! ลำแสงสีเขียวนั้นดุจคลื่นวารีไหลเวียนรอบกายเขา ค่อยๆ จางหายไปเมื่อผ่านไปหลายนาที

สายตากู้ซีจิ่วร่อนลงบนร่างฮั่วฉีฟาง ดวงตาฉายความประหลาดใจ ทว่าก็พึงพอใจเช่นกัน ในที่สุดก็ประกาศ “เขาเป็นสานุศิษย์สวรรค์ที่มีพลังวิญญาณธาตุไม้เป็นหลัก!”

เมื่อพูดออกไป ทุกคนพลันสั่นสะท้าน!

ทั่วทั้งจัตุรัสเงียบสงัดก่อน แล้วจึงเหมือนหม้อน้ำเดือด มีทั้งโห่ร้อง ทั้งไม่เชื่อ และยังมีคนประหลาดใจ…

นึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นสานุศิษย์สวรรค์จริงๆ!

มู่เฟิงก็รู้สึกตาสว่าง!

ถึงแม้เขาเคยเห็นการทดสอบของตี้ฝูอีมากมายนับไม่ถ้วน แต่บางขั้นตอนซับซ้อนเหลือเกิน มู่เฟิงก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าใดนักว่าสิ่งที่กู้ซีจิ่วทำลงไปถูกหรือผิด ต้องทราบก่อนว่า ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยก่อให้เกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงได้…

เดิมทีไม่ว่าคนของอาณาจักรใด เมื่อถูกทดสอบสานุศิษย์สวรรค์ล้วนมีคนไม่น้อยจากอาณาจักรตนมาให้กำลังใจ ชื่นชมความครึกครื้น แม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์ของแต่ละอาณาจักรก็จะส่งคนมา ผู้มีความสามารถของอาณาจักรตนย่อมต้องพากลับไป

ทว่าฮั่วฉีฟางผู้นี้แม้แต่คนในอาณาจักรของเขาเองก็มองเขาไม่ดี รู้สึกว่าเขาโง่งมหรืออาจมีจิตไม่ปกติ ถึงได้เอ่ยวาจาสร้างปัญหาว่าตัวเองเป็นสานุศิษย์สวรรค์เช่นนี้ ความจริงทุกคนมองเขาเป็นตัวตลก ดังนั้นการทดสอบครั้งนี้ คนในอาณาจักรเขาแทบไม่มีผู้ใดมาเลย

แทบจะไม่มีไม่ได้หมายความว่าไม่มี ด้านล่างแท่นพิธียังมีคนมาบ้าง หลังจากกู้ซีจิ่วประกาศถ้อยคำนี้ไป และเมื่อความประหลาดใจครู่หนึ่งผ่านพ้น ก็มีคนระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว!

เสียงหนึ่งดังมาจากฝูงชน “ท่านทูตสวรรค์กู้คงรับผิดชอบการทดสอบเป็นครั้งแรกกระมัง? เกิดความผิดพลาดแล้ว!”

สุ้มเสียงนั้นก้องกังวาน กลบเสียงดังอื้ออึงทั่วทั้งพื้นที่ เสียงสะท้อนกลับที่กึกก้องชัดเจนดังขึ้นข้างหูของทุกคน

ฝูงชนกวาดสายตามอง เห็นเป็นชายหนุ่มองอาจผู้หนึ่ง รอบกายเขายังมีชายหนุ่มอีกสี่คน อายุล้วนต่ำกว่าสิบแปดปี ดูจากการแต่งตัวของพวกเขาน่าจะเป็นคนอาณาจักรเจาหยาง

เมื่อฮั่วฉีฟางเห็นคนเหล่านี้ สีหน้าพลันแปรเปลี่ยน นิ้วมือกระชับแน่น

คนเหล่านี้ก็คือเพื่อนเล่นของเขา…

และชายหนุ่มองอาจผู้นั้นมิใช่ใครอื่น เป็นองค์ชายที่จักรพรรดิอาณาจักรเจาหยางโปรดปรานเป็นที่สุด นึกไม่ถึงว่าจะมาชมถึงที่นี่

กู้ซีจิ่วหลุบตาลงมอง กล่าวอย่างเรียบเฉยประโยคหนึ่ง “ความผิดพลาดอะไร?”

ชายหนุ่มผู้นั้นยิ้มอย่างหยิ่งผยอง “คนอย่างฮั่วฉีฟางจะเป็นสานุศิษย์สวรรค์ได้อย่างไร? พลังวิญญาณต่ำ ใจเสาะ อีกทั้งไม่มีตำแหน่งหน้าที่…”

กู้ซีจิ่วเอ่ยปากอย่างเงียบสงบหลังจากฟังเขาพูดจบ “ข้าถามเจ้าว่าเกิดความผิดพลาดที่ตรงไหน มิใช่ให้เจ้ามาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผลสรุป!”

ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าว “ก็คือผลสรุปผิดพลาด ย่อมต้องเกิดความผิดพลาด…หากเขาเป็นสานุศิษย์สวรรค์ เช่นนั้นข้าก็ยิ่งควรเป็นเช่นกัน พลังวิญญาณของข้าสูงส่งกว่าเขา เฉลียวฉลาดกว่าเขา…”

เขามองกู้ซีจิ่วหัวจรดเท้าอีกคราหนึ่ง ดวงตาฉายแววดูถูกเหยียดหยาม “ท่านทูตสวรรค์กู้ถึงแม้มีพลังวิญญาณมากพอ มีตำแหน่งฐานะในอาณาจักรเฟยซิงแล้ว แต่เรื่องการทดสอบสานุศิษย์สวรรค์เกี่ยวพันถึงชีวิตของทั่วทั้งทวีป ประมาทเลินเล่อไม่ได้แม้เพียงน้อย แต่เดิมท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นผู้รับผิดชอบการทดสอบ มวลชนล้วนเลื่อมใสศรัทธาและไว้วางใจ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นไร ทุกคนล้วนเชื่อมั่น ทว่าท่านทูตสวรรค์กู้…อย่างไรเสียก็เพิ่งมาใหม่ อีกทั้งยังเป็นแม่นางผู้หนึ่ง…ทำเรื่องเช่นนี้จึงไม่ค่อยน่าเชื่อถือ”

————————————————————————————

บทที่ 1653 การทดสอบ 4

สายตาเขามองไปทางมู่เฟิง “ผู้คุมกันมู่ ส่วนตัวข้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หากท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายติดธุระมาไม่ได้ รออีกไม่กี่วันค่อยทดสอบก็ได้ ไม่ใช่ส่งคนมาทำส่งเดช”

เขาประสานมือไปทางหรงเจียหลัว “ฝ่าบาท ข้ารับบัญชาของพระบิดาให้มาชมการทดสอบครั้งนี้ อย่างไรเสียฮั่วฉีฟางก็เป็นคนของอาณาจักรเจาหยางเรา ถึงแม้พวกเราจะคาดหวังให้เขาได้เป็นสานุศิษย์สวรรค์จริงๆ เพื่อเป็นเกียรติให้กับเจาหยาง ทว่าเรื่องสานุศิษย์สวรรค์เกี่ยวพันกับโชคชะตาของทวีปซิงเยวี่ย ไม่อาจทำเป็นเรื่องเล่นได้ ดังนั้นจึงใคร่ขอเชิญท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายออกมาทดสอบ”

วาจานี้ของเขาเปี่ยมด้วยความไม่ไว้วางใจในตัวกู้ซีจิ่ว เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผาย

อีกทั้งคำพูดเหล่านี้ยังทำให้จิตใจผู้คนสับสน ทำให้คนที่เดิมทีสงสัยยิ่งสงสัยขึ้นไปอีก มีระลอกเสียงดังอื้ออึงท่ามกลางฝูงชน เห็นได้ชัดว่าทุกคนกำลังถกเถียงกัน

มู่เฟิงมองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง อันที่จริงต่อให้เป็นเขา ก็ยังรู้สึกว่าบางทีอาจเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย ฮั่วฉีฟางดูไม่เหมือนสานุศิษย์สวรรค์จริงๆ

เขาอยากพูดแทนกู้ซีจิ่วยิ่งนัก แต่เทพศักดิ์สิทธิ์เคยบอกไว้ว่าเรื่องสานุศิษย์สวรรค์เป็นเรื่องยิ่งใหญ่เทียมฟ้า แทบไม่อาจเลินเล่อ ไม่อาจผิดพลาดได้แม้แต่น้อย!

สายตาหรงเจียหลังร่อนลงบนใบหน้ากู้ซีจิ่ว กู้ซีจิ่วเพิ่งทำพิธีไป สิ้นเปลืองพลังวิญญาณไปไม่น้อย ยามนี้ใบหน้าเพริศพริ้งค่อนข้างซีดขาว ทว่าท่าทีของนางสงบเยือกเย็น มั่นใจเป็นอย่างมาก

หรงเจียหลัวยิ้มบางๆ และเอ่ยปาก “ความสามารถของทูตสวรรค์กู้ ข้ายังคงเชื่อถือได้ นางไม่น่าจะมีความผิดพลาดอันใด”

“ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่เหมือนกัน หากคนเช่นนี้ถูกตัดสินว่าเป็นสานุศิษย์สวรรค์ เช่นนั้นสภาพสังคมไม่เละเทะกันไปหมดแล้วหรือ ข้ารับประกันได้เลยว่าเขาไม่ใช่!” องค์ชายคนนั้นไม่ยอมลดราวาศอก

“คนเช่นนี้” ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็เอ่ยปาก ตาคนที่เธอถามนั้นกลับเป็นมู่เฟิง “ผู้คุมกันมู่เฟิง มีกฎเกณฑ์ข้อไหนที่ว่าผู้มีพลังวิญญาณต่ำต้อยไม่อาจเป็นสานุศิษย์สวรรค์ได้หรือไม่?”

มู่เฟิงส่ายหน้า “ไม่มีขอรับ”

“เช่นนั้น เสาทดสอบพลังวิญญาณบนแท่นพิธีเคยเกิดความผิดพลาดหรือไม่?”

“ไม่มีเช่นกันขอรับ”

“เช่นนั้นก็ถูกต้องแล้ว เสาทดสอบพลังวิญญาณไม่มีเคยเกิดความผิดพลาด ขั้นตอนทั้งหมดที่ข้าทำก็ถูกต้องครบถ้วน ยังมีอะไรให้สงสัยอีก? ฮั่วฉีฟางคือสานุศิษย์สวรรค์!” น้ำเสียงกู้ซีจิ่วเปี่ยมด้วยความมั่นใจ

“ทูตสวรรค์กู้ อย่างไรท่านก็เพิ่งเคยดำเนินการเป็นครั้งแรก ท่านทราบได้อย่างไรว่าทุกขั้นตอนที่ท่านทำถูกต้องครบถ้วน? ข้าว่าขั้นตอนเหล่านี้ซับซ้อนยิ่งนัก หากมีตรงไหนผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ผลสุดท้ายที่ออกมาจะไม่เหมือนกัน ผู้คุ้มกันมู่ ท่านยืนยันได้หรือไม่ว่าขั้นตอนที่นางทำถูกต้องครบถ้วนแล้ว?” ข้อสงสัยขององค์ชายยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก

มู่เฟิงขมวดคิ้ว เขาไม่มีทางตัดสินได้จริงๆ

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบสานุศิษย์สวรรค์ไม่อาจโป้ปดมดเท็จเป็นอันขาด มิเช่นนั้นจะถูกลงทัณฑ์ ต่อให้เป็นมู่เฟิงก็ไม่กล้าพูดว่าตัวเองยืนยันได้

มู่เฟิงทอดถอนใจเบาๆ “วิธีการของนางถูกต้องทั้งหมด”

องค์ชายหนุ่มผู้นั้นแย้มยิ้ม “วิธีการถูกต้องทั้งหมดไม่นับนี่ บางทีอาจดูดีแค่ภายนอก? ข้ารู้สึกว่า มิสู้ภายภาคหน้าเชิญทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาทดสอบสักหน่อยน่าจะมั่นใจได้มากกว่า”

ใบหน้ามู่เฟิงพลันหนักอึ้ง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นคนที่เจ้าจะนัดแนะออกมาได้ตามใจชอบงั้นหรือ?”

องค์ชายหนุ่มผู้นั้นประสานมือ “ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงโชคชะตาของคนทั้งทวีป ไม่อาจมอบหมายให้ทูตสวรรค์ผู้มาใหม่ดำเนินการสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะไม่อาจรู้ได้อย่างชัดเจนว่าผิดพลาด หรือว่าผิดพลาดแล้วก็แล้วกันไปเช่นนั้น?”

มู่เฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ผิดพลาดแล้วก็แล้วกันไปอะไรกัน? นางอาจไม่ผิดก็ได้!”

องค์ชายหนุ่มผู้นั้นแหงนหน้ายิ้มเย้ย “ข้ารับประกันได้ว่าต้องผิดพลาดแน่นอน! หากฮั่วฉีฟางเป็นสานุศิษย์สวรรค์ เช่นนั้นข้าก็ยิ่งควรจะเป็น!”

“เจ้ายิ่งควรจะเป็นสิ่งใด?” จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“เป็นสานุศิษย์สวรรค์อย่างไรเล่า” องค์ชายหนุ่มกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“อา งั้นรึ? ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็ทดสอบเสียหน่อย!”

องค์ชายหนุ่มตกตะลึง เหงื่อออกโซมกายในทันใด! เขาแหงนหน้าขึ้นทันที “ผู้ใด” ในขณะที่กำลังจะพูดว่า ‘ผู้ใดคิดเล่นเล่ห์อันใดกับข้า’ ทว่ายังไม่ทันพูดจบก็ชะงักงัน สายตามองไปทางหนึ่งกลางอากาศ “เทพศักดิ์สิทธิ์!”

————————————————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

Status: Ongoing
   เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท