ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1758+1759

บทที่ 1758+1759

บทที่ 1758 เขาไม่ใคร่ใส่ใจสวรรค์สักเท่าไหร่นะ

กู้ซีจิ่วหรี่ตาเล็กน้อยมองดูเขา หลงโม่เหยียนในยามนี้แผ่อำนาจทั้งหมดออกมาแล้ว รอบกายมีประกายแสงอ่อนจางไหลวนอยู่ เดินเข้ามาหาเธอดั่งทวยเทพเยือนแดนธุลีแดง

จากรูปการณ์เช่นนี้…พลังวิญญาณของเขาสูงส่งยิ่งนัก

ดูท่าเมื่อก่อนเขาคงจะเก็บงำกำลังที่แท้จริงเอาไว้ไม่น้อย…

อ่อ ใช่ เขาบอกว่าเขาตื่นรู้แล้ว หลังจากตื่นรู้แล้วก็คงเก็บงำพลังเอาไว้ต่อ

ฟังจากคำพูดเขาแล้ว เซียนหญิงลี่หวางผู้นั้นไม่อยู่ในสายตาเลย เห็นทีว่าอำนาจของเขาจะเหนือกว่าเซียนหญิงลี่หวางมาก พลังวิญญาณอย่างน้อยก็ขั้นสิบขึ้น!

กู้ซีจิ่วตรวจสอบร่างกายตนเล็กน้อย ยามนี้พลังวิญญาณของเธอยังคงเป็นขั้นสิบ ไม่ได้ถดถอยลง น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับหลงโม่เหยียนผู้นี้ จุดด้อยเพียงข้อเดียวของเธอคือเธอสูญเสียพลังวิญญาณเพื่อทำลายเขตแดนนั้นมากเกินไป ยามนี้พละกำลังจึงไม่เพียงพออยู่บ้าง

และเห็นได้ชัดว่าหลงโม่เหยียนเตรียมการมาแล้ว สถานที่แห่งนี้ของเขาติดตั้งเขตแดนไว้หมดแล้ว มีผลในการลดทอนพลังยุทธ์ของผู้อื่น

อีกทั้งชานั้นที่เขาให้เธอดื่มก็น่าจะมีปัญหาเหมือนกัน…

พลังลดฮวบลงไปเช่นนี้ ถ้าต้องประมือกันขึ้นมาจริงๆ เธอยึดครองความได้เปรียบใดไม่ได้เลย

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองเขา “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

หลงโม่เหยียนเอ่ยตอบ “ซีจิ่ว ข้ารู้ว่าเจ้ายากจะยอมรับข้าได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกเรายังมีเวลาอยู่ด้วยหัน วันหน้าใต้หล้านี้ก็จะเป็นของข้ากับเจ้า ข้าจะร่วมมือกับเจ้าบริหารจัดการแผ่นดินนี้ อันที่จริงข้ายังมีอีกหนึ่งฐานะ เจ้าคงจะยังไม่ทราบ…”

“ฐานะอันใด?”

“ตัวแทนเทพศักดิ์สิทธิ์!” ในน้ำเสียงของหลงโม่เหยียนแฝงความภาคภูมิใจไว้รางๆ

เป็นเขาจริงๆ ด้วย!

กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้ม เสียงจอมจู้จี้นั่นเคยเอ่ยถึงตัวแทนเทพศักดิ์สิทธิ์กับเธอ…

เธอจ้องมองเขา เงียบงันไร้วาจา

ในเมื่อหลงโม่เหยียนเปิดหัวข้อแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องหลบเลี่ยงอีก “ซีจิ่ว เป็นเพราะพวกเจ้าฝ่าฝืนลิขิตสวรรค์ ดังนั้นจึงได้รับโทษ เดิมทีเจ้าต้องผ่านไปอีกหลายร้อยปีเจ้าถึงจะคืนชีพได้ เคราะห์ดีที่เทพศักดิ์สิทธิ์องค์ปัจจุบันหวงถูสร้างศาลบูชาให้เจ้า”

“ซ้ำยังปราบปรามความโกลาหลทั่วแผ่นดิน เพื่อภาวนาให้…ด้วยเหตุนี้ เจ้าจึงสามารถฟื้นคืนชีพก่อนกำหนดได้ เพียงแต่ก็ต้องรอไปอีกสามสิบแปดปี ส่วนเทพศักดิ์สิทธิ์หวงถูเหลืออายุขัยอยู่เพียงสามเดือน เขาไม่อาจรอจนเจ้าฟื้นคืนชีพมารับช่วงต่อได้ ดังนั้นเบื้องบนจึงแต่งตั้งให้ข้าเป็นตัวแทนเทพศักดิ์สิทธิ์ รับช่วงต่อจากหวงถูก่อน ดูแลควบคุมโลกนี้แทนเขา เมื่อเจ้าคืนชีพขึ้นมา ค่อยส่งมอบตำแหน่งเทพศักดิ์สิทธิ์แก่เจ้าอีกครั้ง…”

กู้ซีจิ่วยังคงเงียบงัน ดวงหน้าเฉิดฉายราบเรียบไร้อารมณ์

หลงโม่เหยียนกล่าวต่อไป “และเมื่อไม่นานมานี้ข้าเพิ่งได้รับบัญชาสวรรค์ในความฝัน ทราบถึงเรื่องนี้ ดังนั้นจึงปลีกวิเวกมาอยู่ที่นี่ หนึ่งคือมารอคอยเจ้า สองคือมารอคอยให้เทพศักดิ์สิทธิ์หวงถูมาหาข้า…ยามนี้เขาน่าจะทราบเรื่องตัวแทนเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วเช่นกัน จะต้องมาหาข้าในไม่กี่วันนี้เป็นแน่…”

ที่แท้เขาก็ทำตัวเป็นเจียงไท่กงอยู่ที่นี่รอให้มัจฉาใหญ่มาติดเบ็ดตน!

กู้ซีจิ่วยิ้มเย็นๆ “เจ้าทราบได้อย่างไรว่าเขาจะมาหาเจ้า? เท่าที่ข้าทราบมา เขาไม่ใคร่ใส่ใจสวรรค์สักเท่าไหร่นะ…”

หลงโม่เหยียนยิ้มน้อยๆมองดูเธอ “ใช่หรือ?”

หัวใจกู้ซีจิ่วพลันบีบรัดแน่น!

ปกติแล้วตี้ฝูอีมักจะฝ่าฝืนวิถีสวรรค์จริงๆ แต่หากว่าสวรรค์นำเธอมาข่มขู่ล่ะ?!

เบื้องหน้าคล้ายจะปรากฏสภาพของตี้ฝูอีที่ได้เห็นในครั้งสุดท้ายขึ้นมา อ้างว้างเปล่าเปลี่ยว สามารถเป่าขลุ่ยเพื่อสังขารซากหนึ่งทั้งคืนได้…

หัวใจปวดร้าวขึ้นมาในทันใด! กระบอกตาร้อนผ่าว

คนโง่งมผู้นั้น! เพื่อเธอแล้วไม่ว่าเรื่องใดเขาล้วนทำได้ทั้งหมดจริงๆ!

หลงโม่เหยียนเห็นนางไม่พูดอะไร ทว่าเบ้าตากับแดงก่ำน้อยๆ ไม่ทราบว่านางคิดสิ่งใดอยู่ แต่สิ่งที่สามารถทำให้นางอารมณ์ปรวนแปรได้ถึงเพียงนี้ บนโลกนี้คล้ายว่าจะมิมีผู้อื่นแล้ว…

แววตาเขาหม่นหมองแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็ชี้ไปที่ขอบฟ้า “ซีจิ่ว เจ้าดูสิ”

——————————————————————–

บทที่ 1759 สิ่งที่เรียกว่าคู่สวรรค์สรรสร้าง

กู้ซีจิ่วเหลือบมองแวบหนึ่ง เห็นเพียงดวงตะวันสีแดงกำลังลาลับขอบฟ้าเหลือให้เห็นเพียงครึ่งดวงเท่านั้น แสงอัสดงดั่งซี่กรง รอบข้างเหลืองเพียงแสงตะวันรอนพราวระยับ

หลงโม่เหยียนถอนหายใจเบาๆ “ดวงตะวันลับขอบฟ้างดงามไร้ใดเทียม แต่จมลับไปในชั่วพริบตาเดียว เฉกเช่นเทพศักดิ์สิทธิ์หวงถู เหตุใดเจ้าต้องอาวรณ์ด้วยเล่า? ส่วนข้ากับเจ้ากลับเป็นอาทิตย์รุ่งอรุณ อยู่ในช่วงที่ค่อยๆ ทะยานขึ้นมา เจิดจรัสกว่าตะวันลับขอบฟ้ามากนัก…”

ในมือกู้ซีจิ่วหมุนกิ่งไผ่อ่อนก้านหนึ่งอยู่ ไม่เอ่ยวาจา ฟังเขารำพึงรำพันอยู่ที่นี่ดั่งนักกวี

กิ่งไผ่ก้านนั้นอ่อนจริงๆ อ่อนจนสามารถคั้นน้ำออกมาได้ หยาดน้ำสีเขียวอ่อนหยดจากกิ่งไผ่อ่อนของเธอ…

“ซีจิ่ว วิหคที่ดีจะรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนักนอน การเลือกคู่ครองก็เช่นกัน หากเจ้าติดตามข้า วันหน้าพวกเราสามีร้องภรรยารับ บริหารจัดการใต้หล้าร่วมกัน กลายเป็นยอดคนอันดับหนึ่งของโลกนี้ อยู่ร่วมกับทุกเมื่อเชื่อวัน ครองคู่โบยบิน นั่นสิถึงจะใช่คู่สวรรค์สรรสร้าง…” หลงโม่เหยียนเริ่มวาดฝันอนาคตอันงดงามแก่นาง

กู้ซีจิ่วผินหน้ามองเขา “เจ้าบอกว่าสามีร้องภรรยารับงั้นรึ? บริหารจัดการร่วมกันงั้นรึ? ดูเหมือนเทพศักดิ์สิทธิ์ตัวจริงจะเป็นข้านะ ส่วนเจ้าเป็นเพียงตัวแทนเทพศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งนภาไร้สองตะวัน ปวงประชาไร้สองราชัน ถ้าข้ารับช่วงต่อ เจ้ายังจะติดตามไปมีส่วนร่วมได้อีกหรือ?”

หลงโม่เหยียนชะงักไปเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ซีจิ่ว หากเจ้ากับข้าวิวาห์กัน ก็จะเป็นหนึ่งเดียวไม่แบ่งแยก ใต้หล้านี้เจ้าและข้าก็ดูแลจัดการร่วมกันได้เช่นกัน อีกทั้งเจ้าเป็นเด็กสาว ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยยากถึงเพียงนี้ ต้องให้สามีอย่างข้าช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าไร้ใจใฝ่อำนาจ ข้าจะช่วยเจ้าจัดการทุกอย่างให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เจ้าเพียงรับเสียงสักการะแซ่ซ้องจากปวงชนก็พอ เรื่องเปลืองแรงเปลืองกำลังก็ให้ข้าทำไป”

ในวาจาของเขาแฝงความประคบประหงมประเภทที่ว่า ‘เจ้ารับผิดชอบเรื่องรูปโฉมงดงามดั่งบุปผา ส่วนข้าจะรับผิดชอบหาเลี้ยงครอบครัว’ เอาไว้ ทว่ากู้ซีจิ่วกระตุกยิ้มมุมปาก

จิตใจมนุษย์มีความละโมบอยู่ ในราชวงศ์เพื่อแย่งชิงอำนาจราชบัลลังก์แล้วสามารถทำให้พ่อลูกตัดขาด พี่น้องแตกแยกได้ สายสัมพันธ์ทั้งหมดเมื่ออยู่ต่อหน้าอำนาจแล้วก็เสมือนเรื่องน่าขันประการหนึ่ง นับประสาอะไรกับตำแหน่งเทพศักดิ์สิทธิ์เล่า!

หลงโม่เหยียนผู้นี้ยังไม่ทันได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งตัวแทนเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการ ก็เริ่มไม่อยากละวางจากอำนาจแล้ว หากว่าตนฟื้นคืนชีพในอีกสามสิบแปดปีให้หลังจริงๆ เกรงว่าตัวแทนเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะรุ่งโรจน์เรืองอำนาจแล้ว เมื่อถึงยามนั้นเกรงว่าจะไม่ยอมส่งมอบตำแหน่งให้แล้ว…ไม่ทราบว่าจะเล่นลวดลายออกมามากน้อยเพียงใด! ไม่แน่ว่าเรื่องราวจำพวกสังหารภรรยาเพื่อความรุ่งโรจน์เขาก็อาจทำออกมาได้!

หลงซื่อจื่อผู้นี้คล้ายชนชั้นสูงในโลกภายนอก ที่พอได้กุมอำนาจแล้ว ก็ไม่อาจปล่อยวางได้…

กู้ซีจิ่วตรวจสอบร่างกายดูเล็กน้อย เล่ห์กลในน้ำชาถูกเธอขับออกมาโดยอาศัยการเล่นใบไผ่บังหน้าแล้ว

หลงโม่เหยียนยังคงกล่าววาจาอย่างฉะฉานอยู่ “ซีจิ่ว เจ้าและข้าเป็นคู่ครองที่โชคชะตากำหนดไว้ สวรรค์ประทานวาสนาวิวาห์ให้…”

กู้ซีจิ่วเอ่ยขัดเขาทันที “ชะตาข้าขึ้นอยู่กับข้ามิใช่สวรรค์! ข้าไม่เคยเชื่อเรื่องโชคชะตากำหนดไว้อันใด! ถ้าข้าชมชอบผู้ใด คนผู้นั้นแหละที่เป็นคู่ครองที่โชคชะตากำหนดไว้ของข้า! แม้ว่าจะได้อยู่ร่วมกับเขาเพียงวันเดียว ข้าก็ขอเพียงแค่ได้อยู่กับเขา! ต่อให้เจ้ามีอายุขัยเทียมฟ้า ข้าไม่ชอบก็คือไม่ชอบ!”

หลงโม่เหยียนคาดไม่ถึงว่าตนพูดอยู่นานสองนาน ไม่น่าเชื่อว่านางจะยังคงยืนกรานดึงดันอยู่ จึงขมวดคิ้วนิดๆ “จนป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่เชื่อในลิขิตสวรรค์อีกหรือ?”

“ไม่เชื่อ!” น้ำเสียงกู้ซีจิ่วเด็ดขาดและเยือกเย็น “ข้าเชื่อเพียงว่าขอเพียงอุตสาหะมากพอ มนุษย์ก็สามารถพิชิตสวรรค์ได้! วิถีสวรรค์บอกว่าข้าจะขึ้นชีพในอีกสามสิบแปดปีให้หลัง นี่ข้าก็คืนชีพได้ก่อนกำหนดมิใช่หรือ?”

หลงโม่เหยี่ยนเถียงไม่ออกแล้ว

ประโยคนี้ของกู้ซีจิ่วเป็นการตบหน้ากันยิ่งนัก หลงโม่เหยียนอับจนวาจาไปชั่วขระ

อันที่จริงเขาก็ฉงนยิ่งนักเช่นกัน สรุปแล้วแม่นางผู้นี้ถือกำเนิดมาเช่นใดกันแน่? ไม่น่าเชื่อว่าจะฝืนลิขิตสวรรค์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เห็นวิถีสวรรค์ไร้ตัวตน…

———————————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

Status: Ongoing
   เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท