บทที่ 2097 นางอยู่ที่ไหน
เถิงเสอเบิกตากว้าง
เอ๊ะ แผ่นดินไหวหรือ?
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าแห่งนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับแดนมนุษย์ บางครั้งก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นเหมือนกัน เพียงแต่แผ่นดินไหวของที่นี่มีพลังทำลายล้างไม่มากนัก อย่างมากก็ทำให้อาคารบ้านเรือนบางส่วนพังทลายไป ไม่ได้ทำให้คนบาดเจ็บจริงๆ ถึงอย่างไรผู้คนของที่นี่ล้วนเป็นชาวเซียนขั้นเสินจวินขึ้นไปทั้งสิ้น พอเห็นท่าไม่ดีก็เหาะหนีได้…
ตี้ฝูอีก็มองไปยังทิศทางนั้นเช่นกัน นั่นคือทิศทางของแท่นสระหยก…
เถิงเสอยังคงพะวงเรื่องอื่นอยู่ มันมองไปที่ไป๋เจ๋อ ยื่นมือไปหามัน
รีบคลายอาคมของเจ้าซะ!
เถิงเสอถูกบังคับให้แปลงร่างเป็นดรุณีน้อยเยาว์วัย เพื่อให้สมจริงยิ่งขึ้น ไป๋เจ๋อจึงร่ายอาคมผนึกพลังวิญญาณส่วนใหญ่ของมันไว้ ทำให้มันดูเหมือนอยู่ในขั้นซ่างเซียนเท่านั้น ถ้าเถิงเสอต้องการคืนร่างเดิม จะต้องคลายผนึกนั้นก่อน
ชายชาตรีมีศักดิ์ศรีอย่างเขาไม่คิดจะอยู่ในร่างสตรีไปตลอดหรอกนะ!
ไป๋เจ๋อไม่สนใจมัน สายตาจ้องมองไปยังทิศทางของแท่นสระหยกเช่นกัน เอ่ยพึมพำ
น่าประหลาด…
เถิงเสอร้อนใจอยู่บ้าง
นี่ ประหลาดตรงไหนกัน แผ่นดินไหวเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีอะไรหรอก เจ้าคลายอาคมให้ข้าก่อน…
ปกติแล้วแผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างยิ่งนัก อย่างน้อยๆ ก็ต้องหลายร้อยลี้ แต่เจ้าดูสิ พวกเราอยู่ห่างจากที่นั่นแค่ยี่สิบกว่าลี้ แต่รอบข้างสงบยิ่งนัก แม้แต่ก้อนเมฆก็ไม่ผกผันเลย…
ไป๋เจ๋อเอ่ยข้อสงสัยของตนออกมา ดูจากสภาพอาคารที่ถล่มตรงนั้น แผ่นดินไหวครั้งนี้รุนแรงยิ่งนัก แล้วทำไมพวกเราที่อยู่ตรงนี้ถึงจับสัมผัสไม่ได้สักนิดเลยล่ะ?
คล้ายว่าสติของเถิงเสอจะกลับมาแล้วเช่นกัน
…หรือว่าไม่ใช่แผ่นดินไหว? แล้วคืออะไรล่ะ? หรือว่าที่นั่นจะถูกโจมตีจากภายนอก? ดูไม่เหมือนเลยนะ…
สุดท้ายแล้วไป๋เจ๋อก็มีชีวิตอยู่มาเนิ่นนาน และเป็นผู้ที่รอบรู้ที่สุดในบรรดาแปดสัตว์บรรพกาล มันมองอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยโพล่งออกมา
ทัณฑ์สวรรค์! นี่คล้ายกับทัณฑ์สวรรค์!
ทัณฑ์สวรรค์ค่อนข้างคล้ายกับแผ่นดินไหว ทว่าไม่เหมือนไปเสียทั้งหมด
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ทัณฑ์สวรรค์กลับพบเห็นได้ยากยิ่งนัก ผ่านไปหลายหมื่นปีก็ยังไม่แน่ว่าจะเกิดขึ้นสักครั้ง ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่รู้จัก
ไป๋เจ๋อจำได้ว่ามหาเทพเคยเล่าไว้ เมื่อทัณฑ์สวรรค์บังเกิด จะคล้ายแผ่นดินไหวระดับสิบของแดนมนุษย์ สามารถทำลายทุกสิ่งให้ราบเป็นหน้ากลองได้ และหากมีมนุษย์อยู่ที่นั่นด้วย ไม่ว่าจะมีความสามารถมากปานใดก็เหาะเหินไม่ได้ ทำได้เพียงวิ่งหนีไปตามพื้น ต่อให้มีซ่างเซียนอยู่ที่นั่นด้วย ก็เป็นไปได้ว่าจะบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
สิ่งที่แตกต่างคือ ขอบเขตของแผ่นดินไหวจะกว้างขวาง แต่ขอบเขตของทัณฑ์สวรรค์จะไม่กว้าง มีขอบเขตเพียงสิบลี้ คล้ายกับการโจมตีอย่างตรงจุดยิ่ง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ทัณฑ์สวรรค์ก่อตัวนั้นตามที่มหาเทพได้กล่าวไว้มีอยู่หลายอย่างหลายประการ แต่สิ่งที่มีความเป็นได้มากที่สุดก็คือมีคนแพร่งพรายลิขิตสวรรค์ที่สำคัญอันใดไป ด้วยเหตุนี้จึงดึงดูดทัณฑ์สวรรค์มา…
ตี้ฝูอีไม่เคยเห็นทัณฑ์สวรรค์อันใดมาก่อน แต่เขาเคยอ่านพบในม้วนตำราที่มหาเทพมอบให้เขา ยามนั้นเพียงอ่านผ่านๆ ตาไป ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ยามนี้เมื่อได้ฟังจากไป๋เจ๋อ จู่ๆ ในใจก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา…
คนที่แพร่งพรายลิขิตสวรรค์บนแท่นหยกดูเหมือนจะเป็น…กู้ซีจิ่ว!
สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนอย่างใหญ่หลวง ไม่สนใจอะไรอีกต่อไป พลันตบศีรษะของไป๋เจ๋อ
ไป! ไปดู!
ไป๋เจ๋อหันหลังกลับแล้วออกวิ่ง! ใช้ระดับความเร็วที่รวดเร็วที่สุดในชีวิต…
….
ทัณฑ์สวรรค์กินระยะเวลาไม่นานนัก เกิดขึ้นเพียงครู่หนึ่ง
แต่ความเสียหายในระยะเวลาครู่หนึ่งนี้กลับร้ายแรงนัก
อาคารสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดพังถล่มยับเยิน แท่นหยกที่เคยอุดมด้วยไปเซียนล่องลอย บุปผาเซียนดาษพสุธากลายเป็นพื้นที่ปรักหักพัง
ตะเข็บแต่ละเส้นสายไขว้สลับกันไปหมด เหล่าซ่างเซียนที่แต่งตัวประณีตงดงามเสมอมาแต่ละคนน่าเวทนานัก ผมที่เกล้าสูงรุ่ยร่ายแล้ว หมวกหล่นหายไป เสื้อผ้าขาดวิ่น ผู้คนส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ หนักบ้างเบาบ้าง
ยามที่ตี้ฝูอีมาถึง บนแท่นหยกเละเทะไปหมด มีฝุ่นธุลีตลบสูง บดนภาบังตะวัน
————————————————————————————-
บทที่ 2098 นางอยู่ที่ไหน 2
เงาร่างของเหล่าเซียนปรากฏเลือนรางอยู่ภายในหมอกธุลีที่สลัวมัวซัว
ตี้ฝูอีแทบจะพุ่งเข้าไปแล้ว!
อย่างไรก็ตามเหล่าเซียนแตกตื่นขวัญกระเจิง ผู้ใดก็ไม่สนใจใยดีผู้ใดไปชั่วขณะ และไม่สังเกตเห็นเขาด้วย
เงาร่างของตี้ฝูอีพุ่งผ่านเข้าไปในม่านธุลีอย่างรวดเร็ว ตามหาเงาร่างในชุดแดงเจิดจ้านั้น
เขาเห็นว่าวันนี้นางสวมชุดแดง เห็นชัดถนัดตายิ่ง และน่ามองยิ่งนัก ทำให้เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงห้ามสายตาไม่ให้มองไปที่ร่างนางตลอดเวลาได้
แต่ว่า! ไม่มี!
ไม่มี! เขากับไป๋เจ๋อแยกกันออกค้นหา วนหาจนทั่วสองรอบแล้ว ก็ยังไม่พบกู้ซีจิ่วเลย
ทว่าพบเจ้าหอยยักษ์กับลู่อู๋ที่วิ่งวุ่นอย่างบ้าคลั่งอยู่…
ท่าทางของเจ้าสองตัวนี้ค่อนข้างพิกล พวกมันสอดส่ายสายตามองไปตามรอยแยกที่ปริแตกเหล่านั้น และมอมแมมเขรอะฝุ่นเช่นกัน
ตี้ฝูอีชนเข้ากับลู่อู๋พอดี เขาดึงหางมันไว้ทันที ถามอย่างร้อนรน
นายเจ้าล่ะ?!
หายไปแล้ว! เจ้านายหายไปแล้ว!
เส้นขนทั่วร่างลู่อู๋ลุกชันขึ้นมา สองตาแดงก่ำ
อะไรคือหายไปแล้ว? เจ้าพูดมาให้ละเอียด!
ด้วยเหตุนี้ ลู่อู๋จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ออกมารอบหนึ่ง เล่าจบดวงตาก็แดงก่ำกว่าเดิม
หรือเจ้านายจะร่วงหล่นลงไปในรอยแยกอันใดแล้ว?
เถิงเสอตามเข้ามา สอดปากเอ่ยว่า
ฝ่าบาท นางดำดินหนีไปแล้วหรือเปล่า?
ไม่มีทาง! เจ้านายไม่มีทางดำดินหนีไปโดยไม่สนใจพวกเรา!
ลู่อู๋โกรธเคือง มันถลึงตามองเถิงเสอที่จำแลงเป็นจิ่นหลิงเอ๋อร์ ค่อนข้างไม่ถูกชะตากับ ‘นาง’ ยิ่งนัก อยากเข้าไปตะปบ ‘นาง’ ใจจะขาด
ตี้ฝูอีไม่พูดไม่จา เพียงจับหางของลู่อู๋ไว้
พาข้าไปยังจุดที่นางหายตัวไป!
ด้วยเหตุนี้ ลู่อู๋จึงพาตี้ฝูอีไปยังจุดที่กู้ซีจิ่วหายตัวไป
พื้นที่จุดนั้นดูธรรมดามาก บนพื้นดินถึงขั้นที่ไม่มีรอยแยกด้วยซ้ำ ยังคงราบเรียบเสมอกัน
จู่ๆ ก็มีวังน้ำวนดำมืดปรากฏขึ้นตรงนี้แล้วสูบเจ้านายเข้าไป ฮือๆ หลังจากเจ้านายหล่นลงไปแล้ว พวกเราก็คิดจะกระโดดตามลงไปด้วย ผลคือวังน้ำวนนั้นหายไปแล้ว…
ระหว่างที่เล่าอยู่ เจ้าหอยยักษ์ก็วิ่งเข้ามา เมื่อมองเห็นตี้ฝูอีและเถิงเสอที่อยู่ข้างกายเขา มันก็โกรธขึ้นมา!
ฝ่าบาท คู่รักอย่างพวกท่านกลับมาทำไมอีก?! พวกท่านกับนายของบ้านข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว!
ตี้ฝูอีไม่สนใจมัน วนไปวนมาบริเวณนั้น ถึงขั้นที่ดำดินลงไปค้นหาด้วย…
เถิงเสอก็ไม่กล้าปริปากเช่นกัน นายน้อยไม่ได้บอกให้เปิดเผยสถานะที่นี่ เขาจึงได้แต่ทำตัวเป็นจิ่นหลิงเอ๋อร์เหมือนกัน
เขาถูกคำว่า ‘คู่รัก’ ทำเอาขนลุกขนชั่นไปหมดแล้ว ทว่าไม่กล้าปริปากเลยสักคำ
มันมองไปที่นายน้อยของบ้านตน ตี้ฝูอีเม้มริมฝีปากบางจนซีดเผือดแล้ว ราวกับไม่ได้ยินถ้อยคำอันแสบสันของเจ้าหอยยักษ์เลย และบางทีเขาอาจจะไม่ได้ยินจริงๆ ก็ได้ ความคิดจิตใจทั้งหมดของเขาล้วนจดจ่อกับการตามหาคน
….
กู้ซีจิ่วหายตัวไป
ตี้ฝูอีค้นหาตามรอยแยกทั้งหมดของที่นั่นแล้ว ก็ยังไม่พบเสี้ยวชายชุดของกู้ซีจิ่วเลย
ไม่มีผู้ใดได้เห็นเงาร่างของนางเลย แม้แต่จักรพรรดิเซียนก็ไม่เห็นนางเช่นกัน…
เมื่อครู่จักรพรรดิเซียนก็เป็นเช่นเดียวกับเหล่าเซียน เหาะเหินไม่ได้ ร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บ เคราะห์ดีที่วรยุทธ์เขาสูงส่ง จึงบาดเจ็บเพียงผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น
เมื่อทัณฑ์สวรรค์ผ่านพ้นไป เขาก็เรียกรวมพลเหล่าเซียนทันที ตรวจนับผู้บาดเจ็บ
ความเสียหายที่เกิดจากทัณฑ์สวรรค์ในครั้งนี้ร้ายแรงนัก มีข้าหลวงนางกำนัลมากมายกับแขกหญิงอีกสองนางร่วงหล่นลงสู่ลาวาภายในรอยแยก มีคนเห็นพวกเขาร้องโหยหวนจมหายไปในลาวาด้วยตาตน…
ลาวาใต้พิภพของชั้นฟ้าที่เก้าแตกต่างกับแดนมนุษย์ เพลิงที่อยู่ด้านในเป็นเพลิงกสิณ ต่อให้เป็นซ่างเซียนหล่นลงไป ไม่ถลกหนังชั้นนอกทิ้งก็อย่าหมายจะหนีออกมาได้
ฝ่าบาท พลังยุทธ์ของแม่นางกู้ใกล้บรรลุขั้นซ่างเสินแล้ว ต่อให้หล่นลงไปในลาวา ก็คงไม่สิ้นชีพไปจริงๆ ไม่แน่ว่านางอาจหนีรอดไปแล้วก็ได้…
………………