บทที่ 2315 ลูกใคร 5
กู้ซีจิ่วปวดประสาทแล้ว
“ท่านราชันย์มารเข้าใจผิดไปแล้วจริงๆ เด็กคนนี้ไม่ได้เกิดจากข้า…”
นัยน์ตาของหนูน้อยในอ้อมแขนแวววาวดุจแก้วผลึก กอดคอเธอแล้วร้องเรียก
“ท่านแม่”
น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ
“ท่านไม่ต้องการข้าแล้วหรือ?”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย…
เธอนึกอยากโยนไอ้เด็กนี่ทิ้งแล้ว!
หนูน้อยมองตี้ฝูอีอีกครั้ง สีหน้าใคร่รู้
“เขาคือท่านพ่อของข้าหรือ?”
“เฮ่าเอ๋อร์ อย่าซี้ซั้วเรียกพ่อ! เขาไม่ใช่พ่อเจ้า!”
กู้ซีจิ่วแก้ให้เขา
เจ้าตัวเล็กยังคงว่าง่ายยิ่งนัก ปากน้อยๆ เปล่งเสียง ‘โอ้’ โอบคอกู้ซีจิ่วแน่นกว่าเดิม
“ท่านแม่ ท่านมาอาณาจักรมารเพื่อตามหาท่านพ่อให้ข้าไม่ใช่เหรอ? ท่านพ่ออยู่ไหนล่ะ?”
กู้ซีจิ่วปวดหัวไปใหญ่แล้ว เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าพ่อของเจ้าหนูอยู่ที่ไหน? จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่มีเบาะแสเลยสักเสี้ยว…
จู่ๆ อ้อมแขนเธอก็ว่างเปล่า เด็กคนนั้นถูกตี้ฝูอีสอดมือมาอุ้มไปแล้ว
“เฮ่าเอ๋อร์ ข้าคือพ่อของเจ้า! ไม่จำเป็นต้องตามหาแล้ว”
หนูน้อยเบิกนัยน์ตากลมโต
“เจ้าคือท่านพ่อข้าหรือ? มิใช่กระมัง? ท่านแม่ข้าไม่รู้จักเจ้านี่นา”
ตี้ฝูอียิ้มน้อยๆ น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความมั่นใจ
“นางจะได้รู้จักในไม่ช้านี้”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกแล้ว
บ้าเอ้ย เธออยากสบถชะมัด!
รู้จักกับตูดเธอสิ! แล้วนั่นก็ไม่ใช่ลูกเธอด้วย
ไอ้ตัวเล็กซี้ซั้วเรียกพ่อแม่ส่งเดช ทำให้เธอมีร้อยปากก็แก้ต่างไม่ได้แล้ว…
เรื่องนี้เกินคำว่าวุ่นวายไปมากโขแล้ว
เหล่าชาวมุงที่ห้อมล้อมอยู่ล้วนตกตะลึง! เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า…
ท่านราชันย์มารมีลูกแล้ว?!
สตรีที่อยู่เบื้องหน้าคนนั้นเป็นคนรักของเขา?
เช่นนั้นองค์หญิงล่ะ?
ฟังจากบทสนทนาในยันต์บันทึกเสียง องค์ราชันย์ขอองค์หญิงแต่งงานแล้วนี่ เพียงแต่องค์หญิงยังสงวนท่าทีไม่ยอมตอบตกลง…
แล้วตอนนี้มันเรื่องอะไรกัน?
หรือว่าหญิงผู้นี้จะเป็นคนรักตัวน้อยขององค์ราชันย์ที่แดนมนุษย์ เนื่องจากเซียนมารเป็นปฏิปักษ์ทั้งสองจึงเลิกรากัน แต่หลังจากเลิกรากันหญิงผู้นี้ก็ตั้งครรภ์ หลังคลอดก็หาทางเข้ามาตามหาคนที่อาณาจักรมารกระมัง? แต่องค์ราชันย์จำนางไม่ได้ ส่วนองค์หญิงเป็นเพราะหึงหวงจึงลอบลงมือเล่นงานสองแม่ลูกคู่นี้ คาดไม่ถึงว่าองค์ราชันย์จะมาถึงทันเวลาพอดี ในที่สุดก็จดจำลูกเมียของเขาได้…
ในสมองของชาวมารที่ช่างจินตนาการบางส่วนมีข้อสันนิษฐานที่แสนน้ำเน่าผุดขึ้นมาแล้ว พากันส่งสายตาไปที่องค์หญิงน้อย
ใบหน้าเฉิดฉันของย่วนย่วนซีดเผือด ยืนอยู่ตรงนั้น ตัวแข็งทื่อจนแทบกลายเป็นรูปปั้นแล้ว ดูแล้วค่อนข้างน่าสงสาร…
กู้ซีจิ่วสูดหายใจนิดๆ สยบความหงุดหงิดที่ว้าวุ่นอยู่ในหัวใจ พยายามจะอธิบาย
“ท่านราชันย์มาร ท่านเข้าใจผิดแล้วจริงๆ เด็กคนนี้ข้าเก็บได้…ไม่ใช่ลูกของข้า ท่านคืนเขาให้ข้าเถอะ ข้ายังมีธุระอื่นต้องไปจัดการอีก อยู่เล่นด้วยไม่ได้!”
ความเจ็บปวดตรงชายโครงเธอยังคงเสียดแทงไปถึงหัวใจ ถึงขั้นที่มีทีท่าว่าจะเสียดแทงมากขึ้นเรื่อยๆ หากมิใช่เธอฝืนข่มความเจ็บปวดเอาไว้ตลอด ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจลงไปกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นแล้วก็ได้!
คดีปรักปรำของเธอได้รับการสะสางแล้ว ผู้ที่เสแสร้งแสดงเป็นดอกบัวขาวก็ถูกเธอเปิดโปงแล้ว เธอไม่คิดจะพัวพันกับเรื่องเหล่านี้อยู่ที่นี่อีกต่อไป เพียงอยากพาเด็กน้อยจากไป เสาะหาสถานที่ไร้ผู้คนเพื่อรักษาแผลให้ตัวเอง…
แต่ตี้ฝูอีกลับไม่ยอมปล่อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อน้ำคำของกู้ซีจิ่วเลย!
รูปโฉมของเด็กคนนี้คล้ายคลึงกับกู้ซีจิ่วสามส่วน และมีจุดที่คล้ายคลึงกับตัวเขาตี้ฝูอีถึงแปดส่วน เป็นลูกของพวกเขาชัดๆ
แถมอายุแค่ไม่กี่เดือนก็พูดได้แล้ว ซ้ำยังมีเหตุมีผลถึงเพียงนี้ เหมือนตัวเขาในวัยเยาว์ยิ่งนัก…
เขาตอบ ‘อืม’ คำหนึ่ง เอ่ยโพล่งออกไปประโยคหนึ่งว่า
“เจ้าเก็บได้รึ? เจ้าช่างเลือกเก็บได้ดีจริงๆ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นเด็กคนนี้ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าสิ ยิ่งไม่อาจคืนให้เจ้าได้ เขาไม่ได้สวมชุดกันเพลิงก็ยังอยู่ในอาณาจักรมารอย่างปลอดภัยได้ แสดงให้เห็นว่าเขามีวาสนากับเผ่ามาร…”
เขาคลึงแขนขาของเจ้าตัวเล็กอีกครั้ง เอ่ยสรุปด้วยน้ำเสียงของผู้เชี่ยวชาญ
“คุณสมบัติของเด็กคนนี้ยอดเยี่ยมยิ่ง เปิ่นจวินจะอบรมสั่งสอนเขาเอง จะทำให้เขากลายเป็นอัจฉริยะบุคคลแน่นอน”
————————————————————————————-
บทที่ 2316 ลูกใคร 6
กู้ซีจิ่วไม่มีทางยอม!
เด็กที่ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะเก็บมาได้ทำไมต้องยกให้เขาด้วย?!
ดูเหมือนเขาจะปักใจไปแล้วว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นลูกชายในไส้ของเขา เธอพูดไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรเขาก็คงไม่ฟัง…
มารดามันเถอะ ถ้าโลกนี้มีการตรวจดีเอ็นเอพ่อลูกก็คงดี!
ถึงเวลาเธอก็แค่ปาผลการตรวจดีเอ็นเอใส่หน้าเขาซะ เขาจะได้รู้ว่าเขากับเด็กคนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด
เมื่อเห็นตี้ฝูอีอุ้มเด็กน้อยไว้ไม่ยอมวาง เธอรู้สึกโมโหนัก
อย่าว่าแต่เด็กคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย ต่อให้เป็นบุตรชายของเขา ในเมื่อเขาไม่ได้คลอดและไม่ได้เลี้ยงดู แล้วอาศัยสิ่งใดถึงมาแย่งไป?!
เธอเคลื่อนย้ายเข้าไป สอดมือไปแย่งเด็กมา
“คืนเขาให้ข้านะ!”
ตี้ฝูอีเตรียมตัวอยู่นานแล้ว เบี่ยงตัวเล็กน้อย หลบหลีกการยื้อแย่งของเธอ ตอบเธออย่างตรงไปตรงมาเพียงสองคำ
“อย่าฝัน!”
กู้ซีจิ่วโผใส่ความว่างเปล่า กระเทือนไปถึงบาดแผล ตรงขมับมีเหงื่อเย็นเฉียบซึมออกมา
กู้ซีจิ่วทั้งเจ็บทั้งโมโห เบ้าตาแดงก่ำแล้ว!
ความเศร้าหมองในใจพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครา ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เอ่ยอย่างเย็นชา
“ที่แท้ท่านราชันย์มารก็สามารถหาเรื่องแย่งบุตรผู้อื่นได้เช่นกัน ดี! นับว่าท่านมีฝีมือแล้ว! งั้นเด็กคนนี้ก็ยกให้ท่านแล้วกัน! ข้าไม่เอาแล้ว”
เวรเอ้ย ในเมื่อเขาเต็มใจจะเป็นบิดาราคาถูกให้ผู้อื่น เช่นนั้นก็ยกให้เขาไปแล้วกัน! ลดภาระเธอลง…
เธอหันหลังหมายจะจากไป ทว่าถูกตี้ฝูอีฉวยข้อมือไว้ เธอหันกลับไปด้วยความโกรธ
“เจ้าคิดจะทำอะไรอีก?!”
“จงรั้งอยู่!”
ดวงตาดำขลับของตี้ฝูอีมองดูเธอ ในน้ำเสียงอันหนักแน่นเจือความสั่นพร่าน้อยๆ ในแววตาคล้ายมีระลอกคลื่นซัดถาโถม
“เพื่อเด็กคนนี้…”
กู้ซีจิ่วแข็งทื่อไปแวบหนึ่ง โมโหยิ่งกว่าเดิม!
เพราะมีลูกเลยจะให้เธอรั้งอยู่สินะ?
ไม่ใช่ว่าตัดขาด ทางใครทางมันกับเธอไปแล้วหรือ?!
ไม่ใช่ว่าพอถึงเวลาก็จะใช้ฐานะราชันย์มารช่วยย่วนย่วนข่มเหงรังแกเธออย่างชอบธรรมกระมัง?!
ในใจเขาเธอยังสำคัญสู้เด็กคนนี้ไม่ได้เลยใช่ไหม?!
เช่นนั้นถ้าวันหน้าเขารู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่เชื้อไขของเขา ก็คงจะโยนเธอออกไปให้พ้นประตูอีกครั้งสินะ?!
ไม่แน่ว่าอาจจะยัดข้อหาต่ำทรามว่าเธอหลอกให้เขารับผิดชอบลูกของชายอื่นด้วย!
“ตี้ฝูอี เจ้าอย่าได้ฝันเลย!”
เธอกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ ขอบตาแดงเรื่อ
“ข้าบอกแล้วไง เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกเจ้า!”
เธอกระชากมือตนออกอย่างไม่แยแสทุกสิ่ง เธอไม่ให้เขาจับเธอ! ไปจับองค์หญิงย่วนย่วนของเขานู้นสิ!
ด้วยการดิ้นรนอย่างรุนแรงของเธอย่อมสะเทือนถึงบาดแผลที่ชายโครง เจ็บปวดจนเธอหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมาอีก…
ก่อนหน้านี้ถึงแม้ตี้ฝูอีจะยื้อยุดฉุดกระชากกับนางไปสองครั้งแล้ว แต่เนื่องจากสะเทือนอารมณ์มากเกินไป จึงไม่สังเกตเห็นจุดนี้ไปชั่วขณะ…
ทว่ายามนี้เขาอยู่ใกล้นางมาก เขามองเห็นหยาดเหงื่อเย็นๆ ที่ซึมออกมาจากขมับนางแล้ว…
หัวใจเขาพลันสะท้าน หัวแม่มือเคลื่อนไปที่ชีพจรของนางทันที หลังจากตรวจดูครู่หนึ่ง สีหน้าก็แปรเปลี่ยน
“สมควรตาย เจ้าบาดเจ็บสาหัสแล้ว! ยังจะดื้อรั้นอันใดอีก?! อยากตายหรือไง?! บาดเจ็บตรงไหน?”
แขนซ้ายของเขายังคงอุ้มเด็กคนนั้นไว้ คิดจะใช้แขนขวาโอบนางเข้าสู่อ้อมแขน
“เจ้าไปกับข้าก่อน ข้าจะรักษาแผลให้เจ้า…”
ไม่เอา!
เธอรักษาเองได้ วิชาแพทย์เลิศล้ำกว่าเขาเสียอีก ไม่พึ่งเขาหรอก! เฮอะ!
กู้ซีจิ่วไม่สนใจบาดแผลที่เจ็บปวด หมุนตัวแวบหนึ่ง หลบหลีกอ้อมแขนเขา
“ไม่จำเป็น ปล่อยข้านะ…นี่ ข้าตอบรับเงื่อนไขเจ้าแล้ว! ช่วยข้าสิ!”
สองประโยคแรกเอ่ยกับตี้ฝูอี ทว่าสองประโยคหลังกลับคล้ายเอ่ยกับผู้อื่น…
ตี้ฝูอีแข็งทื่อไปทันที ยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง เงาสีมรกตพลันวาบขึ้นตรงหน้า คนผู้หนึ่งโผล่มากั้นกลางระหว่างเขากับกู้ซีจิ่ว แยกการยื้อยุดฉุดกระชากระหว่างคนทั้งสองลงอย่างสิ้นเชิง คนผู้นั้นหัวเราะฮ่าๆ
“ท่านราชันย์มาร ในเมื่อนางไม่เต็มใจ เหตุใดท่านต้องบังคับฝืนใจผู้อื่นด้วยเล่า?”