ตอนที่ 382 ซื้อของใช้เด็กอ่อนร้านเดียวกัน
เมิ่งชิงซีจิตใจสั่นคลอน เมื่อเห็นว่าเหมือนลั่วเซ่าเซินจะขับรถออกไปก็รีบซ่อนตัวที่หลังกำแพง กลัวว่าลั่วเซ่าเซินจะเห็นว่าเธอยู่ที่นี่
หลังจากที่ลั่วเซ่าเซินบอกลาถังโจวโจวและเสิ่นหลานอี เขาก็ขับรถลงเขาไปทันที จึงไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีดวงตาคู่หนึ่งแอบสังเกตเขาอยู่ในมุมอับ
หู่พั่วไปส่งลั่วเซ่าเซินเสร็จแล้วก็ควงแขนเสิ่นหลานอีเข้าไปในตัวปราสาท เมิ่งชิงซีรอให้ประตูรั้วของปราสาทปิดเข้าหากันอีกครั้ง ถึงได้โผล่หน้าออกมา
ถึงแม้ว่าครั้งนี้ลั่วเซ่าเซินจะประสบความล้มเหลว แต่เขารู้สึกได้ว่าท่าทีถังโจวโจวที่มีต่อเขาไม่ได้เย็นชาอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว อย่างน้อยๆ การเชื่อมความสัมพันธ์ในระยะนี้ของเขาก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
ลั่วเซ่าเซินเตรียมตัวไว้ว่าจะพยายามอีกสักพัก แล้วจะถือโอกาสนัดถังโจวโจวออกไปข้างนอก อย่างนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงจะพัฒนาไปข้างหน้า มีพวกโอวหยางหงคอยเฝ้าดูอยู่ตลอด บางครั้งที่อยากจะใกล้ชิดกับถังโจวโจวสักครั้งสองครั้งก็ยังไม่มีโอกาส
วันนี้โอกาสมาถึงแล้ว ถังโจวโจวจะออกไปซื้อของกับเสี่ยวอวี่ ลั่วเซ่าเซินจึงรีบคล้อยตามทันที “โจวโจว ให้ผมไปส่งคุณนะ”
หู่พั่วลังเลอยู่สักครู่ “อย่างนั้นก็ได้ แม่คะ แม่ช่วยดูเสี่ยวอวี่ให้หนูหน่อยนะคะ แล้วหนูจะรีบกลับมา”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ลูกไม่ได้ออกไปข้างนอกตั้งนานแล้วนี่ ไปเที่ยวข้างนอกกับลั่วเซ่าเซินให้สนุกเถอะนะ แม่จะคอยดูเสี่ยวอวี่เอง ลูกวางใจเถอะ”
ลั่วเซ่าเซินพึงพอใจเป็นที่สุด เสิ่นหลานอีเปลี่ยนการเรียกเขาจากคำว่าเขาเป็นลั่วเซ่าเซินแล้ว นี่เรียกได้ว่าเป็นความก้าวหน้าก้าวใหญ่เลยเชียวนะ
“คุณลั่ว ไปกันเถอะค่ะ”
เพียงแต่ว่าความมั่นใจที่เขาได้คืนมาจากแม่ยายคนดี ก็ทำให้ถังโจวโจวกลับไปเป็นเหมือนอย่างเคยทันที
เมื่อขึ้นนั่งบนรถของลั่วเซ่าเซิน หู่พั่วรู้สึกว่าสายตาของเขาจะจดจ้องอยู่ที่เธอตลอดเวลา เธอทำได้เพียงมองไปนอกหน้าต่าง สู้ไม่มองเขาเสียยังดีกว่า เขาจะมองอะไรก็มองไปเถอะ แค่เธอไม่สนใจเขาก็พอ
“โจวโจว คุณจะซื้ออะไรให้เสี่ยวอวี่เหรอ?”
“จะซื้อชุดใหม่ให้เขาสองชุด แล้วก็จะดูให้ลั่วอิงด้วย ระยะนี้เธอไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ บ้างเลย จะดูว่ามีอะไรที่เหมาะกับเธอบ้างหรือเปล่า” ตอนนี้หู่พั่วนึกเสียใจขึ้นมา เธอควรจะพาลั่วอิงมาด้วย ให้เธอลองชุดว่าขนาดพอดีกับตัวหรือเปล่า อีกอย่างจะได้ขวางระหว่างเธอกับลั่วเซ่าเซินเอาไว้ด้วย
“โจวโจว คุณไม่มีความรู้สึกอะไรกับผมบ้างเลยเหรอ?” ลั่วเซ่าเซินได้รับคำตอบเป็นช่วงเวลาอันเงียบเชียบ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ถังโจวโจวจะเฉยเมยกับเขาได้ถึงขนาดนี้ เธอทำได้ลงคอได้ยังไงกัน?
“ฉันไม่มีใจให้คุณเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วจะมีความรู้สึกกับคุณได้ยังไงล่ะ?” ต่อให้มี หู่พั่วก็จะสะกดกลั้นเอาไว้เงียบๆ จะไม่มีใครรับรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างนั้น
“โจวโจว ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายแบบนี้?” ลั่วเซ่าเซินแทบจะร้องไห้เต็มที ถังโจวโจวทำอย่างนี้กับเขาได้อย่างไรกัน
หู่พั่วหัวเราะพรืดออกทางจมูก มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้กันล่ะ? นี่เธอยังแผลงฤทธิ์ออกมาได้ไม่เต็มที่เลยด้วยซ้ำ นั่นสิถึงจะเรียกว่าใจร้าย ถ้าเธอยังแข็งข้อกับเขาต่ออีกหน่อย ลั่วเซ่าเซินคงจะร้องไห้งอแง เขาไม่มีโอกาสเลยแม้แต่นิดเดียว เธอไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้าใกล้เธอบ้างเลย
หู่พั่วไม่ตอบเขาอีก เขาทำได้เพียงหาเรื่องคุย พอหู่พั่วรู้สึกสนใจขึ้นมา เธอก็จะตอบเขาคำสองคำ เวลาเธอรู้สึกว่าลั่วเซ่าเซินพูดมากเกินไป ก็จะเม้มปากเอาไว้แน่น เวลานั้นลั่วเซ่าเซินก็จะรู้ได้ว่าเธอเห็นเขาน่ารำคาญ พูดให้น้อยลง
พูดคุยกันมาตลอดทาง อีกไม่นานก็จะถึงแหล่งช้อปปิ้งแล้ว ลั่วเซ่าเซินพาหู่พั่วมาที่ใจกลางเมือง แม้ว่าจะใช้เวลามากไปสักหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดใจเลยสักนิด ดีเสียอีกที่จะเขาจะได้ใช้เวลาอยู่กับถังโจวโจวให้นานขึ้นอีกหน่อย
หลังจากที่หู่พั่วลงจากรถ เธอก็ชิงนำหน้าไปยังร้านของใช้สำหรับเด็กเล็ก ลั่วเซ่าเซินตามเข้าไปทีหลัง เห็นว่าหู่พั่วได้รับการต้อนรับจากพนักงานอย่างคึกครื้น
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าหาอะไรอยู่หรือเปล่าคะ?” พนักงานอีกคนหนึ่งเห็นว่าลั่วเซ่าเซินเข้ามาในร้าน ก็รีบเข้ามารับหน้าอย่างกระตือรือร้น น้อยนักที่จะได้เห็นหนุ่มหล่ออย่างเขาในร้านของใช้สำหรับเด็กเล็ก แถมยังมาคนเดียวเสียด้วย เขาคงไม่ได้มาซื้ออะไรๆ ให้กับหลานชายหรือหลานสาวของเขาหรอกใช่ไหม?
“ไม่เป็นไรครับ ผมมากับเธอ” ลั่วเซ่าเซินชี้ไปยังบริเวณที่ถังโจวโจวยืนอยู่ สักครู่เดียวพนักงานก็เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย
“คุณผู้ชายโชคดีจังเลยนะคะ ที่มีภรรยาสวยขนาดนี้ พวกคุณมาซื้อของให้ลูกๆ กันเหรอคะ?”
คำพูดนี้ทำให้ลั่วเซ่าเซินลิงโลดไปทั้งตัว พนักงานร้านนี้สายตาใช้ได้เลยนี่นา แต่พอเขาคิดดูอีกที เดิมทีเขากับถังโจวโจวก็เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว แค่คำพูดของพนักงานเพียงไม่กี่คำก็ทำให้เขาดีอกดีใจได้ขนาดนี้เชียว? ทว่าความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะเอ่อล้นออกมา
ตอนที่ 383 ออกมาเดินซื้อของ
“คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายรักใคร่กันดีจริงๆ เลยนะคะ ดิฉันไม่ค่อยเห็นผู้ชายคนไหนยอมออกมาซื้อของกับภรรยาสักเท่าไหร่” นานๆ ทีถึงจะได้เจอสักคน แถมยังหน้าตาดีถึงขนาดนี้ ทำให้พนักงานในร้านรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก
“ก็ควรจะออกมาด้วยกันสิครับ! โจวโจว ดูไปถึงไหนแล้ว” พนักงานในร้านเห็นลั่วเซ่าเซินพูดอย่างนี้ ก็รีบพยักหน้า “ค่ะ คุณผู้ชายพูดถูกแล้ว ค่อยๆ เลือกดูนะคะ”
ลั่วเซ่าเซินเดินเข้าไปหาถังโจวโจว เห็นเธอกำลังถือเสื้อผ้าตัวเล็กเทียบเคียงกันอยู่ เมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้ามา ก็ชูชุดสองตัวนั้นพลางเอ่ยถามเขา “ตัวไหนสวยกว่ากัน?”
“ซื้อให้เสี่ยวอวี่งั้นเหรอ?” ตัวเล็กไปหน่อยนะ เป็นครั้งแรกลั่วเซ่าเซินรู้สึกว่าเสี่ยวอวี่เป็นเพียงเด็กตัวน้อยๆ
“ถ้าไม่ใช่ของเสี่ยวอวี่แล้วคุณจะใส่หรือไง?” คำพูดของหู่พั่วเย้าแหย่ให้พนักงานที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งหัวเราะ คงเพราะเกรงว่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี พนักงานจึงเม้มปากกลั้นหัวเราะเอาไว้ แต่ก็ยังดีที่ยังหลงเหลือรอยยิ้มไว้ให้ลั่วเซ่าเซิน
“อะแฮ่ม ดูดีทั้งสองชุดเลย ซื้อทั้งสองชุดเลยนั่นแหละ” ลั่วเซ่าเซินดูไม่ออกว่าถังโจวโจวอยากได้ตัวไหน อย่างนั้นก็ซื้อทั้งสองตัวไปเลย อย่างไรเขาก็มีเงินอยู่แล้ว
“เยอะไปหรือเปล่า? เสี่ยวอวี่กำลังโต อีกหน่อยก็ใส่ไม่ได้แล้วนะ” หู่พั่วเป็นกังวลเพราะเรื่องนี้ เด็กเล็กๆ ตัวโตขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าชุดหนึ่งใส่ไม่กี่ครั้งก็ต้องโยนทิ้งแล้ว
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจ่ายให้เอง เสี่ยวอวี่จะได้ใส่หลายๆ ตัว”
“ไม่ต้องหรอก ฉันจ่ายเองได้ ช่วยเอาชุดสองตัวนี้ใส่ถุงให้ด้วยนะคะ” หู่พั่วยื่นให้พนักงาน พนักงานรีบรับมาด้วยความยินดี “ค่ะ ไม่ทราบว่าจะจ่ายเป็นบัตรหรือว่าเงินสดคะ?”
“ผมรูดบัตรให้เอง” ลั่วเซ่าเซินเอ่ยปากแล้วว่าจะจ่ายให้ อย่างไรก็พูดออกไปแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่จะลงมือทำ
“ไม่ต้อง ฉันใช้บัตรรูดเองได้” ท่าทีของหู่พั่วดูแข็งขืน พนักงานที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “คุณผู้หญิงคะ ฉันช่วยเอาชุดไปใส่ถุงให้ก่อนนะคะ”
ปล่อยให้พวกเขาทั้งสองค่อยๆ หารือกันเอง สามีภรรคู่นี้ช่างแปลกจริง ยังกลัดกลุ้มกันว่าใครจะจ่ายเงินอยู่อีก นี่เป็นเรื่องของฝ่ายชายไม่ใช่หรือไง? ฝ่ายหญิงก็แย่งจะจ่ายเองเหรอ? ไม่เข้าใจความคิดของคนมีเงินพวกนี้เลยจริงๆ พนักงานระบายความกลัดกลุ้มภายในใจ
ร้านของใช้เด็กอ่อนที่หู่พั่วและลั่วเซ่าเซินเดินเข้ามา ถือเป็นร้านของใช้เด็กอ่อนมีชื่อ แน่นอนว่าราคาต้องไม่ถูกอยู่แล้ว
ถ้ามีคู่สามีภรรยาเข้ามาในร้านของพวกเขา แน่นอนว่าฝ่ายชายต้องเป็นคนจ่ายเงิน ถ้าเป็นผู้หญิงเดินเข้ามาคนเดียวก็ว่าไปอย่าง ดังนั้นพนักงานจึงเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมา เธอไม่เคยเห็นคู่สามีภรรยาอย่างหู่พั่วกับลั่วเซ่าเซินมาก่อน อย่างกับว่าไม่ใช่สามีภรรยากันอย่างนั้นแหละ
ออกมาจากร้านของใช้เด็กอ่อน สุดท้ายหู่พั่วก็เป็นคนจ่ายเงิน ลั่วเซ่าเซินหว่านล้อมเธอไม่สำเร็จ
ถ้าหากถังโจวโจวยังคงมีความทรงจำช่วงก่อนหน้านี้ ก็คงจะไว้หน้าให้ผู้ชายอย่างเขาบ้าง ทว่าตอนนี้ เธอไม่ต้องการให้ลั่วเซ่าเซินจ่ายเงินให้ เป็นเขาที่แทรกเข้าไปเอง หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆเลย
“โจวโจว คุณจะไม่ให้ผมทำอะไรให้คุณเลยอย่างนั้นเหรอ” ลั่วเซ่าเซินอย่างดึงมือของถังโจวโจวเอาไว้ หู่พั่วจึงแยกออกไปอีกทาง มองเขาปราดหนึ่งเป็นการตักเตือน “คุณอย่ามาแตะต้องตัวฉัน ไม่งั้นฉันจะกลับเดี๋ยวนี้”
ประโยคนี้ทำให้ลั่วเซ่าเซินไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นอีก ถ้าถังโจวโจวกลับไปจริงๆ! อย่างนั้นเขาก็ทำได้แค่กลับไปอย่างเดียวเท่านั้น! นี่ไม่ตรงกับสิ่งที่เขาคิดเอาไว้
“โจวโจว ผมสัญญาว่าจะไม่แตะต้องคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเราเดินกันต่อเถอะนะ คุณจะจ่ายเงินก็จ่ายไปเลย ผมจะไม่วุ่นวายกับคุณแล้ว”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นดี นอกจากที่หู่พั่วจะถามความเห็นจากลั่วเซ่าเซิน เวลาที่เหลือลั่วเซ่าเซินก็เป็นได้เพียงต้นเสาที่ไม่พูดไม่จา นอกจากนั้นยังเป็นหนุ่มน้อยที่ต้องคอยถือถุงช้อปปิ้ง บางครั้งบางคราวก็มีหญิงสาวมองเขาด้วยสายตาดูถูกอย่างกับว่าเขาเกาะผู้หญิงกิน
นี่ทำให้ลั่วเซ่าเซินแทบจะทนไม่ได้ แต่ว่าถังโจวโจวพอใจ เขาจะทำอย่างไรได้?
ของที่จะซื้อให้ลั่วอิงก็ซื้อเสร็จแล้ว ลั่วเซ่าเซินดูนาฬิกา “โจวโจว ใกล้เที่ยงแล้ว กินข้าวกันก่อนแล้วค่อยเดินต่อดีไหม?”
“เที่ยงแล้วเหรอ?” หู่พั่วดูมือถือ ใกล้เที่ยงแล้วจริงๆ ด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ หรือว่าไม่ได้ออกมาตากลมนานก็เลยลืมเวลาไปเลย?
“พวกเราหาร้านกินอะไรให้อิ่มท้องกันก่อนดีไหม?” ลั่วเซ่าเซินตรวจเช็คสีหน้าท่าทางของถังโจวโจว เห็นว่าเธอไม่ได้เอือมระอาหรือว่าไม่พอใจ ความคิดนี้ก็คงจะใช้ได้อยู่สินะ