ตอนที่ 428 โอวหยางหงจะมา
ลั่วเซ่าเชินหยิบคุกกี้ขึ้นมาใส่ปากชิ้นหนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งถังโจวโจวจึงถามขึ้น “เป็นไงบ้าง”
“ไม่เลวเลย ฝีมือคุณนับวันยิ่งพัฒนาขึ้น” รสชาติกลมกล่อม ทานไปชิ้นหนึ่งแล้วก็ยังรู้สึกอยากหยิบขึ้นมาทานอีกชิ้น
เห็นลั่วเซ่าเชินชอบ ใบหน้าของถังโจวโจวที่ยิ้มดีใจนั้นราวกับดอกไม้บาน “คุณชอบก็กินเยอะๆหน่อย”
เสี่ยวอวี่ก็ร้องเรียกขึ้น “ลูกรักก็อยากกินใช่ไหม”
“แอ๊” เสี่ยวอวี่ตื่นเต้นมาก ดวงตาประกายแพรวพราว โดยเฉพาะเวลาที่ลั่วเซ่าเชินเอาคุกกี้เขาไปใกล้เขา เขายกมือขึ้นมาอยากจะคว้าไว้ น่าเสียดายที่ลั่วเซ่าเชินดึงมือกลับไป “อยากกินก็เรียกพ่อก่อน”
ถังโจวโจวคิดไม่ถึงว่าที่ลั่วเซ่าเชินพูดไปก่อนหน้านี้คือคำโกหก ก่อนหน้านี้ยังปลอบเขา แต่ความจริงแล้วในใจของเขายังไม่ยอมปล่อยวาง เธอมองดูลั่วเซ่าเชินสุดท้ายก็หลอกล่อให้เสี่ยวอวี่พูด
“เสี่ยวอวี่ มา อ้าปากลูก” ทางด้านหนึ่งเขาก็รับข้าวโอ๊ตจากถังโจวโจวเข้าปาก อีกด้านหนึ่งก็จ้องมองคุกกี้ในมือของลั่วเซ่าเชิน ทั้งสายตาและปากไม่ว่างเลย
“เสี่ยวอวี่ เรียกพ่อเร็วแล้วพ่อจะให้คุกกี้ลูก” ลั่วเซ่าเซินที่ตระหนักได้ว่าสำหรับลูกชายแล้ว สิ่งล่อใจด้วยอาหารเป็นวิธีที่ดีที่สุด นอกจากสิ่งนี้แล้วสำหรับเด็กเล็กๆ แล้วสิ่งอื่นๆ ช่วยอะไรไม่ได้ ยกเว้นถังโจวโจวจะออกโรงเอง
“ไม ไม”
“เซ่าเชิน ลูกกำลังบอกว่าไม่น่ะ” ถังโจวโจวหัวเราะขึ้นมาอย่างชอบใจ มองดูสีหน้าดำคล้ำของลั่วเซ่าเชินก็ยื่นมือไปปิดหน้า เพียงแต่ร่างกายยังคงสั่นเทิ้ม ตลกจริงๆ เสี่ยวอวี่กลับไม่หลงกลไม้นี้ของเขา
“โจวโจว”
“คะ ว่าไงคะ” ถังโจวโจวได้ยินเสียงเขาเรียกก็เลยหันหน้ากลับมา ปากพลันถูกปิดไว้ เธอถูกจับไว้พักหนึ่ง นึกอยากดิ้นรน แต่ในมือก็ถือชามอยู่ เสี่ยวอวี่ที่อยู่ข้างๆ น้ำลายเริ่มไหล ปรบมือและมองดูพ่อแม่แสดงความรักกันต่อหน้าเขา
หลังจากจูบเสร็จ ถังโจวโจวคิดอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็ถูกลั่วเซ่าเชินถูกขัดจังหวะไว้ “ยังจะหัวเราะอีกไหม”
รอจนเขาปล่อย ถังโจวโจวจึงรีบส่ายหน้า “ไม่ขำแล้ว ไม่ขำแล้ว รีบกินข้าวเถอะ เย็นหมดแล้ว”
ลั่วเซ่าเชินกลัวว่าถังโจวโจวจะหิว เขาจึงป้อนให้เธอด้วย ฉากทานอาหารของคนในครอบครัวที่อยู่ในห้องทำงานเผยออกมา
“เซ่าเชิน ฉันพาเสี่ยวอวี่กลับก่อนนะ”
“ได้ ผมจะไปส่งคุณข้างล่าง” ลั่วเซ่าเชินอุ้มเสี่ยวอวี่ ถังโจวโจวหิ้วกล่องข้าว ทั้งสองคนมุ่งหน้าลงไปที่ชั้นล่าง
เมิ่งชิงซีกำลังนั่งอยู่ในรถ พอเห็นว่าลั่วเซ่าเชินอุ้มเด็กออกมาจากประตูบริษัท และมีถังโจวโจวตามหลังมาก็นึกถึงข่าวซุบซิบที่เธอได้ยินวันนี้ บอกว่าลั่วเซ่าเชินกับถังโจวโจวมีลูกชายแล้ว คงไม่ใช่เป็นเด็กคนนี้หรอกนะ
เธอนึกชิงชัง กำพวกมาลัยไว้แน่น มองดูลั่วเซ่าเชินก้มลงจูบหน้าผากของถังโจวโจวและส่งทั้งสองคนขึ้นรถออกจากบริษัทไป
เมิ่งชิงซีไม่รู้จะทำยังไง พวกเขาทั้งสองมีลูกแล้ว ไม่แปลกเลยที่ครั้งนี้พี่เซ่าเชินถึงเฉยชาต่อเธอ คงเพราะเรื่องนี้แน่ ถ้าไม่มีเด็กคนนั้นแล้วพี่เซ่าเชินก็จะให้ความสำคัญกับถังโจวโจวน้อยลงใช่หรือเปล่า
ถังโจวโจวอุ้มเสี่ยวอวี่ลงจากรถ ป้าหลิวก็มาถึงหน้าประตูแล้ว หล่อนรับกล่องเก็บอุณหภูมิจากรถมา “คุณนาย เสี่ยวอวี่หลับแล้วใช่ไหมคะ”
“ค่ะ ป้าหลิว ป้าเอาของเข้าไปเก็บเถอะ” ถังโจวโจวอุ้มเสี่ยวอวี่ขึ้นตึกไป อากาศด้านนอกร้อน เธอกลัวว่าถ้าให้เสี่ยวอวี่อยู่ข้างนอกนานจะทำให้เป็นลมแดด
เพิ่งจะวางเสี่ยวอวี่ลงบนเตียง ถังโจวโจวก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของตัวเอง เมื่อมองดูก็พบว่าโอวหยางหงโทรเข้ามา
“อาหง มีอะไรเหรอ”
“พี่ครับ ตอนนี้ผมกำลังออกเดินทาง พรุ่งนี้ก็จะถึงที่นั่น”
“ทำไมมากะทันหันจัง ที่บริษัทมีเรื่องเหรอ” ถังโจวโจวรู้ว่าตอนนี้โอวหยางหงอยากจะขยายตลาดทางนี้
“คุยทางโทรศัพท์ไม่ค่อยสะดวก เดี๋ยวผมไปเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกทีนะ เสี่ยวอวี่ล่ะ”
“ตอนนี้หลับอยู่”
“งั้นก็ดีครับ แค่นี้ก่อนนะพี่” โอวหยางหงวางสายไปแล้ว ถังโจวโจวที่เห็นท่าทางรีบร้อนขอเขา แท้จริงเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงทำให้ขารีบมาที่นี่ขนาดนี้
โอวหยางหงไม่ได้พูดให้ชัดเจน ทำให้ถังโจวโจวกังวลใจไม่น้อย ตอนค่ำเมื่อลั่วเซ่าเชินกลับมา ถังโจวโจวจึงพูดเรื่องนี้กับลั่วเซ่าเชิน
“เขาน่าจะมีเรื่องเร่งด่วนนะ คุณจะคิดมากไปทำไม ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้เขาก็มาถึงแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงตอนนั้นพวกเราก็ได้รู้แล้วว่ามันเรื่องอะไรกัน”
ตอนที่ 429 ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รถชน
วันต่อมาหวังหวาก็ไปรับโอวหยางหงมาที่วิลล่า ถังโจวโจวก็เตรียมห้องรับรองไว้พร้อมแล้วก็เห็นเขาเข้ามาพอดี “นั่งพักก่อน มีเรื่องอะไรรอเธอหายเหนื่อยแล้วค่อยพูด”
“ผมไม่ได้เตรียมจะมาอยู่นี่นะครับ” โอวหยางหงที่เห็นว่าถังโจวโจวกำลังจะลากกระเป๋าเดินทางของเขาเข้าไปรีบเอ่ยห้ามเธอทันที
“เธอไม่ได้พักที่นี่เหรอ” ถังโจวโจวได้ยินโอวหยางหงปฏิเสธ เธอเตรียมห้องรับรองเสร็จแล้วถ้าเขาไม่พักที่นี่แล้วจะไปพักที่ไหนกัน
“ที่โรงแรมไงพี่ ถึงแม้จะพูดว่าพี่ให้อภัยลั่วเซ่าเชินแล้วแต่ผมยังไม่ได้บอกว่าจะยังไงกับเขาแล้วจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง พี่ไม่กลัวว่าผมกับเขาจะทะเลาะกันเหรอ” แน่นอนว่าโอวหยางหงเพียงแค่อยากจะพูดล้อเล่นเท่านั้น
ถังโจวโจวคิดอยากจะตีเขาสักที เพียงแต่เธอเองก็รู้ว่าการตัดสินใจของโอวหยางหงนั้นมักยากที่จะเปลี่ยนแปลง “ได้ เธอมีความคิดเป็นของตัวเอง ยังไงพี่ก็คงเปลี่ยนความคิดของเธอไม่ได้อยู่ดี”
“แล้วเสี่ยวอวี่ล่ะ รีบไปอุ้มเขามาให้ผมดูหน่อย ผมไม่ได้เจอเขาตั้งนานแล้วไม่รู้ว่ายังจำผมได้ไหม” ถังโจวโจวพาโอวหยางหงไปยังห้องรับแขก เสี่ยวอวี่กำลังนั่งอยู่บนกระดานปูพื้นคุณแม่ถังก็นั่งอยู่ข้างๆ เขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาล้ม
“เสี่ยวอวี่คุณน้ามาแล้วลูก”
“แม่คะนี่โอวหยางหงค่ะเป็นน้องชายหนู”
“คุณป้าสวัสดีครับ” ครั้งนี้โอวหยางหงทักทายอย่างเกรงใจไม่ได้มีท่าทางหยิ่งผยองอย่างครั้งแรก ตอนนั้นเขาเองก็มีเหตุผลของเขา ตอนนี้ถังโจวโจวกลับมาแล้วเขาจึงต้องแสดงความเคารพต่อแม่ที่เลี้ยงเธอมา
คุณพ่อถังคุณแม่ถังเลี้ยงเธอให้โตขนาดนี้ได้คงต้องทุ่มเทไปมาก พวกเขาไม่มีลูกเป็นของตัวเองจึงได้รับถังโจวโจวมาเป็นลูกสาวของตัวเอง
“สวัสดีจ๊ะ ครั้งนี้ที่มามาหาพวกโจวโจวเหรอ” คุณแม่ถังเองก็เคยได้ฟังเรื่องราวของโอวหยางหงเลยรู้ถึงความลำบากใจของเสิ่นหลานอี ประเด็นคือโจวโจวก็ยังอยู่ข้างพวกเธอแค่เรื่องนี้ก็ดีกว่ามากแล้ว
“ใช่ครับ แม่คิดถึงพวกเขามากครั้งนี้เลยตั้งใจให้ผมมาเยี่ยม” คำพูดที่โอวหยางหงมีต่อคุณแม่ถังค่อนข้างจะเคารพ ดูเหมือนว่าถังโจวโจวจะเคารพแม่บุญธรรมคนนี้มากเขาจึงไม่ควรทำให้เธอเสียหน้า
โอวหยางหงเห็นเสี่ยวอวี่เล่นอย่างสนุกสนานจึงลากถังโจวโจวไปที่ประตู “โจวโจวผมมีเรื่องจะพูดกับพี่หน่อย”
“เรื่องอะไรน้ำเสียงดูจริงจังขนาดนี้” ถังโจวโจวเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของเขาก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่เขาถึงได้มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างนี้ ซ้ำเรื่องยังเกี่ยวข้องกับเธอเสียด้วย
“เกี่ยวกับอุบัติตุรถชนของพี่”
พอโอวหยางหงพูดถึงเรื่องนี้สติของถังโจวโจวก็กลับมาทันที “เธอรู้ว่าใครเป็นคนทำเหรอ” วันนั้นเธอตกใจมากไม่รู้ว่าใครชนเธอ ถ้าตอนนั้นเธอดูได้ชัดเจนก็คงจะไม่ต้องรอนานขนาดนี้
จากที่ดูแล้วคนคนนั้นตั้งใจให้เธอตาย ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากถังโจวโจวจึงยังตั้งสติทัน
โอวหยางหงนำข้อสรุปที่ตัวเองไปตรวจสอบมาเล่าให้เธอฟัง โอวหยางหงเล่าไปถังโจวโจวถึงได้เข้าใจว่าฝ่ายนั้นตั้งใจจะฆ่าเธอให้ตายจริงๆ
โอวหยางหงเล่าว่ามีคนเห็นผู้หญิงคนหนึ่งจอดรถคันสีขาวอยู่ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งซึ่งใกล้กับจุดที่ถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุ ตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นดูช็อคและพูดจาไม่รู้เรื่อง
และหลังจากนั้นโอวหยางหงก็เอาเลขป้ายทะเบียนรถคันที่ประสบอุบัติเหตุให้เธอดู ซึ่งก็ใช่รถคันนั้นจริงๆ หลังจากนั้นโอวหยางหงก็ให้เธอลองนึกถึงใบหน้าของผู้หหญิงคนนั้นดู
โอวหยางหงปลดล็อกโครงสร้างของเรื่องราวแล้ว ถ้าเกี่ยวข้องกับถังโจวโจวก็คงหนีไม่พ้นคนที่เธอรู้จักหรือคนที่ติดต่อกับเธอและมีหลังฐานจากหลายๆ คนสุดท้ายแล้วแน่นอนว่าเป็นเมิ่งชิงซี
“ที่แท้ก็เป็นเธอ ถ้าเธอเป็นคนทำก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ยังไงเธอก็เกลียดพี่อยู่แล้ว” ถังโจวโจวคิดถึงเรื่องราวที่เมิ่งชิงซีทำกับเธอ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีสีหน้าดีๆ ให้เธอเลยสักครั้ง
“อาหง เข้าใจแล้ว รอให้เซ่าเซินกลับมาแล้วพี่จะเล่าให้เขาฟังเอง”
“แล้วพี่คิดจะทำยังไง” ด้วยเหตุนี้โอวหยางหงจึงยังไม่ได้ลงมือทำอะไรอีกฝ่าย เพราะเมื่อก่อนถังโจวโจวก็อดทนต่อเมิ่งชิงซีอยู่หลายครั้ง ลั่วเซ่าเชินเองก็ดูเหมือนจะเมตตาเธอมากเป็นพิเศษ