ตอนที่ 106 คืนงานเดินแบบ
“คุณหมายถึงว่า ให้ตัดชื่อของคุณจิดาภาออกหรือคะ?”
“นี่ไม่ใช่ความต้องการของฉัน แต่ในกฎของstar planระบุไว้ ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าจะไม่รับศิลปินที่ผ่านเรื่องไม่ดี หรือเคยมีชื่อ เสียงที่ไม่ดีเข้าร่วมในโครงการนี้ เธอคิดว่าจิดาภาที่พัวพันกับ เรื่องวุ่นวายเช่นนั้น ยังจะสะอาดอีกหรืออย่างไรกัน?”
“แต่มันก็ไม่มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอไปมั่วกับคุณ ตัณฑลนี่คะ ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้อาจจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ก็ได้ หรือเราจะถามคุณญาณินี้ก่อนดีไหมคะ?”
“นี่เธอเป็นนายหรือฉันเป็นนายเธอกันแน่! ฉันตัดสินแล้ว จิ ดาภาไม่มีสิทธิเข้าร่วมก็คือไม่มีสิทธิ แล้วอีกอย่าง เรื่องนี้ไม่ ต้องไปบอกใครนะ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ผ่านเกณฑ์ในการเข้า โอเล แต่ก็อย่าให้เรื่องนี้แพร่ออกไปข้างนอก ขัดขวางเส้นทาง
วงการนี้ของเธอ เข้าใจไหม?”
เจ้าหน้าที่คนนั้นทำได้เพียงพยักหน้ารับ แล้วเดินออกจาก
ออฟฟิศของจงกลไป
ถึงแม้ว่าที่จงกลพูดมาจะดูมีเหตุผล แต่ลบชื่อจิดาภาออกไป เช่นนั้น กลับรู้สึกแปลกๆ
ประจวบเหมาะกับที่เจ้าหน้าที่คนนั้นเจอกับคมสรเข้าพอดี จึง เล่าเรื่องเมื่อสักครู่นี้ให้เขาฟัง “ในฐานะที่เป็นผู้จัดการเหมือน กัน ที่คุณจงกลทำเช่นนี้ถือว่าถูกต้องไหมคะ? ฉันรู้สึกว่ามัน แปลกๆ”
“เธอเป็นคนที่ทำอะไรเฉียบขาด ผมคิดว่าที่ท่านประธานให้ เธอเป็นคนจัดการstar planนี้ ก็คงจะเชื่อในการตัดสินของเธอ คุณจิดาภาเองก็มีประเด็นให้กล่าวถึงมากมายจริงๆ คนแบบนี้ หากเข้าในโอเลแล้ว ก็คงจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเราแน่ๆ” คมสรคิดแล้วดังนั้นจึงอธิบายออกมาให้เธอฟัง
เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหากจิดาภาส่งประวัติเข้ามา จะต้องไม่ ถูกคัดเลือกแน่ๆ จงกลคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆอยู่แล้ว
เขาเองก็เคยลองคิดเช่นกันว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป คนที่ หัวเราะได้เป็นคนสุดท้ายจะเป็นใครกัน! ในสงครามเช่นนี้ เขา จะไม่ช่วยใครทั้งนั้น อย่างน้อยหากจิดาภายังกล้าเข้ามาใน โอเล นั่นก็ต้องนับถือความกล้าหาญของเธอแล้ว
แต่เขาเองเข้าใจนิสัยของจงกลดี ว่าเธอจะต้องกัดจิดาภาไม่
“โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันกลับไปลบไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ออกก่อนนะคะ” ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม สำหรับจิดาภานั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อผู้จัดการของ บริษัททั้งสองคนพูดเช่นนี้แล้ว จะแย้งอะไรได้อีกกัน
“ไม่ต้องหรอก ยึดตามขั้นตอนปกติที่เราทำกันนั่นแหละ พวก เราคัดเลือกตามกฎอยู่แล้ว เช่นนั้นถึงจะยุติธรรมกับคนที่ส่ง ประวัติมาเข้าร่วมโครงการนี้กันทุกคน”
เจ้าหน้าที่คนนั้นจึงทำตามที่คมสรบอก แล้วตอบกลับจิดาภา
ไป
แต่ข่าวนี้คนที่ได้รับรู้เป็นคนแรกนั่นก็คือจิรภาส เนื่องจากตอน ที่ส่งประวัติของจิดาภาไปนั้น อีเมล์ที่ระบุทิ้งไว้นั่นก็คืออีเมล์
ของเขา
“เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ…”
เขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ การคัดเลือกเพิ่งจะเริ่มเพียง แค่วันเดียวเท่านั้นก็ถูกกำจัดออกเสียแล้ว นั่นทำให้รู้ว่าเรื่อง นี้คงจะเป็นคนข้างล่างจัดการแน่ๆ คงไม่ได้รับการยินยอมจาก
ญาณินีอย่างแน่นอน
เขาจะต้องพาจิดาภาไปร่วมงานเดินแบบนั้นให้ได้
เพื่อปูทางให้เธอได้เข้าไปอยู่ในสังกัดโอเล
เรื่องที่ประวัติถูกคัดออกไปนั้น ก็จะต้องให้ญาณินี้ได้รับรู้เรื่อง นี้ แต่จะให้เธอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน จะต้องใช้วิธีที่ฉลาดมาก พอ ที่จะไม่ส่งผลต่อแผนงานของอีกฝ่าย
จิรภาสโทรบอกเรื่องนี้ให้จิดาภารู้
ไม่ต้องกังวลนะครับ คืนนี้คุณญาณินีก็จะมาร่วมงานนี้ด้วย”
“ค่ะ คุณจิรภาส ฉันจะหาโอกาสได้อธิบายทุกอย่างกับเธอค่ะ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากเธอนะคะ”
ขอเพียงแค่ญาณินียอมให้โอกาสเธอ เธอจะรีบฉวยโอกาส นั้นไว้ แล้วทำให้ตัวเองกลายเป็นศิลปินหญิงที่มีความพยายาม มากที่สุดในstar planให้ได้
เธอจะต้องหาวิธีเข้าใกล้ญาณินีให้ได้ แล้วหลังจากนั้นก็ ทำให้ตัวเองได้รับความเชื่อใจจากเธอ แล้วค่อยบอกเรื่องราว ในครั้งนี้กับเธอ…อีกทั้งเรื่องนี้จะให้คนในโอเลคนอื่นรู้ไม่ได้ ด้วยเช่นกัน
หนึ่งทุ่มตรง
จิดาภานั่งรถไปกับจิรภาส การแต่งกายของเธอในค่ำคืนนี้ ด้วยชุดกี่เพ้าลายดอกซากุระที่ทำให้เห็นทรวดทรงเรือนร่าง ของเธออย่างสง่างาม และเมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาชื่นชม ของผู้คนทั้งงานได้เป็นอย่างมาก
จิดาภาที่เพิ่งจะมาถึงงาน ก็ถูกเชิญให้เข้าไปด้านใน
จิรภาสนั่งอยู่ตรงที่นั่งโซนวีไอพีแถวที่สองตรงโซนกลาง ส่วนจิดาภาอยู่ทางด้านหลังขวามือของเขา
เนื่องจากที่นั่งมีป้ายระบุอยู่ จิดาภาจึงเห็นว่าที่นั่งของญาณินี
กับเธอนั้นมีทางเดินกั้นกลางอยู่
หากเป็นเช่นนี้ มีโอกาสได้แลกที่นั่งล่ะก็ คืนนี้คงจะได้โอกาส
ไปมากแล้ว
แต่ค่ำคืนนี้เป็นงานแสดงแบรนด์แฟชั่นโชว์ เป็นการรวมตัวกัน ของศิลปินดังๆมากมาย ทั้งยังมีบรรดานักธุรกิจอีกด้วย เธอไม่ สามารถรู้ได้เลยว่าใครจะเป็นคนที่นั่งข้างๆญาณินี
ในที่สุด เธอก็เห็นคนที่เดินเข้ามาแล้วนั่งลงตรงตำแหน่ง
เป็นคุณธรรศจากKB นั่นเอง
“คุณจิดาภา เจอกันอีกแล้วนะครับ” หลังจากที่คุณธรรศเข้า มานั่งยังที่ของเขาแล้ว แต่ญาณินียังไม่มา เขาจึงหันมายิ้มให้
เธอ
เธอชะงักไป แล้วหลบสายตาเขา
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ญาณินีและคมสรก็เดินเข้ามาพร้อมกัน แต่ตำแหน่งที่นั่งนั้นต้องแยกกัน คมสรนั่งลงตรงด้านข้างเธอ และเมื่อเขาเห็นคุณธรรศแล้วนั้น สายตาของเขากลับตกตะลึง ไปชั่วครู่หนึ่ง
เขาบอกกับญาณินีไปแล้วว่า จิดาภากำลังคุยเรื่องเซ็นสัญญา กับทางKBอยู่ ถ้าหากพวกเขาพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ล่ะก็ เรื่องที่ เขาหลอกญาณินีคงจะเกิดปัญหาอย่างหนักหน่วงแน่ๆ
ไม่นั่งหรือคะ?” จิดาภาเอ่ยถามเขาเมื่อเห็นว่าเขายืนเหม่อ
อยู่ตรงนั้น
คมสรยิ้มรับ แล้วนั่งลง
เขาจะต้องไม่ตกใจไปก่อนเช่นนี้ เรื่องยังไม่เกิดขึ้นเลย เขาจะร้อนตัวไปทำไมกัน
เขามองสำรวจจิดาภาอย่างเงียบๆ ใกล้กันขนาดนี้ เขารับรู้ได้ ถึงพลังบางอย่างจากตัวของจิดาภา ถึงแม้ว่าจะดูสงบนิ่ง แต่ กับการอดทนกับทุกสิ่งนั้นได้อย่างเงียบๆ ซึ่งดูจากภายนอก แล้วดูไม่ออกเลยว่าเธอเป็นคนมีแผนสูงเช่นนี้
สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวงการนี้ คนที่มีลักษณะ ทางอารมณ์เช่นจิดาภานั้นมีน้อยมาก
ไม่นาน พิธีกรได้เดินขึ้นไปบนเวที แสงไฟค่อยๆมืดสลัวลง แล้วการเดินแบบแบรนด์แฟชั่นโชว์ก็ได้เปิดฉากขึ้น
หลังจากที่จิดาภาได้เห็นจิรภาสเปิดงานแล้วนั้น เขารีบเดิน กลับมายังที่นั่งของตัวเอง แล้วมองมายังทิศทางที่พวกเธอนั่ง อยู่ แน่นอนว่าเขากำลังมองมายังภรรยาของเขานั่นเอง
ญาณินีที่สังเกตเห็นสายตาของจิรภาสที่ส่งมานั้น เธอคิดว่า เขากำลังมองตัวเองอยู่ จึงยิ้มตอบกลับไป
และเมื่อจิดาภาเห็นว่าญาณินีกำลังมองมาทางนี้นั้น ถึงจึงรีบ ฉวยโอกาสนี้ไว้ทันที “สวัสดีค่ะ คุณญาณินี ดิฉันจิดาภาเองนะ
คะ”
“สวัสดีค่ะ พบกันอีกแล้วนะคะ หลังจากงานมอบรางวัลครั้ง ที่แล้ว คุณเองก็ผ่านเรื่องราวมามากมายเหลือเกิน หวังว่าทุก อย่างจะผ่านไปอย่างราบรื่นนะคะ”
“คุณญาณินีคะ จริงๆแล้ว…” จิดาภากำลังจะพูดต่อ แต่คมสัน กลับลุกขึ้น ขัดจังหวะการพูดคุยกันระหว่างพวกเธอเข้าเสีย
ก่อน
“ขอทางหน่อยครับ ผมขอออกไปหน่อยนะครับ” คมสรที่จะ เดินออกไป จึงจำเป็นต้องขอให้จิดาภาหลีกทางให้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอเองก็ไม่สามารถกลับไปสนทนากับญาณี นีต่อได้อีก จึงต้องรอโอกาสหน้าเสียแล้ว
จิดาภามองเขา รู้ว่าเขามากับญาณินีเช่นนี้ คงจะเป็นคนของ โอเลเช่นกัน จึงไม่ได้ใส่ใจอะไร จึงเก็บความตั้งใจนี้ไว้ก่อน
หลังจากที่คมสรออกไปเดินข้างนอกมาแล้วรอบหนึ่งนั้น จึง กลับมายังที่นั่งของตัวเองอีก เห็นว่าจิดาภาไม่ได้คุยกับญาณินี
แล้ว จึงรู้สึกโล่งใจ
เขายังจะต้องคอยจับตาดูต่อ จะต้องไม่ให้จิดาภามีโอกาสได้
พูดคุยกับญาณินีอีก
งานเดินแบบในค่ำคืนนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เครื่อง ประดับมุกที่แสดงนั้นช่างงดงามเหลือเกิน ประเด็นเช่นนี้ คงจะ มีเพียงพวกผู้หญิงที่สามารถพูดคุยกันได้
“คุณญาณินีว่าแบบนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?” เธอเอ่ยถามออก
มา
“ฉันว่าไม่เลวนะคะ ออกแบบได้ดีมากเลย ดูมีสไตล์แบบต่าง ประเทศ เหมาะกับคุณมากเลยนะคะ” ญาณินีเป็นคนที่มีรสนิยม มากคนหนึ่ง แล้วส่งยิ้มให้เธออย่างมีมารยาท
ถึงแม้ว่าญาณินีเองคิดว่าจิดาภากำลังจะไปอยู่กับทางKB แต่ ในวงการนี้ถึงอย่างไรก็ต้องได้พบปะเจอกันอยู่ดี เธอไม่จำเป็น ต้องตัดความสัมพันธ์เช่นนั้น