ตอนที่ 470 ลูกอกตัญญู
“พ่อคะ แม่คะ ลูกอกตัญญูคนนี้กลับมาแล้ว หนูทำให้พ่อแม่ต้องทุกข์ใจมาหลายปี หนูอกตัญญูจริงๆ…” พูดถึงตอนหลัง เสิ่นหลานอีก็ร้องไห้ออกม
คุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นไม่สามารถดูหลานได้แล้ว “กลับมาแล้วก็ดี กลับมาแล้วก็ดี พ่อกับแม่ไม่โทษลูกหรอก ดูลูกสิ โตขนาดนี้แล้ว ยังจะร้องไห้อีก ระวังลูกๆ หลานๆ จะหัวเราะเยาะกันนะ”
คุณแม่เสิ่นมองไปทางลูกสาวเห็นเธอยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ดูเหมือนหลานปีมานี้ไม่ได้รับความลำบากอะไร นี่ก็ทำให้คุณแม่เสิ่นวางใจไปได้เยอะ
คุณพ่อเสิ่นหน้าตึงขึ้น ครั้งนี้เพราะว่าการปรากฏตัวของเสิ่นหลานอีล้วนเป็นเรื่องที่ยากจะเผยรอยยิ้ม ต้องรู้ว่า ตั้งแต่หลังจากเสิ่นหลานอีเกิดเรื่อง คุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นก็เริ่มเสียใจขึ้นมา ตอนแรกไม่ควรยินยอมให้ลูกแต่งงานกับตระกูลเมิ่งเลย
พวกเขาสูญเสียลูกสาวแท้ๆ ไปยังมีหลานสาวอีกสองคนก็หายตัวไป โดยเฉพาะเมิ่งไหวเซินก็แต่งงานใหม่หลังจากที่ลูกสาวเธอจากไปไม่นาน เรื่องนี้ทำให้คุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นไม่พอใจมาก พี่ชายของเสิ่นหลานอีทั้งสองคนโกรธมากจนอยากจะไปสั่งสอนผู้ชายคนนั้น
น่าเสิยดายที่เมิ่งไหวเซินยังคงทำตัวตามสบาย บ้านตระกูลเสิ่นโศกเศร้าเสียใจ และก็ไม่ไปบ้านตระกูลเมิ่งอีก สำหรับเสิ่นหลานอียกเว้นวันครบรอบวันตายของเธอที่จะถูกกล่าวถึงมากที่สุด เวลาอื่นก็ไม่ได้กล่าวถึง ทุกคนรู้แค่ว่ายังมีเรื่องลูกสาวอยู่คนหนึ่ง เพียงแต่จากไปเร็วเกินไป
เสิ่นหลานอีและคุณแม่เสิ่นร้องไห้กันไปยกหนึ่ง พบว่าพวกโอวหยางเลี่ยก็อยู่ตรงนั้นแล้ว คุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นตามหาหัวใจกลับมาและก็พบว่าครั้งนี้เสิ่นหลานอีไม่ได้กลับมาคนเดียวแล้ว ยังพาคนมาด้วยหลายคน คนเหล่านี้ทำให้คุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นประหลาดใจ
ยกเว้นหญิงสาวที่อยู่ตรงกลาง เธอดูคล้ายเสิ่นหลานอีมาก จะเป็นหนึ่งในหลานสาวที่หายไปของพวกเขารึเปล่า “พ่อคะ แม่คะ หนูขอแนะนำหน่อยนะคะ นี่คือโอวหยางเลี่ยสามีของหนูค่ะ”
โอวหยางเลี่ยพูดต่อทันที “คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ ปล่อยเวลาไว้นานขนาดนี้ถึงเพิ่งจะมาไหว้ หวังว่าพวกท่านจะไม่ถือโทษนะครับ” โอวหยางเลี่ยส่งของขวัญที่ตัวเองเตรียมมา ด้านในกล่องก็เป็นของขวัญสำหรับคุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าที่ดีที่สุด
จู่ๆ คุณแม่เสิ่นก็เห็นลูกเขยที่เพิ่งโผล่มา เรื่องนี้มันตั้งแต่เมื่อไหร่ หลานอีก็แต่งานใหม่แล้ว แล้วเมิ่งไหวเซินจะทำยังไง บ้าจริง คุณแม่เสิ่นตอบสนองกลับทันที เมิ่งไหวเซินเปลี่ยนใจไปจากเสิ่นหลานอีก่อน ในเมื่อเขาสามารถแต่งานใหม่ได้ ทำไมหลานอีจะแต่งงานใหม่ไม่ได้
เพราะว่าก่อนหน้านี้รู้สึกแย่กับเมิ่งไหวเซิน พอเห็นลูกเขยคนใหม่ คุณแม่เสิ่นก็ยิ่งพอใจ “ดี หลานอีสร้างความรำคาญให้เธอบ้างไหม เธอถูกฉันตามใจตั้งแต่เล็ก เธออย่าได้ถือสาเลยนะ”
คำพูดของคุณแม่เสิ่นแน่นอนว่าแค่ถ่อมตัว ในความคิดของเธอ ลูกสาวของตัวเองเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพียงแต่ก็ดูว่าโอวหยางเลี่ยจะตอบรับไหม
แน่นอนว่าโอวหยางเลี่ยคงไม่ทำให้การเจอแม่ยายครั้งแรกกลายเป็นความประทับใจที่ไม่ดี นอกจากนี้เดิมทีเขาก็รักเสิ่นหลานอีเหมือนเป็นของล้ำค่าอยู่แล้ว “คุณแม่ครับ มีหลานอีเป็นคู่ชีวิต เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของผมครับ ขอบคุณพวกท่านมากที่เลี้ยงลูกสาวได้ดีขนาดนี้”
คำพูดที่จริงใจของโอวหยางเลี่ยทำให้ใจที่เยือกเย็นของของคุณแม่เสิ่นอุ่นขึ้นทันที ถึงแม้คุณพ่อเสิ่นไม่ได้เผยรอยยิ้มออกมา แต่ดูสีหน้าของเขาแล้วก็รู้สึกว่าก็มีความประทับใจที่พบโอวหยางเลี่ยมาก
“แม่คะ นี่คือชิงหลาน แต่ตอนนี้ชื่อโจวโจวแล้ว นี่คือหลานเขยของแม่ค่ะ ชื่อลั่วเซ่าเชิน”
ถังโจวโจวที่อุ้มเสี่ยวอวี่อยู่ออกมายืนข้างหน้า พูดอย่างอ่อนโยน “คุณตาคุณยายสวัสดีค่ะ”
“คุณตา คุณยายสวัสดีครับ” ลั่วเซ่าเชินก็พูดตาม
คุณแม่เสิ่นน้ำตาไหลออกมา “สวัสดีๆ ไม่คิดว่าชิงหลานจะโตขนาดนี้แล้ว และก็ยังแต่งงานแล้ว เอ้อแล้วทำไมไม่พาชิงเหยียนมาด้วยล่ะ”
ในเมื่อตามหาชิงหลานเจอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เจอชิงเหยียน หรือยังหาไม่เจอเหรอ
เมื่อพูดถึงเมิ่งชิงเหยียนขึ้นมา ทุกคนก็เงียบขรึมขึ้น เมื่อคุณแม่เสิ่นอยู่ในความเงียบขรึมสุดท้ายก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศโดยรอบที่ไม่ดี “เกิดเรื่องอะไรใช่ไหม”
หลายปีขนาดนี้ เรื่องอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ คุณแม่เสิ่นยังคิดว่าเสิ่นหลานอีอยู่ด้วยกันกับลูกตลอด แต่เห็นว่าชิงหลานก็เปลี่ยนชื่อแล้ว เชื่อว่าต้องยังมีเรื่องที่เปลี่ยนแปลง
“แม่คะ ชิงเหยียนของหนูโชคไม่ดี ไม่สามารถมารู้จักคุณตาคุณยายได้ เธอเสียไปนานแล้วค่ะ” ช่วงขณะหนึ่ง บรรยากาศก็ดูอึดอัดขึ้น
ตอนที่ 471 ทำความรู้จักครอบครัว
เสิ่นหลานอีก็รู้ข่าวร้ายนี้ก่อนคุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นตอนนี้ก็ยังเจ็บปวดอยู่ แต่ก็สามารถทำใจได้โดยเร็ว เพราะกลัวว่าพ่อแม่จะเสียใจจึงรีบเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา
“พ่อคะแม่คะ นี่คือลูกชายหนูค่ะ โอวหยางหง ลูกหงรีบเรียกคุณตาคุณยายเร็วเข้า”
“คุณตาคุณยายสวัสดีครับ” โอวหยางหงเดินก้าวมาข้างหน้าเล็กน้อย คุณแม่เสิ่นที่เพิ่งรู้ว่าเสิ่นเหยียนจากไปแล้ว ตอนนี้ก็มารู้อีกว่าเสิ่นหลานอีมาลูกชายที่โตขนาดนี้แล้ว ครู่หนึ่งก็ตอบสนองกลับ
“นี่คือลูกที่เกิดหลังจากแต่งานใหม่ใช่ไหม” ลูกโตขนาดนี้แล้ว เห็นความแข็งแกร่งของหนุ่มน้อย ในที่สุดคุณแม่เสิ่นก็ยิ้มออกมา
แน่นอนว่าการที่ลูกสาวตัวเองอยู่บ้านตระกูลเมิ่งเมิ่งไหวเซินไม่ได้ชื่นชอบเพราะว่าไม่มีลูกชาย แต่ตอนนี้ลูกสาวมีหลานชายแล้ว ไม่ยินว่าเมิ่งไหวเซินเองก็มีลูกสาวคนใหม่แล้ว บางทีเขาอาจจะไม่มีบุญได้มีลูกชายก็ได้
คุณพ่อเสิ่นเองก็บอกว่าดี บรรยากาศช่วงเวลาแห่งความสุขหวนกลับมา เสิ่นหลานอีดึงมือคุณแม่เสิ่นมาอยู่ข้างๆ และพูดกับเธอสองสามคำ “แม่คะ แม่ไม่ต้องห่วง หลังจากที่ชิงเหยียนจากไปแล้ว แม่ได้เห็นเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ โจวโจวไหมคะ นั่นคือลูกของชิงเหยียนค่ะ”
“แต่เมื่อกี้เธอเพิ่งเรียกลั่วเซ่าเชินว่าพ่อ”
“นั่นเพราะเธอเป็นลูกที่เกิดจากชิงเหยียนและเซ่าอวี๋พี่ชายของเซ่าเซิน และแน่นอนว่าบ้านตระกูลลั่วไม่ยอมรับ เซ่าเซินเลยอยากให้สะดวกเลยรับลั่วอิงเป็นลูกตัวเองค่ะ” เสิ่นหลานอีอธิบาย ทำให้คุณแม่เสิ่นเข้าใจ
คุณพ่อเสิ่นเห็นสองแม่ลูกกระซิบกันจึงพูดยิ้มๆ ว่า “พวกเธอสองคนพูดอะไรอยู่ ทำไมต้องแอบคุยกันแล้วทำไมไม่บอกฉันด้วย”
“ตาแก่นี้ ทังหยวนล่ะ” คุณแม่เสิ่นหันกลับมา พบว่าไม่เห็นหลานชายตัวเองแล้วจึงร้อนรนทันที
คุณพ่อเสิ่นก็ตกใจจนหน้าซีด รีบตามหาและพบว่าเด็กน้อยไปนอนอยู่หลังโซฟาแล้วจึงอุ้มเขาขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้ต่อว่า เสิ่นหลานอีเห็นทังหยวนจึงถามขึ้น “นี่คือ….”
“อ้อ นี้คือลูกพี่ชายใหญ่ของลูก ลูกชายของจือเถิง ชื่อจริงว่าอวิ่นฉี ชื่อเล่นว่าทังหยวน” พูดถึงทังหยวนขึ้นมา คุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นก็รักมาก
เด็กน้อยเพิ่งจะสองขวบ เป็นวัยกำลังเล่นกำลังซน วันนี้พ่อกับแม่ออกไปทำงาน และคุณปู่คุณย่าก็ต้องไปร่วมงานเลี้ยง ดังนั้นจึงพาทังหยวนมาให้คุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นช่วยเลี้ยง และยังมีพี่เลี้ยงเด็กอีกคน เลยไม่ต้องกลัวว่าจะจัดการไม่ได้
ถังโจวโจวเห็นเสียวอวี่มองทังหยวนเหมือนต้องการที่จะไปหาเขา คิดว่าเสียวอวี่คงเห็นเด็กที่อายุไล่เลี่ยกันเลยรู้สึกสนใจขึ้นมา
“เสียวอวี่เด็กดี ลูกยังเดินไม่เป็น เดี๋ยวจะล้มเอานะจ๊ะ” ถังโจวโจวไม่มีทางที่จะปล่อยลูกลง เด็กคนนี้ยังไม่สามารถวิ่งเองได้ ทังหยวนสองขวบแล้ว ไม่เหมือนกับเสียวอวี่ที่ยังเด็กน้อยไม่ตั้งไข่
แต่เมื่อทังหยวนเห็นเสียวอวี่ก็เขามาและเรียกว่าน้องชาย คุณแม่เสิ่นเห็นทังหยวนท่าทางตื่นเต้นจึงต้องการให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน “ถ้าอย่างนั้นให้ลูกมาเล่นกับทังหยวนหน่อยไหม วางบนพื้นเสื่อนี่แหละ”
“ก็ดีค่ะ พี่น้องเล่นด้วยกัน มีพวกเราดูอยู่ คงวิ่งไปไหนไม่ได้ หนูจะได้คุยกับพ่อแม่ด้วย” เสิ่นหลานอีต้องรู้สึกเสียใจที่หลายปีมานี้ลูกของเธอก็มีลูกชายแล้ว และโอวหยางหงก็ถึงวัยที่ใกล้จะแต่งงานมีครอบครัวแล้วเช่นกัน
ลั่วอิงนั่งดูน้องชายทั้งสองอยู่ข้างๆ และคุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นก็นั่งลงบนโซฟา พูดคุยกันเรื่องของเสิ่นหลานอีกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ถึงตอนค่ำ บ้านตระกูลเสิ่นก็ยิ่งครึกครื้น เสิ่นกั่วต้งและเสิ่นกั่วเหลียงพาภรรยาของตัวเองกลับมา เมื่อเห็นเสิ่นหลานอี น้ำตาของทั้งสองคนก็ไหลออกมาทันที
เมื่อพบกันน้ำตาก็เอ่อมาปกคลุมดวงตาเหมือนหมอกหนา สุดท้ายเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามยิ้ม ตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วย
อาหารค่ำก็กินกันที่บ้านตระกูลเสิ่น เพียงแต่ เมื่อมาถึงเรื่องที่พักก็เกิดการคัดค้านกันเกิดขึ้น โอวหยางเลี่ยอยากพาเสิ่นหลานอีไปนอนโรงแรม พวกถังโจวโจวก็ยังไงก็ได้ เสิ่นหลานอีไม่ได้เจอครอบครัวนานมากแล้ว เป็นธรรมดาที่อยากจะอยู่บ้านตระกูลเสิ่น
สุดท้ายเสิ่นหลานอีก็ชนะ เสิ่นหลานอีและพ่อแม่คุยกันถึงสี่ทุ่มกว่า มองเวลาก็ดึกแล้ว ถึงแยกย้ายกลับห้อง
ห้องอยู่ใกล้พ่อแม่เสิ่นกั่วต้ง เสิ่นกั่วเหลียง แบบนี้ก็สามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด ใช้ชีวิตของตัวเองควบคู่กันไป