ตอนที่ 474 หลินเหยาเป็นเพื่อนเจ้าสาว
“ม่าม้า” นับวันเสี่ยวอวี่ยิ่งพูดชัดขึ้น ช่วงนี้เขาเริ่มเดินได้แล้ว ก่อนหน้านี้เอาเขาวางลงบนพื้น เขาก็รู้สึกกลัว คิดอยากจะให้เธอใช้มือพยุงอยู่ข้างหนึ่ง บางครั้งแค่นั่งลงบนพื้น ถังโจวโจวก็รู้สึกว่าเขาขี้เกียจเป็นพิเศษ
แต่ลั่วเซ่าเชินกลับไม่คิดอย่างนั้น ลูกชายของตัวเองก็แค่ไม่อยากเดินเท่านั้น ถ้าเขาเริ่มเรียนรู้แล้วจริงๆ ล่ะก็ จะต้องเรียนรู้ได้เร็วกว่าใครแน่นอน
บางทีก่อนหน้านี้ลั่วเซ่าเชินอาจเป็นหมอดูเพราะเขาพูดถูก เพราะเมื่อเสียวอวี่เริ่มเรียนรู้วันๆ ก็ต้องการให้มีคนคอยประคองไปดูทางนั้นทีทางนี้ที มีบางครั้งที่คุณจะรู้สึกปวดหลังเพราะก้มตัวมากเกินไป
ช่วงนี้ถังโจวโจวยุ่งเรื่องเตรียมงานแต่ง ตอนแรกคุณแม่ลั่วก็สัญญาว่าไม่ต้องให้ถังโจวโจวเป็นห่วง แต่ก็ต้องมีบางเรื่องที่ต้องให้ถังโจวโจวออกหน้า ดังนั้นถังโจวโจวยังรู้สึกว่าค่อนข้างยุ่งยากอยู่บ้าง
เมื่อเสิ่นหลานอีรู้ข่าวก็บอกว่าจะรีบมาช่วงใกล้วันแต่งงานของถังโจวโจว เสิ่นหลานอีและคุณพ่อเสิ่นคุณแม่เสิ่นไม่ได้เจอกันนานจึงถือโอกาสสั้นๆ นี้อยู่เป็นเพื่อนพวกท่าน เพราะเธอรู้ว่าเธอคงอยู่ที่ประเทศจีนได้ไม่นานนัก
เรื่องที่สองคือโอวหยางเลี่ยเองก็ไม่ต้องการจะอยู่ที่นี่นานนัก นอกจากเตรียมของขวัญให้ถังโจวโจวแล้ว สถานที่ยิ่งมีคนเยอะ มีเสียงดังยิ่งเป็นสิ่งที่เขาเกลียด
และคุณแม่ลั่วเองก็ถามถึงแม่แท้ๆ ของถังโจวโจวอยู่ตลอด พอรู้ว่าพวกเขามาเร็วกว่านี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ทางด้านเมิ่งไหวเซิน ถังโจวโจวเองไม่ได้อยากคุยกับเขา แต่คุณพ่อถังคุณแม่ถังบอกว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ต่อมาถังโจวโจวเองก็มาคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน การกระทำของเมิ่งไหวเซินก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องทำเหมือนเขาเสียหน่อย
ถังโจวโจวยังส่งการ์ดเชิญไปที่บ้านตระกูลเมิ่ง แต่เมิ่งไหวเซินไม่ได้เป็นคนรับ แต่กลับตกไปอยู่ในมือของฉินอวิ๋น เธอเห็นบนการ์ดเขียนชื่อของถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชิน คนเลวอย่างพวกเขาสองคนจะแต่งงานกันแล้ว
แต่ลูกสาวเธอจนถึงวันนี้ยังอยู่ในคุก ตอนนี้ลั่วเซ่าเชินสนใจแต่เรื่องงานแต่ของตัวเองกับถังโจวโจว จะมีเวลาที่ไหนมาสนใจเมิ่งชิงซี
อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่สามารถพ้นจากข้อกล่าวหาได้ ฉินอวิ๋นแค่เกลียดที่ครั้งก่อนตัวเองไม่รอบคอบพอ ถ้ากำจัดถังโจวโจวได้ก็คงจะไม่เกิดเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ตามมา ใครจะไปรู้ว่าถังโจวโจวได้รับโอกาสดีๆ แบบนี้ ตอนนี้ก็ไปทำความรู้จักกับคุณปู่เมิ่งแล้ว ถังโจวโจวและเมิ่งชิงซีนับวันยิ่งไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้
ฉินอวิ๋นเอาการ์ดที่ลั่วเซ่าเชินส่งมาโยนลงบนโต๊ะ ตอนนี้ถังโจวโจวชนะแล้ว แต่ขอแค่รอให้ชิงซีของเธอออกมาก่อนเถอะนั่นก็ยังไม่แน่ว่าใครจะเป็นคนหัวเราะเป็นคนสุดท้าย
เรื่องที่ฉินอวิ๋นคิดนั้นถังโจวโจวไม่รู้เลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เธอเหมือนตกลงไปในไหน้ำผึ้ง นอกจากเรื่องของลั่วอิงและเสี่ยวอวี่แล้วเรื่องอื่นๆ คุณพ่อถังคุณแม่ถังและคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด และแน่นอนว่าลั่วเซ่าเชินเองก็ร่วมมือด้วย
เรื่องเพื่อนเจ้าบ่าวที่ลั่วเซ่าเชินต้องเลือกนั้น โอวหยางหงเองก็ได้ข่าวว่ามีชื่อของเขาด้วย ถังโจวโจวเองก็รู้สึกเห็นด้วย แต่ลั่วเซ่าเชินดูเหมือนอยากจะทรมานเขาเพราะไม่ยอมตัดสินใจเสียที โอวหยางหงกลับไม่ได้เกรงอกเกรงใจเขาขนาดนั้น
เขาแค่ถามกลับไปคำหนึ่งว่าถึงเวลานั้นยังอยากจะได้รับการต้อนรับจากครอบครัวอย่างอบอุ่นหรือไม่ ถ้าไม่อยากก็บอกมาให้เร็วๆ เขาจะได้ไม่ต้องเสียความรู้สึกมาก
จากการข่มขู่นี้บวกกับจิตใจที่ตื่นเต้นก่อนงานแต่งลั่วเซ่าเชินจึงพยักหน้ายินยอมเล็กน้อย อย่างไรก็ตามต่อไปก็ยังสามารถเอาคืนเขาได้ นอกจากโอวหยางหงจะแต่งงาน ไม่อย่างนั้นเขาต้องส่งของขวัญชิ้นใหญ่กลับไปให้แน่
เพื่อนเจ้าสาวเองก็มีตัวเลือกแล้ว แน่นอนว่าขาดหลินเหยาไปไม่ได้ แต่ถังโจวโจวคิดไปคิดมา คนที่เธอรู้จัก นอกจากหลินเหยาแล้วก็ไม่มีคนที่เธอสนิทแต่ยังไม่แต่งงานเลย
ถังโจวโจวและหลินเหยาจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้อง หลินเหยามาช่วยงานที่บ้านตระกูลลั่วหลายวันแล้ว คอยช่วยอยู่เป็นเพื่อนถังโจวโจว คอยดูว่าเธอมีอาการหวาดกลัวการแต่งงานไหม อีกอย่างก็มาเป็นพี่เลี้ยงให้เสี่ยวอวี่ด้วย
ตอนที่ 475 เรื่องแต่งงาน
เตรียมการมานานแล้ว วันฤกษ์งามยามดีก็มาถึง วันที่แปดเดือนสิงหาคม งานแต่งงานของลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวที่จัดขึ้นในเมืองเอสและกลายเป็นงานที่มีชื่อเสียงที่สุดที่จัดขึ้น
ก่อนงานแต่งสามวัน เดิมทีคุณพ่อถังคุณแม่ถังก็อยากพาถังโจวโจวกลับไป ที่ไหนได้เสี่ยวอวี่ไม่ยอม ลั่วเซินยิ่งไม่ยอมกว่า คุณพ่อถังคุณแม่ถังกังวลเกี่ยวกับธรรมเนียมเก่าแก่ กลัวว่าบ่าวสาวเจอกันก่อนจะแต่งงานในช่วงสามวันจะทำให้ชีวิตหลังแต่งงานไม่ราบรื่น
แต่ลูกที่โตแล้วก็ดื้อดึง สุดท้ายก็ยินยอม ก่อนงานแต่งหนึ่งวันจะต้องพาถังโจวโจวกลับไป หลังจากนั้นวันที่สองก็แต่งออกจากบ้านตระกูลถัง
สำหรับถังโจวโจวสถนาที่การแต่งออกก็ยังมีโต้เถียง คุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วคิดว่าในเมื่อถังโจวโจวก็รู้จักพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องออกแต่งจากบ้านตระกูลเมิ่ง แต่ถังโจวโจวไม่ยอมฟัง รู้สึกว่าคุณพ่อถังคุณแม่ถังเสียเปรียบ เสิ่นหลานอีก็รู้สึกว่าคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วเป็นคนหัวสูงมาก
สุดท้ายยังไม่สามารถทนแรงกดดันได้ คุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วทำได้แค่ตอบรับ แม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าที่อยู่บ้านตระกูลถังจะทำให้พวกเขารู้สึกขายหน้า แต่เพียงแค่ถึงเวลาแล้วค่อยพูดกับคนอื่นๆ จะต้องให้เขารู้ว่าสะใภ้ของเขาคือลูกหลานตระกูลเมิ่งและตระกูลเสิ่น
ก่อนงานแต่งถังโจวโจวหนึ่งวัน ในตอนค่ำหลินเหยาก็มาอยู่เป็นเพื่อน อยู่บ้านเจ้าสาวหนึ่งคืน ตอนค่ำถังโจวโจวอยากจะนอนหลับ น่าเสียดายที่หลินเหยาทำให้เธอต้องตื่น “โจวโจวเธอตื่นเต้นไหม”
“อื้อ ก็ไม่เท่าไหร่นะ” ถังโจวโจวหลับตา เธอรู้สึกว่าค่อนข้างง่วง แต่จู่ๆ หลินเหยาก็ถามขึ้นมาอีก ทำให้เธอตกใจสะดุ้งตื่น
หลินเหยาลูบหน้าอกตัวเองเบาๆ รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้น เธอก็รู้สึกสงสัยว่าเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่งานแต่ตัวเอง แต่ทำไมเธอกลับตื่นเต้นกว่าถังโจวโจว นี่มันเหตุผลอะไรกัน
“โจวโจว เธอไม่รู้สึกอะไรสักนิดเลยจริงๆ เหรอ” หลินเหยาไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่ไม่สนใจวันสำคัญของตัวเองอยู่ นี่โกหกกันชัดๆ
ถึงแม้วันนี้จะไม่ใช่วันจริง แต่คนอื่นก็ต่างตื่นเต้นจนนอนไม่หลับกันทั้งนั้น หลินเหยามองถังโจวโจวที่อยู่ข้างๆ พบว่าเธอไม่พูดกับตนอีก คงจะหลับไปแล้ว นี่มันอะไรกัน
เธอที่เป็นเจ้าสาวดันไม่กลัดกลุ้ม ส่วนตนเป็นแค่เพื่อนเจ้าสาวกลับเป็นกังวลนั่นกังวลนี่
“ก็ไม่ใช่ เหยาเหยา ทำไมเธอถึงถามอย่างนั้นล่ะ ตอนแรกฉันจะหลับอยู่แล้วเชียว” ถังโจวโจวเสียงดังขึ้นมา รบกวนการหลับฝันดีของเธอจริงๆ
“เพราะฉันนอนไม่หลับน่ะสิ” หลินเหยาไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ทำไมถึงต้องเอาเรื่องของคนอื่นมากังวลแบบนี้ หลินเหยาร้องไห้อย่างขมขื่น “กังวลจังเลย”
“ผ่อนคลายหน่อย เธอคงกลัวว่าวันงานพรุ่งนี้จะไม่ราบรื่น เหยาเหยา เธอกังวลมากเกินไปแล้ว ฉันกับเซ่าเซินเป็นสามีภรรยากันนานแล้วนะ”
ก็แค่พรุ่งนี้ไปจัดงานใหญ่ หลังจากนั้นพวกเธอก็ใช้ชีวิตกันต่อไปเหมือนเดิม ถังโจวโจวเป็นห่วงแค่เสี่ยวอวี่ ไม่รู้ว่าตนไม่อยู่ข้างๆ เขาจะตกใจไหม
“อ้อ ฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย” ใช่ พวกเธอขึ้นรถก่อนแล้วถึงจ่ายค่าตั๋ว นี่มันเกินไปหรือเปล่า
“เอาล่ะ เหยาเหยา ฉันไม่กังวลอะไรทั้งนั้น เธอยังห่วงเรื่องอะไร รีบนอนเถอะ” ถังโจวโจวหาวอีกครั้ง พรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้า ถึงเวลาหลินเหยาลุกไม่ขึ้นแล้วจะแย่
“โธ่เอ๊ย โจวโจว อย่าเพิ่งนอน เธอคิดว่าตอนฉันแต่งงานจะเป็นอย่างนี้ไหม”
ในที่สุดถังโจวโจวก็ตื่น ทั้งห้องก็ได้ยินแต่เสียงถังโจวโจว “อะไรนะ เธอบอกว่าเธอจะแต่งงานเหรอ กับใคร”
ก่อนหน้านี้ยังพูดถึงเรื่องงานแต่งของเธอในวันพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ ถังโจวโจวตามไม่ทันแล้ว
“โธ่ ก็ต้องเป็นฟังหยวนสิ” ตอนนี้หลินเหยาแค่ลองคิด ยังไม่ได้แน่นอนอะไร จะให้คนอื่นจินตนาการไปไกลก็ไม่ได้ไหม
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นฟังหยวน เธอจะแต่งงานเมื่อไหร่” เร็วขนาดนี้ก็ตกลงแต่งงานกันแล้ว ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันมากทีเดียว
“ฉันแค่ถามเฉยๆ ตอนนี้ยังไม่ตกลงอะไร ฉันยังต้องพิจารณาเขาอีกหลายปี” หลินเหยากลัวว่าจะต้องได้รับบทเรียนเหมือนในอดีต ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับการดูไปนานๆ แต่จะให้เธอรีบแต่งานก็ทำไม่ได้เหมือนกัน