หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 139

ตอนที่ 139

เพื่อนเพียงคนเดียว
“ถานเปิงเปิง?” สายตาของอวี๋เยว่หานดูตกตะลึง ราวกับสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป

เป็นชื่อที่แปลกอะไรอย่างนี้

จากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วยังอยู่ในห้องทำงาน จึงบอกให้ผู้ช่วยอย่าเพิ่งพูด

เขากดโทรศัพท์ภายใน ให้เลขาพาเธอออกไปเล่นก่อน

หลังจากเสี่ยวลิ่วลิ่วออกไปแล้ว เขาถึงจะเอ่ยปากอีกครั้ง “เรื่องเป็นยังไงมายังไง”

ผู้ช่วยรีบร้อนวางข้อมูลในมือลงตรงหน้าเขา

นอกจากข้อมูลปูมหลังของถานเปิงเปิงแล้ว ในข้อมูลยังแนบรูปภาพที่เธอใส่เสื้อกาวน์อยู่ในโรงพยาบาลด้วย

ใบหน้าสดสวย สีหน้าสงบเสงี่ยม สวมแว่นตากรอบทองดูเป็นมืออาชีพมาก…

ดูแล้วเธอก็มีภาพลักษณ์ของหมอมืออาชีพเต็มเปี่ยม

“ยังคงหาข้อมูลปูมหลังก่อนอายุยี่สิบของเหนียนเสี่ยวมู่ไม่เจอ แต่พวกเราพบว่าหลังจากเธออายุยี่สิบแล้ว คนที่พอจะนับได้ว่าเป็นเพื่อนก็มีเพียงคนเดียว นั่นก็ถือถานเปิงเปิง” ผู้ช่วยพูดจบพร้อมสีหน้าเจือความสับสน

พวกเขาสืบมานานขนาดนี้ แต่แทบจะไม่ได้อะไรเลย

แม้แต่เขาก็เริ่มสงสัย ว่าเครือข่ายข้อมูลของตระกูลเกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า

ยังดีที่คราวนี้ได้อะไรกลับมาบ้าง

“ถานเปิงเปิงเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลครับ เพิ่งย้ายไปอยู่แผนกจิตเวช เหมือนจะรู้จักกับเหนียนเสี่ยวมู่เพราะความสัมพันธ์ของหมอกับคนไข้ นอกจากเวลาทำงานแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่แทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใคร ถานเปิงเปิงคนนี้ข้อยกเว้น และดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะไม่เลวเลย”

ชีวิตของเหนียนเสี่ยวมู่ราบเรียบมากจริงๆ

นอกจากทำงาน ก็แทบจะไม่มีความบันเทิงอะไร

ก่อนหน้านี้เธอเรียนวิชาพยาบาล ต่อมาก็มาเป็นพยาบาล

แต่พวกเขาสืบไม่พบอะไรนอกเหนือจากนี้แล้ว

เธอไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อน…

ผู้ช่วยยังจำได้ ตอนพวกเขาเจอเหนียนเสี่ยวมู่ที่โรงพยาบาลเป็นครั้งแรก เขาไปสอบถามมาว่าวันนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ไปทำอะไรที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่เจอถานเปิงเปิง

แต่สืบต่อไปแล้วก็ไม่เจอเรื่องอื่น

เหนียนเสี่ยวมู่เพียงแค่นำเค้กไปที่โรงพยาบาลในวันเกิดของเพื่อน ไม่มีตรงไหนผิดปกติ

“สืบเรื่องของเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ งั้นก็สืบแค่ถานเปิงเปิง” เสียงทุ้มต่ำของอวี๋เยว่หานดังขึ้นอย่างเชื่องช้า

นิ้วเรียวยาวจีบรูปภาพที่แนบมากับเอกสาร เขาชำเลืองมองมันครั้งหนึ่ง นัยน์ตาสวยหยาดเยิ้มซ่อนความระแวดระวังเอาไว้

อยากจะปกปิดฐานะของตัวเองเป็นเรื่องง่ายมาก แต่อยากปกปิดฐานะของคนข้างกายนั้นยากกว่ามาก

หาถานเปิงเปิงพบ ก็เท่ากับพบรอยรั่วจุดหนึ่ง

ขอเพียงสืบสาวตามรอยรั่วนี้ไป ไม่ช้าก็เร็วต้องพบว่าเป็นเหนียนเสี่ยวมู่เป็นใครกันแน่

อวี๋เยว่หานหลุบตา วางรูปภาพในมือลง ก่อนจะขยับริมฝีปากบาง “ไปสืบเดี๋ยวนี้ว่าถานเปิงเปิงเป็นคนยังไง พวกเธอรู้จักกันได้ยังไง แล้วก็เหนียนเสี่ยวมู่ดูจะต้องการเงินมาก ฉันต้องรู้ว่าทำไม”

ในหัวของเขามีภาพดวงตาเป็นประกายตอนที่เธอพูดถึงเงินทุกครั้ง

ปฏิกิริยาแบบนั้นไม่ได้เสแสร้งเลยจริงๆ…

“ครับ” ผู้ช่วยโค้งตัวด้วยความนอบน้อม แล้วจึงหมุนตัวออกจากห้องทำงานไป

ห้องทำงานประธานบริษัทโอ่โถงว่างเปล่าลงไปถนัดตา

อวี๋เยว่หานหลุบตา กำลังจะหยิบเอกสารขึ้น แค่สายตากลับเหลือบเห็นรูปวาดของเสี่ยวลิ่วลิ่วเสียก่อน

รูปวาดไก่เขี่ยของเด็กหญิงเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา

เพียงแต่ฝีมือการวาดนั้น…

เขากวาดสายตามองเสาไฟฟ้าบนรูปวาด นึกถึงคำพูดของใครบางคนได้ในทันที วาดได้เหมือนจริงราวกับมีชีวิต

เขามีสีหน้าดำคล้ำแล้ว

เขากดโทรศัพท์ภายใน “ประกาศให้แผนกประชาสัมพันธ์ทราบ เอกสารสำคัญทุกอย่างที่ต้องส่งมาที่ห้องทำงานผม ให้เหนียนเสี่ยวมู่เป็นคนเอามาส่งทั้งหมด”

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

Status: Ongoing
ด้วยความรักครั้งก่อนทิ้งบาดแผลลึกไว้ในใจของ ถังโจวโจว มัณฑนากรสาวจึงครองตัวเป็นโสดตลอดมา แต่แล้วชายหนุ่มที่เธอบังเอิญเจอในโรงแรม ผู้ซึ่งเป็นเหมือนปิศาจร้ายที่เธอไม่คิดจะเจออีกชั่วชีวิตนี้ กลับเป็นถึงผู้อำนวยการของลั่วกรุ๊ป ลั่วเซ่าเซิน ผู้ชี้ชะตาโปรเจกต์ใหญ่ของบริษัทเธอ น่าเจ็บใจที่ถึงแม้เธออยากตีตัวออกห่างเขาขนาดไหน แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับความหล่อกระชากใจและโปรเจกต์ทำเงินมหาศาลอยู่ร่ำไป!
อีกทั้ง ลั่วอิง ลูกสาวตัวน้อยของเขายังถูกใจเธอเข้าอย่างจัง ลั่วเซ่าเซินเห็นว่าเป็นโอกาสให้พ่อแม่เลิกรบเร้าเรื่องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ถูกใจเสียที จึงยื่นข้อเสนอให้เธอแต่งงานกับเขา แล้วโปรเจกต์ใหญ่ที่เธอตั้งตารอก็จะตกเป็นของเธอทันที!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท