หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 219 บอกว่าไม่คุ้นเคยไม่ใช่เหรอ / ตอนที่ 220 คุณอยู่ห่างๆ ผมหน่อย!
ตอนที่ 219 บอกว่าไม่คุ้นเคยไม่ใช่เหรอ
เหนียนเสี่ยวมู่สังเกตเห็นสายตาของเขา แต่ได้ยินเสียงของเฉินจื่อซิน จึงตอบตามสัญชาตญาณ “ไม่ได้ไม่ถูกปากหรอกค่ะ แต่อาหารที่นี่แพงมาก แค่กินอาหารเช้าเอง คุณจะไม่กระเป๋าฉีกเหรอคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของอวี๋เยว่หานก็ยิ่งดำคล้ำ
พวกเขาไม่ได้ว่าอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เธออยากจะช่วยเฉินจื่อซินประหยัดเงินอย่างนั้นเหรอ
เฉินจื่อซินเองก็อึ้งไป ราวกับเพิ่งเคยพบเจอผู้หญิงที่น่ารักจริงใจแบบนี้เป็นครั้งแรก รอยยิ้มในดวงตาของเขาจึงยิ่งฉายชัดขึ้น เขารับเมนูในมือของเธอไป แล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ร้านนี้แพงหน่อย แต่อาหารอร่อยจริงๆ นะครับ คุณชอบกินอะไร ผมจะช่วยคุณสั่งเอง ได้เลี้ยงสาวสวยแบบนี้ ถือเป็นเกียรติของผมเลย”
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่เห็นเขาไม่ได้ใส่ใจ จึงทำตัวตามสบาย และไม่กังวลอะไรอีก
หญิงสาวยกแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม “ฉันไม่เลือกกินหรอกค่ะ กินอะไรก็ได้ คุณคุ้นเคยกับที่นี่ดี งั้นรบกวนคุณแนะนำให้ฉันสักจานสองจานแล้วกันค่ะ”
“ได้ครับ ที่นี่ทำซาลาเปาไส้ปูอร่อยมาก ขนมปังขาหมูยูนนานก็ดี…” เฉินจื่อซินหยิบเมนูอาหารมาชี้ให้เหนียนเสี่ยวมู่ดู เมื่อเห็นเธอพยักหน้า เขาก็สั่งอาหารกับพนักงานข้างๆ ทันที
ทั้งสองคนพูดคุยกันไม่หยุด ตัวแทบจะติดกันเพราะดูเมนูอาหารเล่มเดียวกันอยู่แล้ว
อวี๋เยว่หานกำมือที่กำลังถือแก้วน้ำเข้าหากันเงียบๆ เส้นเลือดหลังมือปูดโปน ก่อนจะวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะอย่างแรงทันที
“ปัง” เสียงนี้ดึงดูดความสนใจของคนทั้งสองได้ทันที
“มือลื่น” อวี๋เยว่หานสบสายตาสองสายที่ส่งมา พลางตอบอย่างเรียบง่ายด้วยสีหน้าเฉยเมย
กลิ่นอายเย็นเยียบรอบตัวเขากลับไม่ปกติเหมือนท่าทางของเขา
กลับเหมือนมีใครติดหนี้เขาอยู่หลายพันล้าง แถมยังหนีไปอีกต่างหาก
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดำคล้ำลง
บรรยากาศในห้องส่วนตัวตึงเครียดขึ้น ตามความกดอากาศต่ำที่ปล่อยออกมาจากตัวเขา
เหนียนเสี่ยวมู่รีบหยิบเมนูอาหารขึ้นมาวางลงตรงหน้าเขา “พวกเราสั่งเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่คุณ”
เมื่อได้ยินเธอพูดคำว่า ‘พวกเรา’ สีหน้าของอวี๋เยว่หานก็เย็นชาเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน
ชายหนุ่มชำเลืองมองเมนูอาหารที่เธอวางไว้ข้างหน้า แล้วมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ใกล้เฉินจื่อซินเป็นพิเศษ ก่อนจะกล่าวว่า “ผมไม่คุ้นเคยกับที่นี่ คุณก็แนะนำอาหารจานเด็ดให้ผมสักจานสิ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เธอก็เพิ่งจะมาที่นี่ครั้งแรก แล้วจะแนะนำให้เขาได้อย่างไร
แต่เขาพูดออกมาแล้ว ถ้าเธอเมินเฉยก็คงไม่ดีนัก
เหนียนเสี่ยวมู่ทำได้แค่ขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ๆ เขา ก่อนจะชี้เมนูอาหารบนโต๊ะ พลางทำหน้ามุ่ย “ฉันสั่งซาลาเปาไส้ปูไปแล้ว ปอเปี๊ยะทอดก็เหมือนกัน…ที่จริงแล้วฉันไม่เคยกินหรอก แต่รองประธานเฉินแนะนำ ดูท่าทางน่าอร่อยดี”
พอพูดถึงอาหาร สีหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่ก็เปลี่ยนไป
ดวงตาของเธอเป็นประกาย แถมกลัวว่าอวี๋เยว่หานจะไม่เห็นอาหารที่เธอชี้ จึงกระเถิบไปข้างๆ เขาอีก คราวนี้ตัวเธอแทบจะเบียดเข้าไปในอกของเขาอยู่แล้ว
กลิ่มหอมเป็นธรรมชาติบนตัวของเธอโชยเข้ามาในจมูกของเขา หัวเล็กๆ นั่นก็ส่ายไปมาอยู่ใต้เปลือกตาของเขาด้วย…
เธอมองเมนูอาหาร แต่เขากลับมองเธอ
จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมาถามความเห็นจากเขา อวี๋เยว่หานถึงจะรู้ตัวว่าตัวเองเหม่อลอย จึงกระแอมเสียงเบาขึ้นมาสองเสียง “ก็สั่งที่คุณแนะนำนั่นแหละ”
เธอแนะนำอะไรไป เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา เมื่อเห็นเขาไม่มีความเห็นอื่น จึงมองพนักงานพร้อมรอยยิ้ม “เอาเหมือนกันมาอีกจานหนึ่งค่ะ”
หลังจากเธอพูดจบ ประตูห้องอาหารส่วนตัวก็ถูกเปิดออก ปรากฏคนที่เหมือนจะเป็นผู้จัดการเดินเข้ามาจากข้างนอก
คนคนนั้นเห็นอวี๋เยว่หานแล้ว ก็เข้ามาต้อนรับอย่างนอบน้อม
“คุณชายหาน คุณเป็นลูกค้าประจำของร้านเรา ทำไมถึงมานั่งในห้องส่วนตัวธรรมดาล่ะครับ ผมจะให้คนเปลี่ยนเป็นห้องพิเศษให้เดี๋ยวนี้!”
ตอนที่ 220 คุณอยู่ห่างๆ ผมหน่อย!
คำพูดที่ออกมาจากปากของผู้จัดการ ทำเอาทั้งห้องอาหารจมอยู่ในความเงียบสงบอย่างน่าประหลาดใจทันที
เหนียนเสี่ยวมู่หันไปมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ
ลูกค้าประจำ?
เมื่อกี้เขาบอกว่าไม่คุ้นเคยกับที่นี่ไม่ใช่เหรอ ไม่คิดเลยว่าจะเปลี่ยนไปห้องพิเศษก็ได้…
ครั้นเห็นสายตาช่างสงสัยของเธอ อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือไปตีหน้าผากของเธอเบาๆ อย่างเฉยชา ก่อนจะขยับริมฝีปากบาง “ไม่ได้มานานแล้ว ก็เลยลืม”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ผู้จัดการร้านอาหารมีสายตาแหลมคม เขาเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดี และรู้ตัวว่าตนเองพูดผิดไป จึงรีบพูดเสริม “คุณชายหานไม่ค่อยมีเวลามาจริงๆ นั่นแหละครับ”
หลังจากลังเลอีกหลายวินาที เขาก็ถามขึ้นมาอย่างระแวดระวัง “คุณชายหานยังอยากเปลี่ยนไปห้องพิเศษอยู่ไหมครับ”
อวี๋เยว่หานไม่ตอบ แต่หันไปมองเหนียนเสี่ยวมู่
แค่มากินข้าวที่นี่เธอก็หวาดผวาแล้ว ขึ้นไปนั่งในห้องพิเศษอีก เธอก็คงกลัวจนกินไม่ลงแน่
เขาหลุบตาลง แล้วพูดเสียงเบา “ไม่ต้องหรอก”
ชายหนุ่มพูดจบ ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างผิดหวังดังมาจากข้างๆ อย่างชัดเจน
เขาตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเลิกคิ้วมองเธอ “คุณอยากเปลี่ยนห้องเหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา นัยน์ตาคู่นั้นของเหนียนเสี่ยวมู่ก็เป็นประกายในทันที พลางมองเขาตาปริบๆ และพยักหน้าเหมือนตำกระเทียม “ห้องธรรมดายังหรูหราขนาดนี้ ไม่รู้ว่าห้องพิเศษเป็นยังไง ถึงยังไงฉันก็ไม่ต้องจ่ายเงิน ไปเปิดหูเปิดตาก็ดีเหมือนกัน”
อวี๋เยว่หาน “…”
เขาเข้าใจความหมายของเธอได้ เธอร้อนใจอยากช่วยเฉินจื่อซินประหยัดเงิน แต่จะใช้จ่ายเงินของเขาตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ
อวี๋เยว่หานยกมือขึ้นปิดตาของเธอ แล้วดันเธอออกจากตัวเองเล็กน้อย
“อยู่ห่างๆ ผมหน่อย”
เขากลัวว่าอีกสักพักจะทนตีเธอให้ตายไม่ไหว!
เหนียนเสี่ยวมู่ถูกเมินเฉยอย่างกะทันหัน จึงกลับไปนั่งที่ของตัวเองด้วยความโมโห ก่อนจะดื่มน้ำไปพลาง แขวะเขาอยู่ในใจไปพลาง
ยิ่งรวยยิ่งใจดำจริงๆ ด้วย!
เฉินจื่อซินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของคนทั้งคู่ อยู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินขึ้นมา
เขาตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อดึงสติกลับมาได้ ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อพูดกับเหนียนเสี่ยวมู่อย่างรู้งาน
“ก่อนผมกลับมาจากเมืองนอก เคยมีคนบอกผมว่าเบื้องหลังของซ่างซินไม่ธรรมดา อยากเชิญเธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผมคิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายคุณจะทำได้จริงๆ” เฉินจื่อซินกล่าวชมพร้อมรอยยิ้ม
“ถ้าเป็นคนทั่วไปคงจะยอมแพ้ไปนานแล้ว ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณเก่งมากจริงๆ ครับ”
“…” เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินแล้วก็หันไปมองอวี๋เยว่หานโดยสัญชาตญาณ
เธอกำลังลังเล ต้องบอกว่าความจริงแล้ว เรื่องซ่างซินเป็นความดีความชอบของเขาหรือเปล่านะ
แต่เมื่อเหลือบเห็นใบหน้าเย็นชาของเขาแล้ว เธอก็หดคอกลับไปเงียบๆ แล้วมองเฉินจื่อซิน “ความจริงแล้วซ่างซินไม่ได้เข้าถึงยากขนาดนั้นนะคะ ข่าวลือข้างนอกโอเวอร์เกินไปต่างหาก เธอสวย แล้วก็อ่อนโยนมากๆ เลยค่ะ”
“อ่อนโยน?” เฉินจื่อซินมองเธอด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง “นี่มันขัดกับข่าวลือของคนส่วนใหญ่นะครับ ผมได้ยินว่าซ่างซินเคยต่อยตาแก่หลายคนที่จะมาเอาเปรียบเธอด้วย”
“นั่นไม่ใช่เธอ…” เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งพูดได้ครึ่งเดียวก็ชะงักไป
ก่อนหน้านี้หญิงสาวยังไม่รู้จักซ่างซิน ก็เคยคิดว่าซ่างซินต่อยคนหลายคนจริงๆ
หลังจากได้รู้จักกันแล้ว ถึงรู้ว่าเธอรู้วิชาป้องกันตัวอยู่บ้าง แต่อยากจะล้มผู้ชายตัวใหญ่นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
พอได้ถามออกไป เธอถึงจะรู้ว่าเรื่องราวในข่าวลือ ยังมีอีกเวอร์ชันหนึ่ง
คนที่ลงมือต่อยตาแก่พวกนั้น คือถังหยวนซือ…
ถังหยวนซือในตอนนั้นรู้ว่าซ่างซินจะเข้าวงการ เขาทั้งต่อต้านอย่างยิ่งยวด และอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ จึงแอบปกป้องเธออยู่ตลอด