ตอนที่ 369 ใจฝ่อ VS เขินอาย
เหนียนเสี่ยวมู่ ‘…เมื่อกี้ไม่ใช่เธอ’
“อยากโผเข้าใส่ก็ทำไป ไม่ต้องอัดอั้น แต่ฉันอยากจะเตือนเธอสักหน่อย สบายๆ หน่อยนะ อย่าทำจนสุดชีวิต!” ถานเปิงเปิงกล่าว
“ฉันแค่คิด เธออย่าพูดอะไรน่ากลัวสิ…” เหนียนเสี่ยวมู่ทำปากจู๋
หญิงสาวกอดโทรศัพท์มือถือถือ มองหน้าจอดับลงไป
ในหัวของเธอมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการของอวี๋เยว่หานผุดขึ้นมา พร้อมด้วยคำพูดของถานเปิงเปิง…
อ๊ากก!
อะไรคือทำจนสุดชีวิต ถานเปิงเปิงลากมกจนทำให้เธอนอนไม่หลับในคืนนี้แล้ว!
วันต่อมา
เหนียนเสี่ยวมู่ตาดำเป็นหมีแพนด้าระดับสมบัติล้ำค่าของชาติ เธอหาวไปพลาง ถือกระเป๋าเดินออกข้างนอกไปพลาง
ดูท่าทางเมือนทำเรื่องไม่ดีมาทั้งคืนจริงๆ
พ่อบ้านยืนอยู่ในห้องรับแขก กำลังรออวี๋เยว่หานลงมาจากข้างบน ครั้นเห็นเธอ เขาก็อดที่จะจ้องมองอยู่หลายหนไม่ได้
ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากปากบันได
อวี๋เยว่หานน่าจะลงมาแล้ว…
ทำเอาเหนียนเสี่ยวมู่หวาดหวั่นขึ้นมาทันที!
เธอมองไปยังมุมเลี้ยวตรงบันได ก่อนจะมีภาพที่ใครบางคนดันและจูบเธอตรงราวบันไดผุดขึ้นมา
ความร้อนสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากปลายเท้า สู่หน้าผากโดยตรง
พวงแก้มของเธอแดงระเรื่อในทันที
หญิงสาวใช้สองมือปิดหน้า แล้วมองซ้ายมองขวา ไม่มีที่ให้เธอหลบได้เลย
เธอทำได้แค่ถือกระเป๋าพุ่งออกจากคฤหาสน์ไปด้วยความร้อนรุ่น!
ระหว่างทางไปที่บริษัท เหนียนเสี่ยวมู่หงุดหงิดใจอยู่ตลอด
จูบครั้งเดียว แต่เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เธอก็กลัวจนกุมหัววิ่งหนีไปแล้ว
แล้วเธอยังจะกล้าโผเข้าใส่อวี๋เยว่หานได้อย่างไร
งง!
ถ้าพ่อบ้านบอกเรื่องเมื่อครู่ให้อวี๋เยว่หานฟัง ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะหัวเราะขนาดไหนแล้ว…
เหนียนเสี่ยวมู่ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย สุดท้ายเธอจึงทิ่มหน้าลงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือตลอด
ครั้นคิดถึงคำพูดใจกล้าที่พูดให้ถานเปิงเปิงได้ยินเมื่อวาน เหนียนเสี่ยวมู่พลันเปิดกล่องข้อความอีกครั้ง และส่งข้อความหาอีกฝ่าย
[ทำไมโลกนี้ต้องมีคนชอบนางฟ้าเยอะแยะด้วย สวย เก่ง เพียบพร้อมยังไม่พอ ต้องสำรวมด้วย!]
ถานเปิงเปิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว [พูดภาษาคนหน่อย]
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ภาษาคนก็คือ [เมื่อวานโผเข้าใส่อวี๋เยว่หานไม่สำเร็จ เช้าวันนี้ก็ไม่ได้เจอเขา น่าแปลกที่ฉันใจฝ่อ กลัวจนต้องวิ่งหนี…] ความจริงแล้วเธอปิดหน้าด้วย
ผ่านไปสามวินาทีเต็มๆ ถานเปิงเปิงถึงจะตอบข้อความ
[เธอมีความรักแล้ว]
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ใช่ๆๆ เธอยอมรับ ท่าทางที่อวี๋เยว่หานปั้นตุ๊กตาหิมะให้เธอเมื่อวานนั้น หล่อมากจริงๆ!
หล่อจนขาอ่อน!
ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีผู้ชยามาสารภาพรักกับเธอ แต่ไม่เคยมีใครทำแบบเดียวกับอวี๋เยว่หาน
เพราะเขาปล่อยหมัดเด็ดโดยไม่พูดจาเลยด้วยซ้ำ!
เมื่อวานเธอคิดอยู่ตลอด ถ้าเธอไม่ออกไปเดินเล่น เขาคิดจะทำอย่างไร
แต่เมื่อได้คิดให้ดีๆ ด้วยระดับความเจ้าเล่ห์ของเขา กลัวแต่จะไม่มีปัญหานี้อยู่โดยสิ้นเชิง
คาดว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาคงจะหิ้วคอเสื้อของเธอ พาไปในพื้นหิมะโดยตรง…
หลังจากคิดถึงภาพนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็ทนไม่ได้ ต้องปิดหน้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดต่อไป
เมื่อรถมาถึงที่บริษัท เธอก็รีบเปิดประตูรถวิ่งลงไป
“ผู้จัดการเหนียน อรุณสวัสดิ์ค่ะ” หญิงสาวเพิ่งเข้าไปในแผนกประชาสัมพันธ์ เลขาพลันทักทายอย่างนอบน้อมทันที
เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และเข้าห้องทำงานของตัวเองไป
ครั้นมาถึงสภาพแวดล้อมของการทำงาน หัวใจอันว้าวุ่นของเธอก็สงบลงได้แล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปเปิดเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้า หลังจากกวาดสายตามองดูแล้ว เธอก็ต่อสายในให้เลขาเข้ามา
“ทางบริษัทตระกูลฟ่านมีข่าวใหม่อะไรไหม”
ตอนที่ 370 เชือดไก่ให้ลิงดู!
“ไม่มีค่ะ ตอนนี้บริษัทตระกูลฟ่านไม่ได้คิดที่จะแย่งลูกค้าคนสำคัญของเรา แต่ฉันได้ยินมาว่า ลูกค้าบางคนของแผนกเราแอบขอโอกาสร่วมงานกับบริษัทตระกูลฟ่านค่ะ” เลขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะพูดออกมา
บริษัทตระกูลอวี๋เป็นบริษัทแรกของตระกูลเอช ไม่ว่าขนาดหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ล้วนน่าประทับใจทั้งนั้น
มีลูกค้าไม่น้อยอาศัยต้นไม้ใหญ่อย่างบริษัทตระกูลอวี๋ ถึงตั้งหลักปักฐานในวงการธุรกิจได้
แต่พอเห็นผลประโยชน์ที่ใหญ่กว่าวางอยู่ตรงหน้า ก็มีใจออกห่างแล้ว
“มีข้อมูลที่ชัดเจนไหม” เหนียนเสี่ยวมู่วางทั้งสองมือซ้อนกันอยู่บนโต๊ะ สายตาดูเย็นชาขึ้น
เลขาชี้ไปยังสัญญาฉบับหนึ่งตรงหน้าเธอ “ประธานซูจากบริษัททีเอส เป็นตัวอย่างค่ะ”
“ประธานซู?” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงุนงงอยู่บ้าง
เธอเพิ่งเคยเห็นสัญญาฉบับนี้ มันเป็นสัญญาร่วมงานในไตรมาสใหม่ที่ประธานซูเพิ่งส่งมา
บริษัททีเอสมาต่อสัญญากับพวกเขาเอง แล้วจะมีใจออกห่างได้อย่างไร
“ผู้จัดการเหนียนเพิ่งมาทำงานที่บริษัทของเขา อาจจะมีข้อมูลที่ยังไม่รู้ค่ะ บริษัททีเอสกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่ปีทีแล้ว คาดว่าจะปล่อยออกมาในไตรมาสหน้า แต่สัญญาที่ส่งมาให้พวกเราในตอนนี้ ยังเหมือนกับไตรมาสที่แล้วอยู่…”
เลขายังพูดไม่จบ แต่เหนียนเสี่ยวมู่ก็เข้าใจแล้ว
“นั่นหมายความว่า เขาเลือกร่วมงานทำผลิตภัณฑ์ใหม่ของพวกเขากับคนอื่น!”
ครอบครองทรัพยากรลูกค้าสำคัญของบริษัทตระกูลอวี๋แท้ๆ แต่กลับติดต่อคู่แข่งของพวกเขาลับหลัง ให้คนอื่นมาจัดการผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขัน…
การกระทำแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการหักหลังเลย!
“ไม่ใช่แค่ประธานซูของแผนกเรานะคะ ฉันไปสอบถามแผนกอื่นมาด้วย มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเหมือนกันค่ะ แต่เพราะเกี่ยวข้องกับคู่ค้าค่อนข้างเยอะ ก็เลยจัดการได้ยาก” เลขาพูดจบก็ทำหน้าเป็นกังวล
กฎหมายใช่ไม่ได้กับคนส่วนใหญ่ เหมือนจะกลายเป็นกฎที่ทุกคนยอมรับกันอย่างเงียบๆ
ถึงแม้จะรู้ชัดเจน ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ถูกต้อง
แต่ผู้จัดการแผนกอื่น ก็ทำได้แค่ปวดหัวกับเรื่องนี้
“การป้องกันรักษาแก้ปัญหาไม่ได้” เหนียนเสี่ยวมู่พิงพนักเก้าอี้ ก่อนจะกวาดสายตามองสัญญาที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ
สัญญาเหล่านี้เป็นของลูกค้าคนสำคัญในแผนกประชาสัมพันธ์ทั้งนั้น
ตั้งรู้ว่าฟ่านอวี่แย่งลูกค้าของเธอ เธอก็คิดอยู่ตลอด ว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไร
สองครั้งก่อนเธอไปหยุดยั้งไว้ที่ร้านอาหาร แต่เธอก็อยากเข้าใจว่าฟ่านอวี่คิดจะทำอะไรกันแน่
เวลานี้เธอมีอยู่ความคิดหนึ่ง…
เหนียนเสี่ยวมู่ยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะหยิบสัญญาของบริษัททีเอสขึ้นมา แล้ววางลงตรงหน้าเลขา
“บอกประธานซูไปว่า บริษัทตระกูลอวี๋จะหยุดการทำงานร่วมกับบริษัททีเอส ส่วนงานที่ยังทำไม่สำเร็จ พวกเรายินดีจ่ายเงินชดเชย!”
“…” เลขาตะลึงงันไป
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ คุณช่วยฉันธุระอีกอย่างหนึ่งด้วยค่ะ หาคนที่เชื่อถือได้สักสองสามคน ปล่อยข่าวนี้ออกไป ให้ทุกคนรู้เหตุผลที่บริษัทตระกูลอวี๋ยกเลิกสัญญากับทีเอส เหตุผลนั้นคือพวกเราพบว่าพวกเขาแอบติดต่อกับบริษัทตระกูลฟ่าน!”
สีหน้าของเลขาเปลี่ยนไปในทันที “ผู้จัดการเหนียน คุณทำแบบนี้ไม่เท่ากับยกประธานซูให้กับบริษัทตระกูลฟ่านเหรอคะ”
ทีเอสฉีกหน้าบริษัทตระกูลอวี๋แล้ว จะต้องเบี่ยงเบนไปหาฟ่านอวี่แน่
“คุณคิดว่าบริษัทตระกูลฟ่านเพิ่งเข้ามาที่เมืองเอช เงื่อนไขที่เขาเสนอให้จะดีกว่าบริษัทตระกูลอวี๋เท่าไหร่กัน” เหนียนเสี่ยวมู่ยิ้มเยือกเย็ร
ถ้าเงื่อนไขดีขนาดนั้นจริงๆ ประธานซูยังจำเป็นต้องต่อสัญญากับบริษัทตระกูลอวี๋เหรอ
ทุกคนคิดว่าเธอทนได้ แต่เธอกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม
การเดินหมากครั้งนี้ เรียกว่าเชือดไก่ให้ลิงดู!
“ฉันอยากให้ทุกคนรู้ ว่าพวกเราไม่ต้องการคนที่มีใจออกห่างบริษัทตระกูลอวี๋!”