ตอนที่ 345 ปัญญาชนใช้คำพูด ไม่ใช้กำลัง
อวี๋เยว่หานยื่นมือไปกดหัวของเธออย่างอดไม่ได้ ก่อนจะหมุนหน้าของเธอกลับมาหาตนเอง และจ้องมองเธอไม่วางตา
จากนั้นเขาก็พูดเน้นทีละคำ “ผมอารมณ์ร้ายเหรอ”
“นี่ๆๆ! ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้น คุณดูสีหน้าคุณตอนนี้สิ ใครเห็นแล้วไม่กลัวบ้างเล่า” เหนียนเสี่ยวมู่ตัวสั่นครั้งหนึ่ง แล้สชี้ไปที่หน้าเย็นชาของเขา
เมื่อเห็นเขาอึ้งไป มือเล็กๆ ก็หยิกแก้มของเข
เธอดึงแก้มเขาออกด้านข้างเล็กน้อย และเธอก็ต้องอึ้งที่เขายิ้มขึ้นมาบ้างแล้ว
“ยิ้มแล้วหล่อกว่าจริงๆ ด้วย!” เธอบ่น
“…”
“ฉันพูดจริงๆ นะ คุณยิ้มแล้วหล่อกว่าฟ่านอวี่อะไรนั่นตั้งเยอะ!”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดเสียงเบา มีเพียงพวกเขาสองคนที่ได้ยิน
คนที่กำลังคุยกับอวี๋เยว่หานอยู่ข้างๆ ไม่ได้ยินว่าพวกเขาพูดอะไรกัน เห็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่กล้าหยิกแก้มอวี๋เยว่หานต่อหน้าสายตาคนมากมาย
เขาเหงื่อตกแทนเธอแล้ว!
เมื่อเงยหน้ามองอวี๋เยว่หาน เขากลับพบว่าในแววตาของชายหนุ่มไม่มีความโกรธอยู่เลยสักนิด
อวี๋เยว่หานปล่อยให้เหนียนเสี่ยวมู่เล่นกับหน้าของเขาด้วยสีหน้าเอ็นดู…
พร้อมกับทำท่าทาง ‘ผู้หญิงของเขา ก็ต้องเอ็นดูเขา’
คนคนนั้นพูดไม่ออกในทันที…
“ที่นี่มีคนอื่นอยู่ด้วย อย่าเล่น” อวี๋เยว่หานยื่นมือไปขยี้ผมของเธอ พลางพูดด้วยความอ่อนโยนในทันที
น้ำเสียงรักใคร ราวกับกำลังปลอบเสี่ยวลิ่วลิ่ว
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังกังวลว่าเขาจะโกรธหรือเปล่า แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอก็ตะลึงงันไปเล็กน้อย
ราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร่างกายไป ทำให้รู้สึกชาไปทั้งตัว
อ๊ากก!
อวี๋เยว่หานอ่อนโยนขึ้นมาแบบนี้ ทำเอาเธอเข่าอ่อนเลยทีเดียว!
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะชมเขา แต่ได้ยินเสียงนุ่มนวลดังขึ้นจากข้างหลังสียก่อน
“คุณชายหาน ไม่เจอกันนานเลย!”
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่พลันตัวแข็งทื่อ เธอยืนอยู่ข้างหน้าอวี๋เยว่หาน หันหน้าไปหาเขา จึงมองไม่เห็นคนที่อยู่ข้างหลัง
แต่เธอก็รู้สึกอยู่ตลอดว่ารอบของมีสายตามากมายกำลังจับจ้องเธออยู่
ขณะที่กำลังสงสัยว่าเจ้าของเสียงนี้น่าจะไม่ใช่ฟ่านอวี่ เหนียนเสี่ยวมู่ก็เห็นมือของอวี๋เยว่หานผ่านตัวเธอไป แล้วก็จับมือกับเจ้าของเสียงนั้น พร้อมกับพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“คุณชายฟ่านเกรงใจเกินไปแล้ว”
หญิงสาวได้ยินชื่อนั้น จึงอยากจะหันไป แต่อยู่ๆ อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือมาโอบเอวของเธอ และดึงเธอเข้าไปในอกของเขา
เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้ามองเขาด้วยความงงงวย ก่อนจะกำหมัดทุบลงบนอกของเขาครั้งหนึ่ง
“อวี๋เยว่หาน คุณทำอะไรเนี่ย รีบปล่อยมือสิ!”
ได้มองเห็นฟ่านอวี่ใกล้ๆ อย่างยากลำบาก เขายุ่งวุ่นวายอะไรเนี่ย!
เหนียนเสี่ยวมู่รีบหันไปมอง แต่ชายหนุ่มก็คว้าท้ายทอยของเธอไว้เสียก่อน
ทันใดนั้นริมฝีปากบางของอวี๋เยว่หานก็แนบอยู่ข้างหูของเธอ พร้อมกับพูดด้วยเสียงเซ็กซี่อย่างแผ่วเบา “เหนียนเสี่ยวมู่ ไม่มีคนบอกคุณเหรอ ว่าอย่าเด็ดดอกไม้ป่าริมทาง”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เมื่อเธอดิ้นหลุดออกจากในอกของอวี๋เยว่หาน เธอก็หันหน้าไปมองฟ่านอวี๋ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายก็ถูกล้อมอยู่กลางฝูงคน เธอจึงมองเห็นแค่ท้ายทอยของเขาเท่านั้น
เขาสูงและผอมมาก
แต่ก็ไม่ได้ผมจนทำให้คนรู้สึกว่าแห้ง
ชายหนุ่มยืนอยู่กลางผู้คน แค่มองดูจากที่ไกลๆ ก็ดึงดูดสายตาได้เป็นที่สุดแล้ว
ไอ้หยาน่าโมโหจริงๆ!
เมื่อกี้เธอเกือบจะได้มองเขาในระยะใกล้แล้ว!
อาจจะได้คุยกันสักสองสามคำด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสแล้ว…
โอกาสที่จะได้ทำความคุ้นเคยกับคู่แข็งหายวับไปกับตา!
“อวี๋เยว่หาน ปัญญาชนใช้คำพูด ไม่ใช้กำลังนะ!”
เหนียนเสี่ยวมู่โมโหจนแก้มป่อง พร้อมกับถลึงตามองอวี๋เยว่หานที่อยู่ตรงหน้า
ฝ่ายหลังกลับมองเธอด้วยสายตา ‘เก่งจริงก็มากัดผมสิ’
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
ตอนที่ 346 วัยเยาว์ที่เงียบเหงา แสงจันทร์สีขาวของใคร
งานเลี้ยงไม่ได้หยุดกลางคันเพราะอุบัติเหตุเล็กๆ แต่บรรยากาศในงานเลี้ยงครั้งนี้กลับร้อนแรงขึ้นมา เพราะเทพบุตรสองคนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
คนที่มาทักทายอวี๋เยว่หานก็หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย
เหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ขณะกำลังจะยกแก้วไวน์แดง อวี๋เยว่หานก็กดมือของเธอไว้
อย่างกับว่ามีดวงตางอกขึ้นบนท้ายทอยของเขา
ชายหนุ่มฉวยแก้วไวน์แดงในมือไป พร้อมกับส่งแก้วน้ำผลไม้ให้เธอโดยไม่พูดอะไร
จากนั้นเขาก็ยื่นมือมาลูบหัวของเธอ เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็พูดคุยกับคนที่มาทักทายต่อไป
“…” เธอไม่ใช่เด็กนักเรียน ทำไมมางานเลี้ยงแล้วต้องดื่มน้ำผลไม้ล่ะ
เหนียนเสี่ยวมู่ยู่ปากใส่เขาอย่างเมินเฉย
ก่อนจะกลอกดวงตาสดใสหนึ่งรอบ
เธอวางน้ำผลไม้ลง เมื่อหลุดจากมือของอวี๋เยว่หานแล้ว เธอก็สบสายตาไม่พอใจของเขา แล้วบ่นเสียงเบา “คนมีเรื่องเร่งด่วนสามเรื่องเท่านั้นแหละ คุณค่อยๆ คุยไป ฉันไปแป๊บเดียวเดี๋ยวมา!”
ว่าจบแล้วเธอก็วิ่งไปทางห้องน้ำหญิง โดยไม่รอให้อวี๋เยว่หานพูดอะไร
เธออยากเข้าห้องน้ำจริงๆ
แต่ไม่มีใครตั้งกฎไว้ ว่าเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วจะต้องกลับไปอวี๋เยว่หานทันที
ตรงนั้นมีแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่มากมาย เธอหลบอยู่ข้างนอกแบบนี้ ต้องไม่มีใครเห็นแน่นอน
เหนียนเสี่ยวมู่ยกแก้วไวน์แดงแก้วหนึ่งอย่างลับๆ ล่อๆ ก่อนจะเดินไปยังหน้าต่างเต็มบาน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อวี๋เยว่หานพบเข้า
แต่เพิ่งก้าวไปข้างหน้า หญิงสาวพลันเห็นเงาร่างหล่อเหลาพิงอยู่บนหน้าต่างเต็มบาน
ชุดสูทสีขาว ทำให้เขาดูอ่อนโยนและสุขุมมาก
บนมือของเขาถือแก้วไวน์แดง เขาเพียงสั่นแก้วขาสูงเบาๆ แต่ไม่ได้ดื่มเข้าไป
สายตาของเขามองไปยังแสงจันทร์ข้างนอกหน้าต่าง ทำให้เขาดูเหงาหงอยอยู่เงียบๆ อยู่หลายส่วน…
ฟ่านอวี่นี่นา!
เหนียนเสี่ยวมู่คิดไม่ถึงเลย ว่าเขาจะมาหลบอยู่ตรงนี้
หญิงสาวมองตาปริบๆ นอกจากเธอที่คิดจะไปหลบตรงนั้นเหมือนกับเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้
ดูท่าทางเขาไม่ค่อยสนุกนัก
เธอกำลังลังเล ว่าต้องเข้าไปทักทายฟ่านอวี่ไหม แต่เขาเหมือนรู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ข้างหน้า จึงหันมามองเธอทันที
ดวงตาทั้งสองคู่สบกัน
ในบรรยากาศมีความเงียบสงัดขึ้นมาในพริบตา
เหนียนเสี่ยวมู่อธิบายด้วยความลังเลอยู่บ้าง “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจรบกวนคุณ…”
“เพล้ง”
เธอยังพูดไม่ทันจบ แก้วไวน์แดงในมือของฟ่านอวี่ก็ตกลงบนพื้นแล้ว
แก้วไวน์แตกเป็นเสี่ยงๆ ตามเสียงนั้น
ไวน์แดงที่หกออกมา กระเด็นถูกบนขากางเกงของเขา แต่เขากลับยืนตัวแข็งทื่อ ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ใบหน้าที่อ่อนโยนและหล่อเหลาดูซีดเผือดไปบ้าง
ในดวงตาของเขามีความตกใจหวาดหวั่นฉายชัดอย่างที่ปิดบังไว้ไม่อยู่…
ริมฝีบางของเขาสั่นเครือเล็กน้อย เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่มีคำพูดใดหลุดรอดออกมา
เขาเงียบจนเหมือนกลัว กลัวว่าเมื่อเอ่ยปากแล้ว ภาพทุกอย่างตรงหน้าจะกลายเป็นภาพลวงตา…
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เหนียนเสี่ยวมู่เห็นสีหน้าเขาไม่ดี จึงเดินเข้าไปตามสัญชาตญาณ ดึงเขาออกจากจุดที่มีเศษแก้ว
จากนั้นเธอก็ก้มมองขาของเขา
“น่าจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่กางเกงของคุณสกปรกแล้ว ต้องเปลี่ยนตัวใหม่แล้วค่ะ”
เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้ามองรอบๆ แล้วถามว่า “ผู้ช่วยของคุณมาด้วยหรือเปล่าคะ ให้ฉันช่วยเรียกผู้ช่วยไหม”
หญิงสาวเพิ่งจะหมุนตัว ข้อมือของเธอก็ถูกเขาจับเอาไว้
เธอหันหน้ากลับไปด้วยความงุนงง และมองฟ่านอวี่ที่ทำตัวแปลกๆ ต่อหน้าเธอ
ไม่รู้ว่าทำไม เธอเหมือนจะเห็นน้ำตาในดวงตาของเขา
เขากลับยิ้มในวินาทีต่อมา เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนมาก ก่อนจะขยับริมฝีปากบางเบาๆ “ลิ่วลิ่ว…”