ตอนที่ 435 สวีทกันเป็นประจำ (1)
ชั้นบนสุดของอาคารสูงเสียดฟ้า
ในห้องทำงานที่สะอาดสะอ้าน
ฟ่านอวี่ถือแก้วไวน์แดง ยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองแสงจันทร์ข้างนอกหน้าต่างอย่างเฉยชา บนใบหน้าหล่อเหลาไม่มีความรู้สึกใด
เขาไม่แม้แต่จะดื่มไวน์ในแก้วด้วยซ้ำ เพียงแต่ถือไว้อย่างนั้น และมองไปนอกหน้าต่าง
รอบกายของเขากลับฉายความโดดเดี่ยวออกมาอย่างชัดเจน ราวกับว่าโลกทั้งใบทอดทิ้งเขา เหลือเพียงแสงจันทร์สีขาวเท่านั้น…
สิ่งที่ปรากฏในหัวของเขา คือคนที่ชอบเรียกเขาว่า ‘พี่ฟ่านอวี่’ และคอยแบ่งปันความสุขกับเขา
ตอนที่จากกัน เธอขอบตาแดงก่ำชัดเจน แต่ไม่ได้ร้องไห้ออกมา
ทว่าเอาแต่ชี้ไปที่ดวงจันทร์บนท้องฟ้า แล้วพูดกับเขาพร้อมรอยยิ้ม “ต่อไปตอนที่พี่ฟ่านอวี่คิดถึงฉัน ก็เงยหน้ามองดวงจันทร์นะ ไม่ว่าพวกเราจะอยู่ไกลกันแค่ไหน ก็เหมือนพวกเราอยู่ด้วยกันเสมอ”
ฟ่านอวี่จับแก้วไวน์ในมือแน่นขึ้น
ดวงจันทร์ยังคงเหมือนเดิม ทว่าไม่มีเธออยู่ข้างกายแล้ว ต่อให้พระจันทร์สวยกว่านี้ ก็ไม่มีค่าให้ชื่นชมอะไร
ใครบางคนเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา
ผู้ช่วยเดินเข้ามาจากข้างนอก
ครั้นได้ยินเสียงฝีเท้า ฟ่านอวี่จึงกลับหลังหัน แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แววตาของเขากลับมาเรียบนิ่งดังเดิมแล้ว “สืบไม่พบประวัติของเหนียนเสี่ยวมู่ครับ”
“คนที่ส่งไปสืบกลับมาแล้วครับ แต่ว่า…” ผู้ช่วยเดินมาข้างหน้า สีหน้าของเขาดูลำบากใจ ยากจะอธิบายออกมาในคำเดียวอยู่บ้าง
เมื่อได้ยินดังนั้น ฟ่านอวี่ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มีเรื่องอะไร พูดออกมาชัดๆ”
“คนของพวกเราไปสืบมาแล้วครับ แต่หาข้อมูลเกี่ยวกับเหนียนเสี่ยวมู่ไม่เจอเลยสักนิดเดียว” ผู้ช่วยมีสีหน้าจนใจ
แม้บริษัทตระกูลฟ่านจะเพิ่งเข้ามาในเมืองเอช แต่อำนาจของตระกูลฟ่านก็ไม่อาจดูถูกกันได้
คิดไม่ถึงว่าจะสืบประวัติของเธอไม่ได้
นี่มันเกินไปหน่อยแล้ว!
ผู้ช่วยส่งเอกสารชุดเดียวในมือให้ฟ่านอวี่
“คนของพวกเราได้ยินมาแค่ว่า ก่อนหน้านี้เหนียนเสี่ยวมู่เคยเรียนหลักสูตรพยาบาล หลังจากเรียนจบแล้วได้เข้าไปเป็นพยาบาลรับจ้างในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋โดยบังเอิญครับ”
“ต่อมาเธอเข้าไปในบริษัทตระกูลอวี๋ได้ยังไง และกลายเป็นผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ได้ยังไง คนในบริษัทตระกูลอวี๋เก็บความลับกันเก่งมา ถามยังไงก็ไม่มีใครตอบ ได้ยินมาแค่ว่าอวี๋เยว่หานชื่นชมฝีมือของเธอ ก็เลยให้เธอมาทำงานด้วยครับ”
ฝีมือการทำงานของเหนียนเสี่ยวมู่เป็นที่ประจักษ์จริงๆ
แม้แต่คนนอกอย่างฟ่านอวี่ ก็มองเห็นความแตกต่างของเหนียนเสี่ยวมู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอวี๋เยว่หานที่มองเห็นเธออยู่ตลอดเวลา
เขาไม่อยากรู้ว่าเหนียนเสี่ยวมู่รู้จักกับอวี๋เยว่หานได้อย่างไร เขาอยากรู้เพียงว่า เธอใช่ลิ่วลิ่วของเขาหรือไม่
ทำไมเธอเห็นเขาแล้วถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
“นอกนั้นสืบไม่ได้เลยครับ…” ผู้ช่วยพูดต่ออย่างอ่อนแรง แต่ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้น ราวกับนึกอะไรขึ้นได้
“แต่ที่ยืนยันได้คือ มีคนจัดการประวัติของเหนียนเสี่ยวมู่ครับ!”
ไม่มีทางที่จะสืบประวัติของคนธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้อยู่แล้ว
ประวัติของเหนียนเสี่ยวมู่เป็นความลับได้ เป็นเพราะมีใครบางคนปกป้องเธออยู่
“อวี๋เยว่หานแน่ๆ” ฟ่านอวี่ขยับริมฝีปากบาง
นอกจากอวี๋เยว่หานแล้ว เขาก็นึกถึงใครคนอื่นที่จะทำเรื่องแบบนี้ในเมืองเอชไม่ออกแล้ว
อวี๋เยว่หานกำลังป้องกันเธอจากเขาเหรอ
“ส่งกุหลาบกับช็อคโกแล็ตไปให้เธอแล้วหรือยัง” ฟ่านอวี่ยื่นมือไปรับเอกสารตรงหน้า ก่อนจะถามอย่างเฉยชา
ผู้ช่วยรีบพยักหน้า “ส่งไปแล้วครับ ได้ยินว่าคุณเหนียนดีใจมาก น่าจะชอบของขวัญพวกนั้นมากทีเดียว”
เมื่อได้ยินดังนั้น มุมปากของฟ่านอวี่พลันยกขึ้นเล็กน้อย
สายตาก็ดูอ่อนโยนขึ้นด้วยเช่นกัน
เธอยังเหมือนตอนเด็กๆ ไม่มีผิด มีทุกอย่างแล้วแท้ๆ แต่ทุกครั้งที่เขาให้ของขวัญ เธอจะดีใจมากเสมอ
ตอนที่ 436 สวีทกันเป็นประจำ (2)
คฤหาสน์ตระกูลอวี๋
ผ้าม่านในห้องนอนหลักปิดสนิท ทำให้ในห้องดูมืดสลัวอยู่บาง
เหนียนเสี่ยวมู่หลับอุตุ ครั้นรู้สึกว่าอวี๋เยว่หานกอดตัวเองจากข้างหลัง เธอก็พลิกตัวซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเขาตามสัญชาตญาณ
หลังจากนอนทับลงบนหน้าอกของเขาแล้ว เธอเตรียมจะนอนต่อทันที
ความเกียจคร้านของเธอทำให้อวี๋เยว่หานยกยิ้มเอ็นดูที่มุมปาก ฝ่ามือใหญ่ขยี้หัวหญิงสาวเบาๆ ก่อนที่ริมฝีปากบางจะจูบลงที่กกหูของเธอ
เสียงที่เพิ่งตื่นนอนของเขา แม้จะงัวเงีย แต่ก็ยังน่าดึงดูดทีเดียว
“ตื่นมากินข้าวเช้ากับผม”
“ยังเช้าอยู่เลย ให้ฉันนอนอีกหน่อยเถอะ!” เหนียนเสี่ยวมู่สูดจมูก แล้วฝังใบหน้าลงในหน้าอกของเขา
เธอต่อรองเหมือนกับเด็กขี้เซาคนหนึ่ง
อวี๋เยว่หานกลับลากเธอลุกขึ้นนั่ง แล้วอุ้มเธอลุกขึ้นยืน
จากนั้นก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ชายหนุ่มวางเธอบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า แล้วถึงบีบยาสีฟัน รวมถึงรินน้ำใส่แก้วให้ด้วย
ฝ่ายเหนียนเสี่ยวมู่ลืมตาแทบไม่ขึ้น เธอชำเลืองมองแปรงสีฟันที่เขายื่นมาให้ตรงหน้า แต่เพิ่งคิดจะปฏิเสธ ก็ได้ยินเสียงมีเสน่ห์ของเขาดังมา “อยากให้ผมช่วยคุณไหม”
“…”
ไม่ว่าฟังอย่างไรคำพูดนี้ก็เหมือนกับดัก
หญิงสาวลังเลอยู่หลายวินาที ก่อนจะรับแปรงไปแปรงฟันเองอย่างว่าง่าย
หลังจากเธอแปรงฟันเสร็จแล้ว เขาก็บิดผ้าขนหนูชุ่มน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าให้เธอ
ท่าทางเขาทะมัดทะแมงทีเดียว ราวกับฝึกฝนอยู่ในใจมาเป็นพันเป็นหมื่นครั้งแล้ว ไม่ได้เก้ๆ กังๆ เลยสักนิด
เมื่อเก็บของทุกอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็อุ้มเธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง
ตอนเห็นเขาจะถอดเสื้อผ้าเธอ เหนียนเสี่ยวมู่ถึงจะดึงสติกลับมาครบถ้วน แล้วยื่นมือไปปิดหน้าอกของตัวเองไว้
“อันนี้คุณไม่ต้องทำหรอก ฉันทำเองได้!”
ถ้าให้เขาช่วยจริงๆ ข้าวเช้าคงไม่ได้ตกถึงท้อง และคาดว่าเขาจะกินเธอเข้าไปแทน
อวี๋เยว่หานปล่อยมือ ให้หญิงสาวจัดการด้วยตัวเอง
ทันใดนั้น เงาร่างสูงส่งก็หันหลังกลับไปหยิบชุดสูดตัวหนึ่งออกมาจากในตู้เสื้อผ้า แล้วเปลี่ยนใส่อย่างสง่างาม
แต่สุดท้ายเขากลับยื่นเนกไทให้เธอ “ผูกให้ผมหน่อย”
ว่ากันว่าก่อนสามีจะออกไปข้างนอก ภรรยาจะช่วยผูกเนกไทให้ เพื่อเตือนเขาว่าตนเองได้รับการผูกมัดแล้ว และต้องกลับมาที่บ้าน
เหนียนเสี่ยวมู่มองเนกไทตรงหน้า เธอกลัวว่าเขาจะมองความคิดของเธอออก จึงรีบกระแอมสักสองเสียง ก่อนจะรับเนกไทมาราวกับไม่ได้ใส่ใจอะไร
อวี๋เยว่หานตัวสูงมาก
หญิงสาวเป็นนางฟ้าตัวสูงแท้ๆ แต่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว เธอก็ยังคงตะลึงในความต่างอยู่ดี
เธอต้องเขย่งปลายเท้าผูกเนกไทให้เขา
ร่างกายของเธอโงนเงนเล็กน้อย ชายหนุ่มจึงใช้ฝ่ามืออบอุ่นประคองเอวของเธอไว้ พร้อมกับดึงเธอเข้ามาในหน้าอกเล็กน้อย
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่เข้าใกล้เขา ทำให้เธอได้กลิ่นสดชื่นจากตัวเขา ส่งผลให้เธอสั่นสะท้านไปทั่วร่างอยู่บ้าง
หญิงสาวข่มความคิดที่จะเอาเปรียบเขาไว้ แล้วผูกเนกไทจนเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็ถอยหลังไปสองก้าว “ผูกเสร็จแล้ว พวกเราลงไปกินข้าวเช้ากันเถอะ!”
ครั้นพูดจบ เธอวิ่งออกไปจากห้องก่อน โดยไม่รอให้อวี๋เยว่หานเอ่ยปากด้วยซ้ำ
หลังจากเข้าไปในห้องอาหาร พ่อบ้านก็เตรียมข้าวเช้าไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ทีแรกเหนียนเสี่ยวมู่ยังคิดว่าตัวเองเหนื่อยเกินไป ถึงได้ง่วงอยู่ตลอด เมื่อเหลือบไปมองเวลาโดยบังเอิญ เธอถึงะบว่าวันนี้พวดเขาตื่นเช้ามากจริงๆ ไม่ใช่เวลาที่ออกไปทำงานเป็นประจำโดยสิ้นเชิง
เธอหันหน้าไปมองอวี๋เยว่หานที่เพิ่งมาชั้นล่างด้วยความสงสัย
อวี๋เยว่หานจัดกระดุมเสื้อเชิ้ตไปด้วย เดินเข้ามาในห้องอาหารไปด้วย
ชายหนุ่มดึงเก้าอี้มาที่ข้าวตัว แล้วเอ่ยปากเสียงเรียบ “วันนี้จะมีการสัมภาษณ์จากนิตยสารทางการเงิน ตอนกลางวันผมมีประชุมจนเจียดเวลาออกมาไม่ได้ เลยเลื่อนการสัมภาษณ์มาเป็นตอนเช้าแทน”
“ผู้ชายหรือผู้หญิง” เหนยีนเสี่ยวมู่มองเขาตาปริบๆ ทำหน้าตาเหมือนต้องเตรียมรับมือไว้ก่อน
“อะไรนะ” ชายหนุ่มตะลึงงัน
เหนียนเสี่ยวมู่คิดว่าเขาอยากจะเปลี่ยนเรื่อง จึงวางตะเกียบลง แล้วคว้าแขนของเขาเอาไว้ด้วย “นักข่าวที่มาสัมภาษณ์คุณวันนี้ เป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง”