ตอนที่ 477 ท้องแรกหรือท้องสอง นั่นแหละปัญหา! (3)
หลังจากผู้อำนวยการพูดจบ เขาก็ไม่ได้มองไปที่สีหน้าตกใจจนทำอะไรไม่ถูกของคุณนายหลัว แต่หันไปบอกให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนเชิญตัวเธอออกไป
ไม่นานเขาก็เดินมาตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ “คุณเหนียนครับ เรื่องในวันนี้เป็นความสะเพร่าของทางโรงเรียนเราเอง ผมจะพิจารณาตัวเองอย่างดีแน่นอน และจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง!”
เหนียนเสี่ยวมู่หรี่ตาลง ก่อนจะพูดเสียงเบา “ฉันจะไม่สืบสาวเรื่องนี้อีกค่ะ แต่เพราะเรื่องที่เจอในวันนี้ ฉันหวังว่าต่อไปเสี่ยวลิ่วลิ่วจะได้รับการปฏิบัติไม่ต่างจากเพื่อนนักเรียนคนอื่นนะคะ!”
เด็กๆ ทุกคนควรจะมีความสุข
“ครับๆ เรื่องนี้แน่นอนครับ!”
เมื่อได้รับคำตอบจากผู้อำนวยการโรงเรียน เหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินออกไปข้างนอก
เสี่ยวลิ่วลิ่วได้รับความไม่เป็นธรรม จึงซุกอยู่ในอ้อมกอดของเธอตลอด แถมยังเงียบเชียบไม่พูดจา
ดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้นบวมเป่งเพราะร้องไห้ไปหมดแล้ว
เด็กหญิงโอบรอบคอของเธอไว้ ด้วยรู้สึกไม่ปลอดภัย
คนขับรถขับรถมาถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่อุ้มเด็กหญิงขึ้นรถไป พร้อมกับปลอบเธอเบาๆ “ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่สาวคนสวยอยู่นี่ ต่อไปจะไม่ให้ใครมารังแกหนูอีก!”
“ไม่ใช่แม่คนสวยเหรอ” เสี่ยวลิ่วลิ่วเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของเธอ พลางยู่ปากเล็กๆ ถาม
“…”
หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย ร่างเล็กนุ่มนิ่มของเสี่ยวลิ่วลิ่วซุกเข้าไปในอกของเธออีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงออดอ้อน
“เสี่ยวลิ่วลิ่วกลั๊วกลัว อยากให้แม่คนสวยกอดๆ!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
ดูจากท่าทางของเด็กหญิง คนจะไม่เป็นไรแล้ว
แต่คำเรียกนี้…
เมื่อครู่เป็นสถานการณ์พิเศษ เธอถึงได้พูดโพล่งว่าตัวเองเป็นแม่ของเด็กหญิงในทันที
แต่ตอนนี้จะอธิบายกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว ว่าเป็นแผนการชั่วคราวได้อย่างไร
พอคิดถึงภาพวาดในห้องหนังสือ พร้อมทั้งคำพูดของอวี๋เยว่หานตอนคุยโทรศัพท์ อารมณ์ของเหนียนเสี่ยวมู่ก็ขุ่นมัวขึ้นบ้างในทันที
เธอมองเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ติดเธอแจ อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูไม่คิดถึงแม่ของหนูเหรอ”
มือเล็กอวบอ้วนของเสี่ยวลิ่วลิ่วกำลังบีบกระดุมเสื้อนอกของเธอเล่น เด็กหญิงจ้องเธอด้วยตาดำขลับอยู่พักหนึ่ง หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ
ศีรษะขนาดเล็กเอียงลง แล้วยื่นมือมากอดเธอไว้ในทันใด
“หนูต้องการแม่คนสวยคนนี้เท่านั้น!”
“…” เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจในทันที!
ความรู้สึกใจหวิวที่พูดไม่ออก อัดอั้นอยู่ในอก
ขอบตาของเธอแดงก่ำในพริบตา
หญิงสาวกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วกอดร่างเล็กนุ่มนิ่มไว้ในอกจนแน่น
เธอใช้คางเกยบนหัวของเด็กหญิง มุมปากยกยิ้มขมขื่น “ถ้าพ่อของหนูคิดแบบนี้ก็คงดี…”
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ อวี๋เยว่หานก็ยังไม่กลับมา
เหนียนเสี่ยวมู่กังวลว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาลจะสร้างแผลในใจให้เสี่ยวลิ่วลิ่ว จึงอยู่เป็นเพื่อนเด็กหญิงตลอด
จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กกอดตุ๊กตาหมูตัวโปรดผล็อยหลับไป
เธอจูบบนแก้มของเด็กหญิง ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น ก็พบว่ามือของเสี่ยวลิ่วลิ่วจับชายเสื้อของเธอไว้แน่นทีเดียว
เสี่ยวลิ่วลิ่วรู้สึกเหมือนเธอกำลังจะไป จึงพลิกตัวพาดลงบนเตียง แล้วพูดพึมพำว่า “แม่คนสวย…”
“อยู่ตรงนี้แล้ว”
หญิงสาวนอนกลับลงไปอย่างต้านทานไม่ไหว ก่อนจะยื่นมือไปกอดเด็กหญิงเข้ามาในอก
ครั้นเห็นใบหน้าเล็กที่เหมือนกับอวี๋เยว่หานอย่างกับแกะ เธอก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ “พ่อลูกเจ้าเล่ห์เหมือนกันขนาดนี้ เป็นพ่อลูกกันแท้ๆ ไม่ผิดแน่”
พอคิดถึงอวี๋เยว่หาน หญิงสาวก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาอีก
เธอนอนเบียดกับเสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่บนเตียง พยายามฝืนให้ตัวเองหลับตา แต่ตรงหน้ากลับมีใบหน้าหล่อเหลาของเขาปรากฏขึ้นมาอยู่ตลอด
ภายนอกเห็นว่าเขาเย็นชาและมีอำนาจมากเท่านั้น
แต่สิ่งที่เธอเห็น มีเพียงอวี๋เยว่หานที่มีชีวิตชีวา
เขาโกรธเป็น หึงเป็น เจ้าเล่ห์เป็น…
ใช้วิธีต่างๆ นานากล่อมเธอนอนหลับเป็น
ตอนที่ 478 ท้องแรกหรือท้องสอง นั่นแหละปัญหา! (4)
เธอคิดมาโดยตลอด ว่าเธอเป็นคนพิเศษในใจของเขา
แต่กลับไม่รู้เลย ว่าสถานะ ‘พิเศษ’ สำหรับเขา ได้มอบให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งไปแล้ว…
ความมืดทำให้จิตใจของเขาอ่อนไหวมากขึ้นเสมอ
เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่หางตา เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดเพ้อเจ้ออีก พลางกอดเสี่ยวลิ่วลิ่วหลับไป
เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา หลังจากแต่งตัวอย่างง่ายๆ แล้ว เธอก็ไปที่บริษัท
“ผู้จัดการเหนียน เมื่อวานฉันส่งตารางงานไปให้ในอีเมลของคุณแล้ว คุณเห็นหรือยังคะ” ทันทีที่เลขาเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ เธอก็เข้ามาถาม
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่ชะงักไป ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง เพื่อเปิดอีเมลดู
ในกล่องอีเมลมีอีเมลที่ยังไม่ได้เปิดอ่านอยู่จริงๆ
เมื่อวานเธออยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวลิ่วลิ่ว จึงนอนเร็ว แม้แต่อวี๋เยว่หานอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอนหลักในภายหลังก็ยังไม่รู้
จึงไม่ได้สังเกตโดยสิ้นเชิง ว่ามีอีเมลใหม่ด้วย
ครั้นเธอคลิกอ่าน ก็เห็นประกาศตรวจร่างกายที่บริษัทจัดการให้
บริษัทตระกูลอวี๋จัดการตรวจสุขภาพที่ได้มาตรฐานให้พนักงานเป็นประจำทุกปี
หญิงสาวเพิ่งเข้าทำงานที่นี่ได้ไม่นาน จึงไม่รู้เวลาการตรวจสุขภาพของพนักงาน
เลขาเตือนอยู่ข้างๆ เธอ “ฉันบอกพนักงานคนอื่นๆ หมดแล้วค่ะ ผู้จัดการเหนียนจะไปโรงพยาบาลตอนนี้เลยไหมคะ ฉันจะช่วยนัดให้”
ปกติแล้วถานเปิงเปิงจะเป็นคนจัดการตรวจสุขภาพให้เหนียนเสี่ยวมู่
เธอได้มีโอกาสเข้าร่วมการตรวจสุขภาพของบริษัทแบบนี้เป็นครั้งแรก เธอจึงเงยหน้าขึ้น ทันทีที่ได้ยินเลขาถาม “คุณจัดการตามปกติเถอะ ฉันยังไงก็ได้ค่ะ”
“ได้ค่ะ” เลขารีบไปจัดการอย่างรวดเร็ว
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เหนียนเสี่ยวมู่ก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว
ด้วยสถานะของผู้จัดการ หญิงสาวจึงได้รับการดูแลพิเศษจากบริษัท ซึ่งแตกต่างจากพนักงานคนอื่นๆ
เธอไม่ต้องเข้าแถว และมีรายการตรวจสุขภาพที่ครบครันมากกว่า
เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ได้กินข้าวเช้า จึงไปเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจก่อน
จากนั้นถึงจะดำเนินการตรวจสถขภาพตามรายการอื่นอย่างเป็นลำดับ
“นั่งลงก่อนค่ะ”
หญิงสาวเพิ่งตรวจภายในเสร็จ เมื่อกลับมาที่ห้องทำงานของหมอ หมอก็ชี้เก้าอี้ตรงหน้าเธอ
เธอนั่งลงแล้ว ดูไม่ออกว่าสีหน้าของหมอหมายความว่าอย่างไร จึงถามอย่างเร่งร้อน “ร่างกายของฉันมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่ต้องเครียดนะคะ แค่คำถามทั่วไปเท่านั้น”
หมอที่ตรวจร่างกายให้เหนียนเสี่ยวมู่ เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอายุแล้ว ท่าทางอายุประมาณห้าสิบปี สวมแว่นตากรอบสีทอง หลังจากหมออ่านรายงานตรวจสุขภาพของเธออย่างตั้งใจรอบหนึ่งแล้ว ถึงจะเอ่ยปากถามคำถามยาวเป็นพรวน
เหนียนเสี่ยวมู่ตอบตามความจริงทั้งหมด
ครั้นเห็นหมอหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เธอคิดว่าการตรวจเสร็จสิ้นแล้ว ทว่าตอนที่กำลังจะลุกขึ้น หมอกลับเงยหน้าขึ้นมา “ท้องแรกเมื่อไหร่คะ สองปีนี้คิดจะมีท้องสองเมื่อไหร่”
“อะไรนะคะ” หญิงสาวหยุดชะงักในท่าที่เพิ่งลุกได้ครึ่งหนึ่ง
พลางมองหมอด้วยสีหน้างุนงง
“คุณเคยมีลูกมาแล้ว ไม่รู้เลยเหรอคะ” หมอเห็นว่าปฏิกิริยาของเธอดูแปลกๆ จึงขมวดคิ้ว หลังจากดันแว่นขึ้นไปบนสันจมูก
สายตาที่หมอมองเหนียนเสี่ยวมู่ เหมือนกับมองผู้หญิงไม่ดีอย่างไรอย่างนั้น
หญิงสาวแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด จึงรีบอธิบาย “ฉันไม่เคยมีลูกนะคะ!”
“คุณพูดมั่วแล้ว! ฉันเป็นหมอสูตินรีเวชมาหลายสิบปี ฉันจะดูผิดได้ยังไง ว่าคุณเคยมีลูกหรือเปล่า รอยแผลผ่าคลอดของคุณยังอยู่บนท้องอยู่เลย คุณไปดูเอาเองแล้วกัน”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เธอได้ยินหมอพูดแล้ว ก็ยื่นมือไปเลิกเสื้อขึ้นอย่างงุนงง ครั้นมองเห็นรอยแผลบนท้อง เสียงของเธอก็เริ่มสั่นเครือ
“นี่ไม่ใช่แผลเป็นจากไฟไหม้เหรอคะ”
ถานเปิงเปิงบอกเธออย่างนั้นมาตลอด…