ตอนที่ 555 ความจริงที่ปรากฏ (3)
เหนียนเสี่ยวมู่เห็นว่าทิศทางที่ขับไปไม่ถูกต้อง จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
อวี๋เยว่หานเหลือบไปมองเธอ แล้วตอบนิ่งๆ “ไปลองชุดงานหมั้น”
คุณชายสูงศักดิ์อันดับหนึ่งแห่งเมืองเอช ข่าวเรื่องการหมั้นของอวี๋เยว่หาน แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
แม้จะยังไม่ได้มีการประกาศออกไปอย่างเป็นทางการ
แต่ทางคุณนายใหญ่อวี๋ได้ประกาศออกมาแล้วว่าเธอยอมรับหลานสะใภ้คนนี้ ตอนนี้ก็แค่รอแนะนำให้ทุกคนรู้จักอย่างเป็นทางการในงานหมั้นเท่านั้น
ไม่เพียงแค่เท่านี้ ตระกูอวี๋ที่ปกติชอบอะไรแบบเรียบง่าย คราวนี้กับเรียนเชิญนักข่าวทุกสำนักให้ไปร่วมงานหมั้นครั้งนี้
งานหมั้นเพิ่งเริ่มจัดเตรียมขึ้นเท่านั้นแต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคนเป็นอย่างดี!
ต่างก็อยากรู้กันว่าผู้หญิงที่พิชิตใจอวี๋เยว่หานได้นั้น คือใครกันแน่!
เหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ในระหว่างทางไปลองชุด ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองได้กลายเป็นศัตรูหัวใจของผู้หญิงมากมาย
เพิ่งตื่นนอน แต่พอขึ้นรถก็เริ่มง่วงอีกครั้ง
เอนพิงอกของอวี๋เยว่หานแล้วเริ่มหาวออกมา
เธอปิดเปลือกตาลง แล้วพิงอกของเขาหลับไป
ไม่ช้าก็มาถึงห้างสรรพสินค้า
รถจอดหยุดลง เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะลงจากรถ แต่อวี๋เยว่หานกลับเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้เสียก่อน
เขาลงจากรถก่อน จากนั้นก็เดินอ้อมไปที่ฝั่งของเธอ ก้มตัวไปอุ้มเธอออกมาจากรถ
“อ๊ายยยยยยยย”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นที่รอบด้าน
สาววัยรุ่นเพ้อฝันจำนวนมาก เห็นภาพผู้ชายที่ทำตัวเปิดเผยขนาดนี้ก็กรี๊ดออกมาอยากตื่นเต้น
อยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ แต่โดนบอดี้การ์ดขวางไว้เสียก่อน
พอพวกเธอได้สติขึ้น อวี๋เยว่หานก็อุ้มเหนียนเสี่ยวมู่เดินเข้าไปยังลิฟต์วีไอพีของห้างสรรพสินค้าแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปโอบรอบคอชายหนุ่มเอาไว้ ซุกใบหน้าเข้ากับอกของเขา เมื่อแน่ใจว่าภายในลิฟต์ไม่มีคนอื่นอยู่ จึงเงยหน้าขึ้น กำหมัดชกไปที่เขาหนึ่งที
“คุณจงใจชัดๆ!”
ปกติเขาไม่ใช่คนชอบทำอะไรเปิดเผยแบบนี้
ออกจากบ้านก็ไม่ใช่ว่าต้องกอดเธอตลอดเวลา
จู่ๆ วันนี้ก็อุ้มเธอขึ้นต่อหน้าคนมากมาย ทำเอาเธอตกใจหมด อย่าว่าแต่พวกวัยรุ่นสาวพวกนั้นเลย ใจของเธอก็แทบละลายเหมือนกัน!
“คุณยั่วผมได้คนเดียว ผมห้ามยั่วหรือไง” อวี๋เยว่หานวางเธอลง มือหนึ่งยันกำแพงลิฟต์เอาไว้ ก้มมองดูใบหน้าเล็กของเธอ
มองเห็นใบหน้าที่แดงก่ำเพราะความเขินอาย ดวงตาของชายหนุ่มก็มีแววลึกซึ้ง
เอ่ยออกมาทีละคำ
“เหนียนเสี่ยวมู่ ผลัดกันยั่วถึงจะยุติธรรม”
เหนียนเสี่ยวมู่ “……” !!
พอออกจาลิฟต์ เหนียนเสี่ยวมู่ก็แทบจะวิ่งออกไป
ในสมองมีแต่ใบหน้าที่ดูดีจนทำให้คนอื่นละลาย ตอนนี้อย่าว่าแต่เขาพาเธอไปลองชุดเลย ต่อให้พาเธอไปขายเธอก็ยินดีทำเพื่อเขา!
“คุณชายหาน”
ร้านชุดราตรีหรูหราร้านหนึ่ง เมื่อพนักงานเห็นอวี๋เยว่หานปรากฏตัว ก็รีบทักทายอย่างนอบน้อม
เมื่อสายตามองเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ด้านทางหลังชายหนุ่ม ก็ชะงักไป
สายตาส่อแววอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
ใครไม่รู้บ้างว่าคุณชายหานไม่เข้าใกล้ผู้หญิง
อย่าว่าแต่พาผู้หญิงมาช็อปปิ้งเลย แค่มีผู้หญิงจงใจอยากเข้าใกล้เขา ก็โดนเขาอาละวาดจนหนีเตลิดไปหมด
ครั้งหนึ่ง พนักงานในร้าน อาศัยความเป็นพนักงานจงใจไปยั่วยวนคุณชายหาน อย่าว่าแต่ยั่วสำเร็จเลย คุณชายหานไม่มองเธอแม้แต่หางตา เธอก็โดนไล่ออกแล้ว……
ดังนั้น พออวี๋เยว่หานมาที่ร้านอีก ทุกคนก็ต่างให้ความเคารพยำเกรง แม้มีจุดหมายในใจแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น
“ชุดที่คุณนายใหญ่อวี๋สั่งตัดเอาไว้ส่งมาแล้วค่ะ เชิญทั้งคู่ด้านในค่ะ” พนักงานหลายคนได้สติ ก็รีบพูดเชิญอย่างนอบน้อม
“ฉันรู้สึกปวดท้องนิดหน่อย คุณไปลองก่อนเถอะ” เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยมือชายหนุ่ม พูดเสียงต่ำ
เมื่อเห็นสายตาเป็นห่วงของอวี๋เยว่หานที่ส่งมา เธอก็รีบอธิบาย “ฉันไม่เป็นไร นั่งพักแปปนึงก็หาย คุณรีบไปเปลี่ยนชุดเถอะ!”
ตอนที่ 556 ความจริงที่ปรากฏ (4)
เหนียนเสี่ยวมู่พูดเร่งชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่ายอมเดินตามพนักงานไป ใบหน้าก็ปรากฏแววยินดีขึ้น
ไม่ปวดเอว ท้องก็ไม่ปวดแล้ว
เดินไปที่นั่งที่โซฟาบริเวณโซนพักผ่อนอย่างสบายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมเปิดกล้องถ่ายรูปเอาไว้
รอตอนชายหนุ่มเปลี่ยนชุดเดินออกมา จะแอบถ่ายรูปของเขา
ใครใช้ให้เขาไม่ชอบถ่ายรูปกันล่ะ ในโทรศัพท์ของเธอไม่มีภาพของเขาเลยแม้แต่สักภาพเดียว
อยากเปลี่ยนภาพพักหน้าจอโทรศัพท์ ก็ทำได้แค่แอบถ่าย
ถ้าเกิดถ่ายได้ภาพที่หล่อเป็นพิเศษ ก็ยังสามารถเอาไปล้างแล้วแอบเอาไปวางไว้ที่ห้องทำงานของเธอได้ด้วย
ถ้าเกิดคิดถึงเขาตอนนั่งทำงานอยู่ ก็จะได้แอบหยิบขึ้นมาดู
เมื่อคิดได้แบบนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ปิดปากหัวเราะอย่างชอบใจ
เหมือนกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่กำลังเตรียมจะไปขโมยเนื้อสด
ขณะที่กำลังเฝ้ารออวี๋เยว่หานออกมาอย่างใจจดใจจ่อ ก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังแว่วขึ้น
“พวกเธอว่า เธอคือผู้หญิงที่คุณชายหานจะหมั้นด้วยหรือเปล่า เป็นใครมาจากไหนกันนะ ถึงได้แต่งเข้าตระกูลอวี๋ กลายเป็นนายหญิงของบริษัทเครือตระกูลอวี๋……”
“ฉันได้ยินมาว่า เมื่อก่อนเธอเคยเป็นพยาบาลพิเศษ แต่ต่อมาไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ได้เข้าไปทำงานที่แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทตระกูลอวี๋ สรุปแล้วก็คือเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้มีชาติตระกูลอะไร อาศัยการจับผู้ชายฐานะดีๆ เป็นแฟน”
“ผู้หญิงแบบนี้จะคู่ควรกับคุณชายหานได้ยังไงกัน”
“เสื้อผ้าที่เธอใส่มา แบรนด์อะไรฉันยังไม่รู้จักเลย นอกจากหน้าตาที่ดูดีหน่อยแล้ว ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอมีอะไรต่างจากคนอื่น ถึงได้โชคดีขนาดนี้”
“ฉันรู้สึกเสียดายแทนเทพบุตรของฉันจริงๆ ถ้ารู้ว่าเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้ สู้ยอมให้เขาแต่งกับคุณหนูใหญ่ตระกูลเหวินที่เคยมีข่าวลือด้วยกันยังจะดีซะกว่า อย่างน้อยนั่นก็เป็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์……”
“……”
คนพวกนั้น เหมือนจะไม่ได้สังเกตเลยว่าหญิงสาวนั่งอยู่ที่โซฟา
ยืนจับกลุ่มกันนินทาอยู่
ตอนแรกที่เริ่มพูดดูจะมีความเกรงใจอยู่บ้าง
เมื่อพูดไปเรื่อยๆ แน่ใจว่าเหนียนเสี่ยวมู่เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ก็ยิ่งล้ำเส้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับว่าหากเธอแต่งงานกับอวี๋เยว่หาน จะกลายเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตของชายหนุ่ม
เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้วแน่น มือที่จับโทรศัพท์เตรียมถ่ายรูปกำแน่นขึ้น
บางที นี่คือความรู้สึกเวลาเราแคร์ใครบางคน
คนที่ปกติมั่นใจในตัวเองมาโดยตลอด เป็นครั้งแรกเลย ที่เริ่มสงสัยตัวเอง
สงสัยว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ยืนเคียงข้างชายหนุ่ม……
วินาทีต่อมา ก็ส่ายหน้าเบาๆ
ไม่ถูก การรักใครคนหนึ่งก็ต้องรักทั้งหมดที่เป็นเขา
เธอยังไม่รังเกียจที่อวี๋เยว่หานสูงส่งเกินไป ทำเอาเธอต้องการเป็นศัตรูหัวใจของใครหลายๆ คนเลย
เขามีสิทธิ์อะไรมารังเกียจชาติกำเนิดของเธอ
อีกอย่าง ตอนนี้คนที่รังเกียจเธอก็ไม่ใช่อวี๋เยว่หาน แต่เป็นคนที่ไม่มีความสำคัญเลยสักนิด
ถ้าเกิดเธอแยกจากเขาเพียงเพราะคำพูดไร้สาระของคนพวกนั้น
นั่นก็เท่ากับเป็นการทำให้พวกเขาได้ใจ และก็เป็นการทำร้ายตัวเอง
เธอไม่ได้โง่นะ!
“ด้วยฐานะของเธอ พวกเธอว่า เธอคบกับคุณชายหานจะทำให้เขาขายหน้าขนาดไหนกัน ถ้าเกิดต่อไปมีงานสำคัญอะไร ก็ต้องพาคู่หมั้นที่ออกงานไม่ได้ไปด้วย……”
“น่าจะให้เธอได้เห็นความแตกต่างระหว่างตัวเองกับคุณชายหานซะหน่อย ถ้าเกิดเธอรู้ตัว ก็ควรจะอยู่ให้ห่างจากคุณชายหาน……”
“……”
ทั้งหมดกำลังพูดอยู่ พอได้ยินเสียงห้องลองเสื้อถูกเปิดออก ต่างเงียบเสียงไปทันที
อวี๋เยว่หานในชุดสูททั้งตัว ค่อยๆ เดินออกมาจากด้านใน
ชุดสูทสีดำ ยิ่งทำให้ใบหน้าที่สมบูรณ์ของชายหนุ่มยิ่งดูดีขึ้นไปอีก ยิ่งดูก็ยิ่งหลงใหล
ดวงตาล้ำลึก มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย มีความเยือกเย็นที่บรรยายไม่ถูกแผ่ออกมา มันดูหล่อเหลา หล่อจนทำให้คนอยากกรีดร้อง