ตอนที่ 565 สถานะในบ้านของคุณชายหาน (3)
คำพูดนี้ของถานเปิงเปิงเหมือนเป็นการไล่แขกไปในตัว
แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็ไม่ค่อยชอบพูดคุยกับคนอื่นอยู่แล้ว ยกเว้นคนไข้ของเธอ
ถานเปิงเปิงปฏิบัติต่อคนไข้ของตัวเองอย่างอ่อนโยน แต่ถ้าเป็นคนปกติ เธอดูไม่เข้าพวกอย่างเห็นได้ชัด
ที่ยอมคุยกับฟ่านอวี่อยู่เป็นนานก็เพราะ เห็นแก่บริษัทตระกูลฟ่านที่มีจิตทำการกุศลมาโดยตลอด
มิฉะนั้นแล้ว ถ้ารู้ว่าฟ่านอวี่มาหาเธอเพื่อสอบถามเรื่องของเหนียนเสี่ยวมู่ เธอคงไล่เขากลับไปนานแล้ว
ฟ่านอวี่ยังอยากจะถามต่อ แต่เมื่อเห็นว่าถานเปิงเปิงไม่ยอมพูดแล้ว จึงได้แต่ลุกขึ้นยืน
รบกวนคุณแล้ว
ชายหนุ่มมองไปที่ถานเปิงเปิงด้วยแววตานิ่งลึก จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
ผู้ช่วยรออยู่ที่ด้านนอกโรงพยาบาลแล้ว
เมื่อเห็นฟ่านอวี่เดินลงมา ก็รีบตรงเข้าไปหา
คุณชาย ถามได้เรื่องไหมาครับ ได้ยินมาว่าถานเปิงเปิงเป็นคนแปลกประหลาด เรื่องที่เธอไม่อยากพูด ใครก็ไม่มีทางง้างปากเธอให้พูดได้ ตอนแรกที่คุณชายหานส่งคนมาหาเธอเพื่อถามข้อมูล ได้ยินว่าโดนปิดประตูใส่หน้า!
ในเมืองเอช แทบไม่มีคนที่จะไม่ไว้หน้าอวี่เยว่หาน
ถานเปิงเปิงเป็นแค่หมอเท่านั้น แต่กลับไม่เกรงกลัวอำนาจของตระกูลอวี๋
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนิสัยจริงๆ หรือเพราะมีใครหนุนหลังกันแน่
สิ้นเสียง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของฟ่านอวี่ก็หดลงเล็กน้อย
ถานเปิงเปิงให้ความรู้สึกไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขามักจะรู้สึกว่าเธอดูคุ้นเคย ราวกับเคยเจอกันมาก่อน แต่ไม่ใช่แค่ที่เธอพูดว่าเคยเธองานที่งานเท่านั้น
ตามหลักแล้ว หากเขาและเธอเจอกันแค่ที่บนเวทีจริงๆ เขาไม่ควรรู้สึกว่าเธอคุ้นเคยแบบนี้
แต่เขาก็แน่ใจมาก ว่าไม่เคยเจอเธอมาก่อน
แล้วไอ้ความรู้สึกคุ้นเคยแบบนี้ มันมาจากที่ไหนกัน
ถานเปิงเปิงคนนี้ไม่ธรรมดา เธออาจรู้เรื่องอะไร ให้คนจับตาดูเธอเอาไว้ แววตาของฟ่านอวี่เป็นประกายขึ้นแววหนึ่ง ค่อยๆ พูดขึ้น
ครับ!
เรื่องแหวน สืบไปถึงไหนแล้ว ฟ่านอวี่นึงถึงอีกเรื่องขึ้นได้
แหวนราชินีเป็นแหวนของลิ่วลิ่ว ที่ที่แหวนปรากฏ อาจเป็นที่สุดท้ายที่ลิ่วลิ่วปรากฏตัว
ตอนนั้นที่ฟ่านอวี่รีบไปที่งานประมูล แย่งแหวนวงนั้นกับอวี่เยว่หาน ก็เพราะอยากจะสืบหาเจ้าของแหวนคนเดิมผ่านแหวนราชินีวงนั้น
ถามทางผู้จัดงานประมูลแล้วครับ ผู้จัดงานติดต่อกับผู้บริจาคให้ แต่ทางผู้บริจาคบอกว่า เขาไม่รู้ที่มาของแหวนวงนั้น
ผู้ช่วยพูดขึ้นอย่างลำบากใจ
หมายความว่ายังไง ฟ่านอวี่ขมวดคิ้ว
การประมูลการกุศล ไม่ว่าจะประมูลของชิ้นไหน ข้อมูลของผู้บริจาคล้วนเป็นความลับ
นอกจากคนบริจาคจะยินดีเปิดเผยเองเท่านั้น มิฉะนั้นแล้วทางผู้จัดจะไม่แพร่งพรายข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น
ฟ่านอวี่ใช้เส้นสายมากมาย ถึงสืบได้ว่าใครเป็นผู้บริจาค แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้กลับมา
บอกมาให้ละเอียดซิ ถ้าเขาไม่รู้ แล้วได้แหวนวงนั้นมาได้ยังไง
คือ…… แววตาของผู้ช่วยเปลี่ยนไปเล็กน้อย คำพูดชะงักไปอีก
โน้มเข้าไปใกล้ใบหูของฟ่านอวี่ กระซิบเสียงต่ำออกมาประโยคหนึ่ง
วินาทีต่อมา สีหน้าของฟ่านอวี่ก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน
ถามที่อยู่มาแน่ชัดแล้วใช่ไหม แววตาของฟ่านอวี่แฝงไปด้วยความอันตราย ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้น
คุณชาย ที่แบบนั้นมีแต่พวกอันธพาล คุณไปแบบนี้มันอันตรายเกินไป…… ผู้ช่วยอยากจะพูดอะไรอีก แต่ฟ่านอวี่หันมาจ้องหน้าเขาเขม็ง
เขาจึงทำได้แต่กัดฟัน บอกที่อยู่ที่ตนสืบทราบมาแก่ฟ่านอวี่
ฟ่านอวี่ได้ยินก็เอ่ยพูดในทันที ไปขับรถมา
ตอนที่ 566 สถานะในบ้านของคุณชายหาน (4)
คฤหาสน์ตระกูลอวี๋
เหนียนเสี่ยวมู่นั่งอยู่บนโซฟา ขายกไขว้ห้าง กำลังดูของที่ซื้อมาจากข้างนอก
นอกจากของที่จะใช้ในงานหมั้นแล้ว เธอยังซื้ออย่างอื่นมาอีก
ผู้หญิงเมื่อเริ่มช็อปปิ้ง ก็มีพลังอย่างไม่มีขีดจำกัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากช็อปปิ้งกลับมา นั่งแกะของอยู่บนโซฟา สามารถลืมทุกสิ่งไปได้อย่างสิ้นเชิง
นี่คือเสื้อผ้าของเสี่ยวลิ่วลิ่ว!
นี่คือกระโปรงของเสี่ยวลิ่วลิ่ว!
นี่คือของเล่นของเสี่ยวลิ่วลิ่ว!
แล้วก็นี่ ขนมที่เสี่ยวลิ่วลิ่วชอบกินที่สุด……
เหนียนเสี่ยวมู่ผลักของที่อยู่บนโต๊ะกาแฟออกไป จากนั้นก็เรียงของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะที่ละห่อ
ที่แผ่หลาอยู่ทั้งหมด ล้วนเป็นของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
เสี่ยวลิ่วลิ่วเอนศีรษะมองเธอจัดของอยู่ข้างๆ
เหนียนเสี่ยวมู่พูดประโยคหนึ่ง เธอก็พูดตามประโยคหนึ่ง
แม่ลูกคู่นี้ ราวกับกำลังร้องเพลงตามกันอยู่
เหนียนเสี่ยวมู่หยิบกระโปรงขึ้นมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็ทาบไปบนตัวของเสี่ยวลิ่ว มองดูแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างพอใจ
สายตาฉันดีจริงๆ ถ้าเสี่ยวลิ่วลิ่วใส่กระโปรงตัวนี้ต้องดูดีมากแน่ๆ!
……
อากาศหนาว กระโปรงต้องใส่คู่กับกางเกงด้านใน แล้วก็รองเท้าบูทคู่เล็ก……รองเท้าบูทที่ฉันซื้อให้เสี่ยวลิ่วลิ่วล่ะ เหนียนเสี่ยวมู่หันไปหารองเท้าบูทในกองสิ่งของที่ซื้อมา
ในที่สุดก็หารองเท้าบูทเจอ
จากนั้นก็ให้เสี่ยวลิ่วลิ่วลองใส่ แล้วก็ยิ้มจนตาหรี่ ลูกสาวเหมือนฉัน มีราศี ใส่อะไรก็สวย!
……
อวี๋เยว่หานยืนอยู่ข้างๆ มองดูเหนียนเสี่ยวมู่ที่แทบจะจมลงไปในกองเสื้อผ้าเด็ก ยิ่งเขาโดนเมินนานเท่าไหร่ ดวงตาดำขลับก็ยิ่งเคร่งขรึมลงมากเท่านั้น
สุดท้าย เมื่อเห็นของที่เธอวางอยู่เต็มโต๊ะ ไม่มีสักชิ้นที่เป็นของเขา ฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดสะบั้นลงในที่สุด!
เดินตรงไปด้านหน้า ลากเธอมาอยู่ตรงหน้า เหนียนเสี่ยวมู่ คุณจำได้หรือเปล่าว่าคุณมีคู่หมั้น
เหนียนเสี่ยวมู่ ???
คุณไม่ได้มองผมมากว่าชั่วโมงหนึ่งแล้วนะ!
อวี๋เยว่หานชี้ไปที่กองสิ่งของพวกนั้น กัดฟัน อีกอย่าง ของพวกนั้นไม่มีสักชิ้นที่เป็นของผม!
ที่น่าสมเพชที่สุดก็คือ เขาคือคนที่ขนของพวกนั้นกลับมา!
ภรรยายังไม่ทันจะได้แต่งเข้ามา เขาก็จะโดนทิ้งแล้ว
สถานะในบ้านที่เคยตกลงกันไว้ล่ะ
อวี๋เยว่หาน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ทำไมใจแคบแบบนี้ คุณหึงลูกสาวตัวเองเนี่ยนะ เหนียนเสี่ยวมู่กวาดตามองชายหนุ่ม จากนั้นก็หยิบถุงเท้าของเสี่ยวลิ่วลิ่วยัดไปที่อกเขา อ่ะ อันนี้ให้คุณ เลิกโวยวายได้แล้ว
อวี่เยว่หาน …… !!
เหนียนเสี่ยวมู่เหล่มองชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าเขายังทำหน้าขรึมอยู่ จึงเอื้อมมือไปอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้นมา
ยัดใส่อ้อมกอดเขา
เสี่ยวลิ่วลิ่ว พ่อของหนูหึงแล้ว หนูรีบปลอบเขาหน่อย
เจ้าก้อนข้าวเหนียวชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็โอบรอบคอของชายหนุ่มอย่างว่าง่าย พูดออดอ้อน ปาปา เสี่ยวลิ่วลิ่วกับคุณแม่คนสวยรักปาปาน้า
อวี๋เยว่หาน …… !!
ผู้หญิงของตัวเอง ลูกสาวของตัวเอง……ช่างเถอะ นอกจากจะตามใจ ยังจะทำอะไรได้อีก
อวี๋เยว่หานอุ้มเจ้าหญิงน้อยของตัวเองเอาไว้ แล้วนั่งลงบนโซฟา
เหนียนเสี่ยวมู่มองดูพ่อลูกที่คุยกันเสร็จแล้ว แววตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
แสงที่ด้านนอกหน้าต่าง ส่องเข้ามาในห้องรับแขก
หญิงสาวยืนย้อนแสงอยู่หน้าโต๊ะกาแฟ ทั้งตัวโดนชโลมไปด้วยแสง
สงบนิ่ง งดงาม
ใจของอวี่เยว่หานสั่นขึ้นน้อยๆ วางเสี่ยวลิ่วลิ่วลง เดินไปด้านหน้า โอบกอดหญิงสาวไว้จากทางด้านหลัง ให้เธอเข้ามาแนบชิดอยู่ในอ้อมกอด เอ่ยพูดขึ้น
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ต้องหมั้นหรอก เราแต่งงานกันเลยดีกว่า!