ตอนที่30 หนอนที่ตื่นเช้าก่อน โดนนกกินก่อนใคร
ที่พักส่วนตัวหรูหราขนาดกว้างขวางครึ่งหนึ่งของชั้น บนอาคารสูงลิ้วของรีสอร์ทเหาถึง หลงเซียวนอนอยู่บน ฟูกสีขาว ยืดแขนยาว ขยี้ตาอย่างขี้เกียจ
หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวทิวทัศน์กว้างของครึ่ง เมือง ข้างนอกฝนกำลังตก รุนแรงไม่น้อย
ได้ยินเสียงของฉู่ลั่วหาน คิ้วของท่านเชียวรู้สึกผ่อน คลายอย่างบอกไม่ถูก ท่าทางที่ไม่สามารถสังเกตได้ น้อยๆนี้ของเธอสะกิดเข้าที่ใจของท่านเซียว ทำให้แม้แต่ วันฝนตกก็ดูสวยงามขึ้นไม่น้อย
ฉู่สั่วหานตั้งใจฟังเสียงตอบกลับจากฝั่งนั้น แต่ไม่ว่าจะ
ฟังยังไงก็ได้ยินแต่เพียงเสียงซวบซาบนุ่มๆ นี่หลงเซียว ไม่อยากคุยกับเธอขนาดนี้เลยหรอ ทุกครั้งที่คุย โทรศัพท์กันกว่าจะมีเสียงตอบรับก็ต้องรออยู่นานสอง นาน เขากำลังทดสอบความอดทนของเธอหรือว่าอยาก จะยั่วอารมณ์เธอกันแน่
ฉ่ลั่วหานจ้องหลงจื่อที่อยู่ตรงหน้า พลางรอคำตอบ ของหลงเซียว โกรธจนกัดฟันกรอด เช้าที่สุดใสแบบนี้ พี่ น้องคู่นี้กำลังทดสอบความแข็งแรงของหัวใจเธออยู่หรือ ยังไงกัน
หลงเซียวค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากตัวก่อนลุกขึ้นยืน เดินเท้าเปล่าไปทางหน้าต่าง เบื้องหลังของชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ส่วนต่างๆของร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น
นิ้วเรียวยาวจิ้มลงบนกระจก เคาะตามจังหวะฝนตก ฉู่ลั่วหานรอจนหงุดหงิดอยากจะด่าคน ในที่สุดเสียง ตอบของหลงเซียวก็ดังขึ้นจนได้”ไม่ต้องสนใจเขา เดี่ยว ฉันจัดการเอง”
so? รอเป็นชาติตอบกลับเธอแค่เนี้ยน่ะหรอ
ฉู่ลั่วหานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเตรียมจะกดวางสาย เสียงของหลงเซียวก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เอาของจากห้องน้ำ ชั้นล่างย้ายขึ้นไปข้างบน อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะใช้”
จากนั้นสายก็ถูกหลงเซียวตัดไป
ลั่วหานมองหน้าจอมือถือ สติหลุดไปสามวินาที ที่ หลงเซียวพูดเมื่อกี้ มันหมายความว่ายังไงกัน
หลงเซียวยืดตัวขึ้น หันหน้าไปทางเมืองครึ่งเมือง ริม ฝีปากบางค่อยยกขึ้นเล็กน้อย
สิบกว่าวินาทีต่อมา
มองผ่านหน้าจอ ฉู่ลั่วหานเห็นหลงจื้อมีสายเรียกเข้า ท่าทางของหลงจื้อตอนแรกๆดูแฮปปี้ดีด้า พูดไม่ทันถึง สามประโยคอยู่ๆสีหน้าก็ซีดเผือด ฉู่ลั่วหานยืนเงียบอยู่ หน้าประตู มองการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าที่หลากหลาย หลงจื้อ
เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นน่ะ สายของใครกันพลังทำลายล้างมหาศาลขนาดนี้
หรือว่าจะเป็นหลงเซียว ขณะที่กำลังสงสัยอยู่ในใจ หลงจื้อก็เก็บร่มเข้าไปนั่งรอในรถแทนเรียบร้อย
เงาของรถขับกลับไปมาท่ามกลางหมอกฝน ดูราวกับ
โกรธเคืองก็ไม่ปาน
ฉู่ล้วหานจับผมตัวเอง พยายามทำใจให้สลบ ใช้มือ ป้องปากที่หาวหวอดๆ สายตาจ้องไปที่ห้องน้ำชั้นล่าง ไม่ วายกัดปากตัวเองเบาๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ฉ่ลั่วหานแต่งตัวเรียบร้อย กำลังล้างหน้าแปรงฟัน พอ เงยหน้าขึ้น ก็มีใบหน้าหล่อเหลาของหลงเซียวโผล่ขึ้นมา ในกระจก!
“ว้าย!
ฉลั่วหานตกใจจนร้องกรี๊ดขึ้นมา
จะน่ากลัวเกินไปแล้วมั้ง! เมื่อกี้เพิ่งก้มหน้าบ้วนปากได้ แป๊บเดียว พอเงยหน้าขึ้นมาบนกระจกก็มีหน้าเพิ่มขึ้นมา อีกหนึ่งหน้า ถึงใบหน้านั้น…..งัวเงียแล้วก็หล่อเอาการ แต่ว่ามันก็น่ากลัวเกินไปอยู่ดี!
“หลงเซียวกะจะฆ่าฉันให้ตายเลยหรอ? !
ฉ่ลั่วหานเอามือทาบอก หัวใจเต้นตึกตักๆจนแทบจะ หลุดออกมาข้างนอก เมื่อกี้นี้ ทำเธอตกใจจนจะเป็นบ้าเอาได้เลย แม่งเอ้ย นายจะแสดงเป็นซาดาโกะงั้นหรอ
หลงเซียวสายตาเย็นๆมองผ่านหญิงสาวตรงหน้าไปที่ กระจก ประสานสายตากับเธอ น้ำเสียงที่ยังแหบพร่า งัวเงียให้ความรู้สึกเหมือนกับยังนอนไม่เต็มอิ่ม”อีกสักพัก เสี่ยวจื่อจะมา ถอดเสื้อผ้าซะ”
ฉู่ลั่วหานที่ปากยังมีฟองยาสีฟันติดอยู่ หันไปมอง ใบหน้าหล่อเหลาไร้ความรู้สึกของหลงเซียวอย่าง ช็อกๆ”ห้ะ ถอดเสื้อผ้าหรอ? ! ”
หลงเซียวพิงตัวลงกับประตูอย่างเหนื่อยๆ หลังติดกับ กระจกใส พูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว”ถ้าไม่อยากให้เขารู้ว่า เราสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก ก็ทำตามที่ฉัน บอก”
ก่อนหน้านั้นในโทรศัพท์ท่านเซียวโทรไปเอ็ดหลงจี้ อชุดใหญ่ บอกหมอนั่นไปตรงๆว่ามารบกวนเวลาตอน เช้าของเขากับภรรยา พลางสั่งให้เขาไปขับรถเล่นรอซะ อีกครึ่งชั่วโมงค่อยมา ไม่งั้นอย่าหวังจะได้เหยียบเท้าเข้า มาที่ประตูคฤหาสน์
และตอนนี้ พวกเขาต้องแสดงละครสองสามีภรรยา ที่รักใคร่กลมเกลียวกันเพื่อตบตาหลงจื่อ
ฉู่ลั่วหานถอดเสื้อผ้าออก ใส่ชุดนอนกลับไปเหมือน
เดิม ผมที่เก็บไว้เรียบร้อยก็ปล่อยออก ตั้งใจใช้มือดึงๆ
สองสามที ให้ดูยุ่งๆเซ็กซี่เหมือนเพิ่งตื่นนอน
ท่านเซียวยืนอยู่ในห้องนอน สายตาเย็นชาตลอดเวลา ฉูลั่วหานทำตัวให้ปกติที่สุด หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ หันหน้าไปมองหลงเซียว กางเกงขายาวกับเสื้อแขนยาว สีขาวดูสบายๆที่เขาใส่มา ดูๆแล้วแทบไม่ต้องเปลี่ยน เสื้อผ้าด้วยซ้ำ
“นาย..”
เธอพูดออกมาได้แค่คำเดียว เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น อีกครั้ง
สีหน้าตายด้านของหลงเซียวไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรที่ ไม่จำเป็นให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ถึงเสียงจะไม่ดัง แต่กลับ รุนแรงสั่นสะท้านแก้วหูยิ่งกว่าลมพายุข้างนอกซะอีก “ไม่ไปเปิดประตูรีไง”
คำสั่งเรียบง่ายชัดเจน ชั้นำแนวทางสิ่งที่ควรทำให้กับ ฉู่ลั่วหานอย่างไม่ยากเย็น
“พี่สะใภ้ ไม่ได้เพิ่งตื่นใช่ไหมเนี่ย”
หลงจื่อวางร่มกันฝนลงด้วยสีหน้ากังวลใจ พลางปัดๆ เม็ดฝนบนบ่าออก เข้าประตูมา ไม่วายที่จะมองฉู่ลั่วหาน เงียบๆตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอยังคงอยู่ในชุดนอน สีหน้าดู เหนื่อยๆ สองมือล้วงอยู่ในกระเป๋าชุดนอน บนตัวมีกลิ่น หอมของดอกไม้อ่อนๆ
ฉู่ลั่วหานเปิดตู้รองเท้าที่อยู่ตรงทางออกประตู พลาง หยิบรองเท้าเดินในบ้านคู่ใหม่ของผู้ชายออกมาให้เขา”มาเช้าจังเลยนะ คุณชายสองหลง พี่ควรจะพูดว่า
นกที่ตื่นเช้าได้กินหนอนก่อนเสมอ หรือว่าควรเตือนเธอ ว่า หนอนที่ตื่นเช้าก่อนโดนนกกินก่อนใครดีล่ะ” หลงจื่อเปลี่ยนรองเท้า ก่อนจะยักไหล่แบบไม่แคร์”ไม่
ว่าจะเป็นนกหรือหนอน ถ้าตื่นเช้าล่ะก็ ยังไงก็มีอาหาร
กินก่อนใคร”
สายตาของเขาค่อยๆมองไปบนเรือนร่างของฉู่ลั่วหาน แฝงไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม แต่ก็แกล้งทำเป็นกลบ เกลื่อน
“ไม่รู้ว่าเธอจะมาเช้าขนาดนี้ อาหารเช้ายังไม่ได้เตรียม เลย ถ้าอยากทานล่ะก็ไม่มี อยากดื่มอะไรก็เปิดเอาในตู้ เย็น”
หลงจื่อเบะปากเล็กน้อย ก่อนจะเอียงหัวยิ้มพลางพูด ขึ้น “พี่ใหญ่นอนตื่นสาย พี่สะใภ้ต้องตื่นก่อน พี่สะใภ้นี้ ใจดีจังนะ”
โทนเสียงหยอกล้อแบบนั้น ไม่สบายหูเอาซะเลย
จะพูดยังไงก็ช่าง
“พี่ขึ้นไปข้างบนก่อนละกัน”
“ได้เลย! พี่สะใภ้เดินดีๆล่ะ”
รอจนหลังไวๆของฉู่ล่วหานหายไป หลงจื้อก็เริ่มเดินดู รอบๆห้องนั่งเล่น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาบ้านพี่ใหญ่ แน่นอน ว่าต้องเดิน ดูการจัดวางข้าวของของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆก่อนสักรอบ เครื่องใช้สไตล์ยุโรปสวยงามเรียบง่าย บ้านหรูหราใหญ่ โตสมเกียรติ ของตกแต่งห้องเล็กๆทุกชิ้นล้วนเป็นชิ้นที่ดี ที่สุดจากการประมูล
บ้านหลังนี้ ความหรูหรามาเป็นอันดับสอง ไอเดียการ ออกแบบมาเป็นที่หนึ่ง
หลงจื่อหยิบเครื่องเคลือบจากลิ้งโบราณลงมาพลิกดู ไปมา ในใจอดสงสัยไม่ได้ พี่ใหญ่ก็ไม่ได้รักฉู่ลั่วหานอะ ไรขนาดนั้น เขาเคยเห็นหลักฐานตอนวันรวมครอบครัว ของตระกูลหลง แต่ทำไมบ้านหลังนี้ถึงได้ทุ่มทุนทุ่มใจ สร้างนัก
ฉูลั่วหานผลักประตูห้องนอนเข้ามา ภาพตรงหน้าที่เห็น ก็คือหลงเซียวเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ บนเอวเขามี แค่ผ้าขนหนูพันไว้ หยดน้ำบนตัวที่ยังไม่ถูกซับ เส้นผม เปียกๆมีน้ำหยดติ่งๆลงมา ภาพที่เซอร์ไพรส์สายตาผู้ พบเห็นแบบนี้ หัวใจของฉู่ลั่วหานเต้นตึกๆราวกับลูก กวางน้อย
“นาย ทำอะไรน่ะ….”
“ตื่นเช้าอาบน้ำ มีอะไรน่าสงสัย”นิ้วมือเรียวยาวของ หลงเซียวขยี้ลงบนเส้นผมสีดำเปียกชุ่ม ทำให้หยดน้ำ กระเซ็นออกมาให้ทั่ว เข้าที่หน้าของเธอเต็มๆ แถมหลง เซียวยังดูไม่แคร์อีกด้วย
ฉู่ลั่วหานกัดฟันกรอด”ไม่สงสัยอะไร น้องชายนายอยู่ ด้านล่างแหละ ไม่ลงไปดูหน่อยหรอ”
สายตาของหลงเซียวเบนไปทางอื่น “แน่นอนอยู่แล้ว”
พูดจบแขนยาวๆของเขาก็ดึงประตูเปิด ฉู่ลั่วหานทนไม่ ไหว ถามออกไปอย่างเร่งรีบ “จะออกไปแบบนี้หรอ”
หลงเซียวไม่แม้แต่หันหน้ากลับมา”อยู่บ้านตัวเอง เจอ น้องชายตัวเอง เธอว่าควรยังไงล่ะ”
เหอะ!
บ้านตัวเอง น้องชายตัวเอง ดังนั้นคนนอกคนเดียวในที่ นี้ ก็คือเธอสินะ คนที่ควรระวังตัวไว้ ก็มีแค่เธอคนเดียว
เท่านั้น
ฉูลั่วหานหันหน้ากลับมา ไม่ได้ถามอะไรอีก ดีมาก นายอยากทำอะไรก็เรื่องของนาย
หลงเซียวเดินลงไปชั้นล่าง ขายาวๆก้าวลงบันไดไปที ล่ะขั้นๆอย่างมั่นคง”เสี่ยวจื่อ”
หลงจือที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูเครื่องเคลือบในมืออยู่ เงยหน้าขึ้นมอง เจอพี่ใหญ่ของตัวเอง สายตาเปลี่ยนไป ในเสี้ยววินาที ทำท่าทางเหมือนเด็กน้อยไม่รู้เรื่อง ส่ง เสียงฟีดฟัดแกมน้อยใจออกมา”พี่ใหญ่เอาแต่นอนตื่น สาย ให้ผมยืนเปียกฝนรออยู่ข้างนอกตั้งครึ่งชั่วโมง พี่ ใหญ่ ต้องไถ่โทษผมนะ”
หลงเซียวท่อนบนเปลือย นั่งลงบนโซฟาอย่างสบายๆขายาวๆพาดลงบนมุมโต๊ะ ท่าทางราวกับพระเอกใน ละคร”อยากได้อะไรก็ว่ามา”
สายตาของหลงจื้อสำรวจการแต่งกายของพี่ใหญ่ พลางนึกถึงฉู่ลั่วหานที่ใส่ชุดนอนลงมาเมื่อครู่ ในใจรู้สึก ไม่สบายอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงยิ้มกะล่อน”ผมเห็น จานกระดูกของปลายราชวงศ์หมิงบนหิ้งโบราณ สีสัน หน้าตาถูกใจผมมาก พี่ใหญ่ยกให้ผม ก็เป็นอันหายกัน
จานกระดูกปลายราชวงศ์หมิง ท่านเซียวจ่ายไป 70 กว่าล้านหยวนในการประมูล เป็นของสะสมชิ้นที่ท่าน เซียวชอบมากชิ้นหนึ่ง
“ได้”
หลงจือยิ้มแปล”พี่ใหญ่เนี่ยใจดี้ใจดี เรื่องตอนเช้า เบ็ดเสร็จเรียบร้อย!
ขณะที่สองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ ฉู่ลั่วหานที่เปลี่ยน ชุดเรียบร้อยก็เดินลงมาจากชั้นสอง ชุดสูทสีเบจคาด ด้วยเข็มขัดสีแดงอ่อน ทำให้เห็นรูปทรงองค์เอวของเธอ ชัดเจน ปกเสื้อไม่ต่ำจนเกินไป ถึงจะเน้นรูปร่าง แต่ก็ไม่ ถึงกับดูไม่เหมาะสม
สายตาของหลงจื่อมองไปที่ข้างบนบันได ประกายแสง พาดผ่านดวงตาของเขาอย่างรวดเร็วราวกับดาวตก ท่าน เซียวที่ทำท่าถือแก้วดื่มน้ำอยู่ หางตาก็ยังไม่วายตรวจ สอบปฏิกิริยาตอบรับของหลงจื่อ
ดื่มชาไปได้หนึ่งอีก หลงเซียวมองไปทางฉู่ลัวหานด้วย ท่าทางปกติพลางพูด “เสี่ยวจื่อยังไม่ได้กินข้าวเช้า วันนี้ เตรียมอาหารเช้าสำหรับสามที่ด้วย”
ริมฝีปากบางของฉู่ลั่วหานยิ้มเย็นๆ ตอบออกไปเสียง อ่อน”ค่ะ งั้นพวกคุณคุยกันไปก่อนนะ เดี่ยวฉันจะไป
เตรียมอาหารเช้าให้”
การแสดงไงล่ะ เริ่มได้
สายตาของหลงจื่อจับจ้องไปที่ร่างของฉู่ลั่วหานที่เดิน หายออกไป พลางถามด้วยความสงสัย”ปกติพี่สะใภ้เป็น คนเตรียมอาหารเช้าหรอ”
หลงเซียวพยักหน้ารับตามตรง”ใช่”
หลงจื้อสีหน้าดูปกติ แต่ในใจไม่ค่อยสบายนัก แค่ คิดถึงทุกเช้าที่พี่ใหญ่กับฉู่ลั่วหานต้องนั่งกินอาหารร่วม โต๊ะกันอย่างสุขสันต์ ล้วนมาจากการทำงานหนักของ เธอ เขาเองรู้สึกหนักอกหนักใจซะยิ่งกว่าแม่ที่ทำลูกตัว เองหาย
หลงเซียวมองเรียบๆไปทางห้องครัว “พี่สะใภ้นายรส มือการทำอาหารยังไงก็เทียบไม่ได้กับพ่อครัวของ คฤหาสน์ ดังนั้น กินๆไปซะ”
เธอลงมือทำซุปด้วยตัวเอง แต่เขากลับรังเกียจว่าเธอ
ทำไม่อร่อยซะงั้น หลงจื่อ ได้ยินยิ่งไม่สบายใจเข้าไปอีก
“เป็นไปได้ยังไง พี่สะใภได้แค่มองดูก็รู้ว่าทำกับข้าว
เก่ง! ”
ริมฝีปากบางของหลงเซียวเผยอขึ้นเบาๆ วางแก้ว น้ำลงยืดตัวขึ้น “ฉันไปเปลี่ยนชุดก่อน”
หลงจื่อลุกขึ้นยืนส่งเขาขึ้นชั้นบน จากนั้นก็หมุนตัวเดิน ไปที่ประตูห้องครัว
หลงจื่อพิงไหล่กับขอบประตู มองร่างฉู่ลั่วหานที่กำลัง ง่วนอยู่กับการทำกับข้าว”พี่สะใภ้ พี่กับพี่ใหญ่นี่รักกันดี จริงๆ! แต่ทำไมตอนที่วันรวมครอบครัวที่คฤหาสน์ ผม ถึงดูไม่ออกเลยล่ะ”
ลั่วหานที่กำลังทอดไข่ สายตาจดจ่ออยู่ที่กระทะ”งั้น หรอ ดูออกขนาดนั้นเชียว”
หลงจื่อยิ้มเย็นๆ”พี่สะใภได้ คิดว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไง”
มือที่ถือตะหลิวไม้อยู่ชะงักไปเล็กน้อย ฉู่ลั่วหานกัดริม ฝีปากแดงระเรื่อเบาๆ”เธอรู้อะไรล่ะ”