ตอนที่ 262 เปลี่ยนสถานะมาเป็นเพื่อน
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
“แอนน่า! ห้องฉุกเฉินมีคนไข้รายหนึ่ง คุณไปดูสักหน่อยได้ไหม คะ? หมอถึงกับหมอหวังต่างก็กำลังอยู่ที่ห้องผ่าตัด สถานการณ์ของผู้ ป่วยรายนี้เร่งด่วนมาก ตอนนี้ไม่มีหมอสามารถรับช่วงได้ คุณไปดูสัก หน่อยได้ไหมคะ?”
ลั่วหานเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเลิกงานกลับบ้าน หมอที่ห้องฉุกเฉินก็ วิ่งตรงมาถึงหน้าประตูห้องทำงานของเธอ รายงานสถานการณ์ที่มา อย่างกะทันหันด้วยท่าทีที่เหนื่อยหอบ
“ค่ะ! ”
หลินซี่เหวินกับหวาเทียนเห็นลั่วหานวิ่งไปทางห้องฉุกเฉิน ก็รีบตาม
ไปที่ด้านหลัง
ลั่วหานคว้าเอาเครื่องตรวจฟังขึ้น ฝีก้าวเดินขึ้นลิฟต์ด้วยความ รวดเร็ว ชุดกาวน์ของเธอที่เพิ่งจะปลดกระดุมออกยังไม่ถอดลง ตอนที่ วิ่งนั้นชายเสื้อราวกับปีกสีขาวที่กางออก มองจากทางด้านหลัง ราวกับ นกพิราบขาวที่กางปีกออก บินอยู่บนระเบียงทางเดิน
หลินซี่เหวินดูไปดูมาก็ค่อนข้างที่จะนิ่งอึ้งไป อ้าปากค้างมองดูเงา ร่างสีขาวที่อยู่ด้านหน้า “หวาเทียน เธอเห็นหรือเปล่าว่า เมื่อครู่นี้มี นางฟ้าคนหนึ่งบินผ่านไปจริงๆ?”
หวาเทียนเหลียวมองเธออย่างเยือกเย็น ไม่มี เห็นเพียงแค่คน ปัญญาอ่อนคนหนึ่ง”
“WTF! ! เธอผู้ชายแบบนี้ ฉันขอให้เธอไม่มีผู้หญิงมาชอบตลอด ทั้งชีวิต!
ลั่วหานระหว่างทางสอบถามสถานการณ์พื้นฐานของผู้ป่วย หลังจาก ที่ฟังจบก็มีความคิดที่เป็นระเบียบ “ฉันรู้แล้ว”
คนที่ห้องฉุกเฉินมองเห็นลั่วหานมากอบกู้สถานการณ์ด้วยตนเอง หัวใจที่ตื่นตระหนกวิตกกังวลก็วางลงแล้วครึ่งหนึ่ง ทยอยกันถอยไป ข้างหลังครึ่งก้าวเปิดทางให้กับลั่วหาน สายตาราวกับแหงนหน้ามอง เทพนักบวชหญิงลัทธิเต๋าด้วยความเลื่อมใสยังไงอย่างงั้นมองไปยังลั่ วิหาน
ผู้ป่วยอายุยังน้อยมาก ดูเหมือนไม่เกินยี่สิบสามยี่สิบสี่ปี แม้ว่าจะถูก ความเจ็บปวดที่หัวใจทรมานจนสีหน้าซีดเผือด อีกทั้งตกอยู่ในอาการ ซื้อกที่รุนแรง แต่กลับสามารถมองสีสันแห่งความหล่อเหลาที่ไม่ ธรรมดาจากบนลายเส้นส่วนของใบหน้าของเขาออก
ลั่วหานโน้มตัวลงหันข้างฟังเสียงหัวใจเต้นของผู้ป่วย ข้างใบหูดัง สะท้อนเสียงหัวใจเต้นที่อ่อนระทวยของชายหนุ่มเข้ามา “ผู้ป่วยมี อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะที่รุนแรงมาก ญาติของผู้ป่วยอยู่ที่ไหน?”
พอพูดถึงญาติของผู้ป่วย หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินมาจากด้าน ข้าง สีหน้าของเธอดูเหมือนยังจะห่อเหี่ยวยิ่งกว่าชายหนุ่มเสียอีก คน ทั้งคนตัวสั่นเทาด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว เดินขึ้นไปข้างหน้า ด้วยความระมัดระวัง ดวงตาทั้งสองข้างบวมแดงอย่างสุดจะทนเพราะ ผ่านการร้องไห้
“หมอคะ ลูกลูกชายของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
ลั่วหานวางเครื่องตรวจฟังลง มองดูญาติของผู้ป่วย ปลอบใจด้วยน้ำ เสียงที่อ่อนโยน “คุณป้า ก่อนหน้าที่ลูกชายของคุณป้าจะสลบไป อารมณ์ถูกกระตุ้นมากจนเกินระดับใช่หรือเปล่าคะ? หรือว่าเกิดเรื่อง อะไรที่มากระตุ้นเขา?”
เธอพยักหน้า ก้มศีรษะคราวนี้ น้ำตาที่แต่เดิมแขวนค้างเอาไว้ที่ บริเวณหางตาก็ไหลลงมาด้วยความรวดเร็ว เอามือปิดปากร้องไห้จนไม่ เป็นเสียง “เป็นฉันที่ไม่ดี โทษฉันคนเดียว..
“คุณป้า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาตำหนิตัวเอง คุณป้าเล่า สถานการณ์ในตอนนั้นมาอย่างง่ายๆสักหน่อยสิคะ นี่มีส่วนสำคัญมาก ต่อการรักษาผู้ป่วย”
หญิงวัยกลางคนควบคุมอารมณ์ให้นิ่งสงบลงมา นำสถานการณ์ที่ เกิดขึ้นในตอนนั้นเล่าออกมาอย่างคร่าวๆ
ลั่วหานพยักหน้า “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว พยาบาลเฉิน พาญาติผู้ป่วยไป พักผ่อน ผู้ช่วยหลิน ผู้ช่วยหวา ตามฉันเข้ามา”
“ค่ะ! ”
ลั่วหานมองดูผู้ช่วยทั้งสองคน กำชับด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด “ฟังนะ หัวใจของผู้ป่วยคนนี้มีเนื้อเยื่อตายเป็นบริเวณกว้าง ต้องทำการผ่าตัด ตัดทิ้งเนื้อเยื่อประสาทที่ตายแล้วและซ่อมแซมให้กลับคืนมาใหม่”
ดวงตาของหลินซีเหวินเบิกโพลง “นี่..”
ความยากของการผ่าตัดยากเกินไปแล้วล่ะมั้ง?! หวาเทียนมองดูผู้ป่วยที่สลบไม่ฟื้น หมอู่ ผมแนะนำว่าทำการตรวจ เช็คอย่างรอบด้านให้กับผู้ป่วยก่อน อย่างน้อยทำการเอกซเรย์และ อัลตร้าซาวด์ก่อน”
ลั่วหานไม่มีเวลามาพูดจาไร้สาระกับเขา “เคสแบบนี้ฉันเคยเจอมา ก่อน อาการของเขากับผู้ป่วยที่ฉันเคยเจอตรงกันโดยสมบูรณ์แบบ ปัญหาในตอนนี้ขึ้นอยู่กับ ระดับความยากในการผ่าตัดมีมาก พวกคุณ ทั้งสองคนไม่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดประเภทเดียวกัน”
หลินซี่เหวินกัดริมฝีปาก กำหมัดเข้าหากันแน่น ทั้งยังมองดูชายหนุ่ม ที่กำลังให้ออกซิเจนอยู่บนเปลหาม “แต่ว่า หากไม่ทำการผ่าตัด ผู้ป่วย มีโอกาสที่จะตายได้นะคะ”
หวาเทียนกอดอกพิงไปบนกำแพง โน้มสายตามองลงไปที่ผู้ป่วย “ผม มีประสบการณ์ในการผ่าตัดที่คล้ายคลึงกับแบบนี้” ลั่วหานเงยศีรษะมองดูหวาเทียนในทันที ค่อนข้างที่จะเซอร์ไพรส์
ค่อนข้างประหลาดใจ “คุณเคยทำการผ่าตัดในแบบเดียวกัน?”
หวาเทียนพยักหน้า “แต่ว่า…การผ่าตัดล้มเหลว”
“WTF! งั้นเธอพูดมาทำบ้าอะไร! ” หลินซีเหวินแขวะออกมา ประโยคด้วยความโมโห ลั่วหานปิดตาลง “การผ่าตัดของหมอถัง ดำเนินการได้เป็นยังไง
บ้าง?”
หวาเทียนมองดูเวลา “สี่ชั่วโมงสี่สิบห้านาที ดูเหมือนใกล้จะเสร็จแล้ว
ครับ”
ลั่วหานพยักหน้า “จัดหาคนสองคนทำการตรวจเช็ครอบด้านให้กับผู้ ป่วย หลังจากที่ผลลัพธ์ออกมานำมาให้ฉันทันที ฉันไปหาหมอถัง ปรึกษาเรื่องแผนการ พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ”
หลินซีเหวินดึงแขนของลั่วหานเอาไว้ “ฉันไม่กลับค่ะ ฉันไปหาหมอ ถังกับคุณ”
หวาเทียนก็ไม่ได้คิดที่จะจากไปเช่นเดียวกัน ถึงอย่างไรผู้ป่วยที่พบ ได้ยากก็คือโอกาสในการเรียนรู้ที่ดีที่สุดของหมอ สามารถยกระดับ ทักษะทางการแพทย์ของตัวเองได้ดีมาก จะทำใจให้พลาดไปได้ยังไง กัน
“ได้ค่ะ”
ทั้งสามคนมาถึงยังด้านนอกประตูห้องผ่าตัดหมายเลขหนึ่ง ผู้ป่วย เพิ่งจะถูกเข็นออกมา จากนั้นก็มองเห็นถังจิ้นเหยียนกับหมออีกสอง สามคนเดินมาพร้อมกับกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่
เห็นลั่วหานที่ยืนอยู่ด้านนอกประตู ถังจิ้นเหยียนก็จบการสนทนาลง เดินนำขึ้นมาข้างหน้าสองก้าว “เป็นอะไรไป? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
หลินซีเหวินมองเห็นถังจิ้นเหยียน ใจก็สั่นไหวอย่างแรง หัวใจดวง หนึ่งแทบจะหลุดโพล่งออกมา “หมอถัง คุณเพิ่งทำการผ่าตัดเสร็จ ลำบากคุณแล้วค่ะ!
สายตาที่สุภาพอ่อนโยนของถังจิ้นเหยียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มให้
กับเธอ จากนั้นก็นำความสนใจทั้งหมดรวบรวมไปไว้ที่ลั่วหานในทันที “มีผู้ป่วยรายหนึ่ง สถานการณ์พิเศษมากค่ะ …ลั่วหานนำราย ละเอียดของผู้ป่วยอธิบายไปรอบหนึ่ง แล้วรอการตอบกลับของถังจิ้น เหยียน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นิ้วมือของถังจิ้นเหยียนจิ้มไปที่คางของตนเอง “ยุ่งยากมากจริงๆ ต้องพยายามดำเนินการผ่าตัดให้เร็วที่สุด”
“ใช่ค่ะ แต่ว่าตอนนี้คนที่สามารถทำการผ่าตัดแบบนั้นได้ มีเพียงแค่ คุณ”
ลั่วหานจ้องมองถังจิ้นเหยียน พูดอย่างเชื่องช้าและชัดเจน เธอพูดจบ หลินซีเหวินกับหวาเทียนต่างก็นิ่งอึ้งไปในทันที แม้แต่ถัง จิ้นเหยียน ต่างก็มองฉู่ลั่วหานด้วยความประหลาดใจ ทั้งสามคนแทบ จะพูดเป็นเสียงเดียวกัน คุณล่ะคะ”
ลั่วหานส่ายศีรษะอย่างค่อนข้างที่จะผิดหวังท้อใจ “หมอถังก็คงจะ พอรู้ว่า การผ่าตัดแบบนี้เวลาจะต้องต่อเนื่องกันสิบกว่าชั่วโมง แต่ว่า…”
ไม่รอให้ลั่วหานพูดจบ ถังจิ้นเหยียนก็ตัดบทเธอ “ผมเข้าใจแล้ว หลัง
จากที่กำหนดเวลาผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมมาลงมีด ถึงเวลา
รบกวนหมอฉี่มาเป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งของผม เป็นยังไงครับ?” “ได้อย่างแน่นอนค่ะ ขอบคุณนะคะ” ลั่วหานราวกับยกภูเขาออกจาก
อก
หลินซีเหวินกับหวาเทียนเดินออกจากโรงพยาบาล ทั้งสองคนต่างก็ รู้สึกไม่เข้าใจ
“คิดไม่ถึงว่ายังมีการผ่าตัดที่หมอฉูท้าไม่ได้? ไม่ใช่มั้ง? ไอดอลของ ฉันไม่ใช่ไอดอลครบทุกด้านหรอก?”
หวาเทียนอุทานออกมาอย่างเยือกเย็นด้วยความดูหมิ่น มือทั้งสอง ข้างสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่เข้าใจ สถานการณ์เป็นอย่างดี เธอไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่คือไม่สามารถทำได้”
หลินซีเหวินเบ้ปาก “มีความแตกต่างกันหรอ?”
“แน่นอนว่ามี แต่ว่าคืออะไรนั้น ต่อไปเธอขุดเอาเองก็แล้วกัน”
“เฮ้ย! หม่าเทียน! เธอพูดให้ชัดเจน!
“ใช้สมองของเธอ คิดเอง” “เจ้าบ้าซึนเดเระ! อย่าให้ฉันจับได้ว่าเธอมีความลับ! ”
บนตึก ภายในห้องทำงาน
สายตาของถังจิ้นเหยียนเวียนวนอยู่บนร่างกายของฉู่ลั่วหานด้วย ความรักใคร่สงสารอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหยุดลงบนมือของเธอ “เป็น เพราะมือของคุณใช่หรือเปล่า?”
ลั่วหานถูมือขวาของตนเอง พยักหน้าเบาๆ “หลังจากเกิดอุบัติเหตุ บนร่างกายของฉันกระดูกหักหลายแห่ง ฝ่ามือก็ได้รับความเสียหาย อย่างหนัก แต่โชคดีในความโชคร้าย ความเสียหายอย่างหนักกลับ ทำให้เส้นประสาทที่ตายด้านในก่อนหน้านี้ถูกกระตุ้นจนกลับมาใช้งาน ได้ใหม่อีกครั้ง เพียงแต่ไม่สามารถดำเนินงานระดับสูงเป็นเวลานาน มากจนเกินไปได้ สิบชั่วโมงคือขีดจำกัดของฉัน”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าเบาๆ คิดถึงหน้าผา ฝนที่ตกหนัก ในใจก็เจ็บ ปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง “ดังนั้นคุณทำการผ่าตัด ต่างก็พยายาม อย่างสุดความสามารถที่จะควบคุมให้อยู่ภายในเวลาสิบชั่วโมง จึง กลายเป็นหมอที่ใช้เวลาได้ไวที่สุดในการผ่าตัดแบบเดียวกัน”
ลั่วหานหัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา “คิดไม่ถึงว่าจะถูกคุณพบเข้าแล้ว” “ต่อไป การผ่าตัดที่ระยะเวลานานทั้งหมดให้ผมทำเอง อย่าท้าทาย
ขีดจำกัด ดูแลมือของคุณให้ดี คุณก็รู้ว่ามือของหมอแผนกศัลยกรรมมี ความหมายว่าอะไร ดังนั้น ลั่วหาน ดูแลพวกมันให้ดี”
ดูแลตัวคุณเองให้ดี ดูแลตัวคุณเองให้ดีแทนผม
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ หมอถัง” ลั่วหานยิ้มขึ้นอย่างไม่ค่อยเป็น ธรรมชาตินัก ยิ้มจนเพราะว่าแข็งที่อมากจนเกินไป ส่วนใบหน้าต่างก็ ปวดเมื่อยไปหมด
บรรยากาศอบอุ่นจนไม่ค่อยสบายนัก เธอก็ยิ่งไม่สบาย วนไปรอบๆ มาหลายปี พวกเขาทั้งสองคนคิดไม่ถึงว่าจะยังคงกลับมาถึง สถานการณ์ที่เก้ๆกังๆแบบนี้อีก
ถังจิ้นเหยียนกลับเป็นฝ่ายยิ้มขึ้นมาอย่างสง่างามและอ่อนโยน “คุณ ดูเหมือนจะยังหลบผมอยู่ ตอนนี้หลงเซียวดีกับคุณมากขนาดนี้ ผม วางใจมาก ดังนั้นผมจะทำเพียงแค่อวยพรให้พวกคุณในฐานะเพื่อนที่ดี จะไม่เข้าไปรบกวน”
ริมฝีปากของลั่วหานถูกฟันกัดจนเป็นรอยซีดเผือดออกมา “ขอบคุณ นะคะ…”
“เรียกผมจิ้นเหยียนเถอะ พูดเอาไว้แล้ว ต่อไปผมจะเป็นเพื่อนที่ดี” รอยยิ้มของเขา สบาย ปลอดภัยขนาดนั้น ราวกับถูกลมในช่วงฤดู ใบไม้ผลิพัดขึ้นมาบนใบหน้า มั่นคง จริงแท้โดยไม่มีเหตุผล
“เพื่อนที่ดี เพื่อนตลอดทั้งชีวิต ฉันดีใจมากที่ได้รู้จักกับคุณค่ะ จิ้นเห ยียน” เธอหายใจเข้าออกเบาๆ ในที่สุดก็ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น มาหน่อย
เขาสามารถปล่อยวางได้ช่างดีมากจริงๆ แม้จะไม่รู้ว่าในใจของเขา คิดแบบนี้จริงๆหรือเปล่า
ด้านนอกหน้าต่างคือทิวทัศน์ในยามค่ำคืนของเมืองหลวงที่มีความ มีดปกคลุมลงมา แสงจากดวงดาวและแสงไฟผสมผสานร้อยเข้าด้วย กัน สวยงามดุจดังอยู่ในจินตนาการและความฝัน ถังจิ้นเหยียนเคลื่อนสายตาจากด้านนอกหน้าต่างเข้ามาภายในห้อง
เอ่ยเย้ยหยันตนเองอย่างค่อนข้างที่จะจำใจ “คุณรู้ไหมว่าทำไมผม
ตัดสินใจที่จะยอมแพ้?”
คิ้วงามของลั่วหานขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรง มา “ไม่รู้ค่ะ…หากคุณยินดีล่ะก็ บอกกับฉันได้”
ถังจิ้นเหยียนสูดหายใจเข้าเต็มปอด ราวกับพลังงานที่อยู่ภายใน ร่างกายถูกสูดเข้าไปแล้วก็ไม่ปาน ค่อนข้างเงียบเหงา ค่อนข้างเบาบาง “แต่ก่อนผมรู้สึกว่า หากผมสามารถรู้จักคุณก่อนหน้าหลงเซียวสัก หน่อย กลายเป็นคนแรกที่เดินเข้ามาในชีวิตของคุณ คุณจะต้องเลือก ผมอย่างแน่นอน”
“แต่ต่อมาสวรรค์ได้มอบโอกาสแบบนี้ให้กับผมจริงๆ แต่ผมก็ยังไม่ สามารถทำให้ใจของคุณสั่นไหวได้ ไม่ว่าจะเป็นแอนน่าหรือว่าลั่วหาน คุณก็ไม่มีทางที่จะหวั่นไหวกับผม”
ในขณะที่เขาพูด มุมริมฝีปากฉีกออกเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นเล็กน้อย ยิ้มจนทำให้คนที่เห็นปวดใจอย่างประหลาด
“ฉัน….ขอโทษค่ะ จิ้นเหยียน ฉันขอโทษจริงๆ…”
“ไม่ นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ ไม่รักก็ไม่ได้ผิด แต่ผ่านเรื่องนี้มา ผม ประจักษ์ชัดเรื่องหนึ่ง ดังนั้นผมจะไม่ยืนหยัดอีกต่อไปแล้ว และก็ไม่ หวังให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณส่งผลกระทบต่อความสุขของคุณ ผมปล่อยมือแล้ว”
เขาพูด ผมปล่อยมือแล้ว ความรู้สึกจนปัญญา เจ็บปวด สง่างาม แต่ ที่มากที่สุดก็ยังคงเป็นความเศร้าโศกและเสียใจ
รอบดวงตาของลั่วหานร้อนผ่าว หยดน้ำตาเอ่อล้นออกมารอบดวงตา “จิ้นเหยียน คุณจะต้องมีภรรยาที่ดีมากคนหนึ่งอย่างแน่นอน จะต้องมี อย่างแน่นอนค่ะ”
ถังจิ้นเหยียนลำคอแห้งผาก ปลายจมูกแสบร้อนจนน้ำตาจะหยดลง มาหลายครั้ง “แต่หวังว่า…ลั่วหาน ผมสามารถกอดคุณสักหน่อยได้ ไหม? เพียงแค่กอดเดียว”
ลั่วหานกางแขนออก กอดถังจิ้นเหยียน เธอกำลังอำลาถังจิ้นเหยีย นที่ยึดมั่นจะรักตนเองคนนั้น และก็กำลังต้อนรับถังจิ้นเหยียนที่จะเข้า มาในชีวิตของเธอใหม่อีกครั้งในฐานะเพื่อนสนิท
“เพื่อนสนิทคือตลอดทั้งชีวิต บางทีอาจจะยังยาวนานกว่าความรัก” เธอคลายบ่าของเขาออก เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เก็บซ่อนน้ำตาที่รอบ ดวงตาเอาไว้
“งั้นหรอ? แต่ทำไมผมรู้สึกว่า ความรักยาวนานกว่าละ?”
เสียงที่ไพเราะทุ้มต่ำดังสะท้อนมาจากด้านนอกประตูอย่างกะทันหัน จากนั้นก็คือเงาร่างสีดำที่สูงใหญ่ ใบหน้าที่คมชัดและประณีตภายใต้ แสงไฟที่ส่องสว่างเจิดจ้า
“หลงเซียว? คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันคะ?” ลั่วหานรีบร้อนถอยหลังออก มาสองก้าวจากข้างกายของถังจิ้นเหยียน กลัวคนบางคนจะเข้าใจผิด โดยอัตโนมัติ
ถังจิ้นเหยียนยิ้มขึ้นเล็กน้อย “คุณหลง ดูเหมือนคุณจะเห็นหมดแล้ว” แขนของหลงเซียวโอบรั้งไหล่ของลั่วหานเอาไว้ “เห็นแล้ว แล้วก็ได้ ยินแล้วเช่นเดียวกัน คำสารภาพและการปล่อยวางของหมอถึง ผม เลื่อมใสมาก เพียงแต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของภรรยาผม การกอด คำร้องขอแบบนี้ ต่อไปทางที่ดีที่สุดอย่าให้มีเลยจะดีกว่า”
หมัดเล็กๆของลั่วหานทุบไปบนหน้าอกของเขาเบาๆ “เอาล่ะค่ะ คุณ ก็รู้ว่าไม่ใช่ความหมายนั้น”
หลงเซียวยื่นมือขวาออกไป มือที่เรียวยาวได้สัดส่วนตะแคงอยู่ ระหว่างเขากับถังจิ้นเหยียน ดวงตาดำขลับที่ล้ำลึกจ้องไปยังดวงตาที่ สง่างามของถังจิ้นเหยียน “ในเมื่อคุณคือเพื่อนของลั่วลั่ว ต่อไปก็คือ เพื่อนของผมหลงเซียวเช่นเดียวกัน”
ถังจิ้นเหยียนหัวเราะขึ้นอย่างจนปัญหาทั้งหมดคำพูด ทุกสิ่งทุก อย่างนี้ช่างมาได้อย่างกะทันหันจริงๆ
สองมือจับเข้าไว้ด้วยกัน การแนบชิดกันระหว่างฝ่ามือและฝ่ามือ ดู เหมือนมีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกัน
การจับมือคราวนี้ ราวกับได้ผ่านแม่น้ำสายยาวแห่งกาลเวลา กลับไป ถึงด้านนอกประตูโรงพยาบาลในคืนนั้น มือที่ยื่นออกไปของถังจิ้นเหยี ยนถูกหลงเซียวไม่แยแสค้างไว้กลางอากาศ หลังจากได้ผ่านลมฝนมา อย่างมากมายแล้ว ในที่สุดก็ยังคงจับมือคืนดีกัน
“ครับ เห็นแก่หน้าของลั่วหาน ความเป็นเพื่อนนี้ของคุณผมคบแล้ว”