ตอนที่ 160 คําพูดจากปากพี่นั
พี่นัฎไม่ได้หลงกลกับคำพูดของญาณ์นี้
“ขอบคุณสําหรับความหวังดีของคุณนะ คะ แต่น้องชายของฉันไม่ต้องการค่ะ เขา ไม่ได้อยากจะเป็นนักแสดง แล้วไม่ได้ อยากจะเข้าวงการด้วย…..
“ฉันต้องการพาตัวเขากลับตอนนี้!
“ใช่หรือคะ? ทําไมฉันรู้สึกว่าน้องชาย ของคุณคิดไม่เหมือนกันกับคุณเลยล่ะ? หรือคุณคิดว่าคุณจะสามารถพาเขาออก ไปที่นี่ได้ง่ายๆอย่างนั้นหรือ?”
ญาณินยิ้มออกมาอย่างเย็นชา แววตา เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เธอรู้ว่า นัฎจะไม่ทิ้งน้องชายตัวเองไว้ โดยไม่สนใจอะไรแน่ๆ หากเธอสามารถ ควบคุมได้ นั่นก็เท่ากับว่าเธอสามารถ ควบคุมจิดาภาได้ด้วยเช่นกัน
“คุณต้องการอะไรกันแน่!
“ฉันต้องการให้คุณมาเป็นหมากของ
ฉัน คุณเป็นคนที่สนิทที่สุดของจิดาภา ไม่ ใช้ประโยชน์จากคุณ แล้วจะคุ้มค่ากับสิ่ง ที่เธอทํากับฉันได้อย่างไรกัน?” ญาณินี เทไวน์ลงในแก้ว ส่งเสียงเหยียดๆออก มา “คุณเองก็อยู่ในวงการนี้มาไม่ใช่เวลา น้อยๆ ทำอะไรเพื่อจิตาภามาขนาดนั้น คุณควรจะคิดว่าจะต้องมีวันนี้สิ!
พี่นักรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่กลับ ไม่มีวิธีที่จะผละออกไปจากสถานการณ์นี้
ได้เลย เธอรับไม่ได้กับการขู่บังคับของญาณิ นี้ เมื่อนึกถึงน้องชายที่ถูกคมสรพาตัวไป แล้วนั้น เธอทําได้เพียงถอนหายใจออก มา คุณอยากจะใช้ฉันเป็นเครื่องมือเพื่อ จัดการกับจิตาภาอย่างนั้นหรือ?”
บอกความลับทุกอย่างของจิดาภากับฉัน แล้วฉันจะปล่อยพวกคุณไป
เสียงของญาณินีดังไปทั่วห้อง และ คําคืนที่เงียบสงัดนี้ ทำให้ดูเยือกเย็นยิ่ง นัก
“คุณต้องการจะถามอะไร?” พี่นัฎจ้อง หน้าของญาณินี
“โฆษณาของWMใครที่ถ่ายคู่กับเธอ!
“เหมือนว่าจะเป็นญาติคนหนึ่งของเธอ ครอบครัวของเธอได้ยินว่าเธอมีเรื่อง วุ่นวาย จึงให้คนนั้นมาช่วยเธอไว้
ครอบครัวของจิดาภา ญาณินี้รู้สึกล้งเล ขึ้นมา “มันง่ายแค่นี้เอง?”
“ถ้าไม่อย่างนั้นเธอจะไปหาใครได้อีก ล่ะ? ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ ครอบครัวจะไม่ค่อยดีนัก แต่ ครอบครัวของเธอก็คงจะไม่ทนเห็นเธอ ต้องแพ้อย่างย่อยยับเช่นนั้นหรอก เพียง แต่เรื่องนี้ไม่อยากให้โลกภายนอกรู้ ก็เลย เป็นงานที่ต้องปิดไว้เป็นความลับ
“ถ้าหากเป็นศิลปิน ก็จะต้องเปิดเผย สถานะออกมาให้เป็นที่ได้รับความนิยมไป แล้ว จะมาหลบๆซ่อนๆแบบนี้ทำไม?”
ที่พี่นัฏพูดมาก็มีเหตุผล นับว่าเป็นสาเหตุ ของเหตุการณ์นี้ที่สามารถอธิบายออกมา ได้ดีที่สุด “ถ้าอย่างนิ่ม คนที่คอยอยู่เบื้องหลังของ ตาภาคอใคร! เธอเคยบอกไว้ว่าเธอมีคน รักแล้ว บอก อคนๆนั้นมา
ทางที่ดีจะต้องไม่ใช่คนในวงการ ถ้าหาก ปล่ะก็ ญาณ จะต้องให้พวกเขาจบสิ้นไป พร้อมๆกันอย่างแน่นอน
เธออยากจะรู้ความจริงอย่างนั้นหรือ?
พี่นัฏเบะปาก “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน จิตา ภาไม่เคยให้ฉันได้เจอกับคนๆนี้เลย อาจ จะเลิกกันไปตั้งนานแล้วล่ะ” พี่นัฎพูดเสร็จ ในใจได้แต่ภาวนาเงียบๆ หวังว่าบอสใหญ่ จะไม่เอาที่เธอพูดมาใส่ใจ
ถ้าตอนนี้เธอพูดถึงสถานะของจิรภาส จะ ต้องเป็นการสร้างความลำบากให้กับดา กาอย่างแน่นอน เธอไม่สามารถเห็นแก่ตัว แบบนั้นได้ ญาณ เขย่าแก้วไวน์ในมือ แล้วหัวเราะ ออกมา “คุณคิดว่าฉันหลอกง่ายขนาดนั้น เลย?
ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ นี่ก็เป็นความ จริง ฉันรู้ทั้งหมดแล้ว ฉันให้คุณในสิ่งที่ คุณต้องการแล้ว ตอนนี้คุณจะปล่อยน้อง ชายฉันได้หรือยัง?”
พี่นัฎถอนหายใจออกมา อย่างไม่มีทาง เลี้ยง
“ที่ฉันต้องการไม่ได้มีเพียงแค่นี้
“ฉันรู้ว่าจิดาภากำลังเตรียมตัวไปออก รายการสัมภาษณ์ของจรินทร์ ส่วนคุณก็รั้ง เธอไว้ ไม่ให้เธอไปร่วมรายการนั้นได้ เรื่องง่ายๆแค่นี้ เพื่อน้องชายของคุณ คุณ คงทําได้อยู่แล้ว ถูกต้องไหม?” รายการสัมภาษณ์ของจรินทร์ เป็น รายการถ่ายทอดสด…
ถ้าหากจิดาภาไปร่วมรายการไม่ตรงเวลา ไม่เพียงแค่จะสูญเสียโอกาสในการโจม ญาณินีและโอเลเพียงเท่านั้น และยังจะ ส่งผลกระทบต่อทางเดินต่อไปของตัวเธอ เองด้วย
ญาณินีมองดูสีหน้าของพี่นัฎ แล้วหัวเราะ ออกมาอย่างเหยียดๆ “ถ้าคุณรู้สึกว่า ลงมือลำบากล่ะก็ ฉันมีตัวเลือกให้คุณ คืน วันพรุ่งนี้คุณเป็นผู้ช่วยให้การดี ไปถ่าย
โฆษณากับเธอ เป็นอย่างไร?”
คนทั้งโลกต่างก็รู้ว่าพี่นัฎเป็นผู้ช่วยของจิ ดาภา หากเธอตามภารดีไปเช่นนั้น คงจะ ต้องสร้างความสงสัยให้กับคนอื่นๆ อย่าง แน่นอนว่า นัฎกำลังจะหักหลังจิดาภาอยู่ หรือเปล่า
อีกทั้ง การดีเองก็จ้องจิดาภาอยู่เสียด้วย ครั้งนี้จะต้องเป็นการใช้โอกาสนี้ทำให้พี่ นัฎลําบาก หรือบีบบังคับให้พี่นักขอร้อง อะไรกับจิดาภา และหากเป็นเช่นนั้น…จิดา ภาที่ให้ความสําคัญกับเรื่องความรู้สึกเช่น นี้ หากเธอได้ยินเรื่องนี้ เธอจะต้องยอม ช่วยพี่นักอย่างแน่นอน
“คุณร้ายมากเลยนะคะ คุณญาณินี”
ฆ่าคนได้โดยปริยายแบบนี้
“ร้ายหรือ? ฉันเพียงต้องการแค่รักษาชื่อ เสียงของโอเลไว้เท่านั้นเอง ถ้าหากจิดา ภาไม่ขัดใจฉัน ฉันก็คงจะไม่มาทำให้คุณ นําบากใจแบบนี้หรอก” “ฉันรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับ ดาภา นดีมาก ถ้าไม่อย่างนั้น คุณลองมา พนันดูไหม มาดูกันว่าจิตาภาจะยอมทิ้ง โอกาสนี้เพื่อคุณไหม
พีนัฏหลับตาลงด้วยความยากลำบาก แล้วก้มหน้าลง “ตกลง….ฉันรับปากคุณว่า ฉันจะเป็นผู้ช่วยให้กับการที่เป็นเวลาหนึ่ง วัน แต่ฉันขอหนึ่งอย่าง คุณจะต้องปล่อย น้องชายฉันไป!”
ตกลง…
ญาณีนี้หันกลับไป ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม แห่งความเย้ยหยัน
ในโลกใบนี้ไม่มีใครที่จงรักภักดีได้ตลอด ไป มีเพียงแต่เหยื่อที่จะใหญ่เพียงพอหรือ เปล่าเพียงเท่านั้น พี่นิฏออกมาจากคฤหาสน์ของญาณินี ด้วยจิตใจ ห่อเหี่ยว เค็มออกมาข้างทาง อย่างเหม่อลอยเพียงลำพัง และหลังจาก เธอถึงบ้านบน ในหัวของเธอกลับเต็มไป ด้วยคําพูดเหล่านั้นของญาณินี
แน่นอนว่าเธอจะไม่มีวันหักหลังจิดาภา เพียงแต่ เธอยังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เป็น เสียงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่จิดาภา เคยร่วมแสดง
“ฮัลโหล?” พี่นัฎที่อยู่ในห้องที่มืดสนิท กดรับสาย
“เป็นอย่างไรบ้างคะ? รับน้องแล้วใช่ ไหม?” จิดาภาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ฉันจำได้ว่าปีนี้เขาขึ้นปีสองแล้วใช่ไหม?” “อืม รับกลับมาแล้วล่ะ” น้ำตาเอ่อล้นออก มาจากขอบตาของพนัฎ เรื่องของเธอ จิ ดาภา จําได้เสมอเลย
สําหรับจิดาภาแล้ว เธอไม่ได้เป็นเพียง แค่ผู้ช่วยเท่านั้น
และสําหรับตัวเธอเอง จิดาภาก็ไม่ใช่ ดารานักแสดงที่แสนจะโด่งดังสูงส่งเช่น
ตลอดทางทีพวกเธอเดินมา พวกเธอคือ เพื่อน คือครอบครัว
“จิดาภา พี่อยากจะหาเวลามาอยู่กับเขา หน่อย แล้วจะต้องไปส่งเขาไปโรงเรียน ด้วยอีก อาจจะต้องลาสักสองสามวัน” พี่ นัฎพยายามกลั้นน้ำตาไว้ แล้วอธิบาย “ส่วนเรื่องงาน คุณภพธรจะเป็นคนจัดการ ให้เธอเอง”
ๆ ค่ะ พี่พักผ่อนให้สบายใจเถอะนะ เงินพอหรือเปล่า?
“พอล…เดี๋ยวพวกเราจะออกไปหาอะไร กินกันอีก ไว้ค่อยคุยกันนะ”
หลังจากพูดจบ พี่นิฎก็รีบวางสายไป ทันที ไม่เช่นนั้นเธอคงจะอดไม่ได้ที่จะ ต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ
เธอรู้ว่าเส้นทางที่จิดาภาเดินมานั้นพบ กับความลำบากมากแค่ไหน เธอไม่อยาก กลายเป็นภาระของจิดาภา
ให้เธอโดนญาณินีบีบบังคับคนเดียวก็ พอแล้ว…..จิดาภาไม่ควรจะต้องมาแบกรับ อะไรเช่นนี้ จิดาภามองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ อยๆ ดลง เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอเข้าใจนิสัยของพนัฎ เธอเป็นคน ร่าเริงมาโดยตลอด แต่ทำไมหลังจากที่ ได้เจอน้องชายแล้ว รู้สึกว่าเธอดูเศร้าถึง เพียงนี้….แล้วยังพูดถึงเรื่องงานอีก เธอ รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
“คุณจิรภาสคะ…” จิดาภาหันกลับเดินเข้า ในห้องหนังสือ แล้วเอ่ยกับผู้ชายตรงหน้า ด้วยน้ำเสียงเบาๆ “ฉันรู้สึกเป็นห่วงพี่นัฎจัง ค่ะ ให้คุณตฤณไปดูเธอให้หน่อยได้ไหม คะ?”
คนอย่างจีรภาส รักภรรยามากอย่างเขา แน่นอนว่าเขาจะต้องรับปากเธอในสิ่งที่ เธอขอได้ในทันที จึงจัดให้ตฤณทำโอทีม อบหมายงานนี้ให้เขาจัดการต่อ
ดฤณไม่กล้าดึงเวลาออกไปนาน จึงรีบ บรถไปยังบ้านของพี่นักทันที
ออกประตูหน้าบ้านดัง แล้วสักพักหนึ่ง พี่นัทก็เดินออกมาเปิดประตู เมื่อเห็นว่า เป็นเขา เธอจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความตกใจ “คุณมาได้อย่างไรน่ะ?”
“ท่านประธานกับคุณผู้หญิงเป็นห่วงคุณ จึงให้ผมมาดูน่ะครับ….ได้ยินมาว่าน้อง ชายคุณมาแล้ว?” ตฤณรู้สึกสงสัย ถ้าหาก ไปรับน้องชายมาแล้ว ทำไมถึงไม่เปิดไฟ? หรือว่าจะนอนกันแล้วอย่างนั้นหรือ?
“อา…ใช่ค่ะ เขาอยู่ที่นี่แล้ว นี่ออกไปข้าง นอกกับเพื่อนๆแล้วน่ะ” พี่นั พยายามฝืนให้ตัวเองดูมีชีวิตชีวาขึ้น