ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 433

ตอนที่ 433

ตอนที่ 433 ชอบเขาเหรอ ฉันยกให้

หญิงสาวเลิกคิ้ว มองไปที่ลั่วหาน เธอกลืนน้ำลายอย่างปล่อยมือของเธอที่จับขอบหน้าต่างไว้ มุมปากของเธอเผยอขึ้นพูดออกมาว่า “แก แกมันบ้า!”

ลั่วหานพยักหน้า ดูเหมือนว่าการถูกคนบ้าดุนั้นเป็นเรื่องปกติของเธออยู่แล้ว เธอจึงไม่สนใจมัน “อืม คุณพูดถูก ฉันมันบ้า! สำหรับความคิดเห็นของคนบ้านั้นคงไม่มีค่าสินะคะ? อีกอย่างนอกจากนี้ที่บอกไปแล้ว ยังมียาที่คนทั่วไปไม่สามารถซื้อยาได้ แต่ถ้าคุณต้องการฉันสามารถให้คุณได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย”

ลั่วหานพูดพลางใช้นิ้วถูแหวนของเธอ เธอพบว่าการกระทำนี้สามารถผ่อนคลายร่างกายและจิตใจของตัวเองได้ดี และอาจทำให้อีกฝ่ายกดดันจิตใจได้มากขึ้น

มิน่าล่ะเวลาที่หลงเซียวพูดกับคนอื่นๆ เขามักจะเอามือลูบแหวน

หญิงสาวพิงตัวไปที่หน้าต่าง เธอเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของอย่างไม่ไยดี น้ำตาของเธอถูกเช็ดกับแขนเสื้อในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล เธอหัวเราะเบาๆและพูดว่า “ไม่จำเป็น! แกเก็บไว้ใช้เองสิ!”

ลั่วหานเหล่ไปมองสิ่งของที่กองอยู่บนพื้น “คุณเป็นคนทำมันแตกใช่มั้ย?”

หญิงสาวกลืนน้ำลายและกัดริมฝีปาก “ใช่! ฉันเป็นคนทำเอง ทำไม? พวกคุณเป็นคนส่งฉันมาโรงพยาบาล ฉันไม่ได้อยากมาสักหน่อย จะให้ฉันชดเชยเหรอ? ฉันจะไม่ให้แม้แต่บาทเดียว!”

ใบหน้าขาวบริสุทธิ์ของลั่วหานตึงเครียด เปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นเฉยเมย เธอพูดอย่างจริงจังว่า “ดูเหมือนคุณต้องการที่จะไม่จ่ายเงินสินะ” หลังจากนั้นลั่วหานก็พูดกับแพทย์คนหนึ่งว่า “นำบิลค่ารักษาพยาบาลของเธอมาที่นี่ซะ ในเมื่อเธอไม่ต้องการเข้ารับการรักษาใน”โรงพยาบาลนี้ เธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เลยทันทีหลังจากจ่ายรักษาที่เสียไป”

แพทย์ชายคนนั้นกระซิบว่า “เธอ……อารมณ์เธอตอนนี้ไม่เหมาะกับการพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่นะครับ หรือเราจะรอจนกว่าอารมณ์ของเธอจะคงที่ค่อยว่ากัน?”

“คุณจะรออะไรอยู่ถ้าล่ะ ถ้าเธอกระโดดลงไปและกลายเป็นคนพิการหรือได้รับบาดเจ็บที่สมอง โรงพยาบาลจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ถ้าตายไปเลยก็ไม่เท่าไหร่ แค่ชดเชยจำนวนหนึ่งตามกระบวนการทางกฎหมายก็พอ แต่ถ้าพิการขึ้นมาละก็ค่าใช้จ่ายไม่รู้เท่าไหร่นะคะ รีบให้เธอจ่ายค่ารักษาแล้วปล่อยเธอไปเถอะ”

ลั่วหานออกคำสั่งอย่างตรงไปตรงมา ความสามารถของเธอและความเป็นผู้นำของเธอ ทำให้แพทย์ชายคนนั้นให้ความนับถือ

อีกทั้งเธอพูดถูก ตอนนี้มีคนประเภทนี้อยู่ไม่น้อย โรงพยาบาลจะรับผิดชอบไหวได้ยังไงกัน

“ครับๆๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

พระเจ้า! ผู้หญิงคนนี้เธอช่างน่ากลัวจริงๆ!

หญิงสาวหายใจแรง “หึ! แกก็ท่าทางดูดี ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าจิตใจจะเลวร้ายขนาดนี้ คุณไม่เพียงแต่สนับสนุนให้ฉันฆ่าตัวตายเท่านั้น ยังจะทำแบบนี้กับฉันอีก! แกมันนังแม่มด!”

ลั่วหานเพิ่งเคยได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก เธอพยักหน้าพูดว่า “อ้อค่ะ คุณยังมีอะไรจะพูดอีกไหม พูดต่อได้เลย พูดให้พอก่อนออกจากโรงพยาบาล”

หญิงสาวเหลือบตาไปมองลั่วหานด้วยความโกรธ “ฉันไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น! ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับแก!”

หญิงสาวปิดปากของเธอและหันไปมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง เมื่อเธอก้มศีรษะลงไปก็เห็นฝูงชนที่อยู่ด้านล่างจากชั้นสิบ เธออ้าปากค้างด้วยความตกใจ

ในขณะนั้นแพทย์ชายเหงื่อท่วมตัววิ่งกลับมาพร้อมกับยื่นเอกสารรายละเอียดค่ารักษาพยาบาลไว้ในมือ “นี่ครับ ทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว”

“ค่ะ” ลั่วหานเปิดออกดูตัวเลข “ไม่แพงมาก ทั้งหมดสองพันแปดร้อยแปดสิบแปดค่ะ”

“อะไรนะ! ทำไมแพงแบบนั้น? เป็นไปไม่ได้!” หญิงสาวพูดด้วยความตกใจ เธอนอนโรงพยาบาลแค่คืนเดียว จะแพงขนาดนี้เลยหรือ!

“จะให้ทำยังไงล่ะค่ะ โรงพยาบาลก็เป็นแบบนี้ อ้ออีกอย่าง เราไม่มีส่วนลดให้นะคะ ถ้าคุณเป็นคนในพื้นที่ก็สามารถเบิกจ่ายได้บางส่วน ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ต้องขอโทษด้วย”

หญิงสาวกำมือแน่น สีหน้าเธอขาวซีด เธอพูดออกมาว่า “ไม่มี”

ลั่วหานโยนบิลนั้นไปบนเตียงและพูดว่า “ถ้าไม่มีค่ารักษาก็ไม่เป็นไร แต่ฉันมีคำถามสองสามข้อ เพียงแค่คุณตอบมาตามตรงดีๆ ค่ารักษาของคุณฉันจะสำรองจ่ายให้”

“จริงเหรอ!?” หญิงสาวเบิกตากว้างและพูดต่อด้วยท่าทางระมัดระวังว่า “คุณจะใจดีแบบนั้นจริงๆ?”

ลั่วหานไม่ได้ตอบอะไรออกไป เธอยิงคำถามใส่ว่า “คุณอายุเท่าไหร่?”

“23”

“ทำงานอะไร?”

“ฉันเพิ่งมาเมืองเจียงเฉิง ยังไม่มีงานทำ”

“เรียนจบอะไร สาขาไหน?”

“ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินของเมืองA เอกการเงิน”

“เมื่อวานคุณเป็นลมเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ คุณมีปัญหากับความรู้สึกหรือเปล่า?”

เหงื่อซึมออกมาจากฝ่ามือของหญิงสาว เธอเริ่มกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ “คุณรู้ได้อย่างไร?”

“นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ฉันมี 2-3 คำที่อยากจะบอกคุณ หลังจากฟังแล้วคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะฆ่าตัวตายหรืออยู่ต่อ”

หญิงสาวพูดไม่ออก เธอพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ

“คุณก็ดูสวยดีนี่ เป็นที่น่าอิจฉาของสาวๆหลายคน คุณอายุเพียงยี่สิบสามปีคุณมีการศึกษาและวิชาชีพที่ดี ชีวิตคุณเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น คุณจะไปได้สวยในอนาคต ฉันไม่รู้ว่าคุณกับแฟนขัดแย้งกันเรื่องอะไร……”

หญิงสาวพูดขัดขึ้นมา “เราเลิกกันแล้ว เขามีคนอื่น”

“อ้อ เขานอกใจคุณสินะ คุณก็ควรจะพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นว่าการที่เขาทิ้งคุณไปมันผิด ฉันสามารถให้โอกาสในการทำงานที่ดีแก่คุณเพื่อปรับปรุงตัวเองในช่วงเวลาสั้นๆได้ คุณใช้โอกาสนี้ในการหาทุนเพื่อต่อสู้กลับ ลองคิดดูสิการที่คุณยืนอยู่ต่อหน้าแฟนเก่าของคุณด้วยความสง่างาม มันสะใจขนาดไหน?

ลั่วหานยิ้มมาทางเธอ เธออ้าปากค้างด้วยความตะลึง

“คุณ……ทำไมต้องช่วยฉัน?”

ลั่วหานยักไหล่ “ไม่มีเหตุผล ฉันอาจจะชอบทำตามใจตัวเองเท่านั้นแหละ”

หญิงสาวก้าวไปข้างหน้าสองก้าวแล้วเดินเข้าไปใกล้ลั่วหาน เธอยังคงมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามและสงบนิ่งของลั่วหานด้วยความไม่เชื่อ “เงื่อนไขคืออะไร?”

ลั่วหานหัวเราะ เธอยิ้มอย่างชาญฉลาด “ คุณเป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ เงื่อนไขง่ายมากคือภายในสามปีคุณต้องอยู่ในสถานที่ที่ฉันจัดให้ คุณจะต้องทำผลงานให้สำเร็จอย่างว่าง่าย และจงรักภักดีต่อฉัน”

หญิงสาวชั่งใจในคำแนะนำของเธอ สามปีสำหรับหน่วยที่ดี นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่หล่นลงมาจากท้องฟ้าเลยทีเดียว

“ตกลง! ฉันสัญญา!”

ลั่วหานสะบัดชายเสื้อคลุมสีขาวของเธอและจัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ “นอนลงซะ คุณต้องมีร่างกายที่แข็งแรงเพื่อที่จะตอบโต้คู่ต่อสู้ของคุณ”

แพทย์ชายสองคนมองหน้ากันอย่างตกใจ

เธอช่างสุดยอดจริงๆ!!

ลั่วหานใส่สายน้ำเกลือให้เธอ จากนั้นใช้เทปแปะให้แน่น และปรับน้ำเกลือ

หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมองลั่วหานแล้วถามว่า “คุณจะไม่ถามชื่อฉันหน่อยเหรอ?”

ลั่วหานจัดเรียงเวชภัณฑ์และยืนอย่างสง่างามอยู่ที่หน้าต่าง แสงของดวงอาทิตย์สาดส่องมายังตัวเธอมองดูอบอุ่น “ฉันไม่ได้บอกชื่อของฉันกับคุณ มันยุติธรรมแล้วนี่คะ”

หญิงสาวคนนั้นเผยอปากขึ้น เธอถอนหายใจด้วยความจริงใจและพูดว่า “คุณมีพลังน่าดึงดูดมากและสามารถเข้าถึงหัวใจของทุกคนได้ดี ฉันหวังว่าในสามปีฉันจะมีพลังนี้เหมือนคุณ”

“คุณทำได้ แต่สามปีอาจไม่พอ สักห้าปีน่าจะกำลังดี”

เมื่อเดินออกจากห้องผู้ป่วย ลั่วหานหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาเบอร์ของหลงเซียวที่ให้เธอก่อนหน้านี้และโทรออก

อีกฝ่ายหนึ่งรับสายในไม่ช้า จางหย่งรู้จักหมายเลขของเธอดีอีกทั้งเขาสามารถท่องจำมันได้ “คุณนายหลง มีอะไรให้รับใช้ครับ?”

ลั่วหาน1พูดขณะกดลิฟต์ลงไปที่ชั้นล่าง “วันนี้คุณมาที่โรงพยาบาลหน่อย มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันต้องการให้คุณติดตามงามหลังจากนี้ คุณฟังในสิ่งที่ฉันพูดให้ดีและทำตามเท่านั้น”

“ครับ เชิญคุณนายพูดได้”

ไม่กี่นาทีต่อมา ลั่วหานก็อธิบายเสร็จเรียบร้อย “คุณได้ยินชัดเจนไหม?”

จางหย่งตกตะลึงไปเป็นเวลากว่าครึ่งนาที “ให้ตายเถอะ! คุณนายสุดยอดมากครับ! คุณสามารถช่วยคนแล้วยังช่วยในระยะยาวอีกด้วย วางใจได้เลยครับ ในเมื่อเป็นคนมีความสามารถ ผมจะใช้ประโยชน์จากพวกเธอให้มากที่สุดอย่างแน่นอน เจ้านายเพิ่งจัดระเบียบโครงสร้างอุตสาหกรรมใหม่ กำลังต้องการผู้มีความสามารถทางการเงิน ”

“ค่ะ งั้นรบกวนด้วยนะคะ”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ ลั่วหานก็ไปหาหลานสาวตัวน้อยของเฉินว่านเหนียนและอธิบายข้อควรระวังก่อนการผ่าตัด โชคดีที่เด็กหญิงตัวเล็กนี้อยู่ในสภาพที่ร่างกายมั่นคงและควบคุมอารมณ์ได้ดี ลั่วหานจึงรู้สึกโล่งใจ

หลังจากจัดการสิ่งเหล่านี้เสร็จสิ้นก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว ลั่วหานเปลี่ยนเสื้อผ้าและกำลังจะกลับไปที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้

โดยไม่คาดคิดว่าเขาเพิ่งเดินไปที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งของโรงพยาบาลและถูกใครบางคนขวางทางไว้

เจิ้งซิน ยังไม่ยอมแพ้สินะ!

“คุณหนูเจิ้ง มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ลั่วหานยิ้มและเอ่ยถาม

เจิ้งซินมองมาที่เธอพร้อมกับหัวเราะเยาะพูดจาดูถูกว่า “ฉู่ลั่วหาน คุณลืมตัวเกินไปหรือเปล่า? คุณภาคภูมิใจในตัวเองเกินไปแล้วล่ะ!”

ลั่วหานแสร้งทำเป็นไม่รู้ และทำหน้าตาอย่างไร้เดียงสาแล้วถามว่า “เหรอคะ? ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”

“อย่ามาทำเป็นไขสือ! คุณกำลังใช้คำว่าแพทย์เพื่อข่มขู่พ่อของฉัน! ต้องการทำให้เรากลัว แต่ฉู่ลั่วหาน คุณไม่ใช่หมอเพียงคนเดียว เราสามารถหาหมอที่ดีกว่านี้ได้มากมาย แต่คนที่สามารถทำให้โครงการของหลงเซียวตั้งหลักฐานมั่นคงได้ในเมืองเจียงเฉิงได้นั้น มีพ่อของฉันเพียงคนเดียว”

ลั่วหานยักไหล่ “เป็นการเปิดประเด็นที่ไม่เลวนี่คะ พูดต่อสิ”

เจิ้งซินเดินไปรอบๆลั่วหานมองดูรูปร่างของเธอแล้วพูดว่า “คุณเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ แต่น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถช่วยเหลือด้านอาชีพการงานของหลงเซียวได้เลย และฉันถึงจะเป็นผู้หญิงที่ช่วยให้เขาก้าวหน้าได้ ฉันสามารถขอให้พ่อของฉันช่วยให้เขาได้รับใบอนุญาต และยังมีวิธีเพิกถอนการฟ้องร้อง! กฎระเบียบพวกนั้น……มันเปลี่ยนแปลงกันได้นี่”

ลั่วหานฟังเธอพูดจบด้วยอารมณ์เย็น เธอยืนกอดอกและพยักหน้า “อืม คุณหนูเจิ้งพูดมาก็มีเหตุผลนะคะ”

“ดังนั้นถ้าต้องการให้หลงเซียวตั้งหลักในเมืองเจียงเฉิง คุณต้องฟังฉัน คุณต้องทำในสิ่งที่ฉันขอให้คุณทำ ไม่เช่นนั้นฉันจะบอกให้พ่อของฉันเปลี่ยนข้อกำหนดในการสร้างอาคารสูงทันที ฉันรับรองว่าเขาจะต้องขาดทุนแบบย่อยยับ!”

ลั่วหานเบิกตากว้าง “คะ? ร้ายแรงขนาดนี้เชียว! ไม่ทราบว่าคุณหนูเจิ้งทำได้ยังไงกัน?”

“นี่คุณกำลังหลอกถามฉันเหรอ? คุณคิดว่าฉันโง่หรือไง? วันนี้ฉันจะพูดแค่นี้ ฉู่ลั่วหานคุณสู้ฉันไม่ได้หรอก โลกของธุรกิจมันน่ากลัว ฉันให้ชีวิตเขาได้ ก็ทำให้เขาตายได้เหมือนกัน การที่เขาจะใช้ประโยชน์จากฉัน มันต้องมีค่าตอบแทน!”

เจิ้งซินจับมือของลั่วหานขึ้นมากำแหวนของเธอไว้อย่างละโมบ “ฉู่ลั่วหาน แหวนนี้จะเป็นของฉันไม่ช้าก็เร็ว เชื่อไหมล่ะ?”

“เชื่อสิ คุณพ่อของคุณเป็นถึงข้าราชการชั้นสูง มีอำนาจล้นฟ้าและจัดการสถานการณ์ทางการเมืองของเจียงเฉิงได้ ใครจะไม่กล้าให้สิ่งที่คุณต้องการ”

ลั่วหานสะบัดข้อมือของเธอและดึงออก “แต่คุณหนูเจิ้งคะ ฉันอยากจะเตือนคุณว่าถ้าคุณบีบบังคับฉันมากๆ คุณอาจจะตายอย่างอนาถก็ได้นะ”

“จะใช้วิธีเดียวกับการกำจัดนังโง่เง่าโม่หรูเฟยเหรอ?”

เจิ้งซินก้าวไปข้างหน้าอย่างเยาะเย้ย ลมหายใจอุ่นของเธอลั่วหานสัมผัสมันได้ ระยะห่างระหว่างทั้งสองน้อยกว่าห้าเซนติเมตร และสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของตนเองในดวงตาของกันและกัน

“ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากมีปัญหากับคุณ ฉันจะทำตามที่คุณขอ ชื่อเสียงของคุณหนูเจิ้งโด่งดังไปทั่ว ผู้ชายคนไหนที่เข้าตาคุณคงจะโชคดีมากจริงๆ คุณชอบหลงเซียวไม่ใช่เหรอ? ง่ายนิดเดียว ฉันยกให้คุณ”

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท