ตอนที่ 464 ลั่วหานบุกเข้าไปที่สถานีตำรวจ ความฉลาดอัพเกรดขึ้น
ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย แผนกผ่าตัดหัวใจ
ลั่วหานออกมาจากห้องผ่าตัด เธอถอดหน้ากากออกและหายใจออกลึก ๆ หลินซีเหวินและหวาเทียน ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน แต่พวกเขาดูตื่นเต้นมาก
ลั่วหานก็ไปร่วมสนุกด้วย เธอถอดชุดผ่าตัดออกและเตรียมเปลี่ยนชุดไปที่ห้องทำงาน ขณะนี้ ถังจิ้นเหยียนก็ตามเธอมา
“เสาหลักของโรงพยาบาลก็ต้องรักชีวิตตัวเองหน่อยไหม? นี่เป็นการผ่าตัดครั้งที่เท่าไหร่แล้วตั้งแต่คุณกลับมาที่นี่” ถังจิ้นเหยียนถอดหน้ากากออก พร้อมกับรอยยิ้มอ่อน ๆ บนใบหน้า ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนมาก
ลั่วหานเผลอไปเห็นดวงตาของเขา และหัวใจของเธอก็กระตุก “ฉันอู้งานมาหนึ่งเดือนกว่า ควรชดเชยกลับมา ว่าแต่คุณ ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เสาหลักอย่างฉันไม่อยู่ คุณได้เทคนิคแยกร่างมา ดูแลห้องผ่าตัดหลายห้องในเวลาเดียวกัน วิชาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ คุณช่วยสอนฉันได้ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนหัวเราะออกมา ใบหน้าที่สง่างามนั้นส่องประกายแวววาวด้วยแสงแดดเมื่อเขายิ้ม เขาไม่ค่อยหัวเราะแบบนี้ ถ้าเขาไม่ยิ้มก็ดูเย็นชาแต่ถ้าเขายิ้มขึ้นมาดูหล่อมากเลย และดวงตาของหลินซีเหวินหันมามองอย่างหมกมุ่น เกือบจะตกหลุมรักเขาอีกรอบ
“ไม่สอนหรอกนะ แต่ฉันสามารถเปลี่ยนวิธีได้ เลี้ยงกาแฟคุณ ดีไหม?” ถังจิ้นเหยียนถอดชุดผ่าตัดออก เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว มีแถบสีฟ้าอ่อนๆที่ขอบเสื้อ ช่วยเติมสีสันให้กับเสื้อที่ดูขาวซีดเกินไปให้ดูสดใส
มันเหมาะกับบุคลิกของเขาอย่างมาก
ไม่ได้เจอกันมาเป็นเดือน ถังจิ้นเหยียนได้รับความชุ่มชื่นจากความรักมาไม่น้อยนะเนี่ย
“ได้สิคะ คุณหมอถังเลี้ยงกาแฟ แม้ว่าจะไปเพราะหน้าตาฉันก็ต้องไป” ลั่วหานก็ถอดชุดผ่าตัดออกเช่นกัน เธอสวมเสื้อแขนยาวลายตารางหมากรุกสีเหลืองอ่อน ใส่คู่กับกางเกงสีดำ หุ่นเธอดูสูงและเรียวยาว
“ดูจากความสวยของคุณแล้ว ฉันควรเลี้ยงกาแฟคุณสักหนึ่งเดือน”
“หนึ่งเดือนหรือ?อย่างน้อยต้องหนึ่งปีรึเปล่า!”
“ฮ่าฮ่า ลั่วหานตอนนี้คุณคงเขียนคำว่าเจียมเนื้อเจียมตัวไม่ได้แล้วใช่ไหม?”
“หื้ม? อะไรคือความเจียมตัวหรอ?”
“เธอไง … ฮ่าฮ่า!”
หลินซีเหวินและหวาเทียนส่งเสียงเชียร์ “คุณหมดถัง คุณจะเลี้ยงกาแฟคุณหมอฉู่ คุณไม่เลี้ยงพวกเราบ้างเหรอ? การผ่าตัดเมื่อสักครู่นี้พวกเราก็ช่วยนะ แม้ว่าไม่ได้ช่วยอะไรมากแต่ก็ยังมีความตั้งใจที่จะช่วยนะ”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าอย่างอารมณ์ดี “โอเค เลี้ยงทั้งหมดเลย”
หลินซีเหวินถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “คุณหมอถังคะ เงินเดือนของคุณสูงมากใช่ไหมคะ? เงินเดือนหกหลักใช่ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนไอออกมาเบาๆ มองซ้ายมองขวาแล้วพูดกับเธอว่า “คุณหมอหลินชอบกาแฟแบบไหนครับ? อเมริกาโน่? ลาเต้?”
“โอ้ คุณหมอถังรวยขนาดนี้ อเมริกาโน่หรือลาเต้มันต่ำเกินไป ฉันอยากดื่มกาแฟขี้แมว!”
หลังจากที่ หลินซีเหวินถามไปเช่นนี้ ลั่วหานก็เริ่มประหลาดใจเช่นกัน เธอสงสัยตั้งแต่เพิ่งรู้จักถังจิ้นเหยียนใหม่ๆ ด้วยทักษะทางการแพทย์ของถังจิ้นเหยียน เงินเดือนปีละหนึ่งล้านไม่ใช่ปัญหา แต่ตอนนั้นเขาเพิ่งจะเข้าวงการมาไม่กี่ปี ก็มีอพาร์ทเมนต์ห้องหนึ่งในเกียวโตที่มีมูลค่าหลายสิบล้าน และ Mercedes-Benz ของเขาเป็นรุ่นท็อปด้วย การตกแต่งในบ้าน และของสะสมในบ้านล้วนมีมูลค่ามหาศาล
ถังจิ้นเหยียนคงมีภูมิหลังที่ดีใช่ไหม? ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงเลย?
ถังจิ้นเหยียนตอบตกลงทันที “โอเค”
พวกเขาก็พูดคุยกันเกี่ยวกับสถานที่ที่จะไปดื่มน้ำชายามบ่ายอย่างสนุกสนาน และโทรศัพท์ของลั่วหานก็ดังขึ้น
ส้งชิงเซวี๋ยนโทรมา เป็นสายที่คาดไม่ถึงอย่างมาก
ลั่วหานก้าวช้าไปสองสามก้าว และทิ้งระยะห่างจากพวกเขาไปสองสามเมตร “ครูคะ มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนกำลังสูบบุหรี่ ส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมา “ลั่วลั่ว เฒ่าแก่มีเรื่องบางอย่างจะบอกหนู”
ลั่วหานนึกถึงคดีที่เจิ้งซิ่วหยากล่าวถึงเมื่อไม่นานมานี้ และเธอมีความคิดไปในใจคร่าวๆแล้ว “โอเคค่ะ ว่ามาเลยค่ะ”
“ฉันทำบางอย่างที่ต้องขอโทษเธอออกมา เธอต้องห้ามไม่สนใจฉัน”
“ห๊ะ?อาจารย์ทำอะไรมา?” ลั่วหานเริ่มสงสัยว่าการสืบสวนคดีเกี่ยวข้องกับเธอหรือ?
ส้งชิงเซวี๋ยนเงียบไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะพูดยาก และในที่สุดเขาก็พูดออกมา “ลั่วลั่ว …… รอบนี้ฉันส่งแม่สามีของเธอเข้าคุกแล้วนะ เธอรู้ไหม?”
“อะไรนะ?!”
ทันใดนั้นลั่วหานก็เปล่งเสียงของเขาสูงขึ้นเป็นสองอ็อกเทฟ ดวงตาที่ใสชัดและสวยงามของเธอกลม เสียงของเธอทำให้คนที่อยู่ข้างหน้าต่างหันมามอง ความสนุกสนามก็เงียบลงทันที
“ฉันว่าแล้วว่าเธอต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้…… เฮ้เฮ้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ไอ้เด็กเจิ้งมาหาฉัน เด็กนี่ปากเก่งมาก พูดจนตัวฉันเองก็วนเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม … ลั่วลั่วแม่สามีของเธอคือคนที่จ้างฆาตกรมาฆ่า … ”
ส้งชิงเซวี๋ยนอยากอธิบายเรื่องนี้อย่างกระชับอีกรอบ สุดท้ายก็พูดว่า “ตอนนี้หลงเซียวอยู่ในช่วงเวลาพิเศษ ฉันไม่ได้บอกเขาเพราะฉันกลัวว่าเขาจะกดดันทั้งหน้าและหลัง เธอเป็นเด็กฉลาด คิดหาวิธีช่วยเขาด้วยนะ”
ร่างกายของลั่วหานยืนแข็งทื่อที่ตรงนั้น เขาบีบโทรศัพท์ไว้เป็นเวลานานโดยไม่ขยับเลย สายตาที่เย็นชาของเขาเผยออกมาเป็นทางเส้นประ และเขาไม่ได้ออกเสียงมาเป็นเวลานาน
“ลั่วลั่ว? อย่าทำให้ฉันตกใจ สาวน้อย? ออกเสียงหน่อยสิ” ส้งชิงเซวี๋ยนเริ่มกังวลและตะโกนอย่างร้อนรน
ลั่วหานรู้สึกเสียงดังก้องในหัว ร่างกายของเธอก็สั่นและยืนพิงผนังไว้ อาการเวียนศีรษะเมื่อสักครู่นี้ทำให้เส้นประสาทสมองของเธอชาไปหมด
คดีจ้างฆาตกรรม… หนึ่งในข้อหาที่ไม่อาจให้อภัยได้ เมื่อมีการฟ้องร้องคดีแล้วก็ยากที่จะกลับตัวได้
“ฉันฟังอยู่ ……” ลั่วหานกุมหน้าผากของเธอไว้ ใบหน้าของเธอขาวซีดเหมือนกระดาษ
“ ลั่วลั่ว เธอต้องช่วยหลงเซียว”
“ ฉันจะคิดหาวิธีจัดการกับมัน”
ช่วย เธอจะช่วยอย่างแน่นอน หยวนชูเฟินมาเกิดเรื่องอาชญากรรมในเวลานี้ จะส่งผลกระทบกับตระกูลหลงทั้งตระกูล
หากไม่ได้จัดการอย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะเสียความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาไป แต่ยังล้มล้างตระกูลหลงได้ด้วย
ลั่วหาน เข้าใจแล้ว ที่หยวนชูเฟินชวนเธอไปดื่มกาแฟ แล้วพูดอะไรแปลกๆ และมอบแหวนให้กับเธอ ที่แท้เธอกำลังจัดการให้กับตัวเอง
ผู้คนกำลังจะตาย คำพูดของพวกเขาก็มักจะดี การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของหยวนชูเฟิน เป็นเพราะเธอรู้ว่าตัวเองจะถูกจับกุม
ผู้หญิงที่ฉลาด แต่ก็เป็นผู้หญิงที่โง่เช่นกัน
“ ฉันรู้แล้วว่าควรทำยังไง และคุณก็ไม่อยากให้เธอติดคุก ใช่ไหม?”
“ครับ” พูดตรงๆเลย ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น
“ฉันเข้าใจแล้ว”
ลั่วหานวางสายโทรศัพท์และเธอก็ปรับสีหน้าของเธอในไม่กี่วินาที “คุณหมอถังคะ พวกคุณไปดื่มกาแฟกันเถอะค่ะ ฉันมีธุระต้องขอตัวก่อน”
“ห๊ะ จะไปแล้วเหรอ? คุณหมอถังยังบอกอีกว่าจะเลี้ยงพวกเราไปร้องเพลงด้วย!” หลินซีเหวินตะโกนด้วยความเสียใจ
“คราวหน้าละกัน!”
ลั่วหานขับรถตรงไปที่สถานีตำรวจ เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มามากมาย แต่เธอก็ไม่คิดว่าหยวนชูเฟิน จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม หลังจากฟังคำอธิบายของส้งชิงเซวี๋ยนแล้ว สมองของลั่วหานก็เหมือนโดนพายุฝนฟ้าคะนองถล่มใส่ แต่โชคดีที่เธอยังมีสติไม่ได้สลบไปก่อน แต่เรื่องมันกะทันหันกินไป เธอรับมือแทบไม่ทัน
ส้งชิงเซวี๋ยนพูดถูก ตอนนี้หลงเซียวเพิ่งทำให้ตลาดหุ้นของMBK อยู่คงที่ได้ ถ้ามีคนรู้ว่าแม่ของเขาเป็นฆาตกร ชีวิตของหลงเซียวก็คงจบลงอย่างแน่นอน และชะตากรรมของMBK ก็จะสั่นคลอนไปด้วย
เธอต้องปกปิดเรื่องนี้ให้ดี!
เธอคิดมาเป็นพัน ๆรอบ ลั่วหานพยายามบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ บ้าเอ้ย ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้!
เมื่อรถมาถึงที่สถานีตำรวจ ลั่วหานไม่แม้แต่จะทักทาย ก็รีบไปพบเจิ้งซิ่วหยาโดยตรง
เจิ้งซิ่วหยารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าคนที่มาเป็นลั่วหาน“ ฉันคิดว่าหลงเซียวจะมาซะอีก แต่ไม่คาดคิดว่าคุณจะเป็นคนมา”
ลั่วหาน ยิ้มอย่างอ่อนแรง “ แม่ยายของฉันถูกคุณจับตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เจิ้งซิ่วหยาเอนตัวลงบนโซฟา และเช็ดหน้าด้วยมือสองข้างของเธออย่างช่วยอะไรไม่ได้
“ ตอนที่พวกคุณดื่มกาแฟด้วยกัน ฉันอยู่ข้างหลัง ในเมื่อเธอรู้แล้ว ฉันจะไม่ปิดบังเธอ แม่สามีของคุณยอมรับแล้ว ว่าเธอจ้างฆาตกรลอบสังหารหลี่หยวน หลี่หยวนเป็นหนึ่งในเพื่อนเก่าของเธอ แม่สามีของเธอสารภาพในคดีฆาตกรรมมาแล้วทั้งหมด”
ลั่วหานวางมือบนขมับของเธอและก้มศีรษะของเธอลงบนหน้าอก ปากของเธอแห้งมาก และหัวใจเต้นเร็วกว่าเดิม “ตำรวจเจิ้งคะ ฉันขอน้ำสักแก้วได้ไหมคะ”
“ แน่นอน … แน่นอนว่าได้”
เจิ้งซิ่วหยารินน้ำให้ลั่วหานไปหนึ่งแก้ว น้ำใสๆในแก้วกระดาษสีขาวสะท้อนดวงตาสีแดงคู่หนึ่งออกมา
“ ไหวไหมคะ คุณหมอฉู่ พักก่อนไหม?”
ลั่วหานส่ายหัว “ไม่เป็นไรค่ะ ให้เวลาฉันแค่หนึ่งนาทีก็พอ”
เจิ้งซิ่วหยาตบหลังเธอ และไม่รู้ว่าจะปลอบเธออย่างไร “ อย่าเศร้าเลยนะ … อย่าเศร้า”
“คือว่า… ตั้งแต่แม่สามีของคุณถูกจับ เธอยังไม่ได้แจ้งให้คนในตระกูลหลงทราบเลย เธอขอให้เราปกปิดมันไว้ และเธอก็รับความผิดไว้ทั้งหมดด้วยตัวเอง เฮ้อ คุณนายเขาก็ลำบากเนอะ”
หัวใจของเธอเจ็บมาก ลั่วหานถือแก้วกระดาษไว้ แต่ไม่ได้ดื่มน้ำ “ฉันขอพบเธอหน่อยได้ไหม?”
“ตามกฎระเบียบแล้ว ตอนนี้เธอสามารถพบแค่ทนายความของเธอเองเท่านั้น แต่แม่สามีของคุณปฏิเสธที่จะยื่นอุทธรณ์ และให้เราดำเนินการตามคำพิพากษาอย่างลับๆ เธอผลักดันตัวเองไปสู่ทางตันจริงๆ ฉันไม่คิดว่าเธอจะโหดร้ายกับตัวเองขนาดนี้”
ลั่วหานหายใจออกเป็นระยะ ๆ “ เธอไม่ได้โหดร้ายกับตัวเอง แต่เธอไม่มีทางเลือดต่างหาก มีวิธีประกันตัวไหม? หรือการลดโทษ? ไม่ว่าต้องเสียไปเท่าไหร่ก็ตาม”
ตาของเจิ้งซิ่วหยากระตุกขึ้นมา คุณต้องการยัดใต้โต๊ะเจ้าหน้าที่กฎหมายหรือ?”
“ถ้าทำได้ ฉันอยากจะลองดู ตำรวจเจิ้งเรามาคุยกันตรงๆดีกว่า บอกฉันมาว่าจะปิดบังคดีทั้งหมดนี้ได้อย่างไร ฉันต้องพาเธอออกไปให้ได้ รับสินบนหรือเส้นสายก็ได้ ฉันพร้อมเสียทุกอย่างไปเพื่อที่จะล้างข้อหาเหล่านี้ให้เธอ”
ลั่วหานวางถ้วยกระดาษลงและไม่ได้ดื่มเลย
“เป็นไปไม่ได้ การฆาตกรรมต้องถูกจำคุก โทษเบาก็ต่ำกว่าสิบปี โทษหนักก็มากกว่าสิบปีหรือตลอดชีวิต”
“ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเหรอ?”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
ไม่มี? แสดงว่ามาแบบดีๆไม่ได้ แต่จำเป็นต้องใช้วิธีอื่น
ลั่วหานถูๆที่มือ “แล้วถ้าฉันต้องการช่วยเธอให้ได้ล่ะ”
เจิ้งซิ่วหยาอ้าปากค้างเป็นเวลานาน แล้วเบ่งออกมาหนึ่งคำ “เชี่ย … ฉันก็ว่าละว่าคนอย่างพวกคุณ … ไม่เชื่อฟังกฎหมายและความยุติธรรมอย่างแน่นอน คุณหมอฉู่ของฉันคะ การฆ่าคนไม่ใช่ฆ่าไก่ฆ่าแพะนะ คุณข้าใจไหม?”
“ฉันเข้าใจ แต่การฆาตกรรมมีหลายประเภท การป้องกันตัวเอง การถูกบังคับ ลักพาตัว การวิกลจริต แรงจูงใจที่แตกต่างกันผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันไป และกฎหมายก็เอื้ออำนวย แม่สามีของฉันอายุ 57 ปีแล้วนะ ใครจะรับประกันได้ว่าเธอไม่มีปัญหาสุขภาพเลย?”
เจิ้งซิ่วหยา: “… นี่คุณ … ”
ลั่วหานหายใจเข้าลึก ๆ และพูดต่อว่า “ฉันขอยื่นคำร้องขอตรวจสุขภาพให้กับแม่ยาย ถ้านักโทษมีอาการป่วยอย่างหนัก ก็สามารถยื่นขอเข้ารับการรักษาได้”
เจิ้งซิ่วหยา: “……… ”
“ฉันเป็นหมอ ฉันรู้ดีอาจจะโรคร้ายที่แฝงอยู่ในแต่ละช่วงอายุ แล้วคุณจะแยกออกได้อย่างไรว่าเธอมีสติดีหรือสติไม่ดี
เจิ้งซิ่วหยา: “… ฉันว่า ……. คุณหมอฉู่ แม่ยายของคุณสารภาพผิดแล้ว คุณ ………”
“คนเมามักอ้างว่าไม่ได้เมา และฆาตกรมักจะบอกว่าตัวเองไม่ผิดอย่าเสียงดังที่สุด ทางกลับกัน การยอมรับว่าเป็นฆาตกรรมก็คือฆาตกรเหรอ? คุณมีหลักฐานไหมหรือพยานไหม? ฆาตกรคือใคร?เครื่องมือในการกระทำความผิดคืออะไร? เหตุจูงใจในการฆาตกรรมคืออะไร?”
เจิ้งซิ่วหยา: “……”
ไอบ้าเอ้ย! ! !
ไม่กลัวว่าผู้หญิงจะไม่มีเหตุผล แต่กลัวว่าผู้หญิงจะมีเหตุผลมากเกินไป ไม่กลัวว่าผู้หญิงจะมีเหตุผลมากเกินไป แต่กลัวผู้หญิงไม่มีเหตุผลแต่ก็ยังสามารถพูดได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล!
เธอตื้อสุดๆ แต่เธอกลับเถียงเธอไม่ออก
ยอมแล้ว!
ลั่วหานยิ่งพูดก็ยิ่งหัวใสมากขึ้น ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่า เรื่องมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด เส้นของกฎหมายไม่สามารถสัมผัสได้ แต่กฎหมายก็มีขอบๆที่พอไปมาได้เช่นกัน ใครจะสามารถแยกข้อเท็จจริงออกได้จริงๆ?
“ฉันอยากจะถามตำรวจเจิ้งว่า อะไรคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับตั้งข้อหาคดีการฆาตกรรม? ฆาตกรมีความสามารถในการรับผิดชอบทางอาญา จงใจก่ออาชญากรรม หรือพรากชีวิตผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และข้อหาที่ว่าการจ้างฆาตกรรม ฆาตกรกล่าวโทษให้คนอื่นหรือไม่? หรือผู้เสียชีวิตเคยก่ออันตรายต่อแม่ยายของฉันมาก่อนรึเปล่า? ตอนนี้ไม่มีหลักฐาน ก็จะที่จะปัดความผิดทั้งหมดให้กับหญิงชราที่ไม่มีทางสู้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายหรือ?”
เจิ้งซิ่วหยา: “!!!”
ลั่วหานจิบน้ำเพื่อทำให้ชุ่มคอ และลมหายใจของเธอก็ราบรื่นขึ้น “ สุดท้าย ตำรวจเจิ้งอย่าลืมนะคะว่า คุณหยวนชูเฟินเป็นแม่ของหลงเซียว!”