ตอนที่ 466 กลับเมืองเจียงเฉิงอีกครั้ง
ถังจิ้นเหยียนยิ้มอ่อนๆวางกาแฟและขนมหวานไว้บนโต๊ะ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในร่างกายของเขาโดนกลิ่นกาแฟกลบไปไม่น้อยจนได้แค่กลิ่นน้ำหอมจางๆในตัวเขา
ลั่วหานมองไปที่ถังจิ้นเหยียนด้วยดวงตาที่เปล่งประกายและยิ้มเล็กน้อย “คุณเชิญฉันดื่มกาแฟ ไม่เพียงแค่อยากช่วยให้ฉันผ่อนคลายใช่ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนกดเสื้อของเขาลงและนั่งลงตรงข้ามเธอ “คุณนี่ฉลาดจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็หลอกคุณไม่ได้”
ลั่วหานคนกาแฟไปครู่หนึ่งมี “อะไรอยากพูด พูดมาสิ”
ถังจิ้นเหยียนมองไปรอบ ๆร้านกาแฟเงียบสงบไม่มีใคร ยิ่งที่นั่งบนชั้นสองเงียบสงบไปอีก
“เธออยากช่วยแม่ยายเธอปลอมแปลงใบตรวจสุขภาพ ช่วยหล่อนยื่นเอกสารลดโทษเพื่อพบแพทย์?”
ลั่วหานจิบกาแฟไปคำหนึ่ง ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “เธอตรงๆดี ดูท่าตำรวจเจิ้งเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังแล้วสิ”
ลั่วหานกำแก้วกาแฟ ทำท่าจะยิ้มแล้วไม่ยิ้ม ถึงแม้เขาไม่ได้จะมาว่าหรือไต่ถาม แต่น้ำเสียงของเขามันแสดงถึงความไม่พอใจ
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าพร้อมกับความรู้สึกผิดเล็กน้อย “เพราะฉันถามไต่ถามเธอ เธอถึงยอมพูดออกมาก ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรยุ่งเรื่องนี้ แต่ลั่วหานเธอคิดดีๆนะ การปลอมแปลงเอกสารมันผิดกฎหมาย ถ้าแม่ยายเธอเป็นคนร้ายจริงๆ เขาต้องได้รับโทษทางกฎหมาย จุดนี้แหละที่จะทำให้เธอกลายเป็นคนผิดไปด้วย”
ลั่วหานจิบกาแฟคำที่สอง ไม่ปฏิเสธ “ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ แต่เรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด แม่ยายฉันเป็นคนฉลาด เขาไม่ฆ่าคนเรื่อยงี้หรอก ตอนนี้เขารับผิดชอบกับเรื่องนี้อย่างง่ายดาย ในนี้ต้องมีอะไรอยู่แน่นอน”
ลั่วหานวางแก้วลง แล้วนั่งตรงสบตาถังจิ้นเหยียน “ไหนๆนายก็รู้แล้ว ฉันจะพูดให้นายเข้าใจอีกหน่อย สมัยวัยรุ่นแม่ยายฉันกับส้งชิงเซวี๋ยน เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ในสมัยนั้นพวกเขาเกิดเรื่องขึ้น เรื่องในอดีตนั่นแหละที่ทำให้เกิดคดีตอนนี้ขึ้น”
ถังจิ้นเหยียนทำท่าทีเหมือนจะรู้แล้วเอ็นตัวไปใกล้ลั่วหาน “แก้แค้น?”
ลั่วหานส่ายหัว พร้อมกับปฏิเสธตัวเองรอบสอง “อาจจะใช่ แต่ก็อาจจะไม่ใช่ การแก้แค้นเป็นการกระทำของผู้กระทำความผิดแต่เท่าที่ดูแล้ว ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีใครบางคนกำลังปกปิดเรื่องอะไรสักอย่างอยู่ เลยเป็นเหตุผลที่พวกเขาฆ่าคนวงในในตอนนั้น ฉันเลยไม่กล้าสรุปข้อแท้จริงเพราะไม่มีหลักฐาน”
ถังจิ้นเหยียนหายใจเข้าอย่างแผ่วๆ “เท่าที่ฟังเธอพูดแล้ว มันซับซ้อนจริงๆ แต่ลั่วหาน ไม่ว่าความจริงในอดีตจะเป็นอย่างไร เธอก็ไม่ควรช่วยแม่ยายเธอปลอมแปลงเอกสาร ยังนี้มันจะเดือดร้อนเธอไปด้วย”
ลั่วหานเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม หางตาโค้งงอเล็กน้อย ทันใดนั้นมีความภูมิใจเล็กน้อยพูดขึ้นว่า “ฉันว่าแล้วว่าเธอกังวลเรื่องนี้ ไม่ต้องกังวลฉันไม่ละเมิดกฏหมายหรอกฉันแค่ทำให้เรื่องเลื่อนออกไป ถ้าแม่ยายฉันฆ่าคนจริงๆฉันจะไม่ปกป้องนาง แต่ฉันก็ไม่ยอมให้ใครหลอกใช้นาง ใบรับรองสุขภาพเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งในการถ่วงเวลาในการสืบเรื่องราวในอดีต และฉันก็เชื่อว่าแฟนเธอจะสืบหาอะไรได้เพิ่มเติม”
“ถ้าสุดท้ายแล้วผลก็ยังเป็นโทษการฆ่าคน เธอจะทำยังไง? จะยัดเงินซื้อตำรวจไหม?” ถังจิ้นเหยียนระแวงใจ ในใจเขากังวลพร้อมกับมองไปที่ลั่วหานเพื่อหาคำตอบจากสายตาของเธอ
“ฉันจะส่งนางให้แก่ทางตำรวจ เพื่อได้รับการลดโทษ”
“แล้วก็ เธอไม่อยากให้หลงเซียวรู้ใช่ไหม?”
“อืม ยังน้อยตอนนี้เขายังไม่รู้ เพราะฉะนั้นถ้านายยอมช่วยฉัน ก็ช่วยฉันหน่อย หรือไม่ ฉันก็หวังให้ช่วงนี้นายช่วยเงียบไปก่อน”
“ฉันช่วยเธอ!”
——
วันถัดไป เมืองเจียงเฉิง
หลงเซียวเดินออกจากสนามบิน ยกข้อมือขึ้นดูเวลา ร่างอันสูงใหญ่เดินตรงไปลานจอดรถทีละก้าวทีละก้าว
ชุดสูทสีดำที่หรูหรา เต็มไปด้วยความหนาวสั่นที่ยากจะให้คนนอกเข้าใกล้
หลงยี่เห็นเงาของหลงเซียว วิ่งเหยาะๆตามไป ด้วยความสุภาพ เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยและยิ้ม “ไอ๊หยา ฉันรอคุณอยู่ตลอด ถึงสักที เหนื่อยมาทั้งทางแล้วสิ”
พูดไปยิ้มไป หลงยี่ยื่นมือไปหยิบเอกสารของเขา “อันนี้ฝากไว้ที่พี่ก็ได้แล้ว”
หลังฟังเขาพูดประโยคนี้เสร็จ จากเดิมหลงเซียวที่เดินอย่างเร็ว หยุดก้าวเดินไปทันที ดวงตาอันเย็นชาและลึกล้ำมองลงมาอย่างไม่สบอารมณ์ มีความรู้สึกอยากระเบิดใส่ขึ้นบนร่างกายของหลงยี่
“ฝากไว้ที่พี่? ฉันไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้ยังมีอะไรที่จะสามารถฝากไว้ที่นายอีก” คำพูดของเขาเสื่อถึงเรื่องอื่นๆไปด้วย ทั้งประชดและดูถูกสายตาทั้งสองที่ไร้ความอดทนทำให้คนที่มาประสบสอพลอกลัวจนหน้าซีดอย่างง่ายๆ
หลงยี่ขำแห้ง หดมือที่ยื่นออกไปกลับเข้ามา หึๆ หลงยี่ ดูเธอพูดสิ้ ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย “ฉันพยายามจะเอาคืนแล้ว แต่พวกเจิ้งเฉิงหลินเจ้าเลห์เกินไป ฉันก็ไม่มีวิธีทางจริงๆ”
หลงเซียวทำปาก เหมือนจะไม่ว่าแสดงอาการใดๆแก่เขาล้วนเป็นการเปลืองเวลาของเขา “พี่ไม่มีวิธีเหรอ? ฉันดูเหมือนวิธีนายมีเยอะตายไป ทำโครงการพังแต่ยังอยู่ในสาขาบริษัทสั่งการณ์ ฉันนี่ชื่นชมนายจริงๆ”
หลงยี่ขำแห้ง สีหน้ายิ้มของเขาดูตึงๆ“อันนี้ ฉัน ฉันแค่ช่วยคุณลุงรองจัดการบริษัทเพื่อชดเชยสิ่งที่ทำพลาดไป แต่ไม่ต้องกังวลฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโครงการนี้อีกฉันสาบานว่าจะไม่เข้ามายุ่งอีก!”
หลงยี่ทำท่าชูมือจะสาบาน แต่หลงเซียวมองยังไม่อยากมอง แล้วเดินตรงไปข้างหน้า
“หลงเซียว ฉันจัดโรงแรมให้เธอแล้ว ยังคงเป็นโรงแรมครั้งก่อนนั้น ห้องก็เก็บไว้ให้นาย” หลงยี่รีบตามไป ทำท่าขอโทษ
แต่สิ่งที่เขาตอบกลับคือเสียง “ปัง” ประตูรถถูกปิดโดยหลงเซียวและขับออกไปทันที
หลงเซียวนั่งเบาะหลัง พูดกับคนขับโดยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า “ขับรถ ไปบริษัท”
“ครับ ประธาน”
เมื่อหลงเซียวปรากฏตัว หลงยี่จะมีจุดพูดได้ที่ไหนล่ะ
หลงยี่ที่โดนทิ้งไว้สนามบินทั้งรำคาญและโกรธอย่างมาก แต่ทางออกเดียวของเขาตอนนี้คือหลงเซียว เพราะฉะนั้นความโกรธแค้นแค่ไหนก็ต้องเก็บไว้ก่อน!
ทันทีที่รถขับถึงบริษัท หลงเซียวไม่หยุดพัก ทำการเรียกประชุมทีมทันที 2ชั่วโมงผ่านไปเคาะสรุปแผนโครงการ
หวังเจี้ยนนำแบบแผนใหม่ถ่ายเอกสารยื่นให้หลงเซียวด้วยสองมือ เขาทำทีราวกับเห็นเจ้าแม่กวนอิมแห่งความรอด“ประธาน ไม่ว่าคุณมีคำสั่งอะไร สั่งผมได้เลย ผมจะช่วยจัดการให้ท่านเสร็จแน่นอน!”
หลงเซียวพลิกดูข้อมูล แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดแล้วมองไปที่หลงยี่ที่นั่งแถวทแยงมุม “คืนนี้ฉันพักที่โรงแรมหวาเม้า แล้วก็ ตามฉันมา”
“โอเคร”
หลงยี่กลืนน้ำลาย พูดอย่างเบาๆว่า “ครั้งก่อนนายพักโรงแรมฮิลตันไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆไปพักที่โรงแรมหวาเม้า?”
“ครั้งก่อน ครั้งก่อนที่เมืองเจียงเฉิงยังมีที่ดินแปลงใหญ่ ตอนนี้ล่ะ?” หลงเซียวมองไปทางหลงยี่อย่างไม่สบอารมณ์
หลงยี่ก้มหัวลงไปในทันที ไม่กล้าที่จะพูดต่อ
ผู้คนในห้องประชุมต่างมองไปที่หลงยี่ด้วยสายตาที่เฉียบคม พวกเขากำลังอยากจะโยนไอ้ขี้หนูตัวนี้ออกไปพอดี!
หลงเซียวลุกขึ้น จัดชุดสูทสีดำของเขาให้เรียบร้อย แล้วเดินข้ามเก้าอี้ออกจากห้องประชุม
ในห้องประชุมเหลือผู้บริหารสาขาระดับสูงของบริษัทอยู่ไม่น้อย หลงยี่นั่งอยู่เก้าอี้ตัวแรกทางด้านขวา แต่เขาไม่ได้มีแม้แต่โอกาสที่จะพูดแทรกในระหว่างการประชุม ผู้บริหารสาขาในบริษัทแต่ละคนล้วนเป็นคนเก่าแก่ในวงการธุรกิจ ตอนนี้ก็ไม่มีใครอยากเสียเวลาคุยกับหลงยี่สักคน
กลุ่มคนเดินออกไปทีละคน หลงยี่อับอายมากขึ้น
กลับถึงออฟฟิศ หลงเซียวพูดว่า “เย็นนี้ฉันมีกิจกรรมหนึ่ง เธอฟังไว้ แล้วทำตามที่ฉันบอก”
หวังเจี้ยนก้มหน้ารับคำสั่งของหลงเซียวอย่างเคารพ ทันทีนั้นดวงตาของเขาก็เปิดกว้าง “ประธาน ทำแบบนี้มันอันตรายเกินไป ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ท่าน……”
หลงเซียวทำมือหยุดเขา “ทำตามที่ฉันบอก อยากทวงที่ดินและใบอนุญาตก่อสร้างคืน มันต้องทำแลกเปลี่ยน”
หวังเจี้ยนกัดฟัน “ครับ ประธานไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะจัดการให้ดี”
หลงเซียวกอดอกวางมือบนโต๊ะและมองไปที่หวังเจี้ยน “นายตอบสนองเร็ว และเรียนรู้ได้ไว ต่อไปอยู่ช่วยฉันทำงาน เป็นไง?”
หวังเจี้ยนตกใจ ใบหน้าของเขาแดงขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น “นี่คุณพูดจริงใช่ไหมประธาน ต่อไปให้ฉันช่วยคุณจัดการงาน”
“ใช่”
“ได้ครับ ได้ครับ ผมยอม ต่อไปผมเป็นคนของท่านประธาน จะทำตามที่ท่านสั่งอย่างเต็มที่และรับรองว่าจะมีความจงรักภักดีต่อท่านประธาน”
“ออกไปเถอะ แล้วก็ ฉันไม่ต้องการเห็นหลงยี่ในขณะนี้ ช่วยฉันกั้นไว้ล่ะ”
“ครับ ประธาน”
หวังเจี้ยนเดินออกจาออฟฟิศ ใบหน้ายังมีความแดงที่ตื่นเต้นจากเมื่อกี้ พระเจ้า เขาได้รับเลือกจากประธาน ต่อจากนี้ไปเขาก็เป็นคนของคุณชายหลงแล้ว!
หลงยี่เดินมาด้วยความสลดใจ และพบกับหวังเจี้ยนแบบตัวต่อตัว
“ประธานล่ะ หลงยี่กั้นความโกรธไว้ น้ำเสียงไม่ดี”
หวังเจี้ยนพูด ”ยุ่งอยู่ที่ออฟฟิศ แต่ผู้จัดการก็เชิญกลับเถอะ ประธานงานเยอะ ไม่มีเวลาพบคนไม่สำคัญและยิ่งไม่มีเวลาที่จะจัดการกับเรื่องที่ไม่สำคัญ”
“เธอพูดอะไรนะ นี่เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร กล้าดียังไงมาพูดกับฉันอย่างนี้” หลงยี่ ดึงเนคไทของหวังเจี้ยน ออกอย่างแรง
หวังเจี้ยนสีหน้าไม่เปลี่ยนพูดว่า“คุณเป็นใครไม่สำคัญ ผมฟังแค่คำสั่งของท่านประธานคนเดียว กรุณาปล่อยมือ” “กล้าพูดอย่างนี้กับฉันเหรอ ต้องเจอสักหน่อยแล้ว ไอ้เหี้ย!”
หลงยี่พูดจบก็ตีคน หวังเจี้ยนพูดด้วยเสียงที่หนักแน่น “ผู้จัดการ ยามMBKไม่ได้กินข้าวฟรีนะ”
“แก!”
“เชิญกลับครับ ผู้จัดการ!”
เสียงดังจากข้างนอกค่อยๆหายไป ในที่สุดริมฝีปากของหลงเซียวก็ค่อยๆเผยขึ้น เขาดูคนไม่ผิดจริงๆ
ณ ขณะนี้ เสียงโทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดังขึ้น ชื่อที่เด้งบนหน้าจอเป็นคนที่เขากำลังจะติดต่อต่อไปพอดี
“เจ้านาย คุณกับเมืองเจียงเฉิงนี่มีพรหมลิขิตกันจริงๆ”
หลงเซียวเอนหลังพิงเก้าอี้และตอบอย่างเฉื่อยชา “แน่นอน ในอนาคตข้างหน้าจะมีฉันอยู่เคียงข้าง พรหมลิขิตนี่ยังอีกยาวไกล”
จางหย่ง”ผมสืบเรื่องที่คุณให้สืบเจอแล้ว ลายนิ้วมือของเจิ้งซินเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง อย่างกับขุดเจอสมบัติใหญ่อันหนึ่งเลย เซอร์ไพรส์อันใหญ่นี้ คุณชอบใจแน่ๆ”
มือซ้ายของหลงยี่ดีดออก นิ้วโป้งของเขาเล่นแหวนที่สวมอยู่ตรงนิ้วนาง “นายคิดว่าฉันจะชอบเงินที่โกงมาเหรอ?”
“โธ่เอ๋ย ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น ฉันพบหลักฐานการทุจริตของเจิ้งเฉิงหลินเป็นจำนวนเงินที่น่าทึ่งมาก แทบจะทำให้คุณสามารถสร้างอาคารได้ ”
“หรอ?” “หลงเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าอย่างงี้เราย้ายไปลงทุนในโครงการโดยตรงเลยเป็นอย่างไร?”
“จริงเหรอ! คุณจะยอมใช้ไหมล่ะ? ผมสามารถเอาเงินออกจากปากของเจิ้งเฉิงหลินได้ทันที!”
หลงเซียวขมวดคิ้ว“คุณคิดว่าฉันจะใช้เงินแบบนี้เหรอ? พูดไม่คิด เอาหลักฐานให้ฉัน เย็นนี้ต้องใช้”
“ได้ครับ! เดี๋ยวผมส่งไปให้! เจ้านายเจิ้งเฉิงหลินนี่มีเงินจริงๆ อย่างว่าที่จุกตายนั้นกล้าหาญ หิวตายนั้นขี้ขลาดเจิ้งเฉิงหลินนี่ไม่กลัวจุกตายจริงๆ!”