ตอนที่ 476 พวกเรามาคุยเรื่องข้อตกลงการค้าขายกันเถอะ
จะเป็นเธอได้อย่างไร?
หายสาบสูญไปสามปีกว่า ตั้งแต่เธอกลับประเทศมาจนตอนนี้ก็ไม่เคยมีข่าวคราวเลย ลั่วหานเกือบจะคิดว่าเธอตายไปแล้ว คาดไม่ถึง……คาดไม่ถึงจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินเสียงของเธอ
เกินความคาดหมายจริงๆ
ลั่วหานเดินกลับไปที่ห้องโถงคฤหาสน์ นั่งลงบนโซฟา สายตาที่แวววาวมองไปที่รองเท้าแตะบนเท้า แววตาก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลง
“คุณผู้หญิงฟาง ไม่ได้เจอกันนานเลย”
ฉับพลันฟางหลิงหยู้ก็ติดต่อกับเธอ เพียงแต่เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องดีหรือเปล่า? ฟางหลิงหยู้……ช่างมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเธอในช่วงหลายปีนี้เสียจริง เธอมักจะดูดีขึ้นๆ ค่อยๆชัดเจนขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึง ทำให้ขมขื่นมากจริงๆ
ด้านนั้นที่ได้ยินเสียงของลั่วหาน เดิมทีก็หัวเราะเยาะนิดๆ จากนั้นก็พูดว่า “ฉู่ลั่วหาน ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นแม่เลี้ยงของคุณ คุณจะเรียกชื่อฉันได้อย่างไร?”
ลั่วหานไขว่ห้างขาที่เรียวยาวของเธอ ถือโอกาสหยิบหมอนอิงมาไว้ในอ้อมกอด ฮัทเพลงเบาๆ พูดเหน็บแนมถากถางว่า “แม่เลี้ยง? นึกไม่ถึงว่าคุณผู้หญิงฟางจะยังจำฐานะของตนเองได้ ใช่ แม่เลี้ยงแสนดีของฉัน แม่เลี้ยงแสนดีที่ทำให้ตระกูลฉู่แตกแยกเป็นชิ้นๆ ฉันต้องขอบคุณคุณมากจริงๆเลยนะ!”
ฉับพลันลั่วหานก็รู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจ ได้ฟังเสียงของฟางหลิงหยู้ คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตระกูลฉู่ในอดีตอีกครั้ง เธอไม่สามารถปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตที่ถูกตราตรึงลึกลงไปในใจได้ เธอไม่สามารถพูดทุกคำทุกประโยคกับเธอได้อย่างผ่อนคลายสบายใจ เธอทำไม่ได้
ฟางหลิงหยู้หัวเราะเยาะคิกคัก หัวเราะมากกว่าเดิม “ฉู่ลั่วหาน คุณไม่ต้องใช้คำพูดกลับตาลปัตรกับฉัน ฉันโทรหาคุณไม่ใช่อยากจะนอกเรื่อง”
เสียงหัวเราะดังทอดมาจากหูโทรศัพท์ เสียงแสบหูมาก ลั่วหานขมวดคิ้ว ใช้นิ้วกางหัวคิ้วกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์ “เรื่องอะไร? พูด”
ฟางหลิงหยู้มีเล่ห์เพทุบาย อยู่ด้วยกันกับฉู่ซีหรานไม่เคยทำเรื่องดีๆ ทั้งสองแม่ลูกเป็นตัวหลักที่สร้างปัญหา!
เธอกลับมากะทันหัน ลั่วหานแทบจะนึกออกเลยว่าในใจเธอคิดปรารถนาอะไรอยู่
ฟางหลิงหยู้เท้าแขนอยู่หน้าหน้าต่าง มองจากตึกสูงระฟ้าของเมืองใหญ่ลงไป พูดอย่างคลุมเครือว่า “ฉู่ลั่วหาน คุณเคยเจอกับซีหรานแล้วใช่ไหม? ลูกชายของเธอคุณก็เคยเจอแล้วใช่ไหม?”
“แล้วยังไงล่ะ?” ลั่วหานหรี่ตาเล็กน้อย น้ำเสียงแฝงไปด้วยความระวังตัว
“ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในประเทศ ฉันอยู่โตเกียว” ในที่สุดฟางหลิงหยู้ก็หยุดเย่อหยิ่งต่อไปอีก เมื่อพูดตำแหน่งที่อยู่ของตนเอง ชัดเจนว่าอ่อนโยนลงอย่างมาก
หื๊ม? อยู่โตเกียว
“แต่ว่าตอนนี้ลูกสาวของคุณผู้หญิงฟางเป็นคุณหญิงของตระกูลเสิ่น หนึ่งผู้บรรลุธรรมไก่หมาก็พากันขึ้นสวรรค์ ตอนนี้ฐานะทางสังคมของคุณจะทวีมากขึ้น ทำไม ไปท่องเที่ยวรอบโลกล่ะ?”
ฟางหลิงหยู้กัดฟัน อดกลั้นความโกรธแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้มาเพื่อท่องเที่ยว เสิ่นเหลียวให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันอยู่ญี่ปุ่นมาจะสามปีแล้ว ตั้งแต่ซีหรานแต่งงานกับเสิ่นเหลียว ฉันก็มาอยู่ญี่ปุ่นเลย”
หึหึ!
หึหึ!
ครั้งที่แล้วไปตระกูลเสิ่น ลั่วหานก็ไม่เห็นฟางหลิงหยู้ ก่อนหน้านี้งานในเมืองหลวงก็ไม่เห็นฟางหลิงหยู้ แปลกๆอยู่ เธอชอบออกหน้าออกตาขนาดนี้ จะทิ้งโอกาสมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?
ตอนนี้คิดๆดูแล้ว คาดไม่ถึงว่าเต็มใจที่จะเป็นอย่างนี้!
ลั่วหานยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบไปหนึ่งที ดวงตาคู่สวยสะท้อนอยู่ในถ้วยชา ภายในที่เลือนรางมีใบหน้าของเธอกับดวงตาที่ลึกลับ เธอมองตัวเองในเงาสะท้อน ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “อย่างนี้เอง ดีมากเลย ลูกเขยมีความกตัญญูต่อคุณ ทำที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นอย่างถาวรให้คุณ คุณต้องอยู่อย่างสะดวกสบายมากในสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามอย่างแน่นอน”
ที่แท้ฟางหลิงหยู้ก็ถูกเสิ่นเหลียวกักขังไว้ที่ญี่ปุ่น หึหึ เสิ่นเหลียวนะเสิ่นเหลียว คุณก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นศัตรูจริงๆใช่ไหม?
ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้โง่ได้เซ่อจนเกินไป
ฟางหลิงหยู้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ กัดฟันเสียงดังกรอดๆ “ฉู่ลั่วหาน คุณพูดประชดประชันให้มันน้อยๆหน่อย! ที่ฉันติดต่อคุณ ไม่ได้มาฟังคุณถากถางฉัน ฉันอยากทำข้อตกลงการค้า”
“ฮ่าฮ่า!” ฉับพลันฉู่ลั่วหานก็หัวเราะขึ้น เสียงหัวเราะที่ไพเราะนั้นแสนดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่ง “ฟางหลิงหยู้ คุณจะทำการค้ากับฉัน? ของของคุณฉันไม่ได้สนใจ ไปหาลูกสาวที่แสนดีของคุณ ตอนนี้เธอมีอิทธิพลมาก ความสามารถมากมาย”
ฟางหลิงหยู้หัวเราะแล้วพูดว่า “ฉู่ลั่วหาน คุณคิดว่าจริงๆ คุณรู้อะไรทั้งหมด? คุณคิดว่าฉันไม่มีอะไรอยู่ในมือจริงๆเหรอ? คุณช่างไร้เดียงสาจริงๆเลย! คุณไม่ใช้สมองคิดสักหน่อย ฉันมีสิทธิ์อะไรอยู่ในตระกูลฉู่ คุณก็ไม่คิดดูสักหน่อย ฉันเดินทีละก้าวๆไปถึงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของบริษัทฉู่ซื่อได้อย่างไร!”
“หุ้นส่วนของบริษัทฉู่ซื่อเป็นฉันที่ให้คุณ คุณคิดว่าคุณมีสิทธิ์อะไร!”
อาศัยใบหน้าที่หลอกลวง อาศัยลมปากที่หลอกลวง สั่งให้ร้องไห้ก็ร้อง! ในเวลานั้นก็คือพ่อใจอ่อนเกินไป จึงเชื่อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า!
“โง่เขลาจริงๆ! ฉู่ลั่วหาน! ฉันคิดว่าหลายปีมานี้คุณจะเปลี่ยนเป็นฉลาดขึ้นแล้ว คาดไม่ถึงจริงๆ คุณยังคงโง่เหมือนกันกับเมื่อก่อน อืม ไม่สิ หรือพูดได้ว่าคุณโง่เหมือนกับพ่อของคุณ!”
“ฟางหลิงหยู้!” น้ำเสียงของฉู่ลั่วหานสูงขึ้น กัดฟันพูดคำสามคำ
“ฉู่ลั่วหาน คุณไม่อยากรู้หรอ ในตอนนั้นพ่อของคุณตายได้อย่างไร? หึหึ คุณคิดว่าเขาตายด้วยการเจ็บป่วยจริงๆหรอ?”
ฟางหลิงหยู้พูดหลีกเลี่ยงประเด็นหลัก เหมือนกับหินก้อนใหญ่ที่วางอยู่ในหัวใจของลั่วหาน ทันใดนั้นคลื่นลูกใหญ่ก็ปั่นป่วน!
มือของลั่วหานจับโซฟาเอาไว้แน่น นิ้วแทบจะจิกลงไปในหนังแท้ของโซฟา ค่อยๆเค้นถามความจริง “คุณพูดอะไร?”
ฟางหลิงหยู้พอใจกับน้ำเสียงของลั่วหานมาก “ร้อนใจหรอ? อยากรู้หรอ? อยากรู้ความจริงมากเลยใช่ไหม?”
ลั่วหานหายใจเข้าลึกๆ พยายามคิดเรื่องที่ผ่านมาในเวลานั้น ทุกๆฉาก ทุกๆตอน เธอเริ่มต้นจากทุกๆรายละเอียด แต่ว่าในตอนนั้นพ่อเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจริงๆ พ่อเป็นโรคหัวใจ ครั้งนั้นเขาล้มป่วยกะทันหัน กล้ามเนื้อหัวใจตายทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน……
จนกระทั่ง……
“ฟางหลิงหยู้ คุณรู้อะไร?”
“ฉันรู้อะไร? หึหึ ฉันรู้ว่าคุณอยากรู้ทุกอย่าง เป็นยังไงล่ะ? เราทำการค้ากัน คุณคิดหาวิธีทำให้ฉันกลับประเทศจีนได้ ฉันจะบอกทุกอย่างกับคุณด้วยตัวเอง”
สายทางด้านนั้นก็เงียบไป ด้านนี้ยิ่งเงียบจนน่ากลัว ลั่วหานปกคลุมหัวใจโดยจิตใต้สำนึก สัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจที่แรงของตนเอง เร็วมาก ถี่มาก
“ฟางหลิงหยู้ คุณรู้ไหมจุดจบของคนที่โกหกฉันคืออะไร?”
“ฉันโกหกคุณมีประโยชน์ไหม? หึหึ บอกคุณอย่างตรงไปตรงมา ก่อนฉันก็อยากจะบอกคุณ แต่ฉันคิดว่า ทำให้ถึงเส้นตายสักหน่อยน่าจะดีกว่า มิเช่นนั้น……หึหึ! เพียงแต่ว่า ช่วงนี้หลงเซียวได้รับความนิยมในเมืองหลวงมากขนาดนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ของคุณก็สุขสบายเหลือเกิน!”
ลั่วหานสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำให้ทางเดินหายใจเย็นลง เย็นมาก เย็นจนเป็นน้ำแข็ง “คุณขอให้ฉันช่วยยกเลิกคำสั่งห้ามหรอ?”
“ใช่ คุณช่วยฉันกลับประเทศ ฉันบอกความจริงกับคุณ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ตอนนี้คุณเป็นคุณนายหญิงของตระกูลหลง ฉันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง จะไม่สามารถทำให้คุณได้อย่างไร ฉันแค่อยากกลับไปอยู่ข้างกายของซีหรานเท่านั้น เพียงแค่นี้เท่านั้น”
คำสั่งห้ามไม่ดีที่จะยกเลิก เสิ่นเหลียวในเวลานั้นกักขังฟางหลิงหยู้ให้อยู่ที่ญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย ต้องใช้เส้นสายอย่างมากแน่นอน
หลงเซียวไม่ได้อยู่ในประเทศ เธอจะทำอย่างไร?
“ฉันขอพิจารณาสักหน่อย”
ลั่วหานใช้ดุลพินิจ คำพูดของฟางหลิงหยู้เป็นความจริงหรือไม่? ถ้าเธอโกหก อย่างนั้นเธอก็ไม่กลัวว่าหลังจากเธอกลับประเทศมาจะนำเธอมาควบคุมจนถอนตัวไม่ขึ้นหรอ?
คิดๆดู ดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็น
“ฉู่ลั่วหาน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายๆคน ฉันหวังว่าคุณจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด อย่าทำให้เสียเวลาของทุกคน”
“คุณไม่ต้องเตือนสติ!”
ลั่วหานวางสายไป ในใจเธอสับสนมาก ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหมุนวนอยู่ในใจของเธอเหมือนน้ำไหลเชี่ยว
อาการของหยวนชูเฟิน ฐานะของหลงเซียว แรงกดดันของMBK ทุกๆเรื่องเหมือนกับภูเขาหนึ่งลูก ตอนนี้ฟางหลิงหยู้ปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหัน
แย่จริงๆ!
ฟางหลิงหยู้ทางด้านนี้ที่ถูกตัดสายทิ้งไป ยกยิ้ม เคาะเคสโทรศัพท์ด้านหลังสีแดงสด แล้วโทรออกไปหมายเลขอื่น
เร็วมากโทรศัพท์ก็ถูกรับสาย
ฉู่ซีหรานยิ้มอย่างตื่นเต้นขณะถือโทรศัพท์ “แม่ เป็นยังไงบ้าง? คุณติดต่อฉู่ลั่วหานแล้วหรือยัง?”
ฟางหลิงหยู้เปลี่ยนน้ำเสียงของเธอในตอนนี้ ความอ่อนโยนรักใคร่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจ “แน่นอน ฉันกุมความลับที่ยิ่งใหญ่นี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อใช้มันแสดงวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้!”
ฉู่ซีหรานรักทะนุถนอมเอามากอดไว้ในอ้อมกอด เด็กถือของเล่นเล่นอย่างสนุกสนาน ฉู่ซีหรานจูบหน้าผากของลูกชาย ยิ้มอย่างเย่อหยิ่งพูดว่า “ถ้าครั้งนี้ราบรื่น คุณก็กลับมาได้แล้ว แม่ ตอนนี้ฉันต้องการคุณมาก!”
“เสิ่นเหลียวสมควรตาย นึกไม่ถึงว่าจะกล้าทำกับฉันขนาดนี้ แน่นอนฉันจะทำเขาให้น่าดูเลย!”
ฉู่ซีหรานบีบๆแก้มของลูกชาย ดูลูกชายเล่นอย่างสนุกสนาน ยิ้มเล็กน้อย ดวงตาปลดปล่อยความเยือกเย็นออกมา “เสิ่นเหลียว? หึหึ ชั่วชีวิตของเขาเกรงว่าจะไม่ได้ออกจากคุกมา! ต่อจากนี้ไปตระกูลเสิ่นทั้งหมดจะเป็นของเรา ขอเพียงแต่คุณกลับมาต่อสู้ไปด้วยกันกับฉัน เราต้องฆ่าตาแก่เสิ่นคั่วคนนี้ก่อน จากนั้นก็กำจัดหญิงชั่วจ้าวฟางฟางคนนี้อีกที ยังมีลูกชายของเธอ ตระกูลเสิ่นที่ยิ่งใหญ่ก็จะตกเป็นของลูกชายฉันเพียงคนเดียว แล้วก็เป็นของพวกเรา!”
“ซีหราน คุณวางใจเถอะ ครั้งนี้ฉู่ลั่วหานสามารถช่วยฉันได้อย่างแน่นอน ความรู้สึกของเธอที่มีต่อพ่อของเธอตายไปนั้น แน่นอนเธอจะไม่เสียดายที่ช่วยฉันเพื่อแลกทุกสิ่งทุกอย่าง ขอเพียงแต่ฉันได้กลับประเทศ ยึดตระกูลเสิ่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก”
ฉู่ซีหรานรับเด็กมาตบๆเบาๆ เหมือนเธอไม่ได้อุ้มลูกชายของตนเอง แต่ว่าเป็นอาวุธชั้นเยี่ยมอย่างหนึ่ง “เสิ่นเหลียวสารเลวคนนี้ทั้งแก่ทั้งเป๋ ฉันไม่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นอย่างแน่นอน หลายปีมานี้ที่ฉันร้องไห้ กล้ำกลืนยอมรับความไม่เป็นธรรม ฉันต้องทวงคืนกลับมาทั้งหมด!”
——
ลั่วหานไปโรงพยาบาลหวาเซี่ยก่อน กำชับผู้เชี่ยวชาญอาวุโสหลายคนในแผนกมะเร็งวิทยาเป็นพิเศษ จำเป็นต้องทำงานทุกอย่างอย่างเป็นความลับ ไม่ว่าใครก็ไม่ควรเปิดเผยความจริง
โรงพยาบาลหวาเซี่ยอยู่ภายใต้การบริหารของMBK แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าพูดจาไร้สาระ
ลั่วหานอยู่ศูนย์ดูแลพิเศษของโรงพยาบาลหวาเซี่ย เพื่อเตรียมห้องส่วนตัวไว้รักษาหยวนชูเฟิน ไม่มีการแขวนป้ายแผนกใดๆ ดูเผินๆเหมือนกับโรงแรมรีสอร์ท
ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ลั่วหานรู้สึกว่าหยวนชูเฟินไม่น่าจะสงสัยอะไรแล้ว
“แม่ คุณบอกพ่อดีแล้วใช่ไหม? เริ่มตั้งแต่วันนี้ คุณต้องอยู่ที่โรงพยาบาลสักพักหนึ่ง”
ด้านนี้จัดการอย่างเหมาะสม ลั่วหานก็โทรหาหยวนชูเฟิน
“สักครู่ฉันจะบอกเขา คุณไม่ต้องห่วงฉัน”
ลั่วหานจะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร หลงถิงฉลาดเฉียบแหลมขนาดนั้น กลัวว่าจะโกหกไม่ง่าย
“แม่ อย่างน้อยหนึ่งเดือน เหตุผลหนึ่งอย่างที่คุณต้องโกหกกับพ่อ แน่นอนว่าต้องเลื่อนเวลาออกไป หากไม่มีเวลาเพียงพอ ทางด้านกรมตำรวจนั้นก็จะตรวจไม่พบความคืบหน้าใหม่ในคดี”
“ฉันรู้ แค่นี้ก่อนเถอะ”
หยวนชูเฟินวางสายไป นั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องรับแขกที่หรูหรา
“อาเฉี่ยว ไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องของฉัน จัดเตรียมสิ่งของที่ใช้เป็นประจำให้ฉัน เตรียมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สักสองสามใบ”
หลงถิงเดินลงมาจากห้องหนังสือ บังเอิญได้ยินสิ่งที่หยวนชูเฟินพูด ทันทีใบหน้าก็เย็นชา “เก็บของทำอะไร?”
หยวนชูเฟินเท้าข้อศอกด้วยมือข้างเดียว ค่อยๆจิบชา “ทำอะไร? ในบ้านเต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย ฉันไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป ฉันอยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์”
หลงถิงรีบเดินลงไปชั้นล่าง เดินไปข้างๆหยวนชูเฟิน มือใหญ่จับที่หัวไหล่ของเธอ “สองสามวันก่อนคุณไปไหน? ยังไม่สูดอากาศบริสุทธิ์อีกหรอ?”