ตอนที่ 491 ตื่นมาในอ้อมอกของเขา
บนหน้าจอโทรศัพท์มีตัวหนังสือแถวหนึ่งปรากฏอยู่อย่างเงียบๆ สะอาดสะอ้าน และเย็นสบายใจ ก็เหมือนกับคนที่ส่งข้อความนี้ สง่าผ่าเผยอยู่อย่างนั้นตลอด
เขาบอกว่า”ขอให้คุณชอบก็พอ ทีหลังยังมีอีกมากมาย”
ข้างบนของข้อความนี้ เป็นข้อความช็อคโกแลตอันนั้นที่เธอส่งให้เขาตอนที่อยู่บ้านเมื่อเช้านี้
ระยะเวลาผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง
ดูเหมือนว่า เขาอยู่ที่สหรัฐฯคงยุ่งมาก ยุ่งจนไม่มีเวลาได้ดูโทรศัพท์
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน ส่วนสหรัฐฯตอนนี้เป็นเวลาดึกมาก ลั่วหานระงับความอยากจะโทรไปหาเขาในใจลงไป นิ้วมือสัมผัสกับข้อความในหน้าจอ นอกจากเกิดความหวานขึ้นในใจแล้วก็มีความขมปรากฏอยู่ด้วย
เธอจะพูดอาการของคุณแม่ให้เขาฟังยังไงล่ะ?
เขายุ่งขนาดนั้นแล้ว คดีของปีนั้นไม่มีร่องรอยใดๆเหลือไว้ให้ค้น เขาแบกรับความแค้นของทั้งตระกูลไว้ เขาต้องไปต่อสู้กับคู่แข่งทางธุรกิจนับไม่ถ้วน ข้างๆของเขายังมีหลงยี่และหลงเซิ่งคอยจ้องทำร้ายอยู่ แถมยังมีหลงถิงที่ซ่อนอยู่ที่มืดคอยโอกาสอยู่เสมอ……
เรื่องพวกนี้ ทุกๆเรื่อง ทุกๆสิ่ง ความประมาทเพียงเล็กน้อยก็สามารถนำเขาไปสู่เหวลึก ถ้าหากให้เขาต้องฟุ้งซ่านอีก นั้นเขาจะจัดการไหวได้ยังไง?
หลงเซียว ทำไมชีวิตของคุณถึงลำบากขนาดนี้?
……
ค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆ อยู่ดีๆก็ได้เดินมาถึงนอกห้องทำงานของถังจิ้นเหยียน ลั่วหานมองเข้าไปข้างในโดยผ่านประตูหนึ่งบาน ช่วงพักกลางวันแล้ว แต่ถังจิ้นเหยียนยังไม่ได้ไปกินข้าว เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ หันไปฝั่งตรงของ สิ่งที่เหลือให้คนนอกประตูเห็นนั่นคือร่างหลังสีขาวหนึ่งร่าง
ขณะที่ลั่วหานเพิ่งจะเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงของถังจิ้นเหยียน เธอจึงรู้ว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“ฉันเข้าใจความหมายของคุณ……ต้องปิดบังความจริงก่อน เออ……พยายามล่าช้า ตอนนี้ลั่วหานเหนื่อยมาก คุณอย่าให้ความกดดันกับเธอ……”
เออ?
ได้กล่าวถึงชื่อของเธอด้วย ถังจิ้นเหยียนคุยโทรศัพท์กับใครอยู่?
แฟน?ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนี้……โอเค เดี๋ยวมีเวลาฉันค่อยอธิบายให้คุณฟัง……ฉัน……”
ในที่สุดเขาเพียงได้พูดแต่คำว่าฉัน เห็นได้ชัดว่าอีกฝั่งวางสายแล้ว
“เฮ้ย?”
เขาตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยคำหนึ่ง ทั้งสง่าทั้งอ่อนโยน แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ
ร่างหลังสีขาวนั้นถอนหายใจออกมา ไหล่ขยับเล็กน้อย จากนั้นวางโทรศัพท์ลงและมองไปนอกหน้าต่าง
ลั่วหานเคาะประตู มือค้างอยู่ที่ประตูไม่ได้เอาออก มืออีกข้างหนึ่งเสียดอยู่ในกระเป๋าเสื้อ”หมอถัง ยังสามารถลงทะเบียนได้หรือไม่คะ?”
ถังจิ้นเหยียนกำลังนวดขมับคิดอะไรบางอย่างอยู่ จึงตอบกลับอย่างไม่มีการลังเลสักนิด”ขออภัยด้วยครับ เชิญมาอีกทีหลังบ่ายสองโมงครับ”
ลั่วหานหงายปากขึ้นมา ยิ้ม”หลังบ่ายสองหมอถังยังมีการผ่าตัดอีกไม่ใช่หรือ?”
ถังจิ้นเหยียนจึงจะรู้สึกตัวมาได้ คนที่พูดกับเขานั้นคือลั่วหาน เขารีบหมุนเก้าอี้มาเผชิญหน้ากับเธอ”ลั่วหาน คุณ……มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
แสงอาทิตย์ส่องผ่านด้านหลังเขาพอดี แสงยามเที่ยงสาดกระทบตัวเขา ทำให้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแสงแห่งความอบอุ่น และสะท้อนไปยังใบหน้าของลั่วหานด้วย
มันสว่างราวกับว่าได้ผ่านการตัดแต่งโดยเจตนา ทำให้ผิวกายกระจ่างแจ้ง
“ตั้งแต่เวลาที่คุณรับบทเป็นชายหล่อที่เงียบสงบ ฉันก็มาแล้ว”ลั่วหานพูดกลั่นแกล้งเขา
“ฉันว่าฉันเป็นชายหล่อที่เงียบสงบมาตลอดนะ”ถังจิ้นเหยียนตอบกลับอย่างจริงจัง
ลั่วหานมองดูรอบๆห้องทำงานของเขา และก็มองไปดูโทรศัพท์ของเขา”เมื่อกี้นี้คุณกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ บังเอิญว่าฉันได้ยินด้วย เป็นคุณตำรวจเจิ้งใช่ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มแต่ไม่ตอบ มองไปดูนาฬิกาข้อมือ”ถึงเวลาที่จะกินข้าวเที่ยงแล้ว คุณมีเรื่องอะไรมาหาฉัน พวกเราสามารถกินไปด้วยคุยไปด้วย”
“โอเค!’
ทั้งสองคนไม่ได้ไปโรงอาหารของโรงพยาบาล แต่ได้ไปร้านอาหารหูหนานที่อยู่นอกโรงพยาบาลร้านนั้น ถังจิ้นเหยียนรู้อาหารที่ถูกปากลั่วหาน เลยได้สั่งอาหารหลายอย่างที่เธอชอบ
สิ่งที่ขาดไม่ได้แน่นอนก็คือปลา
“บริกร ปลาไนต้มผักดอง ซี่โครงน้ำซุปใส มะเขือม่วงผัดเนื้อสับ ผัดบล็อคโคลี่และขนมฮ่วยซัวบลูเบอร์รี่อย่างละที่”
ถังจิ้นเหยียนสั่งอาหารเสร็จเอาเมนูอาหารให้ลั่วหาน”คุณยังมีอะไรจะสั่งอีกไหม?”
ลั่วหานมองไปที่เขา เพียงได้ยิ้มอย่างเดียว”จิ้นเหยียน คุณรู้รสชาติอาหารที่ฉันชอบ สิ่งที่ฉันอยากกินคุณล้วนสั่งแล้ว”
“ใช่หรอ?ฉันแค่สั่งมั่วๆ ขอให้คุณชอบก็พอ”
บริกรทวนเมนูอาหารอีกครั้ง แล้วจากไป
ลั่วหานแกะชุดอุปกรณ์รับประทานอาหารที่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วออก จากนั้นวางจานชามให้เป็นระเบียบ”ถ้าหากรับประทานอาหารกับคุณตำรวจเจิ้ง คุณอย่าทำแบบนี้นะ ผู้หญิงล้วนจะอ่อนไหวง่าย ถ้าเธอเห็นจะต้องหึงแน่นอน คุณตำรวจเจิ้งเป็นหญิงที่ดีงาม คุณต้องรู้จักใส่ใจเธอหน่อย”
ถังจิ้นเหยียนก็แกะชุดอุปกรณ์รับประทานอาหารออก”ลั่วหาน ฉันอิจฉาปลามาก ความจำของปลามีแค่เจ็ดวินาที เรื่องที่เคยเกิดขึ้นสามารถลืมได้ทันที แต่มนุษย์อย่างเรามันไม่เหมือนกัน”
ลั่วหานจับแก้วน้ำชาไว้ ข้างในเป็นชาที่ร้านอาหารแถมฟรี”แต่คนฉลาดกว่าปลา รู้จักมุ่งหาผลประโยชน์ หลีกเลี่ยงอันตรายและรู้จักปกป้องตัวเอง”
ถังจิ้นเหยียนไม่อยากพูดหัวข้อนี้ต่อ”คุณมาหาฉันจะมาปรึกษาเกี่ยวกับอาการของแม่ผัวคุณหรือ?”
“ใช่ ไม่เพียงแต่อาการของเธอ ยังมีฝั่งของสถานีตำรวจด้วย ฉันรู้สึกเครียดมาก”
“คุณไม่ต้องไปห่วงฝั่งสถานีตำรวจ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ของคุณนายหลง สถานีตำรวจต้องเห็นในแน่นอน จะไม่ไปทำอะไรเธอหรอก ส่วนอาการของเธอนั้น ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯจะดูแลรักษาเธออยู่ที่นี่ อุปกรณ์ที่ใช้ล้วนเป็นอุปกรณ์ชั้นนำระดับโลก”
ลั่วหานจิบชาลงมาอึกนึง”จิ้นเหยียน ฉันไม่รู้จะต้องขอบใจคุณยังไง มาหาคุณนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ พอถูกคุณชี้แจงแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าสบายใจมากขึ้น”
อาหารจานแรกมาถึง ผัดบล็อกโคลี่
ทั้งสองคนตักกับข้าวและกิน
ถังจิ้นเหยียนจับตะเกียบและกินเข้าปากชิ้นหนึ่ง”นานมากที่ไม่ได้มากินที่นี่แล้ว ยังคงเป็นรสชาติเดิม”
“ฉันก็เหมือนกัน นานมากที่ไม่ได้มาแล้ว”ลั่วหานกินลงไปคำหนึ่ง ผักสีเขียวอร่อยสดชื่นมาก
“ครั้งที่แล้วที่มากินที่นี่ ก็ได้มากับคุณเช่นกัน เอ๊ะ เมื่อก่อนที่ยังอยู่โรงพยาบาลกลาง ใกล้ๆโรงพยาบาลก็มีร้านอาหารหูหนานร้านหนึ่งด้วย คาดไม่ถึงว่าบังเอิญขนาดนี้”
ลั่วหานนึกถึงตอนที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลกลาง เรื่องอดีตที่ผ่านมาหลายๆอย่างยังคงจดจำไว้อยู่ในสมอง”คุณกับคุณตำรวจเจิ้งเป็นยังไงบ้าง?พักอยู่ด้วยกันแล้วความสัมพันธ์ดีขึ้นไหม?”
เมนูที่สองก็ขึ้นมาที่โต๊ะแล้ว ขนมฮ่วยซัวบลูเบอร์รี่
ถังจิ้นเหยียนตักฮ่วยซัวขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ฮ่วยซัวเหนียวหนุ่มมาก สามารถดึงใยออกได้ยาว ให้ความรู้สึกราวกับเด็ดบัวยังเหลือใย
“อร่อยอยู่——คุณรีบๆกิน ฮ่วยซัวบำรุงร่างกาย สีหน้าของคุณไม่ค่อยดี กินให้เยอะๆนะ”
ลั่วหานตักมากินชิ้นหนึ่ง”โอเค”
เมนูที่ขึ้นโต๊ะสุดท้ายคือปลาไนต้มผักดอง
ถังจิ้นเหยียนเอาปลาทั้งชามวางไว้ข้างหน้าของเธอ และเขี่ยผักดองข้างในออก เผยให้เห็นเนื้อปลาที่สดๆ”มากินปลาเร็ว”
เมื่อลั่วหานได้ดมกลิ่นคาวของปลาไนต้มผักดอง จู่ๆก็ขมวดคิ้ว รู้สึกอยากอาเจียน
ถังจิ้นเหยียนเห็นว่าเธอหน้าซีดมาก จึงรีบถามว่า”คุณเป็นไรหรือเปล่า?ทำไมสีหน้าแย่ขนาดนี้?ไม่สบายตรงไหน?”
ลั่วหานจับหน้าอกไว้และระงับความอยากจะอาเจียนลงไป”ไม่เป็นไรหรอก น่าจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ฉันเหนื่อยมาก จึงมีความรู้สึกคลื่นไส้เกิดขึ้นตลอด”
ระหว่างที่พูด เธอก็นำปลาไนต้มผักดองวางไว้ฝั่งของถังจิ้นเหยียน ถ้าไม่ได้ดมกลิ่นเธอก็จะสบายขึ้นหน่อย
ตะเกียบของถังจิ้นเหยียนค้างอยู่บนจานอาหาร”ไม่ต้องไปหาหมอหรอ?ไปตรวจดูที่แผนกระบบทางเดินอาหารก่อนเถอะ ฤดูนี้นะลำไส้ติดเชื้อได้ง่าย แถมช่วงหลายวันนี้คุณยังนอนดึกอีก ส่งผลให้การย่อยอาหารไม่ดี”
แต่ตามความคาดคิดของลั่วหานเอง สิ่งที่เธอนึกถึงได้นั้นเป็นความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง เธอท้องหรือเปล่านะ?
จะเป็นไปตามอย่างที่คิดไหม?!
หลังจากกินข้าวเสร็จ ถังจิ้นเหยียนก็กลับไปที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนลั่วหานก็หาข้ออ้างไปที่ร้านยาใกล้ๆนี้
แม้ว่าอายุยี่สิบกว่าแล้ว และได้ผ่านประสบการณ์มามากมายหลายอย่าง ไม่เขินอายเหมือนสาวอายุสิบแปดปี แต่พอมาซื้อสิ่งของบางอย่างก็ยังคงรู้สึกอายอยู่
ลั่วหานเดินดูในร้านยาไปรอบหนึ่ง ได้ซื้อมาส์กหลายอัน พัตเตอร์หลายชิ้น สำลีห่อหนึ่ง และได้ซื้ออีกหลายๆอย่างจนเต็มตะกร้า ในที่สุดเธอจึงหยิบแท่งทดสอบการตั้งครรภ์สองอันยัดลงไปที่ใต้สุด
แม้กระทั่งเป็นเช่นนี้ ก็ยังคงหน้าแดงอยู่ เธอรู้สึกว่าสิ่งที่ทำให้ตนเองเขินอายนั้นแปลกจริงๆ!
นำแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ยัดเข้าไปในกระเป๋า และจึงถือถุงพลาสติกกลับที่โรงพยาบาล
หลินซีเหวินเห็นว่าเธอถือของถุงหนึ่งกลับมา จึงอ้าปากอย่างเว้อ”ว้าว หมอฉู่ คุณจะไปเที่ยวที่ไหนหรือ?จึงซื้อวัสดุทางการแพทย์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากมายขนาดนี้”
ลั่วหานยื่นให้เธอ”ซื้อมาฝากคุณไง ไม่ต้องขอบใจฉันนะ”
หลินซีเหวิน”……อ๊ะ?”
มีคนซื้อของแบบนี้เป็นของฝากหรือ?
หวาเทียนโบกเวชระเบียน”หมอฉู่ ผลของตรวจสอบอาการของคนป่วยเตียงหมายเลขสามออกมาแล้ว”
“โอเค เอามาให้ฉันดู”ลั่วหานเอาของให้หลินซีเหวิน จากนั้นยิ้มอย่างคลุมเครือ”ล้วนเป็นของดีๆ ใช้ให้คุ้มค่านะ”
หลินซีเหวินหน้าแดงขึ้นทันที ส่งสายตาสะกิดเธอ”หมอฉู่ อย่าบอกว่าคุณได้ซื้ออันนั้นนะ?ฉันกับหลงจื๋อยังไม่ถึงขั้นนั้น”
ลั่วหานแกล้งทำเป็นว่าไม่เข้าใจ”คุณหมายความว่าสิ่งใด?”
หลินซีเหวินขยับถุง ไม่พบของบางอย่าง”ฮิฮิ ไม่มีอะไร!ล้วนเป็นของดีๆ ขอบใจนะไอดอล!”
ลั่วหานดูผลการประเมินเสร็จ”เออ สถานการณ์ค่อนข้างดีอยู่ ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆเกิดขึ้น พรุ่งนี้สามารถย้ายไปอยู่ห้องธรรมดา ส่วนยาแคปโตพริลพรุ่งนี้ให้กินลดลงหนึ่งเม็ด ค่อยๆลดปริมาณของยาด้วย”
“โอเค ฉันจะเขียนรายการยาใหม่”
ตอนบ่ายยุ่งงานตลอด เวลาที่เกือบจะเลิกงาน คนใช้ได้นำน้ำซุปที่ต้มเสร็จมาให้ ลั่วหานถือถังกระติกน้ำซุปร้อนไปเยี่ยมหยวนชูเฟิน การทำเคมีบำบัดนั้น ระยะเวลายาวนานมาก แถม……
เมื่อคิดถึงสิ่งพวกนี้ ลั่วหานก็ขมวดคิ้วอีก
เมื่อเห็นหยวนชูเฟินกินซุปเข้าไปชามเล็กชามหนึ่ง ลั่วหานก็เตือนเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าต้องพักผ่อนให้ดีๆ จากนั้นถึงจากไป
รอจนทำเสร็จหมดทุกอย่างก็มาถึงเวลาหกโมงเย็นแล้ว ยุ่งมาทั้งวันรู้สึกว่าเหนื่อยจนจะล้ม ทั้งเมื่อยทั้งง่วง ดวงตาแทบจะลืมไม่ออกเลย
เหนื่อยมาก!อยากจะหลับตานอนทันทีเลย!
เมื่อก่อนก็เคยยุ่งแบบนี้ แต่ไม่เคยได้เหนื่อยและอ่อนแอเหมือนตอนนี้เลย
กลับมาถึงบ้าน คนใช้เตรียมอาหารเย็นเสร็จ แต่ลั่วหานไม่อยากกิน และก็หมดแรงด้วย เดินมาถึงชั้นสองอย่างง่วงซึม นอนลงไปบนเตียง ไม่ได้ถอดเสื้อผ้า ไม่ได้ถอดรองเท้า เข้านอนโดยตรง
หลับไปแบบนี้ พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็คือเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว การนอนหลับที่เพียงพอของทั้งคืนทำให้ความเหนื่อยล้าได้ผ่อนคลายลงหน่อย ลั่วหานขยับตัวบนเตียงที่นุ่มนวล จู่ๆก็ได้รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนตนเองติดเตียงก็นอนทันที เหมือนยังไม่ทันได้ถอดรองเท้าและเสื้อผ้า ทำไมตอนนี้นอนอยู่ที่นี่ เหมือนจะ……เหมือน……
สิ่งของบนร่างกายหายไปไหน?!!
ตัวเบามาก พอติดกับผ้าห่มก็อบอุ่นอยู่ และยังได้พิงสิ่งอะไรอยู่
โอ้มายก๊อด!
สมองของลั่วหานเหมือนถูกฟ้าผ่าอย่างกะทันหัน จริงหรือเปล่าวะ!
มีโจรเข้าบ้านหรือ?
เว่อร์ชิบหายเลย
เพราะการตอบสนองและการเคลื่อนไหวร่างกายของเธอ ทำให้ดึงดูดความสนใจของคนข้างๆ
แขนทั้งสองข้างของหลงเซียวกอดแขนที่ดื้อของเธอไว้ กอดเธอไว้อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง คางแตะไปที่ไหล่ของเธอ น้ำเสียงที่เซ็กซี่ดังขึ้นมาในข้างหูของเธอ”อรุณสวัสดิ์ คุณนายหลง”