ตอนที่ 494 ใครฉลาดแกมโกงกว่ากัน
คุณเป็นใคร?
เธอไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร?!
หรือว่าเนื้องอกในสมองเลวร้ายขึ้น ประสาทถูกบีบอัดแล้วหรือเปล่า!เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย คืนเดียวเองก็แปรปรวนขนาดนี้เชียวหรือ โลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยหรือเปล่า?
พระเจ้าช่วย!
การสอบถามของหยวนชูเฟินอย่างกะทันหัน ทำให้หลงเซียวและลั่วหานจ้องมองกันอย่างประหลาดใจพร้อมกัน สายตาของทั้งสองมองเข้าหากัน การหายใจเหมือนจะหยุดไปด้วย!
ทำไมถึงเร็วขนาดนี้!ทำไมถึงมันกะทันหันเช่นนี้!เป็นไปได้ยังไง!
หลงเซียวปลอบใจหยวนชูเฟิน นั่งยองลง และนวดนิ้วมือของเธอราวกับเป็นการปลอบเด็ก ยิ้มอย่างอ่อนโยน”แม่ เธอเป็นภรรยาของฉัน เป็นลูกสะใภ้ของคุณ เธอชื่อว่าลั่วหาน คุณเรียกเธอว่าลั่วลั่วก็พอ”
โชคดีที่ก่อนจะมาภรรยาของเขาได้บอกสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดกับเขาก่อนแล้ว ไม่นั้นหลงเซียวต้องมัวหลับหูหลับตาอย่างเดียว มีภรรยาที่เป็นหมอนั้น ดีมากจริงๆ
หยวนชูเฟินมองไปที่ลั่วหานอย่างมึนงง มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นยิ้มและโบกมือพูดว่า”คุณมาเร็ว รีบมาให้ฉันดูหน่อย”
ลั่วหานทำปากมุ่ย เป็นโรคอัลไซเมอร์ ยังจำลูกชายของเธอได้ แต่กลับจำเธอไม่ได้แม้แต่นิด?ยังเลือกได้เหรอ?
“แม่ คุณนึกขึ้นมาได้ยังคะ?ฉันคือลั่วหาน เมื่อวานฉันยังอยู่กินซุปกับคุณที่นี่เลย จำได้ยังคะ?”หัวใจเกือบจะแตก คนที่อยู่เคียงข้างเธอในเมื่อวานนั้นยังเป็นตัวเองอยู่ ทำไมถึงลืมไปแล้วล่ะ?!
หยวนชูเฟินมองสังเกตลั่วหานอย่างละเอียด จากนั้นก็จับผมยาวของเธออีก”คุณเป็นภรรยาของลูกชายฉัน เป็นลูกสะใภ้ของฉัน?”
ลั่วหานพยักหน้า นั่งยองลงมาพร้อมกับหลงเซียว ทั้งสองเหมือนปลอบเด็กอยู่
จู่ๆหยวนชูเฟินก็จับมือของลั่วหานไว้ เหมือนได้ของที่ลํ้าค่ามา”คุณเป็นภรรยาของเซียวเอ๋อจริงหรือ?คุณทำงานอะไร?คุณเป็นนักแสดง นักร้อง หรือนักเต้น?”
อ๊ะ?
เมื่อก่อนแค่เคยได้ยินโรคอัลไซเมอร์ พอเผชิญหน้ากันแล้ว…….มันน่ากลัวจริงๆ!
ลั่วหานหัวเราะอย่างเก้อเขิน”ฉัน……”
ฝ่ามือของหลงเซียวทับอยู่บนหลังมือของลั่วหาน ห้ามเธอพูดต่อ และถามเองว่า”ทำไมแม่ถึงพูดแบบนี้ล่ะ?”
หยวนชูเฟินทำท่าเหมือนเข้าใจดีอยู่ เหมือนสื่อความหมายว่า ลูกชายของฉันฉันก็ต้องรู้ดีอยู่ไง
“คุณชอบแต่หญิงสาวที่สวยๆไม่ใช่เหรอ?หน้าตาของลั่วลั่วสวยขนาดนี้ ก็ควรที่จะเป็นนักแสดงอยู่แล้ว เข้าไปอยู่ในวงการบันเทิงยังไม่นานใช่ไหม?”
หลงเซียวอยากจะหัวเราะ แต่หัวเราะไม่ออก”เธอไม่ใช่ดาราหญิง เธอมีอาชีพเป็นศัลยแพทย์”
หยวนชูเฟินส่วนหัวกันใหญ่เลย”ไม่ใช่ ไม่ใช่ เธอจะเป็นแพทย์ได้ยังไงล่ะ?หน้าตาอย่างเธอ ก็คือดาราหญิงไง!”
ลั่วหานรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก”แม่ ฉันไม่ใช่ดารา ฉันเป็นแพทย์ เมื่อวานฉันยังใส่ชุดขาวของแพทย์มาที่นี่ไง คุณคิดดูสิ เมื่อคืนคุณได้กินอะไรไป?”
หยวนชูเฟินพยายามคิดอย่างตั้งใจ แต่คิดไปสักพักแล้ว ก็ยังคงส่ายหัวอย่างมึนงง”ฉันนึกขึ้นไม่ได้แล้ว เมื่อคืนฉันได้กินข้าวกับคุณเหรอ?คุณอย่ามาหลอกฉันนะ”
ลั่วหานคิดขึ้นมาได้ทันที เมื่อวานตอนที่เธอกินข้าวกับหยวนชูเฟินอยู่นั้นยังได้ถ่ายรูปไว้รูปหนึ่ง เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาโดยตรง”แม่ดูสิ คนที่อยู่ข้างในนี้เป็นคุณกับฉันหรือเปล่า?”
ลั่วหานกลัวว่าถ้าหยวนชูเฟินจากไปจริงๆ พอถึงเวลานั้นแม้กระทั่งสิ่งระลึกไว้ยังไม่มี เมื่อวานเลยคิดอยากจะถ่ายเซลฟี่กันหน่อย คาดไม่ถึงว่า……
“เอ๊ะ จริงด้วย คนข้างบนนี้เป็นฉันนี่เอง เออ……อีกคนหนึ่งเป็นคุณ จริงด้วย คุณเป็นลูกสะใภ้ของฉัน!”หยวนชูเฟินเข้าใจขึ้นมาทันที และจับมือของลั่วหานไว้ ให้เธอนั่งชิดกับตัวเอง
หลงเซียวปล่อยคิ้วลงมาหน่อย”คิดขึ้นมาแล้วเหรอ?”
หยวนชูเฟินส่ายหน้า”ยัง แต่ฉันเชื่อเธอ”
หลงเซียวไปเทน้ำ ส่วนหยวนชูเฟินกลับจับมือของลั่วหานไว้และถามนู้นถามนี่”คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งไหนล่ะ?”
ลั่วหานตอบกลับทีละอย่าง
“อย่างนี้นี่เอง คุณแต่งงานกับลูกชายของฉันมากี่ปีแล้ว?เพิ่งแต่งใช่ไหม?เซียวเอ๋อเป็นคนที่สนใจแต่ธุรกิจ ไม่ยอมแต่งงาน ยังเคยบอกว่าไม่ถึงอายุสามสิบก็จะไม่แต่งเลย!”
ลั่วหานแอบมองไปหลงเซียว ใช้สายตาถามว่า มีเรื่องนี้จริงเหรอ?
หลงเซียวเองก็จำไม่ได้ว่าเขาเคยได้พูดคำพูดอย่างนี้ไป ความจริงคือเขาแต่งงานเร็วมาก เร็วกว่าผู้ชายส่วนใหญ่ แถมตอนนั้นยังใช้วิธีไปมากมายถึงจะได้ทะเบียนสมรสมา
“แม่ ฉันกับหลงเซียวแต่งงานมาเจ็ดปีแล้ว”
“อ๊ะ?!เจ็ดปี?เจ็ดปีแล้วเหรอ?!!!”หยวนชูเฟินเบิกตากว้าง ครั้งนี้กลับไม่เชื่อแล้ว ส่ายหน้ากันใหญ่เลย”เป็นไม่ได้หรอก จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ อายุของเซียวเอ๋อยังไม่ถึงสามสิบเลย จะแต่งงานไปแล้วเจ็ดปีได้ยังไง?!เจ็ดพี่ก่อนเขาแค่อายุเท่าไหร่เอง แล้วคุณก็คงยังไม่จบปริญญาตรีเลย?!ยังไม่ถึงอายุที่สามารถแต่งงานได้ตามที่กฎหมายกำหนดเลย!โกหก คุณโกหกฉัน”
รู้สึกเก้อเขินจริงๆ จะอธิบายได้ยังไงล่ะ?ปีนั้นพวกเขายังหนุ่มอยู่ แต่ขณะที่หลงเซียวจบปริญญาตรีอายุยังน้อยอยู่ แม้ว่าไม่ถึงยี่สิบสามขวบ แต่ก็ได้เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจแล้ว ส่วนเธอก็เรียนมหาวิทยาลัยได้เร็วกว่าคนปกติ จบก็จบเร็วกว่าคนปกติด้วย ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาได้แต่งงานมาเจ็ดปีแล้ว แต่ตามจริงก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกตินะ
“ตอนนี้พวกเราแต่งงาน อายุยังค่อนข้างน้อยอยู่ แต่พวกเราได้อยู่กันเจ็ดปีแล้วจริงๆ เดี๋ยวคราวหน้าฉันจะเอาทะเบียนสมรสให้คุณดู”
แต่ใครจะไปทราบว่า หยวนชูเฟินยังไม่ยอมผ่านเรื่องนี้ไปอีก”ฉันไม่ดูทะเบียนสมรส ฉันจะดูหลานชายของฉัน”
พู!!
น้ำที่หลงเซียวดื่มลงปากนั้นพุ่งออกมาเต็มพื้น
ลั่วหานกลืนน้ำลายเข้าไป”เฮ้อ……แม่ พวกเรายัง ยังไม่มีลูก”
หยวนชูเฟินยิ่งไม่เชื่อเลย สะบัดมือของลั่วหานออกทันที และหันหน้าไปหลบสายตาของเธอ”ฉันไม่เชื่อ!แต่งงานแล้วเจ็ดปีจะไม่มีลูกได้ยังไง?รีบพาหลานของฉันมา!”
ลั่วหานนวดขมับ เหล่ตาและใช้ภาษาปากขอร้องความช่วยเหลือจากหลงเซียว รีบคิดวิธีอธิบายหน่อยสิ
หลงเซียวถูกสำลักจนไอออกมาหลายเสียง ใช้รอยยิ้มที่ชั่วร้ายตอบกลับเธอ หมอฉู่คนฉลาด คิดวิธีเองสิ
ไอ้หลงเซียวชั่วร้าย!
ลั่วหานลูบผมไปอยู่หลังหู”เป็นอย่างนี้คะแม่ พวกเรายังไม่ได้คิดเอาลูกค่ะ แม้ว่าแต่งงานมานานแล้ว แต่ แต่ตอนนั้นยังอายุน้อยอยู่ ตอนนี้อายุของพวกเราก็ยังไม่ถือว่ามาก ดังนั้น……”
“คุณไม่อยากให้ฉันได้เจอหลานใช่ไหม?เวลาตั้งเจ็ดปีจะไม่มีลูกได้ยังไง?หลานของฉันอายุเท่าไหร่แล้ว?เรียนอนุบาลหรือยัง?เจ็ดปีแล้ว แม้ว่าสามปีแรกพวกคุณอยากอยู่ในโลกสองต่อสอง แต่หลายปีนี้ก็ควรคลอดแล้วนะ หลานของฉันสามขวบแล้วใช่ไหม?เรียนอนุบาลยัง?คุณรับให้คนขับรถไปรับเขากลับมา”
หยวนชูเฟินจินตนาถึงเด็กที่ไม่มีอยู่จริงราวกับว่ามันมีอยู่จริงๆ ลั่วหานก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไงแล้ว
หลงเซียวพิงกำแพงไว้อย่างมีสติ กอดอกและทองไปที่ลั่วหาน”คุณภรรยา ลูกของพวกเราอยู่ไหนล่ะ?”
ไอ้คนเลว!รู้อยู่ว่าไม่มี ยังกล้ามาถามอีก!
“ใช่ไง หลานโตของฉันอยู่ไหน?”หลานที่หยวนชูเฟินจินตนาถึงนั้น มีอยู่บนสวรรค์แต่ไม่มีอยู่ในโลกนี้”หลานของฉันหน้าตาเป็นยังไง?เหมือนคุณหรือเหมือนเซียวเอ๋อ?เออ พวกคุณสองคนล้วนหน้าตาดีหมด ตาใหญ่ จมูกโด่ง ผิวขาว สมองก็ฉลาด ปากต้องเหมือนเซียวเอ๋อนะ ริมฝีปากของเซียวเอ๋อเหมือนพ่อเขา สวยมาก!”
พ่อของเขา?
หลงเซียวและลั่วหานเบิกตากว้างในขณะเดียวกัน”พ่อของฉัน?!”
หยวนชูเฟินเม้นปาก และพยักหน้า”ใช่ไง พ่อของคุณ ปากของเส้าเอินสวยที่สุดแล้ว สมัยที่ยังเรียนอยู่……วู!”
คำพูดของเธอยังพูดไม่จบ จู่ๆลั่วหานก็เอื้อมือไปปิดปากของเธอไว้”แม่ เขาชื่อหลงเซียว พ่อของเขาคือหลงถิง”
“หลงถิง?”หยวนชูเฟินคิดอย่างงงงัน”ไม่รู้จัก”
“อะไรเนี่ย?ไม่รู้จัก?!”หลงเซียวและลั่วหานเบิกตากว้างพร้อมกัน ครั้งนี้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนกเพราะการพัฒนาการของเรื่อง
เธอไม่รู้จักหลงถิง จำหลงถิงไม่ได้แล้วด้วย
เธอยังจำหลงเซียวได้ จำมู่เส้าเอินในสามสิบปีก่อนได้ แต่กลับจำหลงถิงและลั่วหานไม่ได้ เป็นภาวะสูญเสียความทรงจำบางส่วน ความทรงจำของเธอจำได้แต่คนที่สำคัญในชีวิตของตัวเอง เรื่องและคนที่เหลือ เธอลืมไปอย่างอัตโนมัติ
เมื่อตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ ลั่วหานและหลงเซียวจึงไปหาผู้เชี่ยวชาญสอบถามสถานการณ์
เมื่อโฮเท่อได้ยินการอธิบายของพวกเขา ก็ตกใจจนเกือบจะสลบ”บีบอัดเส้นประสาทแล้วหรือ?เมื่อเช้านี้ยังดีอยู่เลย ทำไมถึงเป็นเช่นนี้แล้ว?!”
โฮเท่อไม่กล้าเชื่อ เดินตามเข้าไปในห้องป่วยพร้อมกับสองคน
หยวนชูเฟินหัวเราะออกมาอย่างงงัน”ชายชราที่มีเคราขาวคนนี้เป็นใคร?ทำไมยังมีคนต่างชาติล่ะ?”
ลั่วหาน”……”
หลงเซียว”……”
โฮเท่อใช้ไฟฉายส่องดูดวงตา ใบหน้า และลิ้นของเธอ”คุณนายหลง คุณจำฉันไม่ได้จริงหรือ?”
หยวนชูเฟินส่ายหัว”จำไม่ได้”
โฮเท่อจับแว่นสายตาสั้นให้ตรงตำแหน่ง”ดูเหมือนว่าเนื้องอกในกะโหลกศีรษะของเธอได้บีบอัดถึงเส้นประสาทที่ควบคุมความทรงจำ โดยทั่วไปแล้วอาการจะไม่พัฒนาเร็วขนาดนี้”
หลงเซียวเดินหน้าไปหนึ่งก้าว”นั้นก็เริ่มใช้วิธีเคมีบำบัดอย่างรวดเร็วเลย ดูว่าสามารถควบคุมอาการไว้ก่อนได้ไหม”
หยวนชูเฟินจับเก้าอี้และลุกขึ้นมา เดินจากห้องนอนไปถึงห้องรับแขก เธอพิงประตูไว้ ยิ้มอย่างราบเรียบ ภาษาจีนประโยคหนึ่งแทรกแซงเข้าไปในการสนทนาที่เป็นภาษาอังกฤษของพวกเขา
“เซียวเอ๋อ ลั่วหาน พวกคุณยังคิดจะปกปิดฉันถึงเมื่อไหร่?”
“……!!”
“!!”
สถานการณ์อะไรเนี่ย?!
หลงเซียวให้คุณหมอออกไปก่อน ส่วนตัวเอวกับลั่วหานก็ยืนอยู่ที่ห้องโถง ทั้งสามคน ตาหกข้างมองเข้าหากัน คุณมองฉัน ฉันมองคุณ
หยวนชูเฟินกอดอก ยิ้มอย่างราบเรียบ ดวงตาที่รู้ซึ้งกับทุกอย่างนั้นลึกล้ำและแหลมคม”เป็นไร?พอเห็นว่าฉันไม่ได้สูญเสียความทรงจำ รู้สึกประหลาดใจหรือ?”
มุมตาของหลงเซียวสั่นขึ้นมา ก้าวขึ้นไปอยากจะประคองเธอไว้ แต่กลับถูกเธอผลักออกไป
“ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้ พวกคุณคิดจะปิดบังความจริงจนกว่าฉันตายเหรอ? บอกกับฉันว่าเป็นโรคโลหิตจางต้องรักษาที่โรงพยาบาล บอกกับฉันว่าสถานีตำรวจต้องการใช้หลักฐานปลอมไปยืนยัน นึกว่าฉันโง่จริงเหรอ?”
หยวนชูเฟินหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา รอยยิ้มแข็งตัวอยู่บนใบหน้า เห็นแล้วเย็นชาหน่อยหนึ่ง”เป็นไรล่ะทำไมไม่พูดแล้ว?”
หลงเซียวแตะแขนของเธอหลายที เพื่อระงับความโกรธของเธอ”แม่ พวกเราก็หวังดีต่อคุณ แถมสถานการณ์ก็ไม่ได้เหมือนอย่างที่คุณคิด อย่าไปทำให้ตัวเองต้องกลัวนะ”
หยวนชูเฟินผลักมือของลูกชายออก”ร่างกายของฉันเอง ฉันรู้อย่างชัดเจน อย่ามานึกว่าทำเป็นเด็ก”
ลั่วหานบิดนิ้วมือของตัวเอง”แม่……ขอโทษค่ะ”
หยวนชูเฟินเดินไป และจับมือของลั่วหานพร้อมหัวเราะออกมา”ขอโทษทำไมล่ะ?ขอโทษที่ไม่ได้ให้หลานอายุสามขวบคนหนึ่งแก่ฉันเหรอ?”
“อ๊ะ?”
“ฉันได้ทำความเข้าใจมาก่อนแล้ว สิ่งที่ฉันนั้นเป็นมะเร็งสมอง มีเนื้องอกเกิดขึ้นในสมอง เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปทั่วแล้ว ฉันรักษาได้โดยใช้เคมีบำบัดอย่างเดียวใช่ไหม? ”
ลั่วหานและหลงเซียวมองเข้าหากัน และเงียบขรึม
หยวนชูเฟินจับมือของหลงเซียว และวางมือของเขาอยู่ระหว่างมือของเธอและลั่วหาน”นี่เป็นสงครามของพวกเราทั้งสามคือ ฉันเป็นกองทหารหลัก พวกคุณจะไม่ให้ฉันรู้ได้ยังไง?ถ้าจู่ๆฉันก็เสียแล้ว ไม่ทันได้เหลือคำพูดสุดท้ายของชีวิตเอาไว้ นั่นล่ะถึงเป็นเรื่องที่เสียดายที่สุด”
ลั่วหานยิ่งรู้สึกอับอาย”แม่ อันที่จริงแล้วคุณล้วนรู้หมดแล้วหรอ”
“เออ เมื่อวานคุณอยู่กินข้าวกับฉันที่นี่ แสดงออกได้อย่างผิดปกติ เมื่อคืนฉันเลยไปตรวจเวชระเบียนของฉัน ก็เลยล้วนรู้หมดแล้ว”
ทันใดนั้น ความดื้อด้าน หยิ่งยโส ฉลาดแกมโกง และเลวร้ายของหลงเซียวล้วนหายไปหมด”เมื่อกี้นี้แม่แสดงได้เหมือนจริงเกินไปหรือเปล่า?”
หยวนชูเฟินถอนหายใจเบาๆ”ถ้าไม่เหมือนจริง ฉันจะสามารถบอกเรื่องบางอย่างและคนบางคนให้พวกคุณได้ล่ะ?”
เมื่อพูดถึงที่นี่ หยวนชูเฟินก็นำรูปภาพที่เก็บเอาไว้นั้นออกมา ข้างบนเป็นเธอกับมู่เส้าเอิน สมัยหนุ่มสาวของทั้งสอง”เซียวเอ๋อ เขาก็คือเส้าเอิน มู่เส้าเอิน พ่อแท้ๆของคุณ นี่เป็นรูปภาพเดียวที่เหลือไว้ ตอนนั้นเขายังหนุ่มอยู่”
“ฉันรู้ครับ”หลงเซียวตอบอย่างราบเรียบ
“ฉันก็รู้ค่ะ”พูดตามคำพูดของสามี ลั่วหานยิ่งราบเรียบกว่าอีก
ครั้งนี้ ถึงหยวนชูเฟินรู้สึกประหลาดใจแล้ว”พวกคุณรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นใคร?”
หลงเซียวเงยคิ้วขึ้นมา”ลุงส้งเคยให้ฉันดู และฉันเคยเอาให้ลั่วลั่วดู”
“พวกคุณ……ฉลาดแกมโกงกว่าฉันอีก!ฉันรู้สึกโมโหมาก!ล้วนมาปิดบังฉันไว้!ล้วนมาโกหกฉัน!”