ตอนที่ 559 ยั่วเย้าด้วยคำพลอดรัก
ลั่วหานนั่งลง หลังจากที่สั่งกาแฟให้หลงเซียวไป เธอก็สั่งกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนให้ตัวเองแก้วหนึ่ง
ระหว่างที่นั่งรอจิตใจของเธอก็ว้าวุ่น คำพูดที่เเจิ้งซิ่วหยาพูดออกมา ถึงความปลอดภัยของศาสตราจารย์ส้ง นักฆ่าของตระกูลมู่จะทำการเข่นฆ่าครั้งใหญ่อะไรอีกไหมนะ
ปัญหาพวกนี้ทำให้สมองของลั่วหานมีแต่เสียงวิ้งเต็มไปหมด จนยากที่จะไตร่ตรองได้เลย
เป็นเพราะมันน่ารำคาญใจเกินไป เธอจึงหยิบมือถือออกมาเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง หลังจากเปิดมือถือขึ้น รอยแตกบนหน้าจอก็พาดผ่านคอของคนบนมือถือพอดิบพอดี ราวกับถูกตัดคอยังไงยังงั้น
ซึ่งรูปบนมือถือ ก็เป็นรูปถ่ายคู่กันของเธอกับหลงเซียว และเส้นนั้นมันดูเหมือนกับ……
ในใจของลั่วหานตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบปัดเปลี่ยนหน้าทันที เธอเปิดวีแชทขึ้น พร้อมทั้งกดเข้าไปในกลุ่มเพื่อนของลู่ซวงซวง
สิ่งที่ลู่ซวงซวงมักจะส่งเข้ามาในกลุ่ม ระหว่างตอนนี้กับก่อนหน้านี้ ดูแทบจะเป็นคนละคนเลย ก่อนหน้านี้เธอมักจะอยู่ที่บาร์ ไม่ก็อยู่เที่ยวกลางคืนกับกลุ่มเพื่อนดึกดื่นไม่ยอมกลับบ้าน
รูปของเธอก็มักจะถ่ายที่ร้านกลางคืนที่มีแสงสีเสียงมากมาย ไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็เห็นแต่คนเมามาย หรือไม่ก็เศษขวดเหล้าที่กระจัดกระจายไปทั่ว
แล้วตอนนี้ล่ะ สิ่งที่เธอเพิ่งส่งมาล่าสุดตอนนี้
“ฉันลงมือทำอาหารเองแล้ว! ยินดีกับคุณหวาที่ได้ภรรยาที่ดีแบบนี้! จุ๊บ!”
ส่วนรูปภาพที่แนบมา เป็นรูปของลู่ซวงซวงที่กำลังหั่นผัก ผัดกับข้าว และยกกับข้าวไปจัดบนโต๊ะ แถมยังแบ่งเป็นเก้าช่องอีกด้วย
“ใครว่าฉันทำเป็นแต่ไปเที่ยวเล่นกินเหล้าล่ะ? หากฉันอ่อนโยนขึ้นมาก็น่าตกใจเหมือนกันนะ”
รูปภาพทั้งสี่รูปที่แนบมา เป็นรูปที่เธอกับหวาเทียนกำลังกินข้าวอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนเอาหัวมาเกยกัน แต่ดูลู่ซวงซวงเหมือนกำลังจะโกรธอะไรอยู่ด้วยซ้ำ
“ลองพูดอีกทีซิ นัดกินข้าวก็ต้องนัดกินที่ร้านอาหารสิ ฉันบอกลาร้านกลางคืนหมดแล้วล่ะ อีกอย่าง ชุดราตรีชุดใหม่ล่าสุดก็เหมาะกับฉันกว่าตั้งเยอะ”
รูปภาพที่แนบมา ลู่ซวงซวงซื้อชุดแต่งงานให้ตัวเอง เธอเองก็เชื่อฟังคำพูดของลั่วหาน พร้อมทั้งแก้คอเสื้อชุดราตรีนั้นไป
“คนที่ฉันชอบที่สุดสองคนคือเทพชุดขาว คนหนึ่งคือเทพธิดาของฉัน ส่วนอีกคนก็คือแฟนของฉัน”
รูปภาพที่แนบมาด้านล่าง เป็นภาพถ่ายครึ่งตัวที่ใช้โปรแกรมตกแต่งออกมาจนดูน่ารัก ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นเอกสารรับรองการทำงานของหวาเทียนและลั่วหาน แต่หลังจากถูกเธอตกแต่งออกมา ก็ทำให้มองแทบไม่ออกเลย เพราะภาพของทั้งสองคนดูน่ารักมากจริงๆ
หลังจากเลื่อนลงไปทีละหน้า ลั่วหานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา เวลาที่ลู่ซวงซวงอยู่ในความรักนี่สุดยอดเลยนะ ไม่เพียงแค่เปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีในการเที่ยวกลางคืนแล้ว แต่ยังลงมือทำครัวทำความสะอาดเองด้วย
ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!
ลั่วหานลองไล่ดูจนครบ ก็ส่งข้อความเสียงไปให้ลู่ซวงซวง “ที่รัก ฝีมือทำอาหารไม่เลวเลยนี่ เอาไว้วันหลังทำของอร่อยให้ฉันด้วยนะ รอเธอแต่งงานก่อนเดี๋ยวฉันจะส่งอั่งเปาซองใหญ่ไปให้เธอด้วย”
หลังจากที่ส่งข้อความออกไปเพียงครู่เดียว ลู่ซวงซวงก็ตะโกนกลับมาอย่างดีใจ “ที่รัก วันพรุ่งนี้เป็นเทศกาลนะ อยากจะนัดหรือเปล่า?”
ลั่วหานไม่ได้ตอบอะไรกลับไป พลันด้านหน้าของเธอก็ปรากฏร่างกายที่สูงโปร่งสีดำคนหนึ่ง หลงเซียวยืนตระหง่านอยู่ต่อหน้าของเธอ พร้อมทั้งโน้มตัวลงมาใกล้เธอ “รอนานแล้วหรือยัง?”
ลั่วหานวางมือถือลง พร้อมทั้งขมวดคิ้วพูด “ใช่สิ รอนานมากเลย ถ้าหากคุณยังไม่มาฉันก็คงนัดไปกับคนอื่นแล้วล่ะ โอ๊ะ รอฉันตอบแปปนึงนะ”
เธอแกว่งมือถือในมือไปมา ให้เขามองเห็นหน้าวีแชทที่คุยกัน
สิ่งที่หลงเซียวมองเห็นก่อนคือรอยแตกบนหน้าจอ ก่อนจะเห็นหมายเหตุที่เธอให้กับลู่ซวงซวง
“ที่รักของฉันงั้นหรือ?” หลงเซียวจ้องมองชื่อที่อยู่ด้านบนสุดด้วยความรู้สึกหึงหวงนิดหน่อย จนใบหน้าของเขาอึมครึม
ลั่วหานเองก็ยิ้มแหะ “ลู่ซวงซวงน่ะ ฉันตั้งชื่อให้เธอแบบนี้ แล้วก็ไม่ได้แก้มาตลอด ชื่อที่เธอตั้งให้ฉันก็เป็นอันนี้เหมือนกัน คงจะไม่ได้หึงแม้กระทั่งลู่ซวงซวงใช่ไหมคะ?”
พลันพนักงานก็ยกกาแฟมาให้หลงเซียวอย่างได้เวลาเหมาะเจาะ กาแฟกำลังคุกรุ่นไปด้วยไอร้อน จนกลิ่นหอมของมันค่อยๆ โชยออกมา เขาจึงคนให้เข้ากัน “ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมเชื่อว่าลู่ซวงซวงไม่กล้าจะสู้กับผมหรอกนะ”
ลั่วหานก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไป “คุณชนะแล้วล่ะนะ!”
หลงเซียวดื่มกาแฟลงอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะฉวยเอามือถือของลั่วหานมาดู “ตกงั้นหรือ?”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “ค่ะ พอดีไม่ระวังจนมันตกน่ะ เอาไว้ค่อยไปซ่อมแล้วกัน”
หลงเซียวเปิดดูช่องแชทเพื่อนสนิทในวีแชท ก็มองเห็นข้อความที่เธอคุยกับถังจิ้นเหยียน ซึ่งครั้งสุดท้ายเพิ่งจะเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง
สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญหรอก แต่ที่สำคัญก็คือ เธอยังคงตั้งชื่อหมอถังให้กับถังจิ้นเหยียนเหมือนเดิม
ซึ่งหลงเซียวพอใจอย่างมาก
ระหว่างพวกเขาไม่ค่อยได้ใช้วีแชทในการสื่อสารเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไปหาบัญชีของตัวเองในช่องแชทของเขา กลุ่มเพื่อนของหลงเซียวตอนนี้ว่างเปล่า เพราะเขาแทบจะไม่ได้ใช้มันเลย แต่พอเห็นชื่อที่เธอตั้งให้เขา ใบหน้าที่หล่อเหลาของหลงเซียวก็เกือบจะปรี๊ดแตกทันที
เขาหันมือถือกลับไปให้เธอดู ก่อนจะถามไปว่า “เจ้าบ้าไม่มีคุณธรรมเลือดเย็น? ที่แท้คุณมีภาพประทับใจของผมแบบนี้เองหรือ?”
ในปากของลั่วหานยังคงมีน้ำอยู่เต็มปาก เธอพยายามกลืนไปลงไป ก่อนจะแย่งมือถือกลับมา แต่ก็แพ้ ช่างน่าอายเหลือเกิน! เธอลืมวีแชทของเขาไปแล้วนะนี่!
“ก็นี่มันเป็นช่วงที่ฉันเป็นหมอเพิ่มคุณเข้าไปนี่นา ชื่อที่ตั้งก็เป็นในตอนนั้นด้วย” ลั่วหานอธิบายอย่างกังวลใจ แต่พอลองคิดถึงท่าทีของหลงเซียวในตอนนั้น ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นล่ะนะ!
หลงเซียวทำสีหน้าเคร่งขรึม พร้อมด้วยแววตาที่เผยความจนปัญญาออกมา “แล้วตอนนี้ล่ะ?”
ลั่วหานยกมือขึ้นค้ำคางเอาไว้ พร้อมทั้งชื่นชมความหล่อของหลงเซียวไป และตั้งใจพูดด้วยความรู้สึกลุ่มหลง “ตอนนี้หรือ? เป็นสามีที่มีหน้าตาดีเหมือนกับดอกไม้บานเลยล่ะ”
หลงเซียวสะอึกไปกับคำพูดของเธอ ทำให้เขาไม่อยากจะฟังเธอพูดอะไรไร้สาระอีก เขาจึงลงมือแก้ไขชื่อนั้นด้วยตัวเอง หลังจากนั้นก็เปิดแชทของพวกเขาทั้งคู่ ก็พบว่ามันว่างเปล่า
ซึ่งกลุ่มเพื่อนของเขาเองก็ว่างเปล่าเช่นกัน
“พอได้แล้ว คืนมือถือให้ฉันได้แล้ว”
ลั่วหานทำทีท่าจะเอาคืน หลงเซียวจึงหยุดไล่เปิดกลุ่มเพื่อนของเธอไป จริงๆ แล้วเขาอยากจะดูมาก ว่าเธอมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือเปล่า พอได้เห็นความลับเล็กน้อยที่เขาไม่รู้พวกนั้น แต่วิธีแบบนี้มันก็ไม่เหมาะสมอยู่น่ะนะ
“ไม่ต้องซ่อมแล้วล่ะ เปลี่ยนเครื่องใหม่เลยดีกว่า” เขายิ้มพูดอย่างเผด็จการ
“ถ้าหากว่าคุณซื้อให้ฉัน ฉันก็โอเคนะคะ”
“ฮ่าๆ ได้สิ”
ลั่วหานเปิดรายชื่อพวกนั้นออกดู ก็พบตัวอักษรที่เขาพิมพ์ลงไปใหม่ ทั้งสะอาดและอบอุ่น…คือคำว่า “สามี”
ในใจของลั่วหานรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ก่อนจะพูดคำนั้นย้ำเข้าไป “สามีคะ กาแฟเย็นหมดแล้วนะ”
พลันมือถือของหลงเซียวก็สั่นขึ้น เขาหันไปมองลั่วหาน ก่อนจะปลดล็อคมือถือของตัวเอง หลังจากที่เขาเห็นข้อความที่เธอทิ้งไว้ มุมปากของเขาก็เผยอขึ้น
ต่อมา เขาก็วางมือถือลง แล้วดื่มกาแฟเข้าไปอึกหนึ่ง
ลั่วหานยกมือขึ้นค้ำแก้ม ก่อนจะมองไปยังท่าทางที่สง่างามของเขา แบบไม่วางตา “ทำไมคุณไม่ตอบฉันล่ะ?”
หลงเซียวยื่นมือไปลูบผมของเธอ “ผมชอบการแสดงออกทางร่างกายมากกว่าน่ะ แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ?”
ลั่วหาน : “……”
หลังจากดื่มกาแฟไปได้ครึ่งหนึ่ง ลั่วหานก็ได้สติกลับมา “แล้วทำไมคุณรู้ล่ะว่าฉันอยู่ที่นี่?!”
เธอไม่ได้ขับรถ และไม่ได้มีอะไรที่สามารถตรวจสอบได้เลย นี่เขาเป็นเทพจริงๆ หรือนี่!
หลงเซียวเอนหลังพิงเก้าอี้ “ก็คุณบอกว่าคุยกับเจิ้งซิ่วหยานี่ ถ้าไม่ใช่ที่นี่แล้วจะเป็นที่ไหนล่ะ?”
แน่นอนว่า คุณหลงคงจะไม่บอกเธอแน่ ความสามารถในการวิเคราะห์ของเขา ช่างเหนือกว่าที่เธอคิดไว้ซะอีก
ลั่วหานพยักหน้า “เจิ้งซิ่วหยาบอกว่าคดีมีความคืบหน้าแล้ว แต่ฉันก็ยังกังวลใจอยู่น่ะ”
เธอก็ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้หลงเซียวฟัง หลังจากนั้นลั่วหานก็นิ่งเงียบไป รอให้เขามีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
หลงเซียวเองก็พูดอย่างผ่อนคลาย “ผมรู้แล้วล่ะ ผมจะให้คนไปจัดการ ผมต้องรับรองความปลอดภัยของคุณลุงส้งอยู่แล้ว ถ้าหากคุณอยากให้เขามา จะเป็นพรุ่งนี้เลยก็ได้”
ลั่วหานนิ่งอึ้งไปทันที เพราะท่าทีการตอบสนองของหลงเซียว “นี่คุณจะตอบสนองได้เรียบเฉยไปหรือเปล่า?”
หลงเซียวดื่มกาแฟจนหมด ก่อนจะควักเอาเงินหนึ่งร้อยหยวนสองใบออกมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วก็โอบตัวเธอให้ลุกขึ้น “ถ้าหากว่าเรื่องมันอยู่เบื้องหลังพวกเขา แบบนั้นชีวิตผมก็จบสิ้นไปตั้งนานแล้วล่ะ ดังนั้นเรื่องที่คุณกังวลมันไม่เกิดขึ้นหรอก”
“คุณรู้ความจริงอยู่แล้วหรือ?” ลั่วหานดึงชายแขนเสื้อเขาถาม
หลงเซียวก้มลงมาจูบหน้าผากของเธอ พร้อมทั้งปลอบใจให้เธอ “อืม รู้ก่อนหน้าคุณนิดหน่อยแล้วล่ะ”
ลั่วหานเอามือที่ดูผอมแห้งของเธอ คว้าจับนิ้วมือของเขาเอาไว้ “พูดแบบนี้ คุณเองก็เริ่มดำเนินการแล้วหรือ?”
สิ่งที่เธอพูดถึง ก็คือนักฆ่าของตระกูลมู่
หลงเซียวไม่ได้ตอบไปตรงๆ เพราะเธอกำลังตั้งท้องอยู่ หากกังวลมากเกินไป จะไม่เป็นเรื่องดีเอา “ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก รอให้เทศกาลผ่านพ้นไปก่อนดีกว่า ผมจัดเตรียมของบางอย่างไว้ให้คุณพรุ่งนี้เย็นแล้วล่ะ”
พลันมีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น หลงเซียวพาลั่วหานไปนั่งอยู่ด้านหลังรถ ก่อนจะกดรับสายขึ้น
รถของจี้ตงหมิงก็จอดอยู่ข้างๆ ถนน ซึ่งข้างหน้าของเขาเป็นสิ่งก่อสร้างสีขาวตึกหนึ่ง เขาเคาะพวงมาลัยพร้อมพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ “ท่านครับ ผมจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้วนะครับ ทั้งตระกูลหลง ตระกูลโม่ ตระกูลซุน แล้วก็สองสามีภรรยาเสิ่นคั่วที่อยู่ในเมืองหลวงด้วย ทุกคนต่างก็ได้รับบัตรเชิญหมดแล้วล่ะครับ”
หลงเซียวเลิกคิ้วขึ้น พร้อมทั้งเงยหน้ามองบนฟ้าสีน้ำเงินเข้ม “ดีมาก นายไปพักผ่อนก่อนเถอะ ไม่ก็ลาหยุดไปก็ได้นะ”
หลังจากที่จี้ตงหมิงจัดการเรื่องเสร็จก็อารมณ์ดีอย่างมาก จึงพูดหยอกกับหลงเซียวว่า “ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ อีกอย่างผมก็ไม่มีนัดไปไหน ก็เลยมาดูที่งานเลี้ยงนี้ก่อนน่ะครับ จะได้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้เสร็จ”
“ก็ดี ถ้าหากทำไม่ทัน ก็ให้แอนดี้ไปช่วยก็ได้นะ เมื่อวานเธอบอกกับฉันแล้ว ว่าถ้าหยุดไปก็ไม่มีอะไรทำ”
จี้ตงหมิงยิ้มอย่างประหม่า ตอนนี้เขายกมือที่ลูบพวงมาลัย มาลูบที่หัวตัวเองแล้ว “อ่า…คือ…ก็ดีนะครับ ถ้างั้นผมโทรไปยืนยันเรื่องสายการบินกับคุณกู้ก่อนนะครับ”
“อืม”
หลังจากวางสาย หลงเซียวก็ขึ้นรถทันที
ด้านในรถ มือถือของลั่วหานเองก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงของข้อความที่ลู่ซวงซวงส่งมา
“นี่ๆๆ ที่รัก ทำไมถึงไม่ตอบฉันกลับน่ะ? แล้วพรุ่งนี้มีนัดอยู่หรือเปล่า?” เพียงแค่กดเปิด เสียงโอดครวญของลู่ซวงซวงก็ออกมา
ลั่วหานกระแอมเสียงดัง ก่อนจะรีบปิดข้อความนั้นลงทันที “พอดีซวงซวงถามฉันน่ะค่ะ ว่าพรุ่งนี้จะจัดการยังไงดี”
หลงเซียวเอามือของเธอ วางไว้บนปุ่ม “กดเพื่อพูด” หลังจากมีสัญลักษณ์ไมโครโฟนออกมา เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูมีอำนาจและทุ้มต่ำ “ขอโทษด้วยนะครับคุณลู่ พอดีผมนัดกับเพื่อนสนิทของคุณไว้แล้วน่ะครับ”
หลังจากนั้นเขาก็ส่งข้อความออกไปทั้งแบบนี้เลย!
ลั่วหานหัวเราะพลางผลักเขาออกเบาๆ “แบบนี้คุณจะทำให้เธอตกใจนะคะหลงเซียว!”
แล้วก็เป็นดังว่า ลู่ซวงซวงส่งภาพรูปปากมา โดยไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ
ระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนตัวไปนั้น หลงเซียวก็กดหัวของเธอให้อยู่ในอ้อมกอดของเขา “อย่างดีที่สุดก็ทำให้เธอตกใจไปสักอาทิตย์หนึ่ง จะได้ไม่กล้ามาแย่งกับผม ตัวตนของเหล่าพี่น้องเพื่อนสนิทของคุณยังมีมากกว่าผมอีก เพราะฉะนั้นผมก็ต้องระวังวิกฤตแบบนี้เอาไว้บ้าง”
ลั่วหานเผยรอยยิ้มที่ดูหวานชื่นขึ้นมา พร้อมทั้งเอามือเล่นซุกซนอยู่ตรงกระดุมชายเสื้อสูทสีทอง ซึ่งมันก็ส่องประกายออกมาแวววับ “พูดจริงหรือ หลงเซียว บางทีฉันก็รู้สึกอึดอัดใจนะ จากที่พวกเราเคยทะเลาะล้างรา ไม่พูดอะไรกันมาก่อน แต่จู่ๆ ก็มารักกันแบบนี้แล้วน่ะ”
จู่ๆ จากผู้ชายที่บ้าอำนาจเลือดเย็นไร้ความรู้สึก แปรเปลี่ยนกลายเป็นสามีที่มอบความรักและอ่อนโยน ได้อย่างปัจจุบันนี้เชียวหรือ?
หลงเซียวประคองใบหน้าเธอขึ้น ก่อนจะดมกลิ่นดอกไม้จางๆ ที่ติดอยู่บนตัวเธอ ช่วงเวลาแบบนี้มันช่างผ่านไปเชื่องช้าและอบอุ่น ดูเหมือนมีเพียงแค่รถที่กำลังขับเคลื่อนไป ก็สามารถที่จะไปถึงบั้นปลายชีวิตของคนได้แล้ว
“แต่ผมไม่ได้รู้สึกกะทันหันแบบนั้นเลยนะ ผมต้องใช้ทั้งสติปัญญา อำนาจ การเงิน อีกทั้งยังหน้าตา ความน่าเกรงขาม แม้กระทั่งวงศ์ตระกูลของผม เพื่อที่จะได้ปกป้องคุณแบบนี้เลยนะ ช่างไม่ง่ายเลยจริงๆ นะคุณนายหลง!” เขาหยิกคางของเธออย่างเจ้าเล่ห์ ดูเหมือนว่าตัวเองทำเรื่องใหญ่ลงไปเสียอย่างนั้น
ลั่วหานส่งเสียงหัวเราะหึ ก่อนจะผลักมือเขาออก แล้วพูดด้วยใบหน้าที่ขาวผ่องและเคร่งขรึม “พูดแบบนี้ ดูเหมือนว่าคุณจะอยู่ในช่วงที่ลำบากมากเลยสินะคะ”
หลังจากที่รถขับเข้ามายังถนนหยินซิ่งก็เริ่มจะเห็นร่มไม้ที่หนาตามากขึ้น อีกทั้งยังสวยงาม ตอนที่มีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมา มันดูเหมือนกับเพชรที่ส่องประกายระยิบระยับ มาที่พวกเขาตรงนี้เลย
ช่วงขณะที่ทั้งคู่สบตากันนั้น มีแสงสีที่สวยงามต่างๆ พาดผ่านไปมา หลงเซียวก็พูดความในใจออกมา “ใช่ ผมน้อยใจมาก ดังนั้นคุณนายหลงต้องชดใช้ให้ผมนะ ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ก็แค่เดินไปด้วยกันกับผม ถนนก็ไม่ค่อยยาวมาก ก็แค่ตลอดชีวิตเท่านั้นเอง”