ตอนที่ 564 ทำให้เขาโกรธทีละนิดๆ
คำพูดที่เขาพูดดูเข้มงวดจริงจังทั้งยังมีเสน่ห์เฉพาะบุคคลอีกด้วย ทุกๆคำพูดสะเทือนใจคน แถมไม่ว่าเนื้อหาจะเป็นอะไร ขอแค่น้ำเสียงเป็นน้ำเสียงของหลงเซียว ก็ทำให้ลั่วหานตัดสินใจขึ้นมาได้ทันที
เธอพยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือทั้งยังดูกลับกลอกเจ้าเล่ห์อยู่ด้วย“สิ่งที่คุณแสดงออกมา ให้ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้? ผัวเมียร่วมมือกัน ในค่ำคืนนี้คุณเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยง ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่คุณเลยแล้วกัน”
สองสามีภรรยามองหน้ายิ้มให้กัน หลายๆคำพูดไม่จำเป็นต้องพูดอธิบาย
หลงเซียวโอบแขนของลั่วหานไว้ ทั้งสองสวมชุดสีเดียวกัน ดูสะดุดตา ดึงดูดความสนใจของผู้คน คนจำนวนไม่น้อยจับจ้องมาที่พวกเขา ถ่ายรูปโพสต์ลงไทม์ไลน์ เวยป๋อหรือไม่ก็ส่งไปให้เพื่อนดูจากสถานที่จริง คึกคักสุดๆ
แต่ภายในสายตาของหลงเซียว กลับดูราวกับว่าไม่มีคนอื่นคนใดอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
เขาเล่นๆผมลอนที่ลั่วหานทำมาในคืนนี้ พูดชื่นชมขึ้น“คุณภรรยา คืนนี้คุณสวยจริงๆ”
ลั่วหานเงยตามองยิ้มๆ ขนตายาวๆบดบังแววตาที่ใสแป๋วของเธอ“ไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง ชุดที่คุณออกแบบมาให้ฉันมันสวยต่างหากล่ะ ฉันก็เลยพลอยดูดีไปด้วย”
หลงเซียวยิ้มขึ้นทันที แววตาอ่อนโยนและหวานแหวว ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเป็นเหลี่ยมเป็นสันดูอ่อนนุ่มนิ่มลงไปไม่น้อย“ผมไม่เชื่อหรอก ผมเชื่อแค่ว่า เสื้อผ้าจำเป็นต้องอาศัยคนที่สวมใส่มันเพื่อนสะท้อนความงามที่แท้จริงของมันออกมา”
เกาจิ่งอานได้ยินพวกเขาพูดคุยกัน ก็เกิดความรู้สึกว่าฟังต่อไปไม่ไหวอยู่เล็กน้อย ยกแก้วไวน์เดินตรงมา พูดแทรกขึ้นอย่างไม่ถูกกาลเทศะ“พี่ พี่สะใภ้ งานเลี้ยงที่พวกคุณทั้งสองจัดขึ้นมาในวันนี้ พวกคุณทั้งสองพูดจาหยอกล้อหวานแหววแสดงความรักใส่กัน โดยไม่สนบรรดาแขกที่มางานเลย แบบนี้มันดีจริงๆเหรอ?”
ลั่วหานมือข้างหนึ่งถูกหลงเซียวกุมเอาไว้อยู่ แนบชิดติดในเงื้อมมือ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้แกะออก“จิ่งอาน ฉันยังไม่ได้ถามนายเลยนะ นายแกล้งโร่หลิน ไปทำร้ายจิตใจลูกสาวของบ้านเขาให้เจ็บปวดใจอยู่ตั้งหลายวัน แล้วพอตอนนี้ยังให้เธอมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้นายอีก วันมงคลแบบวันนี้ นายเชื่อฟังฉันบ้างเหอะ!”
เกาจิ่งอานดวงตาที่สวยอร่ามยกขึ้น หัวเราะเยิ้มๆด้วยสีหน้าไม่จริงจัง
ลั่วหานมองไปทางโจวโร่หลินที่กำลังพูดคุยอยู่กับไป๋เวย ก่อนจะพูดขึ้น“นายอยากได้เธอเป็นแฟน?”
“ใช่แล้ว สิ่งเหล่านั้นที่ผมทำกับเธอ ผมรับผิดชอบเอง แถมพี่สะใภ้ดูผมสิ ความสามารถก็มี รูปก็หล่อ พ่อก็รวย ถึงยังไงผมก็เป็นประธานของบริษัทใหญ่ เป็นแฟนกับเธอก็ไม่เสียหายอะไรเลย ตรรกะง่ายที่คนธรรมดาทั่วไปต่างก็เข้าใจดี ทำไมเธอถึงไม่ยอมเปิดใจบ้างเลย!”
คิ้วของหลงเซียวยกขึ้นเล็กน้อยอย่างเดาอารมณ์ไม่ออก ไม่ได้พูดอะไร
ลั่วหานหัวเราะเย้ยหยัน นิ้วมือสะกิดๆที่คอปกเสื้อสูทของเกาจิ่งอาน“จิ่งอานเอ๋ย โร่หลินเป็นคนธรรมทั่วไปหรือไม่นายยังไม่รู้อีกเหรอ? ถ้ากลยุทธ์ไม่ถูกต้อง ต่อให้พยายามยังไงก็เปล่าประโยชน์”
พูดถึงกลยุทธ์ เกาจิ่งอานมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นอยู่ เขาดีใจขึ้นมาทันที“พี่สะใภ้ ผมมีคัมภีร์จีบสาวที่แสนล้ำค่าอยู่ จะแชร์ให้คุณฟัง ก่อนอื่น ต้องรู้จักพูด พูดให้เป็น พูดปลอบเธอด้วยคำพูดที่ไพเราะน่าฟัง แต่ไม่ว่าผมจะพูดอะไร ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจไยดีเลย แต่ว่า ผมมีเคล็ดลับลำดับที่สอง ต้องใช้เงิน ผมรับประกันเลยว่าเป็นเคล็ดลับที่ไม่เคยผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ก็ไม่เป็นผลกับเธอเลยแม่แต่น้อย!มันผิดพลาดไปได้ยังไง?”
จ้าวฟางฟางกับโม่หรูเฟยไม่รู้ว่ากำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ สายตาของทั้งสองหันมาทางลั่วหานพร้อมกัน จากนั้นสายตาของทั้งสองก็เปล่งประกายขึ้นมา ภายในชั่วพริบตา สายตาที่จ้องเขม็งรอเขมือบเหยื่ออยู่ก็หายไป
ลั่วหานยิ้มๆอย่างหมดหนทาง“สองเคล็ดลับนี้ไม่เหมาะกับเธอหรอก”
เกาจิ่งอานหมดหวังแล้ว“ผมคลุกคลีอยู่กับสาวๆมาเยอะมากมายนับไม่ถ้วน คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอกับกำแพงหนาแบบนี้ คุณว่าผมควรจะทำยังไงได้ล่ะ”
พูดพลาง ลั่วหานเห็นหวังเค่ยเดินเข้ามาพอดี ข้างหลังของหวังเค่ยคือพวกคนระดับสูงของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป ดูท่าทางแล้วพวกเขาน่าจะเพิ่งเสร็จจากธุระ
แต่หวังเค่ยกับจ้าวฟางฟางศัตรูคู่อาฆาตมาเจอหน้ากันแบบนี้ เธอแอบรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดีแล้วสิ
ลั่วหานดึงแขนเสื้อของหลงเซียว“คุณสามี ที่จ้าวฟางฟางตบหวังเค่ยเมื่อครั้งที่แล้วคุณยังจำได้ใช่ไหม? คุณให้พวกเขามาเจอกันอีก นี่มันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาชัดๆเลยนะ”
หลงเซียวลูบๆที่หลังมือของเธอ ปลายนิ้วนวดๆผิวขาวนวลตรงหลังมือ“หวังเค่ยเป็นผู้ชาย ถูกผู้หญิงตีจะไม่ปริปากพูดอะไรออกมาเลยงั้นเหรอ? โง่เกินไปไหม?”
ลั่วหานยิ้ม“คุณตั้งใจเหรอ? คุณอยากเอาเกียรติและศักดิ์ศรีคืนกลับมาให้หวังเค่ย?”
หลงเซียวยิ้มอย่างคาดเดาไม่ได้ เขายิ้มเบาๆตอบกลับมา พยักหน้าส่งสัญญาณ ก่อนจะพูดขึ้น“ผมช่วยได้แค่นำเขามาอยู่ที่นี่เท่านั้น”
“ฮ่าๆๆ!”ลั่วหานรู้สึกว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของเขาคำพูดนี้น่าขำเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงหัวเราะออกมาตรงๆโดยไม่กลั้นเอาไว้
เกาจิ่งอานรู้สึกกระอักกระอ่วนใจขึ้นมาอีกแล้ว โบกมือด้านหน้าของลั่วหาน“เฮ้!เฮ้!เฮ้!พี่สะใภ้ ผมไม่ได้ล่องหนนะ คุณอย่าเมินผมอย่างนี้สิ ตอบคำถามผมสิครับ”
ลั่วหานชี้ไปที่หัวใจของเขา แววตาที่เปล่งประกายยิ้มอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง“ง่ายมากๆ นายแค่ใช้ใจของนายทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งในตัวของนายสิ แน่นอนว่า ในขั้นตอนนี้จะขาดการซื้อของขวัญให้เธอ ไปรับไปส่งเธอที่ทำงาน ดูแลเอาใจใส่เธอไม่ได้เด็ดขาด ก็ผู้หญิงอะเนอะ ง่ายนิดเดียว”
ตอนที่ลั่วหานพูดอยู่นั้นเห็นพวกหลงถิงกับหลงเซิ่งเดินเข้ามา เพื่อที่จะไม่ดึงเกาจิ่งอานมาเกี่ยวข้องด้วย เธอจึงโบกมือพร้อมกับพูดขึ้น“เอาล่ะ พอได้แล้ว ไปได้แล้วล่ะ ถึงจะมีคนสอนว่าต้องทำยังไง แต่นายก็ต้องลงมือทำมันด้วยตัวเองเหมือนกัน สู้ๆ!”
หลงเซียวก็รับรู้ได้เช่นเดียวกัน จึงให้เกาจิ่งอานออกมาก่อน เขายืนเคียงไหล่กันกับลั่วหานภายใต้โคมไฟระย้าที่แสนหรูหรา ทั้งสองคนเปลี่ยนไปเป็นภาพภาพที่สวยงามมากๆ
แก้วในมือของหลงถิงแทบจะว่างเปล่าแล้ว เขายกมือ ก่อนจะมีเด็กเสิร์ฟมาเปลี่ยนแก้วให้เขา“งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ที่แกอุตส่าห์ทุ่มเทจัดขึ้นมาในคืนนี้ ก็เพื่อให้ฉันรู้สึกอับอายเกินจะรับไหวใช่ไหม?”
หลงเซียวล้วงมือข้างเดียวลงในกระเป๋ากางเกง“พ่อคิดเยอะไปแล้ว วันที่ครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ทุกๆคนดื่มเหล้าทานอาหารชมแสงจันทร์ มันดีมากเลยไม่ใช่เหรอ?”
“หลงเซียว ถ้าให้ดีแกควรจะคิดให้ดีๆก่อนจะทำอะไรนะ อย่ามายั่วยุอารมณ์ของฉัน ถ้าแกกล้าทำเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่มันส่งผลไม่ดีต่อผลประโยชน์ของMBK ฉันจะให้แกชดใช้อย่างสาสมแน่นอน!”
ลั่วหานกำมือแน่น ส่งพละกำลังเข้าไปในเงื้อมมือของหลงเซียว เธอไม่โกรธแต่กลับยิ้มแทน“ชดใช้อย่างสาสมที่พ่อบอก คืออะไรเหรอคะ? พูดออกมาตรงๆเลยดีกว่า”
หลงถิงโกรธจนหายใจรุนแรง ยากที่จะควบคุมไฟแห่งความโกรธเอาไว้“ฉันจะทำให้แกหมดสิ้นทุกอย่าง!”
ลั่วหานนึกว่าหลงเซียวจะโกรธ โมโห แต่เขากลับไม่ เหมือนกับเขาเตรียมตัวมาก่อนเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงใจเย็นสงบนิ่งมาก“พ่อคิดจะให้ผมหมดสิ้นทุกอย่างยังไง? เฉดหัวผมออกจากตระกูลหลง?”
ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม แต่ราวกับเหมือนกับดึงสลักระเบิดมือออก ระเบิดตู้ม
หลงเซิ่งเห็นท่าไม่ค่อยดี จึงพูดขึ้นมาทันที“พูดไร้สาระอะไรกัน? คนครอบครัวเดียวกันไม่พูดอะไรแบบนี้กันหรอกน้องรอง นายดื่มเยอะเกินไปใช่ไหม? ใจเย็นลงหน่อย อย่าไปทะเลาะกับลูกที่มีประสบการณ์น้อยกว่าสิ”
“ลุง!ไม่ได้เจอกันนานเลย ช่วงนี้ท่านสบายดีไหม?”
จู่ๆโม่หรูเฟยก็เดินเข้ามา เขาควงแขนโม่ล่างคุน ดูเป็นพ่อลูกที่รักกันสุดๆ
หลงถิงที่สีหน้ามืดมน พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ดี ดีสุดๆ”
โม่ล่างคุนตั้งแต่ที่สูญเสียบริษัทไปก็ไม่ค่อยโผล่หน้าออกมาให้เห็นมากนัก คืนนี้เขารู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วกับการที่ออกมา มันช่างคึกคักน่าสนใจจริงๆ“ ไม่ได้เจอกันนานเลย ตอนนี้คุณวางใจลงได้แล้วจริงๆ หลงเซียวมีความสามารถขนาดนี้ จัดงานเลี้ยงเพียงคนเดียว แถมยังเชิญคุณมาเข้าร่วมอีก เหอะๆ มีลูกชายเป็นเจ้าภาพ รู้สึกไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ?”
หลงถิงที่ใบหน้าดูบูดเบี้ยวอยู่ก่อนแล้ว พอมาตอนนี้ก็ยิ่งดูไม่ได้จนแทบร้องขอชีวิตมากกว่าเดิมอีก เขาอยากที่จะสาดเหล้าในแก้วใส่หน้าหลงเซียวเหลือเกิน!
“เหอะ!ไม่เลว!ไม่เลวเลย!”
ลั่วหานถือแก้วด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ขอบคุณคำชมของพ่อมากนะคะ!อื้อ……อายุของท่านมากแล้ว จากนี้ไปเรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้ท่านมาคอยเป็นกังวลแล้วล่ะค่ะ ฉันกับหลงเซียวจะจัดการเอง พ่อ สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์นะคะ”
แก้วของลั่วหานชนกับแก้วของหลงถิง มองใบหน้าที่กลั้นความโกรธจนเขียวไปหมดของเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พูดได้เลยว่าพอเห็นท่าทางที่กลั้นความโกรธเอาไว้ของหลงถิงแล้วความคับแค้นในใจก็ถูกขจัดออกไปทันที
“ลั่วหาน เธอพูดกับคนอาวุโสกว่าแบบนี้เหรอ? รีบขอโทษพ่อของเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ”หลงเซิ่งรั้งหลงถิงไว้ กลัวว่าตอนนี้เขาจะโกรธจนก่อเรื่องอะไรขึ้นมา
หลงเซียวกลับดูเหมือนว่าจู่ๆก็แทรกเข้ามาในบทสนทนา พูดยิ้มๆอย่างสง่างาม“ลุง ลั่วลั่วพูดถูกแล้ว ตอนนี้พ่อควรจะหัดเรียนรู้จากคุณท่านโม่บ้าง ควรจะใช้ชีวิตในบั้นปลายชีวิตอย่างปล่อยจิตปล่อยใจให้สบาย ทำไมท่านถึงไม่เข้าใจความกตัญญูของพวกเรา?”
หลงถิงอั้นความโกรธจนสีหน้าเหมือนกับตับหมู บอกว่าเขาแก่แล้วบ้างล่ะ ไหนจะบอกให้เขาปล่อยจิตปล่อยใจให้สบายในบั้นปลายของชีวิตอีก มายั่วให้เขาโกรธชัดๆ!
เขาวางทิ้งแก้วลงไปบนถาดเสิร์ฟ แก้วเอียงตะแคง ของเหลวสีแดงข้างในไหลออกมา ดูสะดุดตาราวกับเลือด เขาเดินไปข้างๆหลงเซียว เข้ามาใกล้หูของเขา พูดเสียงเบาๆด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย“หลงเซียว แกคิดว่าตอนนี้แกสามารถออกมาฉายเดี่ยวได้อย่างนั้นเหรอ? ฉันจะบอกแกให้นะ ฝันไปเถอะ!”
ระหว่างพวกเขาสองคนห่างกันแค่หน้าต่างกระดาษบางๆเท่านั้น เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่มีใครเจาะหน้าต่างกระดาษนั้นให้ขาด หลงถิงยังไม่กล้า ส่วนหลงเซียวกำลังรอโอกาสอยู่
“พวกเรา กลับ!”
พูดประโยคนั้นจบ หลงถิงก็สะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธ ก่อนจะก้าวเท้าเดินจากไป!
จะกลับแล้ว? ละครสนุกๆเพิ่งจะเริ่มเอง กลับไปมันไม่น่าเสียดายแย่เหรอ?
โม่หรูเฟยไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่จ้องมองหลงเซียวกับลั่วหาน เกิดอะไรขึ้นกับเรื่องภายในตระกูลหลง?
หลงเซียวยิ้มเล็กน้อย“พ่อ ในเมื่อเป็นค่ำคืนที่มาพบปะกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน แน่นอนว่าก็ต้องมาอยู่พร้อมหน้ากัน พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน พ่ออยากจะแสดงภาพลักษณ์ที่ไม่ลงรอยกันของพ่อลูกต่อหน้าพวกสื่ออย่างนั้นเหรอ? เหอะๆ ไม่กังวลราคาหุ้นMBKของเช้าวันพรุ่งนี้งั้นเหรอ?”
หลงถิงที่กำลังก้าวเท้าเดินจากไป จู่ๆก็หยุดชะงักลงทันที!
เพราะว่าในตอนนี้เขาพบว่า ข้างนอกของงานเลี้ยงมีพวกนักข่าวที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไรอยู่มากมายเต็มไปหมด แต่ละคนแบกกล้องถือไมค์อุปกรณ์ต่างๆเตรียมที่จะพุ่งเข้ามาได้ทุกเมื่อ
หลงเซียวล้วงมือเดียวเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของชุดสูท ความนิ่งเงียบกับความเจ้าเล่ห์นั้นทำให้คนที่มองรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“นี่แกจะทำอะไร? เรียกนักข่าวมาหมายความว่าไง?!”หลงถิงหันกลับมาด้วยความโมโห ตอนนี้เขาออกไปไม่ได้ ขืนออกไปจะต้องถูกล้อมโจมตีแน่ๆ บวกเข้ากับแขกในงานเลี้ยงล้วนแต่เป็นระดับคนใหญ่คนโตทางธุรกิจ หลังจากนี้ไปกลัวว่าจะปฏิสัมพันธ์ได้ยากขึ้นแน่ๆ
เขาเกลียดที่สุดกับการที่เป็นฝ่ายถูกกระทำแบบนี้!
หลงเซียวยกไหล่ขึ้นอย่างไร้เดียงสาไม่รู้อะไร“นักข่าวเป็นนักล่าที่จมูกดีจะตาย ได้กลิ่นข่าวอะไรใหม่ๆก็แห่กันมาแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับผม”
ลั่วหานเพลิดเพลินไปกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นเขียวอี๋ด้วยความโกรธของหลงถิง รู้สึกว่าพึงพอใจไม่น้อย บวกเข้ากับเสียงของหลงเซียว มันช่างดีงามอะไรเช่นนี้!
เข็มของนาฬิกาเรือนใหญ่ดูแพงสไตล์บารอกในห้องโถงชี้ไปที่เลขเก้า เป็นเวลาสามทุ่ม หลงเซียวยกมุมปาก แสดงว่า คนคนนั้นก็น่าจะมาถึงแล้วสินะ
“หลงเซียว แกกำลังบีบบังคับฉันอยู่ แกรู้ไหมว่าที่สิ่งที่แกทำอยู่ จะส่งผลอะไรตามมาในวันพรุ่งนี้?”หลงถิงโกรธจนกล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าอะไรคือการเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้!
เขารู้สึกเสียดายจริงๆที่ไม่จัดการเขาซะตั้งแต่ตอนแรก!
หลงเซียวยิ้มออกมาจากแววตา ทำท่าทางไม่เข้าใจ“อ๋อ? ผลที่ตามมาคืออะไรเหรอครับ? พ่อจะตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับผม? ริบสินทรัพย์ของผมทั้งหมดในMBK? หรือว่า จะยิงให้ผมตาย?