ตอนที่ 569 ทำไมนายถึงทำขนาดนี้
“หย่ากันออกมาตัวเปล่า?!”
หลงจื๋อยืนอึ้งตะลึงกับพาดหัวข่าว แทบจะล้มทั้งยืน รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันไปอยู่นาน
พี่กับพี่สะใภ้รักกันขนาดนั้น ทำไมถึงหย่ากันได้!ล้อเล่นน่า!
หลงจื๋อเปิดหน้าข่าวของวีแชท ด้านล่างพาดหัวข่าวที่ทำตัวหนาสีดำ ใช้ตัวอักษรขนาดเล็กในการเขียนเนื้อหา ตัวอักษรสองสามบรรทัดข้างล่างมีรูปประกอบหนึ่งรูป รูปที่เห็นก่อนเพื่อนคือรูปที่สุดแสนโรแมนติกของฝนกลีบดอกไม้
หลงจื๋อถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ พี่ช่างคิดวิธีเหลือเกินนะ!แบบนี้ก็ได้!
นิ้วมือเลื่อนลงไปข้างล่างต่อ ภาพสองสามภาพด้านหลังเป็นภาพการจัดงานที่แสนหรูหราภายในห้องโถงงานเลี้ยงและเหล่าบรรดานักธุรกิจร่ำรวยที่ไปร่วมงาน
หลงจื๋อขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น เห็นเหล่าบุคคลที่มีบทบาทในแวดวงธุรกิจไม่น้อย หลายคนที่มีตำแหน่งสูงๆ แค่พวกเขาไม่ป่าวประกาศว่าไปร่วมงานเลี้ยง แต่คิดไม่ถึงว่าพี่จะเชิญแม้กระทั่ง“บ้านที่ไม่ยอมย้ายไปไหน”ระดับสูงๆภายในบริษัทเซิ่งซื่อมาด้วยเหมือนกัน
สมกับที่เป็นพี่จริงๆ มีหน้ามีตาในแวดวงธุรกิจไม่น้อยเลย!
หลงจื๋อยังไม่ทันอ่านข่าวจนจบ หลินซีเหวินก็หันกลับมาโบกๆมือหน้าเขา“หลงจื๋อ กำลังทำอะไรอยู่? มาเดินชอปปิ้งก็ยังเล่นมือถือ? รีบหน่อยๆสิ พวกเราจะไปดูรองเท้าแล้วนะ!”
หลินซีเหวินโบกมือพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม ผมหน้าม้าปิดหน้าผาก สวมแว่นสายตาสั้นกรอบสีดำ ปิดบังครึ่งใบหน้า เผยให้เห็นคางที่ดูสวยน่ารัก เสื้อฤดูใบไม้ร่วงสีแดงอ่อนดูสดใสร่าเริง ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ร่วงของอเมริกาที่บรรยากาศธรรมดาๆไม่หวือหวาอะไรมากมาย แต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีความสุขไม่น้อย
หลงจื๋อเงยหน้าขึ้นมา ยิ้มกว้างตอบกลับไป แววตามีความสุขอย่างปกปิดไม่อยู่“พวกคุณไปกันก่อนเลย บัตรอยู่ที่คุณแล้ว รหัสคุณก็รู้แล้ว เดี๋ยวผมตามไป”
หลินซีเหวินเบ้ปาก ควงแขนโฉหวั่นชิงอย่างสนิทสนม พูดอ้อนอย่างยิ้มเหอะๆ“คุณป้าดูเขาสิคะ!ไม่ให้ความร่วมมือกับเราเลยสักนิด ให้บัตรเครดิตแต่ไม่ยอมมาด้วยกัน กลับไปไม่ให้เขากินข้าวแล้ว”
หลินซีเหวินทำปากเว้ามองบัตรVISA ความไม่สนใจไม่แยแสเงินทองของคุณหนูใหญ่เผยออกมาอย่างช่วยไม่ได้
โฉหวั่นชิงมองลูกชายด้วยความรักเอ็นดู แล้วหันกลับมามองหลินซีเหวิน บอกไม่ถูกว่าชอบหรือว่าไม่ชอบ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“เหอะๆ พวกเราไปกันก่อนเถอะ”
สายตาชำเลืองมองบัตรบัตรนั้น ในใจกลับรู้สึกอีกแบบหนึ่งขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนยังไม่ทันจะพัฒนาถึงขั้นไหนเลย ก็เริ่มเข้ามาจัดการอำนาจเรื่องเงินของผู้ชายแล้วงั้นเหรอ?
ผู้หญิงแบบนี้ เสี่ยวจื๋อจะเอาอยู่ไหม?
จะไม่ถูกเธอหลอกใช่ไหม? คำพูดสุดท้ายของหลงเซียวก็ผุดขึ้นมาทันที
นักข่าวเปลี่ยนคำพูดของหลงเซียวเป็นตัวอักษรโดยที่ไม่ปรับแก้หรือเพิ่มอะไรเข้าไป แล้วเผยแพร่ไปสู่ผู้คนจำนวนมากมาย เขายกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับภรรยา
จู่ๆมือของหลงจื๋อก็สั่น มือถือแทบจะตกลงบนพื้นในทันที หลงจื๋อรู้สึกแค่ว่าตัวอักษรพวกนั้นเป็นเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดใส่เขาตอนที่เขาได้ฟังและได้เห็นมันบนหน้าจอมือถือ
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง? ทำไมพี่ถึงออกจากMBK? เขากำลังคิดอะไรอยู่? พี่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?”หลงจื๋อเปิดตาค้าง ถามพึมพำกับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก้มลงมองข่าวและรูปประกอบทั้งหมดครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาไม่เชื่อ!
หลงจื๋อปิดหน้าข่าวลง เปิดวีแชท แต่ภายในสิบกว่าวินาทีพวกชื่อของหลงเซียว ฉู่ลั่วหาน MBK สิทธิ์สืบทอดมรดกอะไรพวกนี้ ก็ขึ้นมาติดเทรนด์การค้นหาอย่างรวดเร็ว ข้างล่างยังมีพาดหัวข้อว่า“รักภรรยาอย่างไร้ขีดจำกัด”“ความรักหลายรูปแบบ”เป็นต้น สิบกว่าเทรนด์ก่อนหน้านี้ก็ล้วนแต่เป็นตระกูลหลงกับMBKทั้งนั้น
หลงจื๋อรู้สึกว่าในหัวของตัวเองมีเสียงดังกึกก้องไปทั่ว เปิดเทรนด์ค้นหาที่อยู่บนสุด“ละทิ้งทรัพย์สิน”ข้างหลังมีโพสต์ตามมาประมาณเจ็ดแสนกว่าโพสต์ ส่วนใหญ่แล้วจะพูดว่าหลงเซียวรักภรรยาอย่างไม่มีขอบเขต แล้วก็มีหลายคนที่บอกว่า หลงเซียวรู้สึกวMBKกลั่นแกล้ง ก่อนหน้านี้ ขับไล่เขา ท้ายที่สุดเขาจึงไม่อยากที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจให้อีกแล้ว?
มีคนจำนวนน้อยพูดออกมาตรงๆ“หลงถิงจะต้องอยากที่จะให้สิทธิ์ในการรับมรดกกับลูกนอกสมรสแน่ๆ ก็เลยทำร้ายจิตใจของหลงเซียว ไม่อย่างนั้นใครจะยอมเอาบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมากับมือยกให้กับผู้อื่นไปเฉยๆแบบนั้น”
ข้างหลังโพสต์ตอบกลับ มีคนมากดไลค์หนึ่งล้านกว่าไลค์
แถมทุกครั้งที่รีเซ็ตใหม่ก็พบว่ามีคนกดไลค์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ลูกนอกสมรสไสหัวออกไปจากMBK!คืนสิทธิ์สืบทอดมรดกให้กับหลงเซียว!”
“หลงจื๋อแม้แต่เลี้ยงยังไม่ไปเข้าร่วม ท่านเซียวคงจะไม่อยากเจอหน้าเขาแน่ๆ!”
“คุณหญิงก็ไม่ได้ไปร่วมงานเหมือนกัน คงจะต้องรู้สึกผิดหวัง ขยะแขยงแน่ๆเลย? สนับสนุนท่านเซียวและคุณหญิง ส่วนลูกนอกสมรสออกไป!”
คอมเมนต์พวกนี้ที่อยู่ด้านล่าง สายตาของหลงจื๋อกลับกวาดไปมองคอมเมนต์อื่นโดยอัตโนมัติ สายตาสะดุดกับพวกคำว่าลูกนอกสมรส เมียน้อย
รู้สึกเวียนหัวเหมือนขาดอากาศไปสักพัก
หลงจื๋อถอนสายตาลงอย่างหมดเรี่ยวแรง มองถนนคนเดินที่คึกคักจอแจด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับเด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้บนถนนเพียงลำพัง ไร้ซึ่งที่พึ่งพิง
ทันใดนั้น หลงจื๋อก็หยิบมือถือขึ้นมา นิ้วมือสั่นๆกดโทรออกไปยังเบอร์ของหลงเซียว
ที่ที่อยู่ห่างไกลออกมา หลงเซียวกำลังขับรถตามหาเบาะแสของหยวนชูเฟินด้วยกันกับจางหย่ง จึงไม่ได้ยินเสียงสั่นของมือถือ
หลงจื๋อมองต่ำลงด้วยความสิ้นหวัง พี่หมดหวังแล้วใช่ไหม?
หลงจื๋อไม่ยอม จึงโทรไปหาหลงถิงต่อ
เบอร์ของเขาปรากฏขึ้นมาบนจอมือถือของหลงถิง หลงถิงกำลังกะที่โทรไปหาเขาอยู่แล้ว ก็เลยรับสายอย่างรวดเร็ว“เสี่ยวจื๋อ ที่บ้านเกิดเรื่องแล้ว วันนี้พ่อถูกพี่ของแกโกรธใส่เข้าแล้ว!”
หลงจื๋อไม่ฟังคำบ่นของเขา รับสายถามขึ้นอย่างลนลาน“พ่อไปทำอะไรให้พี่? ทำไมจู่ๆพี่ถึงทิ้งหุ้นของMBK? ทำไมพี่ถึงลาออกจากตำแหน่งประธาน? พ่อไปทำอะไรกับพี่กันแน่?!”
หลงจื๋อแทบจะตะคอกด้วยความโกรธ คำพูดภาษาจีนที่จู่ๆก็ดังขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มฝรั่งผมเหลือบตาฟ้าทำให้ดูโดดเด่นไม่น้อย เพราะว่าใช้แรงตะโกนดังเกินไป ทำให้คอของเขาเริ่มแหบ เสียงที่ตามมาข้างหลังแหบแห้ง
หลงถิงนิ้วมือจ่ออยู่ที่คิ้ว หัวเราะเยาะตัวเองอย่างเย้ยหยัน“ฉันบีบบังคับเขาอย่างนั้นเหรอ? เสี่ยวจื๋อ ตอนนี้คนที่บีบบังคับฉันก็คือพี่ของแก!มันคิดที่จะบีบบังคับให้ฉันถึงทางตัน!แกเห็นข่าวแล้วสินะ!แกดูให้ชัดๆดีๆ ว่าพี่ของแกทำเรื่องอะไร ไอ้คนที่ไม่จงรักภักดีแบบนี้ ฉันจะเอาไปทำไม!”
หลงจื๋อถูกพ่อตะคอกใส่ด้วยแรงที่เยอะกว่าเสียงที่ดังกว่ากลับไปหนึ่งฉาด ปลายนิ้วมือที่สั่นๆของเขากดแน่นอยู่ที่เคสมือถือ“พ่อว่าอะไรนะ? พี่จะบีบบังคับพ่อได้ยังไง? คนที่ให้พี่ออกไปในตอนแรกก็คือพ่อ แต่เป็นพี่ที่กู้MBKกลับคืนมาโดยที่ไม่ถือโทษสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ!”
หลงถิงค้ำอ่างล้างหน้า น้ำเสียงเยือกเย็น“เสี่ยวจื๋อ แกคิดดูให้ดีๆ ว่าฉันมีความสามารถไปบีบบังคับพี่ของแกได้ไหม? ใครจะไปบีบบังคับมันได้? นอกซะจากมันเต็มใจเอง มีใครหน้าไหนที่สามารถไปบังคับให้มันทำเรื่องอะไรได้อีกล่ะ?”
ประโยคเดียวเล่นเอาหลงจื๋อพูดอะไรไม่ออก เขามองถนนอย่างเหม่อลอย สิ่งปลูกสร้างสูงตระหง่านในต่างแดน หวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต พูดอะไรไม่ออก
“ดังนั้นเสี่ยวจื๋อ แกบอกฉันมา ว่าแกจะละทิ้งMBKไปไหม? แกจะทอดทิ้งพ่อไปไหม?”
หลงจื๋อนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
ไม่รู้ เขาไม่รู้
“พ่อเลี้ยงดูพี่ของแกมาสามสิบปี ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ แล้วสิ่งที่พี่แกทำกับฉัน? เหอะๆ พ่อผ่านประสบการณ์อุปสรรคต่างๆมากมายมานับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายกลับมาถูกลูกของตัวเองผลักเข้ากองไฟ เสี่ยวจื๋อ แกไม่เป็นห่วงพ่อเลยเหรอ? แกยังอยากที่จะหลบหนีไป ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างนั้นเหรอ?”น้ำเสียงน่าสงสาร ความโศกเศร้าอย่างอับจนหนทาง คำวิงวอนของพ่อต่อลูก เสียงตะโกนและการถามกลับ
ที่แฝงอยู่ในคำพูดล้วนแต่เป็นความเจ็บปวดเสียใจและหมดหนทาง คำอ้อนวอนของชายแก่ที่มีต่อชายหนุ่ม มันช่างปวดหัวใจไม่น้อย!
ในใจของหลงจื๋อซับซ้อนไปหมด ในหัวสับสนวุ่นวาย เขาหลับตาอยู่นานสองนาน นิ้วมือกดนวดอยู่ที่ระหว่างตา
“ผมไม่รู้”
พูดจบ เขาก็วางสายไป
เขาไม่รู้จริงๆ เขาไม่รู้ว่าเรื่องเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง ทำไมจู่ๆพี่ถึงต้องจากไป? จากนิสัยของพี่แล้ว เขาจะจากไปโดยไม่มีเหตุผลได้ยังไงกัน?
แต่จากความสามารถของพี่แล้ว ใครจะไปข่มขู่เขาได้ล่ะ?
ในหัวของเขาสับสนไปหมด ในใจก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น
หลงถิงหยิบมือถือขึ้นมามอง“การโทรสิ้นสุดลง”ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ใบหน้าหน้าเคร่งขรึมในกระจกใบหน้านั้น ในตาแฝงไปด้วยความชั่วร้ายที่แสนเย็นชา
เสี่ยวจื๋อ ฉันต้องขอบคุณพี่ของแกงามๆแล้วล่ะ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่ามันทำขนาดนี้ ฉันจะเฉดหัวมันไปได้ยังไง? ฉันจะกลับมาได้ยังไง?
เสี่ยวจื๋อ แกอย่ามาโทษฉัน ถ้าจะโทษก็โทษคนที่แกเอาแต่เรียกว่าพี่ๆนู่น!ถ้าจะโทษก็โทษมันที่ไม่ใช่พี่ของแกเลยแม้แต่นิดเดียว!
ถ้าจะโทษ ก็โทษที่มันเป็นไอ้ลูกนอกคอก!เป็นคนที่สมควรตายไปตั้งนานแล้ว!สมควรตาย!
——
ค่ำคืนที่หนาวเย็น หยวนชูเฟินออกมาจากร้านดอกไม้ เดินเข้าไปในร้านกาแฟร้านหนึ่งที่อยู่ข้างหลัง นั่งอยู่ที่มุมคนเดียว ในใจสงบนิ่ง
เธอกอดกระเป๋าในมือไว้แน่น ในหัวหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ในความทรงจำของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ทะเลเลือด ทะเลเพลิง ในความทรงจำของเธอถูกเผาไหม้มาเป็นสามสิบปี
ในทางตรงข้าม เธอหวนนึกถึงภาพที่เพิ่งจะได้เห็นกับตา น้ำตาก็คลอเบ้า ใกล้จะเอ่อทะลักออกมา
เซียวเอ๋อ ทำไมถึงดื้อรั้นขนาดนี้? ทำไมถึงต้องเดินบนเส้นทางนี้?
ผ่านไปสักพัก หยวนชูเฟินกลับมาปกติตามเดิม
เธอหยิบโทรศัพท์โนเกียรุ่นเก่าสีดำออกมา โทรออกไปที่เบอร์เบอร์หนึ่ง
ไม่นาน เบอร์นั้นก็มีคนรับ
“อาเฟิน”ในสาย เสียงที่คุ้นเคยอย่างดี
หยวนชูเฟินหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที ลมหายใจหนักหน่วง“ชิงเซวี๋ยนคุณอยู่ในงานเลี้ยงของเซียวเอ๋อไหม?”
ส้งชิงเซวี๋ยนพยักหน้า“อยู่ คุณอยู่ที่ไหน?”
หยวนชูเฟินกัดฟัน“คำพูดเหล่านั้นที่เซียวเอ๋อพูดในงานเลี้ยง เรื่องจริงไหม?”
ส้งชิงเซวี๋ยนหลบจากกลุ่มคน พูดเสียงต่ำลง“อื้อ เรื่องจริง เซียวเซียวเตรียมกลยุทธ์ล้อมหน้าล้อมหลังศัตรู เพื่อบีบเคล้นฆาตกรในตอนนั้นออกมา ผมคิดไม่ถึงว่าจะทำขนาดนี้ ก่อนที่จะมาร่วมงานเลี้ยง ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาก็คงจะไม่อยากให้คุณรู้เหมือนกัน แต่ผมรู้สึกว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ของเขาถูกต้องแล้ว ในตอนนั้น……”
“ไม่ได้!”จู่ๆหยวนชูเฟินก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา เธอใช้เรี่ยวแรงไปจนหมด น้ำเสียงแหบแห้ง
ส้งชิงเซวี๋ยนพูดขึ้นอย่างหมดหนทาง“อาเฟิน คุณหยุดเขาไม่ได้หรอก ความแค้นที่สุมอยู่ในใจของเขามีมากเกินไป ให้เขาไปเถอะ”
“ไม่ได้!ชิงเซวี๋ยน เรื่องในตอนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องเยอะเกินไป เขาจะทำให้ตัวเองเจอกับทางตัน!เขาจะต้องตาย!คุณต้อง……”น้ำตาของหยวนชูเฟินไหลออกมาอีกครั้ง เยอะกว่าเมื่อตะกี้
“อาเฟิน ให้เขาไปเถอะ ผมเชื่อว่าหลงเซียวสามารถทำได้”ตอนนี้ส้งชิงเซวี๋ยนรู้สึกลำบากใจมาก
รู้ก่อนแล้วว่าจะเป็นแบบนี้ เขาไม่ควรบอกหยวนชูเฟินว่าคืนนี้หลงเซียวจัดงานเลี้ยง แถมเชิญเขามาเข้าร่วมด้วย เมื่อตอนนั้นเขายังบอกหยวนชูเฟินด้วยความดีอกดีใจอยู่เลย——ผมต้องกลับประเทศแล้ว เซียวเซียวเชิญผมมาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์!
หยวนชูเฟินค้ำพนักพิงเก้าอี้ ลุกขึ้นยืน ตั้งแต่ที่ส้งชิงเซวี๋ยนบอกว่าเขาจะเข้าร่วมงานเลี้ยง เธอก็เริ่มสงสัยแล้วว่า ทำไมเซียวเอ๋อถึงจัดงานเลี้ยงไม่บอกเธอ?
“คุณไม่ไปใช่ไหม? ได้ ฉันไปเอง ฉันจะให้เซียวเอ๋อไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้ ต่อให้ฉันตาย ฉันก็ให้เซียวเอ๋อมีอันตรายไม่ได้”
“ฮาโหล? อาเฟิน คุณจะทำอะไร?! คุณไปไหน?! อาเฟิน!”ส้งชิงเซวี๋ยนใช้แรงพูดตะโกนออกมา แต่ในสายก็ไม่มีคนตอบกลับ สักพัก สายก็วางลง