อนที่ 562 เขาไม่แยแสตระกูลหลงแม้แต่น้อย
พอพูดประโยคนี้ออกไป ในห้องโถงของงานเลี้ยงก็มีเสียงดังขึ้นมาสองแบบที่แตกต่างกันทันที
คนที่มีความสัมพันธ์กับหลงเซียวทางธุรกิจ อยากที่จะมีคอนแทกต์กับเขาทางด้านธุรกิจ หรือไม่ก็คนที่เชิดชูเขาว่าเป็นคนใหญ่คนโต ล้วนแต่ชูแก้วขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
บรรดาผู้คนยกแก้วขึ้นมาดื่ม แสงไฟสว่างไสวสะท้อนที่แก้วดูละลานตาไปหมด แก้วหลายร้อยใบรวมกันเป็นผืนท้องทะเลสว่างไสวที่กำลังเคลื่อนไหวไปมา
ริมฝีปากบางๆของหลงเซียวยิ้มเล็กน้อย สายตามองไปยังสองสามคนที่อยู่ตรงที่ที่หนึ่งของงานเลี้ยง เป็นใบหน้าที่คุ้นจนไม่รู้ว่าจะคุ้นยังไงแล้ว สีหน้าท่าทางดูแตกต่างกับปฏิกิริยาของคนรอบข้างอย่างสิ้นเชิง
หลงยี่ไม่ได้ปิดกั้นความแปลกใจไว้ พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ“ลุงรอง คำพูดตะกี้ของหลงเซียวหมายความว่ายังไง? เห็นได้ชัดเลยว่าคำพูดนี้ของมันกับภรรยาของมัน ไม่ไว้หน้าตระกูลหลงเลย หลงเซียวลืมไปแล้วใช่ไหมว่าตัวเองมีสถานภาพเป็นหลงเซียว!คิดที่จะถอนตัวออกจากตระกูลหลงอย่างนั้นเหรอ?”
โจวหยู่เช่นแอบมองสบตากันกับหลงยี่ จากนั้นมุมปากก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
หลงเซิ่งถือแก้วไว้ในมือ พูดพร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น“อย่าพูดมั่วซั่วสิ หลงเซียวจะมีความคิดแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ? เขาก็แค่จัดงานเลี้ยงขึ้นมาตามชื่อเสียงของตัวเองก็เท่านั้นเอง จะไปคิดซับซ้อนแบบพวกนายที่ไหนกันล่ะ”
น้ำเสียงที่อบอุ่น พูดไม่เร็วจนเกินไป ขณะที่พูดก็มองสำรวจปฏิกิริยาของหลงถิงอย่างละเอียด เป็นอย่างที่คิดไว้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปบึ้งตึงไม่น้อยแล้ว
โจวหยู่เช่นกอดอก ยกหางตาขึ้นอย่างยั่วยวน พูดขึ้นอย่างยิ้มๆ“ฉู่ลั่วหานมีความสามารถจริงๆ ขนาดหลงเซียวจัดงานเลี้ยงขึ้นมายังต้องเอ่ยถึงชื่อของเธอ คนที่ไม่รู้ก็คงจะนึกว่าเขากลัวเมียแน่ๆ”
ทั้งสามคนพูดโจมตีฟาดฟันหลงเซียวกับลั่วหานจากมุมมองและวิธีที่แตกต่างกัน ทุกคำทุกประโยคเข้าไปในหูของหลงถิง
หลงถิงหน้ามืดมนขึ้นทันที“มันกับฉู่ลั่วหาน? เหอะๆ หลงเซียวช่างกล้าจริงๆ นึกไม่ถึงว่ามันคิดที่จะถอนตัวออกจากตระกูลหลง!”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดัง แต่ก็พอให้พวกของหลงยี่ได้ฟังอย่างชัดเจนได้พอดี เรื่องอื้อฉาวภายในครอบครัวไม่ควรบอกให้คนอื่นรู้ เรื่องอื้อฉาวของหลงเซียวก็ยิ่งไม่ควรให้คนนอกรู้ขึ้นไปอีก
มุมปากที่โค้งบิดเบี้ยวของหลงยี่เมื่อตะกี้ก็เปลี่ยนไปโค้งด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตัวอย่างอยู่เป็น“ลุงรองอย่างโกรธไปเลย บางทีพวกเราอาจจะคิดเยอะเกินไป หลงเซียวจะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไง ลุงรอง มาดื่มกันดีกว่า หลงเซียวเชิญพวกเรามาชมจันทร์ด้วยกันนะครับ”
ชมจันทร์?!
คำที่ฟังแล้วสวยงามชวนเพ้อฝันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนที่ออกมาจากปากของหลงยี่แฝงไปด้วยความประชดประชันอยู่ไม่น้อย ฟังแล้วน่าขยะแขยง
โจวหยู่เช่นแกว่งๆแชมเปญ แววตาเจ้าเล่ห์ ยิ้มอย่างแปลกๆ
“ชมจันทร์? ชมกับผีน่ะสิ!”หลงถิงไม่ได้อัดอั้นความโกรธในใจ ถึงขนาดนี้ไม่สนสถานภาพตำแหน่งของตัวเองแล้ว สบถคำที่ไม่เพราะออกมา!
“แหม น้องรอง นายดูนายสิ จะมาโมโหอะไร วันดีๆแท้ๆ!เหอะๆ ดูคนที่นี่สิ หลงเซียวนี่สุดยอดจริงๆ คนที่เขาเชิญมาในงานเลี้ยง ดูเหมือนจะเยอะกว่างานเลี้ยงตระกูลหลงของพวกเราก่อนหน้านี้อีกนะเนี่ย”หลงเซิ่งพูดยิ้มๆขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
หลงถิงไม่ได้ตาบอดแล้วก็ไม่ได้โง่ พวกคนที่ยืนอยู่ในนี้มีสถานภาพแบบไหนทำไมเขาจะไม่รู้?
แววตาเย็นชาดูน่ากลัวขึ้นกว่าตะกี้มาก ราวกับจะแทบพ่นเกล็ดน้ำแข็งออกมา“มันอยากที่จะออกจากตระกูลหลงไปตัวคนเดียวงั้นเหรอ เหอะๆ ยังไม่สำเหนียกดูเลยว่าตัวเองเป็นใครมีกำพืดมาจากไหน!”
ที่เขาพูดว่ากำพืดคำนี้ บอกเป็นนัยแล้วว่าหลงเซียวคือลูกชายของมู่เส้าเอิน เพียงแค่ว่าตอนนี้หลงเซิ่งไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียว
ดังนั้นพวกเขานึกว่าหลงถิงโกรธจนบ้าไปแล้ว ถึงกับขนาดที่ด่าถึงตัวเอง
ดูท่าแล้วหลงเซียวจะโชคร้ายสุดๆแล้วสิ!
หลงเซียวเดินลงบันได สวมชุดสีน้ำเงินรูปร่างสูงโปร่งดูน่าเกรงขามเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ยืนยืดอกเชิดหน้าเชิดตาท่าทางดูเข้าถึงยากอยู่ท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาแขกในงาน สายตาที่นิ่งขรึมเย็นชามองผ่านหลงถิง โดยไม่มีการหยุดมอง“ทุกท่านอุตส่าห์เสียสละโอกาสในการอยู่ร่วมกันกับครอบครัวเพื่อมาร่วมงานในวันนี้ กระผมต้องขอบพระคุณทุกท่านอย่างสุดซึ้ง ค่ำคืนนี้เป็นช่วงเวลาที่ฟ้าโปร่งสว่างไสวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เป็นวันเวลาที่เหมาะกับการพบปะพร้อมหน้าพร้อมตากัน ขอให้ทุกท่านมีความสุขสนุกให้เต็มที่นะครับ”
หลงเซียวยกแก้วขึ้นอย่างสง่างาม แก้วแตะไปที่ริมฝีปาก เขามองของเหลวที่อยู่ในแก้ว ต่อมาสายตาก็เหลือบไปเห็นเสิ่นคั่วกับจ้าวฟางฟางที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล แล้วก็เห็นโม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินด้วยเช่นกัน
“ท่านเซียวเกรงใจเกินไปแล้วล่ะครับ ได้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงของท่าน คนที่ต้องขอบคุณคือพวกเราต่างหากล่ะครับ!”มีผู้ชายวัยกลางคนตะโกนเสียงสูงขึ้นมาจากบรรดาแขกในงาน เขายิ้มอย่างร่าเริง ยกแก้วขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น
“คุณหลงจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรา ไว้เนื้อเชื่อใจพวกเราจริงๆ!คุณหลง ผมดื่มให้กับคุณ!”มีคำชมดังมาจากอีกทางด้านหนึ่งของงานเลี้ยง อย่างตรงไปตรงมา ปราศจากซึ่งความไม่จริงใจประจบประแจงเลยแม้แต่น้อย
“ประธานหลง จันทร์ลอยเด่นอยู่เหนือท้องทะเล อยู่บนเส้นขอบฟ้าเดียวกัน ช่วงเวลาที่ได้มาพบปะกันแบบในค่ำคืนนี้ พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ!ฮ่าๆ!”
พอคนคนนี้พูดออกมา สายตาของหลงเซียวก็หันตามไป แววตาที่ดำลึกก็รับรู้ถึงสถานภาพของคนคนนั้น สมแล้วที่เป็นตัวแทนของบริษัทเซิ่งซื่อ ปากช่างปราดเปรียวจริงๆ
เกาจิ่งอานสะกิดกู้เยนเซิน ยกคิ้วพร้อมกับพูดขึ้น“เห็นแล้วยัง ว่าบุคลิกภาพของพี่ผมมีเสน่ห์ขนาดไหน ฆ่าหลงถิงได้ภายในเสี้ยววินาที”
กู้เยนเซินชักมุมปากพูดแซวขึ้น“คุณยังดูไม่ออกอีกเหรอ ว่าความตั้งใจของคุณชายหลงในค่ำคืนนี้ก็เพื่อแสดงให้หลงถิงได้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง ว่าเขาเป็นแค่อะไหล่สำรองหรือว่าเสาหลักของตระกูลหลงกันแน่ เหอะๆ ตระกูลหลงน่ะเหรอ คุณชายหลงไม่แยแสเลยสักนิด!”
กู้เยนเซินจิบแชมเปญไปหนึ่งคำ ชำเลืองตาไปมองพวกของหลงถิง เหอะๆ ความรู้สึกของการโดนตบหน้าคงจะยากที่จะรับได้สินะ!
เกาจิ่งอานสีหน้าสับสน“พี่ของผมเป็นคนของตระกูลหลง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้คนในครอบครัวตัวเองต้องลำบากใจหรอก?”
“เหอะๆ มันยังถึงเวลาที่จะเปิดเผย รอดูก็แล้วกัน!”
งานเลี้ยงดำเนินราบรื่นไปได้ด้วยดี บรรยากาศพบปะพูดคุยกันทั้งห้องโถง แต่ภายในบรรยากาศที่สงบเงียบนั้น คลื่นใต้น้ำจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังม้วนตัวตีขึ้นมาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง
หลงเซียวเดินไปอยู่ท่ามกลางเหล่าบรรดาแขก ชนแก้วกับบรรดาผู้คนอย่างสง่างามและสงบเสงี่ยม น้ำเสียงทุ้มต่ำพูดไม่กี่ประโยคเป็นระยะๆ แต่ละคำแต่ละประโยคที่พูดออกมาก็ล้วนแต่แฝงไปด้วยพลังที่ยากจะต่อต้านทั้งสิ้น
กลับมามองทางด้านของหลงถิงผู้มีอำนาจใหญ่แห่งตระกูลหลง คนที่เข้ามาพูดคุยกับเขานอกจากพวกที่ทำงานร่วมกันมานานแล้วก็แทบไม่มีใครอีกเลย
ความต่างที่เห็นได้ชัดเจนแบบนี้ มันก็เท่ากับว่ากำลังตบหน้าเขาอยู่ก็ไม่ปาน
โม่หรูเฟยกัดฟัน นิ้วมือบีบแก้วไวน์ที่ละเอียดอ่อนเอาไว้ แทบจะบีบแก้วให้แตกคามือ ดวงตาที่อัดอั้นไปด้วยความโกรธเกลียดและความปรารถนาของเธอจ้องไปที่หลงเซียวตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกการกระทำของเขา ทุกคำพูดของเขา ราวกับเป็นคลื่นสึนามิที่ถาโถมเข้ามายังพื้นมหาสมุทรที่นิ่งเรียบสงบนิ่งในใจของเธอ ทำให้เธอตื่นตัวจนยากที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้!
เธอปรารถนาเขา ต้องการเขา แทบอยากที่จะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อช่วงชิงเขา!
แต่เขายืนอยู่ตรงนั้น เห็นๆอยู่ว่าใกล้มาก แต่กลับอยู่ไกลเกินเอื้อม ถึงยังไงก็เป็นของเธอไม่ได้อีกแล้ว
ซุนปิงเหวินสังเกตเห็นการกระทำและสีหน้าของเธอ พูดยิ้มแสร้งทำเป็นสีหน้าปกติ“ในเมื่อคิดแบบนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ลงมือ? ยังไงภรรยาของเขาก็ไม่อยู่ เป็นเวลาเหมาะที่คุณจะลงมือเลยนะ”
ซุนปิงเหวินจิบไวน์ไปหนึ่งคำ ของเหลวสีแดงไหลลงไปในลำคอ ราวกับว่าเลือดกำลังแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น
“ใช่แล้ว!ฉู่ลั่วหานล่ะ!ทำไมถึงไม่เห็นฉู่ลั่วหาน?”โม่หรูเฟยตระหนักขึ้นมาได้ทันที คิดไม่ถึงว่าจะไม่เห็นฉู่ลั่วหาน!
ซุนปิงเหวินชี้ไปที่หลงเซียว“คำถามนี้ คุณลองไปถามเขาดูสิ พูดถึงชื่อภรรยาแท้ๆ แต่กลับไม่เห็นตัว แปลกๆอยู่ใช่ไหมล่ะ?”
โม่หรูเฟยกำมือแน่น เธอต้องการข้ออ้างเพื่อที่จะได้พูดคุยกับหลงเซียวเพียงลำพัง นี่เป็นโอกาสที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
“ปิงเหวิน ดูเหมือนว่าคุณจะมีแรงจูงใจอื่นแอบแฝงอยู่นะ”โม่หรูเฟยพูดถามไปตรงๆ เจาะทำลายการบอกใบ้ของซุนปิงเหวิน
ซุนปิงเหวินพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“คุณเป็นภรรยาของผม คุณอยากได้อะไร ผมจะช่วงชิงมาให้คุณแน่นอน โอ๋ อย่าคิดเยอะสิ คนที่คุณรักอยู่ในใจก็คือผม ถูกไหมล่ะ?”
โม่หรูเฟยยิ้มแห้งพร้อมกับพูดขึ้น“แน่นอนอยู่แล้ว!พวกเราเป็นสามีภรรยากันนี่นา!”
โจวโร่หลินกับไป๋เวยมองหาไปทั่วงานเลี้ยงหนึ่งรอบก็ไม่เห็นลั่วหาน ทั้งสองก็เกิดความสงสัยขึ้นมา
“แปลกจัง งานเลี้ยงเริ่มแล้ว ไอดอลของฉันล่ะ?”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน รอเดี๋ยว ฉันโทรหาเธอเลยแล้วกัน”ไป๋เวยล้วงมือถือขึ้นมา ไปแอบโทรศัพท์หาลั่วหานอยู่หลังเสาโรมัน
โม่หรูเฟยเดินตรงไปหาหลงเซียวที่อยู่ท่ามกลางแวดวงนักธุรกิจระดับสูงด้วยท่าทางอรชรอ้อนแอ้น ยกแก้วขึ้นอย่างสง่างาม“พี่เซียว สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์นะคะ”
ผู้ชายข้างๆที่อยู่ดื่มพูดคุยอยู่กับหลงเซียวอยู่ จู่ๆแววตาก็เปลี่ยนไปสับสนมึนงง คิดไม่ถึงว่าโม่หรูเฟยจะเรียกหลงเซียวว่าพี่เซียว? ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ธรรมดาแล้ว!
นิ้วยาวๆของหลงเซียวจับแก้วอยู่พร้อมกับพูดขึ้น โดยไม่หันหน้าไปมอง“สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์คุณนายซุน”
คุณนายซุน คำนี้ เท่ากับว่าเขาผลักโม่หรูเฟยออกไปจากตัวของตัวเองให้ไกลขึ้นมากว่าเดิม ไม่ให้โอกาสให้เธอได้เข้ามาใกล้อีก
โม่หรูเฟยอดกลั้นเอาไว้ ยิ้มให้กับผู้ชายสองสามคนตรงนั้น ก่อนจะเดินอ้อมมาอยู่ตรงหน้าหลงเซียว“พี่เซียว ลั่วหานล่ะ? ทำไมฉันถึงไม่เห็นเธอเลย? วันรวมตัวที่สำคัญขนาดนี้ ลั่วหานควรจะมาไม่ใช่เหรอ?”
คนตรงนั้นมองโม่หรูเฟยอย่างช่วยไม่ได้ ทุกคนล้วนแต่โค้งมุมปาก โม่หรูเฟยช่างกล้าจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าถามถึงภรรยาของหลงเซียว!
หลงเซียวชำเลืองสายตามองนาฬิกาที่ข้อมือ ริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย“คุณนายซุนตั้งหน้าตั้งตารอเจอภรรยาของผมขนาดนี้เชียว”
โม่หรูเฟยยิ้มเหอะๆ“แน่นอนสิคะ ไม่ใช่แค่ฉันหรอก ทุกคนก็ล้วนแต่อยากเจอเธอทั้งนั้นใช่ไหมล่ะคะ?”
สองสามคนตรงนั้นก็พูดตามขึ้นมา“คุณชายหลง ไม่ทราบว่าคืนนี้ภรรยาของคุณ……”
พวกเขาอยากที่จะถามมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าหลงเซียวปกป้องภรรยาราวกับไข่ในหิน ใครๆต่างก็ไม่กล้าพูดถึง!
หลงเซียวมองไปยังแขกสำคัญสองสามคน ก่อนจะพูดขึ้นอย่างสง่างามและเย่อหยิ่งเย็นชา“หือ? ดูแล้วทุกคนอยากจะเจอเธอมากเลยนะครับ?”
“เหอะๆ ถ้าได้ล่ะก็ พวกเราก็อยากจะยลโฉมเธอสักหน่อยน่ะครับ แถมในงานประมูลครั้งก่อนคุณหลงก็ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อประมูลแหวนเพชรมาให้กับภรรยา พวกเราก็แค่อยากเห็นให้เป็นเกียรติเป็นศรีแค่นั้นเองครับ”
พอเธอพูดเปิดประเด็น ทุกคนก็มีความกล้าขึ้นมาทันที
พูดตามตรง ใครจะไม่อยากเห็นหน้าตาสวยงามของคุณนายหลง ใครไม่อยากสัมผัสพูดคุยกับผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังของหลงเซียวบ้างล่ะ? หมอฉู่ที่คนนอกว่ากันว่าลึกลับแปลกประหลาด แต่ก็ได้ยินแค่ชื่อเสียงเรียงนามเท่านั้น!
แต่หลงเซียวราวกับว่าไม่ได้ยิน ยิ้มนิ่งๆพร้อมกับพูดขึ้น“ทุกท่านตามสบายเลยนะครับ ผมต้องขอตัวก่อน ต้องไปรับแขกอีกคนหนึ่ง”
เหล่าคนตรงนั้นมองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้“หรือว่าคุณหลงยังมีแขกคนพิเศษคนอื่นอีก? ถึงต้องให้คุณไปรับเองกับตัว?”
หลงเซียวยื่นแก้วให้กับพนักงานเสิร์ฟ สีหน้ายิ้มแย้มอย่างเก็บซ้อนไว้ไม่ได้“ใช่ครับ สำคัญมาก ต้องไปรับด้วยตัวเอง”
“อา? เอ่อ……เหอะๆ คิดไม่ถึงว่ามีแขกแบบนี้ด้วย พวกเราต้องไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อยแล้วล่ะครับ”
“ใช่ๆๆ ต้องไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย!”
โม่หรูเฟยกัดริมฝีปาก ยิ้มเย้ยหยัน“ท่านประธานสองสามท่านที่อยู่ตรงนี้ แขกที่พี่เซียวของดิฉันไปรับด้วยตัวเองแบบนี้ พวกท่านก็ต้องออกไปต้อนรับด้วยเหมือนกันใช่ไหมล่ะคะ?”
“แน่นอน!มันแน่นอนอยู่แล้ว!”
“เร็วเข้า ตามไปเร็ว!”
คนเหล่านี้ตามหลงเซียวไป คนในห้องโถงถาโถมกันไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว
หลงถิงที่กำลังพูดคุยกับคนสองสามคนอยู่ จู่ๆก็เห็นบรรยากาศในงานผิดปกติไป ดังนั้นจึงถูกดึงดูดให้เดินตรงไปที่ประตูเช่นเดียวกัน
เกาจิ่งอานตบลงที่หน้าขาของตัวเองเหมือนกับตระหนักอะไรขึ้นมาได้“เร็วเข้าๆ พี่สะใภ้ของผมมาแล้ว!