ตอนที่ 578 เมื่อแต่งงานกับคนที่ใช่ ทุกๆ วันก็จะกลายเป็นวันวาเลนไทน์
เธอรู้สึกว่าตัวเองชนะแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำด้วยสาเหตุอะไร ไม่ว่าเป้าหมายของเขาคืออะไร การจูบที่เขาจูบเข้ามาอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าใครก็แย่งมันไปไม่ได้
เมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้แล้ว สิ่งที่เจิ้งซิ่วหยาได้เตรียมการมาทั้งหมดในคืนนี้นั้นก็ถือว่าคุ้มแล้ว!
เขาคลายมือออกจากท้ายทอยของถังจิ้นเหยียน รอยยิ้มดูสวยงามยิ่งกว่าดวงจันทร์ที่ส่องประกายอยู่ภายนอกนั้นเสียอีก
“ถังจิ้นเหยียน ของขวัญชิ้นนี้ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ ถือว่าชดเชยเรื่องเมื่อคืนได้ดี เมื่อคืนทั้งคุณทั้งฉันต่างก็ถูกนางในฝันและเทพบุตรของฉันทำไว้เจ็บแสบมาก ขอบคุณที่ช่วยรักษาบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บให้ฉันนะคะ”
เธอยังตบหน้าของถังจิ้นเหยียนเบาๆ อย่างได้ใจไปอีกสองทีด้วย จุดที่นิ้วมือวิ่งผ่านก็ยังรู้สึกอุ่นๆ นิ้วของเธอเลื่อนตามโครงหน้าของเขาลงมา แล้วหยุดอยู่ตรงที่คอเสื้อของเขา
ถังจิ้นเหยียนตอบสนองด้วยการหลับตา ยกมือขึ้นมากุมขมับ ริมฝีปากล่างถูกย้อมจนเป็นสีแดงเหมือนเพิ่งทาลิปสติกสีแดงอมส้มลงไป บนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เหมือนมีดอกท้อกำลังบานอยู่
“ซิ่วหยา ผมไม่อยากทำร้ายคุณ และไม่อยากทำให้คุณผิดหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เราจะถือซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกันนะครับ”
“หือ? จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง! ฉันความจำดีจะตาย มันเป็นทิวทัศน์ที่ดีมาก ปากแดงๆ ของหนุ่มหล่อ ฉันจะจดจำมันไว้ตลอดไป!” เธอพูดไปยิ้มไป ก้มลงไปเก็บรูปถ่ายที่หล่นอยู่บนพื้น แล้วเอามันใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อของถังจิ้นเหยียนทีละใบ ทีละใบ
“………”
ถังจิ้นเหยียนก้มหน้าลงไป รูปถ่ายที่เย็นเฉียบสัมผัสเข้าที่หน้าอกของเขา
“คุณ……”
แผนการของเจิ้งซิ่วหยาสำเร็จแล้ว เธอยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของเขา ห้ามไม่ให้เขาพูด “ชูว์ เก็บไว้ดีๆ นะคะ รูปถ่ายของแม่สาวคนนี้ห้ามทิ้งแม้แต่ใบเดียวเลยนะ”
ถังจิ้นเหยียน “………”
………
บนหน้าจอมือถือของลั่วหานกำลังขึ้นคำว่า “สิ้นสุดการโทร” เธอยักไหล่อย่างประหลาดใจ “น่าแปลก ยังพูดไม่ทันจบเลยสายก็หลุดไปละ?”
หลงเซียวพับหน้าจอโน้ตบุ๊คลง ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเข้าไป “มือถือแบตหมดหรือเปล่าครับ? ก่อนสายตัดไปคุณได้ยินเสียงอะไรรึเปล่าล่ะครับ?”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “เจิ้งซิ่วหยากับจิ้นเหยียนอยู่ด้วยกัน เหมือนเธอจะพูดว่าจิ้นเหยียนจะไปจากเมืองหลวงก่อนกำหนดค่ะประโยคสุดท้ายเหมือนจะพูดถึงจิ้นเหยียน แต่……”
แต่ว่า ลั่วหานก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว!
“ฮึๆ!” พอเข้าใจแล้ว ลั่วหานก็กอดมือถือแล้วขำออกมา “ดูท่าคืนนี้เจิ้งซิ่วหยากับจิ้นเหยียนน่าจะคึกคักกันน่าดูเลยค่ะ”
หลงเซียวมองลั่วหานที่กำลังหัวเราะอย่างชั่วร้าย สีหน้าที่แสดงออกมาบ่งบอกเลยว่ากำลังคิดเรื่องที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพสักเท่าไหร่ “คึกคักเรื่องอะไรกันเหรอครับ? เล่าให้ฟังหน่อยสิครับ”
ลั่วหานดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ตัวเอง ชันเข่าขึ้นมาให้รับกับคางพอดี จากนั้นก็เริ่มเม้าท์มอยย่างสบายอกสบายใจ “คุณรู้ใช่ไหมว่าเจิ้งซิ่วหยาชอบจิ้นเหยียน?”
“รู้ครับ”
“เจิ้งซิ่วหยากำลังดื่มเหล้าอยู่กับจิ้นเหยียน และดูท่าเธอจะเมาแล้วด้วย แล้วในตอนท้ายก็เหมือนจะถูกจิ้นเหยียนจูบเข้าให้ด้วย” ลั่วหานพูดไปก็ขำไป จิ้นเหยียนเป็นถึงสิ่งล้ำค่าอันเก่าแก่ของโรงพยาบาลหวาเซี่ยเลยนะ มาเจอเข้ากับเจิ้งซิ่วหยาแบบนี้ งุ้งงิ้งๆ คงกัดกันตาย”
หลงเซียวเดินมาถึงอีกฝั่งของเตียง เปิดผ้าห่มออกจากนั้นก็นั่งเข้าไป ปิดไฟหลักในห้องนอนลง แล้วหันไปเปิดไฟสีส้มบนหัวเตียง เอาหมอนมาหนุนไว้ที่หัวเตียง สุดท้ายก็ดึงหัวของลั่วหานมาหนุนอยู่ในอกอย่างเป็นธรรมชาติ
“ถังจิ้นเหยียนน่าจะยังจูบไม่เป็นนะครับ”
หลังจากที่จัดการทุกอย่างที่ควรทำก่อนนอนแล้ว เขาก็ออกความเห็น
แต่ลั่วหานกลับไม่เห็นด้วย “จะเป็นไปได้ยังไงคะ? จิ้นเหยียนเขาแก่กว่าฉันอีกนะคะ อย่างน้อยสมัยเรียนก็น่าจะเคยมีแฟนมาแล้วครั้งสองครั้งนะ? อย่างอื่นไม่กล้ารับประกัน แต่อันนี้ไม่มีทาง!”
ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย ผู้ชายอายุสามสิบกว่าจะจูบไม่เป็นเนี่ยนะ? เด็กนักเรียนสมัยนี้เขาก็มีแฟนกันแล้ว
หลงเซียวยังคงเชื่อมั่นในคำพูดของตนเอง “ถังจิ้นเหยียนเป็นหมอ เป็นคนที่เป็นโรคกลัวเชื้อโรค ไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตแม้แต่เรื่องความรักเองก็ไม่ต่างกัน ไม่อย่างนั้นทำไมจนถึงตอนนี้เขายังไม่ยอมรับรักจากเจิ้งซิ่วหยาสักทีล่ะครับ?”
ลั่วหานคิดตาม แล้วพยักหน้า “มีเหตุผล เจิ้งซิ่วหยารุกหาเขาอย่างเต็มที่ แต่เขากลับไม่หวั่นไหวเลยสักนิด”
หลงเซียวพยักหน้า “อีกอย่าง บางทีถังจิ้นเหยียนอาจจะมีอาการ……กับเรื่องอย่างว่าด้วยก็ได้ จึงไม่น่าจะลงมือกับผู้หญิงได้ง่ายๆ หรอกครับ”
ลั่วหานเด้งตัวออกจากอกเขา แล้วมองเขาแบบจะขำไม่ขำ “แหม๋? เรื่องแบบนั้นคุณก็รู้ด้วย? คุณเคยลองแล้วเหรอคะ?”
ฮาๆฮา!
หน้าหล่อๆ ของหลงเซียวถูกเธอพูดซะเสียเลย “พูดบ้าๆ รสนิยมของผมมันปกติดีครับ ที่ผมพูดถึงเขาแบบนี้ ก็เพราะว่า……”
เขาหยุดพูดกะทันหัน แล้วนึกถึงพฤติกรรมของตัวเองในสมัยก่อน มาคิดๆ ดูแล้วตัวเขาในตอนนั้นมันช่างน่าขำจริงๆ เลย
“เพราะอะไรเหรอคะ? พูดอะไรก็อย่าพูดแค่ครึ่งเดียวสิคะ คนฟังเขาค้างคา รีบพูดมานะคะ” ความอยากรู้อยากเห็นของลั่วหานถูกเขาพูดจนตื่นขึ้นมาแล้ว จะให้ปล่อยผ่านไปกลางคันได้ยังไง
หลงเซียวยังไม่ทันได้ทำใจเลย ใครจะไปคิดว่าจะพูดถึงตรงนี้ได้ “ไม่มีอะไรครับ นอนกันเถอะ”
“ไม่นะ! พูดให้จบ ถ้าพูดไม่เคลียร์ก็ไม่ต้องนอนค่ะ” ลั่วหานแย่งผ้าห่มจากตัวเขามาจนหมด บนตัวของหลงเซียวตอนนี้เหลือเพียงแค่ชุดนอนสีขาวที่บางเฉียบ
“คุณครับ ท่านี้ของคุณไปฝึกมาจากใครเหรอครับ?”
หลงเซียวไม่คิดจะแย่งกับเธอ เขาแค่จ้องมองเธอด้วยความเอ็นดู ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าหลังจากที่เธอตั้งท้องแล้วนิสัยก็ดูเหมือนเด็กลงไปเรื่อยๆ ไม่สิ เธอจะเป็นอย่างนี้ตอนอยู่กับเขา วุฒิภาวะดูเด็กลง บางทีก็ทำตัวเหมือนเด็กน้อย แต่ว่านะทุกครั้งที่เธอทำตัวเหมือนเด็กเขาก็รู้สึกชอบนะ
ลั่วหานก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปฝึกมาจากใคร เพราะอยู่ๆก็รู้สึกอยากจะงอแง อยากเกเร จากนั้นก็ผ่อนแรงจากผ้าห่มลงแล้วคืนให้เขา “เออ……ก็ไม่นะคะ มันเกิดจากความเคยชินค่ะ”
บ้าบอ นี่เธออายุจะสามสิบแล้วนะ ยังจะมาเล่นอะไรแบบนี้ที่มีแต่เด็กผู้หญิงเขาเล่นกันอยู่อีก น่าขายหน้าจริง!
“เป็นความเคยชินที่ใช้ได้ แต่คราวหลังก็หัดลองอะไรใหม่ๆ ดูนะครับ” หลงเซียวกางผ้าห่มออก แล้วห่มลงบนตัวทั้งคู่อีกครั้ง
ลั่วหาน “……”
ถึงจะไม่พูดอะไรออกมา แต่ในใจกลับปลื้มปริ่มมาก
มีคนเคยพูดไว้ ในช่วงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องรักคนอยู่ด้วยกันสามคน คนแรกก็คือผู้หญิงตัวเล็กที่สอนความน่ารักน่าชังให้กับเธอ คนที่สองคือผู้หญิงตัวใหญ่ที่สอนให้เธอรู้จักกับความสง่างาม ส่วนคนที่สามก็คือเด็กสาวตัวน้อยที่สอนให้เธอรู้จักกับความไร้เดียงสา
แล้วคุณหลงของเธอ ก็เคยทำให้เธอรู้จักกับความน่ารักที่หวานชื่น จากนั้นก็ทำให้เธอดูสง่างาม และตอนนี้เขาก็ทำให้เธอกลับกลายเป็นเด็กอีกครั้ง
ช่างวิเศษเหลือเกิน! ทุกอย่างมันรวมอยู่ในตัวเขาแล้ว!
อย่านอกเรื่องค่ะ พูดมานะ ว่ามันเพราะอะไร? ถ้าคุณไม่บอกฉันก็ไม่นอน ปล่อยให้ลูกน้อยอดนอนไปกับฉันเลย จะลองดูก็ได้นะคะ?”
ตอนนี้ลั่วหานกลับมาเป็นผู้ใหญ่แล้ว
หลงเซียวหน้าเสีย เรื่องนี้มันค่อนข้างพูดยาก
ช่างเถอะ บอกให้เธอรู้ดีกว่า
“หลังจากที่เราแต่งงานกันแล้ว เพราะคุณถูกฉู่ซีหรานใส่ร้าย ผมจึงเข้าใจคุณผิด……”
อันนี้ฉันรู้ เชิญเข้าประเด็นได้ค่ะ”
หลงเซียวนวดๆ ไปที่ดั้ง “จากนั้นผมก็ต้องการแก้แค้นคุณ จึงได้ไปหาผู้หญิงหลายคน……”
เชี่ย!! พูดต่อไม่ได้แล้ว!!
ลั่วหานจริงจังแล้ว “คุณเคยไปหาผู้หญิง?”
หลงเซียวพยักหน้า แม่งเอ๊ย!
“ผมอยากจะเติมเต็มความต้องการของตัวเองจากพวกเธอ ลั่วลั่ว……ผมเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง และตอนนั้นก็เครียดจนหน้ามืด” หลงเซียวรีบอธิบาย
หลงเซียว นี่คุณเคยทำเรื่องอย่างนี้มาด้วยเหรอ! คุณไปหาผู้หญิงอื่น!! ฉันจะดัดคุณให้ตายเลย!
ลั่วหานสีหน้าดูแย่ “หลังจากนั้นล่ะ?”
ต่อจากนั้น คำพูดที่พูดออกมายังดูมีเหตุผลอีกด้วย
ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่เคยทำผิด คนเราผิดพลาดกันได้!
ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่เคยทำผิด คนเราผิดพลาดกันได้!
ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่เคยทำผิด คนเราผิดพลาดกันได้!
หลังจากทวนอยู่ในใจไปหลายรอบ ในที่สุดเขาก็สงบลงได้
“จากนั้น ผมก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ กับพวกเธอเลย” การอธิบายเท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว! ท่านหลงไม่มีทางเล่าทุกขั้นตอนอย่างละเอียดแน่นอน!
ลั่วหานค้างไป ตั้งนานก็ยังไม่ได้สติกลับมา “คุณหมายความว่ายังไงนะ?”
หลงเซียวหน้าดำคร่ำเครียด “ในเมื่อฟังเข้าใจแล้ว ยังจะถามอีก? หรือคุณอยากจะให้ผมสาธิตให้คุณดูด้วยตัวเองใช่ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”
ไม่ๆไม่ อันนี้ไม่ต้องก็ได้ เธอตั้งท้องยังไม่ถึงสามเดือนเลยนะ
“ที่คุณเล่ามามันหมายความว่า ตอนนั้นที่ข่าวรายงานว่าคุณเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อนั้น ความจริงแล้ว………คุณแค่ถูกด่าฟรีๆ สินะ แต่ไม่ได้กินเนื้อเลยสักนิด?”
หลงเซียวหน้าดำยิ่งกว่าเดิม “ลั่วลั่ว…;”
“ฮาๆฮา!” ลั่วหานระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “โอ้พระเจ้า! เมื่อก่อนตอนเรียนจิตวิทยาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับโรคกลัวเชื้อโรคอยู่เหมือนกัน แต่ไม่นึกเลยว่าคุณก็เป็น! คุณหลงคะ คุณยังมีโรคอะไรที่ปกปิดอยู่อีกรึเปล่า พูดออกมาให้หมดเลยนะคะ ฮาๆฮา!”
ก็รู้อยู่ว่าไม่ควรเอาปมด้อยของคนอื่นมาล้อ แต่พอรู้ว่านอกจากเธอแล้วหลงเซียวก็ไม่อาจผงาดต่อหน้าใครอื่นได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกปลื้มใจมาก
ตอนนั้นเธอลำบากจนแทบเป็นแทบตาย แต่ก็ไม่กล้าไปถามหา ต่อมาเพื่อความกลมเกลียวของสามีภรรยาเธอก็ไม่เคยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ใครจะไปคิดว่าความจริงมันจะเป็นแบบนี้! มันช่างเซอร์ไพรส์จริงๆ!
หลงเซียวหน้าเสียจนดูไม่ได้แล้ว “พอแล้ว หยุดหัวเราะได้แล้วครับ”
“ฮาๆฮา! ไม่ได้ ไม่ได้ คุณปล่อยให้ฉันหัวเราะอย่างหนำใจก่อนนะคะ โอ้ว ท้องแข็งไปหมดแล้ว คุณหลงเซียวคะ นี่คุณบวชเป็นพระไปตั้งสามปีเลยเหรอคะเนี่ย?”
ลั่วหานหัวเราะจนหยุดไม่ได้แล้ว เอามือกุมท้องแล้วตัวสั่นยิกๆ เธอหัวเราะจนเตียงสั่น การหัวเราะแบบควบคุมไม่ได้แบบเธอนี่หลงเซียวไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ
ถึงว่าล่ะ หลังจากนั้นทุกครั้งที่เขาอยู่กับเธอ เขาก็ดูบ้าคลั่งเหมือนกับหมาป่าที่หิวโหย มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!
หลงเซียวเอามือกุมขมับ “ลั่วลั่ว ยังไม่หยุดหัวเราะอีก?”
“ฮาๆฮา! มุขฮาข้ามปี!”
ได้ เอาโรคที่ไม่ควรเปิดเผยของเขามาทำเป็นเรื่องตลก ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำโทษกันหน่อยแล้ว!
“อุ๊บ!”
ในที่สุดเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายก็ได้หยุดลง ในตอนนั้นเอง ภรรยาที่ฉลาดหลักแหลมของเขาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมสักที
จูบจนเธอสงบลง เคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำของเขา หลงเซียวถึงได้คลายปากออก
กะพริบตามองดูดวงตาคู่นั้นที่มีหยดน้ำตาของสาวน้อยเกาะอยู่ หลงเซียวแย้มปากขึ้น “ไม่หัวเราะแล้วเหรอครับ?”
ลั่วหานหายใจอย่างหนักหน่วง “นี่คุณ!”
“เมื่อกี้ตอนที่สายหลุดไป เสียงก็ประมาณนี้ใช่ไหมครับ?” หลงเซียววางหมอนลง เตรียมตัวเข้านอน
“อืม ใช่ค่ะ” ลั่วหานเม้มปาก
“ดังนั้น คุณคิดว่าต่อไปถังจิ้นเหยียนกับเจิ้งซิ่วหยาจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” หลงเซียวถาม
หลอดไฟในหัวของลั่วหานสว่างขึ้น ติ้ง “ต้องไม่อยู่แล้วค่ะ จิ้นเหยียนไม่ใช่คนธรรมดาสักหน่อย”
“ถูกต้องครับ”
ถูกต้องอะไรกันเล่า?
หลงเซียวปิดไฟบนหัวนอนลง กดรีโมทให้ม่านปิดลงอัตโนมัติ ในห้องตอนนี้มืดสนิทแล้ว ภายในความมืดมิด เขาก็กอดลั่วหานไว้แน่น “เพราะไม่อาจเกิดอารมณ์กับใครได้ ดังนั้นหลังจากที่หน้าตาของคุณเปลี่ยนไปความจำไม่มีแล้ว ผมก็ยังสามารถจำคุณได้”
โอ้ว……
“แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้หล่ะคะ?”
“จะให้บอกว่ายังไง? บอกว่าหลงเซียวเป็นคนกลัวเมียอย่างนั้นเหรอครับ?”
“ฮาๆฮา!”
ยังจะหัวเราะอีก!
หลงเซียว “……”
“คุณหลงคะ คุณนี่มัน……ทำให้ฉันเซอร์ไพรส์จริงๆ คะ!”
เซอร์ไพรส์ในความบริสุทธิ์ของคุณ! ฮาๆฮา!
“ลั่วลั่ว นี่ตกลงผมแต่งเมียมาหรือว่ารับลูกสาวมาเลี้ยงเนี่ย?” หลงเซียวหลับตาลง แล้วยิ้มออกมา
ลั่วหานง่วงแล้ว เธอได้พึมพำออกมาอย่างงงงวย “คุณคะ ว่ากันว่า ถ้าแต่งงานกับคนที่ใช่ ทุกๆ วันก็จะเป็นเหมือนวันวาเลนไทน์ แต่ฉันคิดว่านะ ถ้าคนที่ใช่จริงๆ ทุกๆ วันต้องเป็นวันเด็กแห่งชาติถึงจะถูก!”
หลงเซียวขำแล้ว ดวงตาเป็นประกายอยู่ในความมืด “ถ้าอย่างนั้นผมจะเป็นตัวอะไร? แม้แต่เด็กน้อยยังทำได้ลงคอ ผมเป็นสัตว์ป่าอย่างนั้นเหรอครับ?”
ลั่วหานหัวเราะอีกแล้ว “ได้ คุณคือสัตว์ป่า ส่วนฉันคือหนูน้อยหมวกแดง”
หน้าของหลงเซียว…