บทที่ 275 เธอเล่นพอรึยัง?
หนึ่งวินาทีต่อมา วู่หยานก็ตัวแตกกลายเป็นน้ำเลือดสาดกระจายเต็มพื้นอีกครั้ง
……..
แม้ว่าจะมีร่างกายอมตะ แต่วู่หยานก็ยังอดรู้สึกหัวใจเย็นยะเยือกไม่ได้ กับความ
จริงที่ว่าฟรานด์สามารถตัดสินชีวิตใดๆก็ได้ภายในหนึ่งวินาที….ฟรานด์แข็งแกร่ง
มาก แข็งแกร่งจริงๆ…….
ไม่แปกใจเลยที่ว่าทำไมในโลกเก็นโซเคียว ยาคุโมะ ยูคาริ ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ
ต้นๆของโลกนั้นยังต้องปวดหัวกับฟรานด์ ในโลกเก็นโซเคียวที่มีแรงค์7เกลื่อน
กลาดไม่ต่างจากหมาแมว แล้วแรงค์8ที่เดินกันให้เห็นเต็มไปหมด เอาแค่พลังที่
สามารถทำลายได้ทุกอย่างนี้ ก็มากพอที่จะทำให้ฟรานด์นับได้ว่าเป็นตัวตนที่
แข็งแกร่งที่สุดแล้ว! ถ้าไม่นับเหล่าคนที่มีพลังเหนือกว่าฟรานด์อย่าง ยาคุโมะ ยูคา
ริ นะ…….พวกนี้มันกึ่งๆพระเจ้าแล้ว……
ตัวการดูจะไม่ได้ทุกข์ร้อนเลยว่าคนที่เพิ่งโดนตัวเอง ‘บีบ’ ตายไป นั้นมีชีวิต
‘หลอมรวม’กับตัวเอง สีหน้าของฟรานด์กลับเต็มไปด้วยความคาดหวังมองจุดที่
เต็มไปด้วยเลือดกระจายว่า พี่ชายของเธอจะกลับมา ‘ดี’ อีกครั้ง แล้วมาเป็น
เพื่อนเล่นเธอต่อ……….
และพี่ชายก็ไม่ได้ทำให้เธอผิดหวังจริงๆ วู่หยานฟื้นคืนสภาพกลับมาอย่างรวดเร็ว
ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เพราะถึงเขาจะเป็น True Ancestorเป็นอมตะก็เถอะ แต่นี่ตู
ตายไปสองรอบแล้วนะเฮ้ย!
ไอ้ความตายทีสภาพศพทุเรศแบบนี้น่ะขอทีเถอะ ความรู้สึกที่ร่างกายแตกสลาย
มันไม่ได้รู้สึกดีเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีโชคดีก็แค่เขาไม่จำเป็นต้องทุกข์ทรมาน
เจ็บปวดนานนัก มันเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆร่างเขาก็ถูกแยกเป็นชิ้นเล็กๆหมดแล้ว
แต่ถึงมันจะแค่แป๊ปเดียวมันก็เจ็บสุดๆอยู่ดี
ฟรานด์จังมีสีหน้าแฮปปี้มาก เธอตบมือแปะๆบ่งบอกว่าตัวมีความสุขแค่ไหน
“ฮิฮิ! พี่ชายกลับมาแล้ว!!”
สร้อยปิดผนึกสีแดงยังคงถูกวู่หยานกำแน่น แม้ว่าวู่หยานจะตายไปสองครั้งแล้ว
แต่สร้อยนี่ก็ไม่มีแม้แต่รอยร้าวเลย ความคงทนนี่สมแล้วจริงๆที่ตรงช่องอธิบายมัน
บอกว่า ‘ไม่สามารถทำลายได้’ น่ะ
ไม่ใช่แค่สร้อยนี่ กระทั่งสร้อยสีดำที่เก็บน้องสาวมิซากะไว้ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน นี่ตู
ควรพูดว่าสมแล้วจริงๆที่เป็นสินค้าของระบบไหมว่ะ?…….
วู่หยานส่ายหัวแล้วถอนหายใจ นี่ตูยังมีเวลามาคิดเรื่องแบบนี้ตอนที่ยังติดสู้กันคน
ที่แข็งแกร่งกว่าสุดๆอย่างฟรานด์ได้อีก?…..
มองดูบนฟ้า ใบหน้าน้อยๆของฟรานด์ที่เต็มไปด้วยความสุข หัวใจวู่หยานก็หนัก
อึ้ง
“ไม่คิดจะ…ใส่จริงๆงั้นเหรอ?”
วู่หยานเพิ่มแรงบีบสร้อยจนมือเขียว แล้วพูดเสียงครางต่ำดังออกมา แสดงให้เห็น
ถึงอารมณ์เจ้าตัวตอนนี้…….
ในเวลานี่สภาวะอารมณ์ของวู่หยานั้นต่ำมาก ฟรานด์ที่ไม่เต็มใจใส่วงแหวนปิด
ผนึกก็เท่ากับว่าเขาจะสูญเสียโอกาศที่จะได้อยู่ร่วมกันกับฟรานด์ไป………
ระยะเวลาที่ฟรานด์ถูกอัญเชิญออกมาเพิ่งผ่านมาได้แค่ครึ่งชั่ว ถึงเขาจะมีความ
ประทับใจดีๆให้เธอมาตั้งแต่แรก เขาก็โดนฆ่าไปสองครั้ง แล้วถ้าเขาพาฟรานด์ที่
ไม่ถูกผนึกพลังกับไปล่ะ?……
เขากล้าที่จะพาฟรานด์กลับเมืองแห่งการศึกษา พากลับบ้านไปเจอพวกฮินางิคุ
เหรอ?……
ยิ่งคิดวู่หยานก็ยิ่งเครียดจนแทบจะเป็นบ้า
ได้ยินเสียงแหบต่ำของวู่หยานใบหน้ายิ้มๆของฟรานด์ก็แข็งทื่อหัวใจที่เธอเต้นตึกๆ
ด้วยความตื่นเต้นได้ช้าลงกลับเป็นปกติ ถึงปากจะบอกเกลียดพี่ชาย แต่กับคนที่
ช่วยเธอออกมาจากห้องใต้ดินและยังมีกลิ่นอายที่เหมือนกับตัวเอง จริงๆแล้วในใจ
เธอไม่ได้รู้สึกเกลียดเลยแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าจะอยู่มา495ปีแล้ว แต่จิตใจของฟรานด์ก็ยังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม ถ้าให้กะ
อายุก็ประมาณเด็ก6-7ขวบ เพราะงั้นการโอ๋เธอทำอะไรดีๆให้หน่อยก็เพียงที่จะทำ
ให้เธอมองคุณดีขึ้นแล้ว
เพียงแต่ว่าที่ที่เธออยู่เก็นโซเคียวมันเอาสามัญสำนึกปกติมาใช้ไม่ได้บวกกับจิตที่
ผิดปกติของฟรานด์ ทำให้เธอไม่มีความคิดที่ว่า ‘ไม่สามารถทำร้ายคนอื่นได้’ อยู่
เลย ดังนั้นก่อนหน้านี้สำหรับเธอจึงเป็นได้แค่ ‘การละเล่น’…………
เมื่อเห็นสร้อยสีแดงในมือวู่หยาน หัวใจที่เพิ่งกลับมาวงบนิ่งของฟรานก็พุ่งพล่าน
อีกครั้ง เธอไม่เข้าใจความคิดของวู่หยาน เหมือนกับที่ไม่เข้าใจความคิดของพี่สาว!
ใครดีต่อเธอ ฟรานด์จำ ใครร้ายกับเธอ ฟรานก็จำ พี่สาวได้ขังเธอไว้ในห้องใต้ดินที่
เธอไม่ชอบ นี่คือไม่ดีกับเธอ ดังนั้นฟรานด์จำ
ส่วนวู่หยานที่คิดจะผนึกพลังเธอ นี่คือไม่ดีต่อเธอแน่นอน!
ดังนั้นฟรานด์จึงต่อต้าน ถึงจริงๆเธอจะไม่แคร์ว่าตัวเองจะมีพลังหรือไม่มีก็เถอะ
เธอต่อต้านก็เพราะไม่ชอบมัน!
หรือก็คือฟรานด์เป็นเด็กที่ทำตามใจตัวเองล่ะ………
และเพราะไอ้การทำตามใจนี่เองได้ทำให้วู่หยานเราตายไปถึงสองครั้ง………
ด้วยความโกรธ นัยน์ตาเธอเรืองแสงแรงกว่าเดิม โดยไม่พูดอะไรต่อเธอก็สร้างวง
เวทย์ปล่อยห่าฝนที่มาในรูปบอลแสงที่มีหลายสีคละกันใส่วู่หยาน
Forbidden Barrage “Starbow Break”!
ฟรานด์ตะโกนชื่อท่าออกมา ทำวู่หยานหน้าเปลี่ยนสี เขาพับเก็บความคิดต่างๆ
ทันที ถึง Starbow Break จะดูมีเสน่ห์สวยงามราวภาพลวงตา แต่เขาไม่คิดจะดู
แคลนเพียงเพราะมันสวยเด็ดขาด
วู่หยานก้าวเท้าไปยังอากาศที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นตรงฝ่าเท้าของเขาก็มีทรายเหล็ก
ลอยออกมาโคจรพาตัวเขาบินขึ้นฟ้า จากนั้นเริ่มบินหลบหลีกห่ากระสุนนรกที่มี
เยอะยิ่งกว่าตอนเจอป้ามุกิโนะ Meltdowner
บนหน้าผากมีเหงื่อไหลซึมออกมาไม่หยุด ระยะทำการของกระสุนแสงหลากสี
พวกนี้มันกว้างเกินไป วู่หยานทำได้แค่บินหลบซ้ายขวาแบบทุลักทุเลเพื่อรักษา
ชีวิตที่สามนี่ไว้
แต่ฟรานด์ที่เห็นก็ราวกับคิดว่ามันไม่พอ เธอจึงโบกมือปล่อยมาอีกระลอก!
กระสุนแสงที่แน่นขนัดปกคลุมทั่วท้องฟ้าที่ตาเขาเห็น ราวกับวันพิพากษามาถึง
ต่อหน้าดงกระสุนแสงจำนวนมากพวกนี้ตัววู่หยานดูเล็กกระจ้อยไปเลย……..
ก่อนที่วู่หยานจะได้ทันตั้งตัว กระสุนแสงก็ได้มาถึงแล้ว!
ทันใดนั้นตัววู่หยานก็ถูกห่ากระสุนแสงถล่มลากตัวเองลงสู่พื้นด้านล่างอีกครา ถ้า
จ้องมองดีๆจะเห็นว่ามีชั่วพริบตานึงที่เกิดประกายไฟฟ้าขึ้น………
เสียงระเบิดดังขึ้นถี่ๆสนั่นฟ้า ดังไปพร้อมกับเสียงโห่ร้องตื่นเต้นของฟรานด์………
ฝุ่นควันปกคลุมไปทั่ว ทำให้ฟรานด์มองไม่เห็นอะไร เธอเม้มปากขณะที่มอง
ด้านล่างซึ่งยังเกิดเสียงระเบิดไม่หยุด
ผ่านไปพักนึง เสียงระเบิดก็ได้เงียบหายไป ทว่าฝุ่นควันไม่ได้หายไปด้วย อาจเป็น
เพราะความใจร้อน ฟรานด์จึงตะโกนไปยังด้านล่างด้วยความไม่พอใจ
“พี่ชาย! รีบออกมาเร็วเข้า!”
เงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบกลับ ฟรานด์หงุดหงิดเธอโบกมือไปทีนึงเกิดลมแรงพัดฝุ่น
ควันออกไป………
เธอโก่งตัวกวาดตามองเมื่อเห็นเงาคน ฟรานด์ก็ยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นคนที่เธอ
มองหาอยู่จนได้
ทว่าวินาทีต่อมาฟรานก็ตัวแข็งค้าง
ด้วยหัวที่ก้มต่ำ ผมหน้าร่วงลงมาปิดตา ทำให้คนมองไม่เห็นสีหน้าเขา………..
หน้าอกสั่นขึ้นลงอย่างรุนแรง ปากกัดฟันแน่นจมูกสูดลมหายใจเข้าออกอย่างหนัก
และตรงไหล่เขาได้อาบไปด้วยเลือด ตรงจุดที่เคยมีแขนอยู่…….
ภายใต้การจ้องมองของฟรานด์ วู่หยานก็สูดหายใจอีกครั้ง แล้วค่อยเงยหน้าขึ้น
อย่างช้าๆมองไปที่ฟรานด์ ด้วยนัยน์ตาที่ในเวลานี้กลายเป็นเย็นชาไปเรียบร้อย
แล้ว…….