ตอนที่ 603 แจกจ่ายภรรยาเป็นรางวัลปลายปี
ห๊ะ? ยุ่งยากเล็กน้อยหรอ?
หลงเซียวคลิ๊กหน้าจอมือถือ ตอบกลับประโยคนึง “ในเมื่อเป็นเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าคุณเจิ้งจะให้ฉันกลับไปจัดการด้วยตนเอง?”
ส่งเสร็จ หลงเซียวก็ในกลับในกระเป๋า ยืนยันอีกรอบนึงว่าคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงยังสงบสุขปลอดภัยดี แล้วจึงเดินออกจากห้องผู้ป่วย
โรงพยาบาลตอนกลางคืนเงียบสงบมาก ระเบียงทางเดิมเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ห้องผู้ป่วยVIPชั้นสูงแทบจะไม่มีคนมารบกวน มีแค่พยาบาลและหมอที่ผ่านมาตรวจสอบในเวลากลางคืน
แต่ละคนที่เห็นหลงเซียวด้วยจิตสำนึกก็จะหยุดอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มเล็กน้อย รอให้หลงเซียวเดินไปเสร็จแล้วก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกระโดดโลดเต้นขึ้นมาซุบซิบหรืออุทานอย่างตื่นตะลึง
หลงเซียวขึ้นลิฟต์ไปแล้ว ไปหาส้งชิงเซวี๋ยนที่แผนกศัลยกรรมหัวใจ
ขณะนี้มือถือในกระเป๋าของเขาก็สั่นเล็กน้อย
เอสเอ็มเอสของเจิ้งซินก็ปรากฏบนหน้าจอ “ฉันสามารถโทรหาคุณได้ไหม?”
สอบถามอย่างระมัดระวัง ทั้งกระวนกระวายใจทั้งรอคอย
มากจนกระทั่งหลงเซียวสามารถจินตนาการได้ว่าเมื่อเจิ้งซินพูดคำเหล่านี้มีอารมณ์ความรู้สึกอะไร สายตาเป็นยังไง ปฏิกิริยาเป็นยังไง ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขาจะไม่รู้เลยหรอ?
“ไม่สะดวกรับโทรศัพท์” หลงเซียวส่งเอสเอ็มเอสไปเสร็จ ด้านหน้าก็คือห้องผู้ป่วย
ประตูด้านนอกห้องผู้ป่วยแขวนป้ายไว้ ด้านบนเขียนว่า “อานอาน” สองคำ
ประตูที่กั้นอยู่ หลงเซียวเห็นส้งชิงเซวี๋ยนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องผู้ป่วย สวมใส่แว่นตาอ่านหนังสือที่เย็บเล่มด้วยด้าย ข้างๆมือมีกาน้ำชาหนึ่งใบวางอยู่ ถ้วยชาหนึ่งใบ ด้านหน้าคือหน้าต่างหนึ่งบาน ด้านนอกหน้าต่างคือท้องฟ้าที่สะอาดสะอ้าน
ส้งชิงเซวี๋ยนอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ แล้วยังลูบคางครุ่นคิดอยู่บ่อยๆ
หลงเซียวเคาะๆประตู ส้งชิงเซวี๋ยนเงยหน้ามองไปยังนอกประตูอย่างรวดเร็ว เห็นว่าหลงเซียวมาแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็เอ่อล้นออกมา “เซียวเซียว มาๆๆ”
เขาใช้ปากเชื้อเชิญเขา ในเวลาเดียวกันก็หยิบถ้วยชามารินชา
“ฉันเดาว่าคุณยังต้องอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแน่นอน ลุงส้งรบกวนแล้ว” หลงเซียวนั่งลง และนั่งเผชิญหน้ากับส้งชิงเซวี๋ยน ระยะใกล้ เขาก็เห็นว่ายนศีรษะของส้งชิงเซวี๋ยนมีผมหงอกขาวหลายเส้น ซ่อนอยู่ที่จอนผม กลางศีรษะก็มีหลายเส้น
กาลเวลาไม่ปราณีใคร!
ช่างโหดร้ายจริง
“รบกวน! รบกวนแน่นอน เสี่ยวลั่วลั่วไม่สงสารฉันเลยสักนิด รู้ว่าฉันอายุมากแล้ว ยังสร้างปัญหาให้ฉัน จุ๊ๆ เพื่อเถียนเถียน ตาเฒ่าก็ทำฉันเสียไปครึ่งชีวิตแล้ว ครั้งนี้ให้ฉันจัดการกับอานอาน ครั้งต่อไปไม่ให้ฉันจัดการกับเหม่ยเหม่ย เล่อเล่ออีกหรอ คุณบอกมาสิว่า ฉันควรจะอบรมสั่งสอนยัยเด็กที่ไม่หมดห่วงคนนี้ไหม?”
ส้งชิงเซวี๋ยนหยิบถ้วยชาให้หลงเซียว ยิ้มพลางส่งสายตาปริบๆ
หลงเซียวนำถ้วยชาหนีบไว้ที่ระหว่างนิ้วทั้งสอง ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เหอะๆ ลุงส้งโกรธจนเหลือทนละก็ สั่งสอนฉันก็ได้”
“ฮ่าๆ! เจ้าหนุ่มนี่! คิดจะรับภาระแทนภรรยาของคุณหรอ? เอาล่ะๆ ฉันยังจะสามารถสั่งสอนเธอได้จริงๆหรอ? ถ้าฉันโกรธจริงๆ ก็คงไม่มาแล้ว”
หลงเซียวชนถ้วยชาของเขา “ลุงส้งมีคุณธรรมอย่างลึกซึ้ง ทั้งยังรักลั่วลั่วอย่างสุดหัวใจ ฉันล้วนเข้าใจทั้งหมด”
ส้งชิงเซวี๋ยนกล่าวว่า “คุณมาหาฉัน เกรงว่าจะมีเรื่องอื่นหรือเปล่า? พูดมาได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนตาเฒ่าอย่างฉัน”
ในที่สุดก็เป็นเด็กที่ตนเองรักอย่างสุดหัวใจ จะต้องรบกวนอีกก็ยินยอมพร้อมใจ
“โอเค อย่างนั้นฉันก็พูดตรงๆไม่อ้อมค้อม อาการป่วยของแม่ฉัน ลุงส้งก็รู้ชัดเจน เธอเหลือเวลาไม่มากแล้ว ดังนั้นฉันคิดว่า ช่วงเวลาสุดท้ายนี้ของชีวิตเธอ จะช่วยเธอทำเรื่องบางอย่าง ลุงส้งเป็นเพื่อนของเธอมาหลายปี คุณรู้หรือไม่ว่าเธอมีความปรารถนาอะไร?”
หัวข้อสนทนาที่กดดัน ใส่ลงบทสนทนาในค่ำคืน ก็สามารถเพิ่มความกดดันให้กับบรรยากาศ โชคดีที่แสงไฟเป็นความอบอุ่น แสงในค่ำคืนเป็นความอบอุ่น น้ำชาหวานกลมกล่อมมาก ไม่ถึงกับว่าทำให้ในใจถูกทำร้ายมากเกินไป
ลมหายใจของส้งชิงเซวี๋ยนเปลี่ยนเป็นเบาลงอย่างชัดเจน เปรียบดั่งแสงจันทร์ที่ส่องลงมายังน้ำ เปื้อนแสงสีขาวข้างๆใบหน้าของเธอ
“ฉันรู้ความหมายของคุณ ถ้าจะพูดถึงแม่ของคุณ ฉันเสียใจแทนเธอจริงๆ ตลอดชีวิตของเธอนี้ลำบากมากจริงๆ” ส้งชิงเซวี๋ยนไม่อยากดื่มชาแล้ว เขาอยากดื่มเหล้าสักเล็กน้อย ขณะนี้ มีเพียงเหล้าที่แสบร้อนลงไปในลำคอนั้น จึงจะสามารถบรรเทาความเศร้าเสียใจได้
สายตาของหลงเซียวเยือกเย็นและเงียบเหงา ลึกซึ้งซะยิ่งกว่าแสงจันทร์นอกหน้าต่าง ส้งชิงเซวี๋ยนกล่าวว่า “แม่ของคุณได้สูญเสียพ่อของคุณไป ทั้งยังละทิ้งการวาดภาพที่เธอรักมากที่สุด ความรักและการงานเธอล้วนไม่มีทั้งสิ้น”
หลงเซียวพยักหน้า
“ภาพวาดของแม่ของคุณในเวลานั้น สูญหายไปตั้งนานแล้ว จริงๆภาพเหล่านั้นก็คือความทรงจำทั้งหมดที่ผ่านมาของแม่ของคุณ ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ ช่วยหาภาพของเธอกลับคืนมา จัดทำงานแสดงภาพวาดให้เธอใหม่อีกครั้ง ฉันคิดว่านี่ต้องเป็นความใฝ่ฝันของแม่คุณอย่างแน่นอน”
ส้งชิงเซวี๋ยนดื่มชาอีกถ้วยนึง กลิ่นหอมของชาแทรกซึมผ่านฟัน กระจายเข้าอวัยวะปอด กระตุ้นความกลุ้มใจ
“โอเค ฉันจะทำ ก่อนหน้านี้ฉันสามารถคิดหาวิธีที่จะภาพวาดของแม่ฉันกลับมา”
ส้งชิงเซวี๋ยนเก็บแว่นตาลง ถุงใต้ตาหย่อนเล็กน้อย คล้ายกับอดตาหลับขับตานอนมาหลายวัน “อีกอย่าง เนื้องอกด้านในสมองของแม่คุณ ฉันไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัด”
ส้งชิงเซวี๋ยนอธิบายเหตุผลในมุมทางด้านการแพทย์ วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย
“ฉันสามารถให้คำปรึกษากับเธอ แล้วก็เรื่องนึง ตอนนี้ลั่วลั่วตั้งครรภ์แล้ว ฉันหวังว่าเขาจะสงบสุขปลอดภัย ต้องรบกวนลุงส้งแล้วล่ะ”
ส้งชิงเซวี๋ยนทำปากมุ่ย “เจ้าเด็กบ้านี่! เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่นึกเลยว่าจะไม่บอกตาเฒ่าอย่างฉันเป็นคนแรก! ก่อนหน้านี้ฉันบอกกับคุณว่ายังไง!? เจ้าเด็กบ้า! ยังดีที่ฉันรู้จากทางด้านแม่ของคุณแล้ว ไม่เช่นนั้นฉันก็คงอยากจะฟาดคุณจริงๆ!”
“ลุงส้งคลายความโกรธลงก่อน ตำหนิฉัน ครั้งหน้าเถอะ ครั้งหน้าฉันจะบอกคุณเป็นคนแรกอย่างแน่นอน” หลงเซียวกล่าวกับส้งชิงเซวี๋ยนอย่างอ้อมๆ
“ครั้งหน้าหรอ? ครั้งนี้ยังไม่คลอดนะ! หลอกลวงฉัน!”
“เหอะๆ ไม่กล้า”
เอสเอ็มเอสของหลงเซียวดังขึ้นอีกแล้ว ยังคงเป็นเจิ้งซิน “เสิ่นเหลียวต้องการผ่านการเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตอนุมัติพิเศษ ต้องการปรับแก้เขตเก่าของเมืองเจียงเฉิง เขตเก่าและกำลังดำเนินการก่อสร้างศูนย์กลางการค้าธุรกิจที่ขัดแย้งกับทั่วโลก” แท้จริงคือเรื่องนี้ใช่ไหม?
หลงเซียวกล่าว “ลุงส้ง คุณพักผ่อนให้เร็วหน่อยนะ ฉันกลับก่อนนะ”
“เชี่ย เจ้าหนุ่มนี่ กลับไปเป็นเพื่อนภรรยากับลูกหรอ? ได้ๆๆ ไปเถอะๆ”
ออกจากห้อง หลงเซียวก็ตอบกลับเอสเอ็มเอส “คุณเจิ้ง เรื่องง่ายขนาดนี้ก็จัดการไม่ได้หรอ? หลงผิดหวังกับคุณอย่างมาก”
ในคฤหาสน์เจียงเฉิง เจิ้งซินกัดริมฝีปาก โอบกอดหมอนอิง อ่านเนื้อหาเอสเอ็มเอสทีละคำๆ นานมาก เธอก็กลืนน้ำเสียงลงคอ
“ฉันเข้าใจแล้ว ส่งให้ฉัน”
เจิ้งซินคิดใช้วิธีนี้เพื่อให้หลงเซียวมาเจียงเฉิง ก็เพียงหวังว่าจะได้พบหน้ากับเขาก็เท่านั้น เห็นเขา แต่คำพูดที่พูดมาพักนึงของเขาหัวใจของเธอก็สั่นไปหมดแล้ว
——
ดวงจันทร์ตกดวงอาทิตย์ขึ้น สาดแสงเงินแสงทองวาววับบนท้องฟ้าของเมืองนคร
ลั่วลั่วตื่นขึ้นมา หลงเซียวก็นั่งอยู่ด้านข้างของเธอ คล้ายกับว่าตลอดทั้งคืนไม่ได้ออกห่างเลยแม้แต่ครึ่งก้าว
“ทำไมคุณยังอยู่อีก? ไม่ไปทำงานหรอ? ฉันจะหักสวัสดิการของคุณหากคุณยังอู้งานอีก!” ลั่วหานแกล้งทำเป็นโกรธ ใบหน้างดงามแจ่มใสกลับคืนมาสู่สภาพเดิม
“สวัสดิการอะไร?”
“เก็บคืนภรรยาที่ราวกับหยกดอกไม้!”
คำพูดของลั่วหานจบลง ภาพเงาของบุคคลนึงก็โน้มลงมาทันที ใบหน้าที่งดงามเข้ามาในระยะที่ใกล้มาก มากพอที่ให้ลั่วหานมองใบหน้านั้นหลายครั้งนับไม่ถ้วน แล้วยังถูกเขาเข้าใกล้อย่างฉับพลันทำให้ต้องหวั่นไหว
หลงเซียวค้ำแขนที่ตู้หัวเตียง น้ำเสียงที่ลึกลับเล็กน้อย พ่วงมาด้วยการใช้อำนาจคุกคาม “คุณกล้าหรอ?”
ลั่วหานกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย “คุณ…..ทำอะไร?”
หลงเซียวจูบปากของเธอเล็กน้อย “คุณพูดอะไรล่ะ?”
พ่อง!
“แค่กแค่ก!”
หมอซุนที่อยู่นอกประตูไอสองที แยกคนทั้งสองออกจากกัน โอบแฟ้มประวัติคนไข้ออกมาผิดเวลา
ลั่วหานกลั้นหัวเราะ
หลงเซียวยืดตัวขึ้นด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ ปล่อยผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอด กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หมอซุน คุณควรจะเปลี่ยนแว่นตาสักอันไหม? คนตัวตั้งใหญ่ขนาดนี้ก็มองไม่เห็นหรอ? ไม่เพียงแค่สายตาสั้น ยังจะตาถั่วอีกหรอ?”
หมอซุนรู้ตัวเองดีว่าเป็นส่วนเกิน ยิ้มทำใจดีสู้เสือทันที “งั้น……ฉันก็คงตาบอด”
ลั่วหาน: “……….”
หมอซุนทำการตรวจให้กับลั่วหาน “ทารกในครรภ์ไม่มีปัญหาแล้ว อาการสงบมั่นคงดีมาก วันนี้ตอนบ่ายก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
คำตอบนี้ไม่เลว หลงเซียวพอใจอย่างมาก
ลั่วหานหยอกเย้าเขา “หมอซุน คุณตาบอดแล้ว ฉันยังจะเชื่อคุณแบบนี้อีก งั้นฉันก็โง่สิใช่ไหม?”
หมอซุนหัวเราะเหอะๆ จับปากกาเอาไว้ไม่อยู่ “นี่…….”
หลงเซียวนำผ้าห่มห่มให้ลั่วหานดีแล้ว “คุณโง่แล้ว ฉันยังจะแต่งคุณมาเป็นภรรยา งั้นฉันจะกลายเป็นอะไร?”
เชี่ย…..แซวตัวเองจนติดเป็นนิสัยไปแล้วหรอ?”
หมอซุนกระซิบเบาๆว่า “คุณอยากรู้ล่ะก็ ประตูใหญ่แผนกอายุรกรรมประสาทเปิดไว้เพื่อคุณทุกเวลา”
แผนกอายุรกรรมประสาทก็คือสถานที่ที่ใช้รักษาโรคประสาทโดยเฉพาะ
ลั่วหานหัวเราะเยาะเย้ย “หมอซุน คุณรีบๆออกไปเถอะ!”
ฉากเล็กๆที่แต่งแต้มในช่วงเวลาเช้าตรู่ ในบรรยากาศที่ดีมาก หลงเซียวช่วยลั่วหานล้างมือ เช็ดหน้า เป็นเพื่อนเธอทานอาหารเช้าจนเสร็จเรียบร้อย
——
“ท่านประธาน กรณีการวางแผนแหล่งเงินทุนหมุนเวียนใหม่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายสองโมงจะจัดเปิดประชุมการประมูล” แอนดี้อ่านตารางกำหนดการให้หลงเซียวฟังเสร็จ เน้นย้ำเรื่องนี้เป็นสำคัญ
“โอเค ให้หยังเซินเตรียมรถ ฉันจะไปด้วยตัวเอง” หลงเซียวเซ็นต์ชื่อในเอกสาร นำเอกสารที่เซ็นต์เสร็จเรียบร้อยแล้วให้แอนดี้
“ค่ะ ฉันจะจัดการเดี๋ยวนี้”
แอนดี้ออกไป จี้ตงหมิงก็รีบเข้ามาติดๆ คนทั้งสองไหล่เฉียดกันที่ทางเข้าประตู สายตาปะทะกันชั่วขณะ คล้ายดั่งก้อนหินที่กระจายน้ำออกสาย
เสียงแก๊กๆจากรองเท้าส้นสูงของแอนดี้ไปไกลแล้ว จี้ตงหมิงจึงดึงจิตใจคืนมา
หลงเซียวสังเกตบางอย่างได้ชัดเจน กล่าวเชิงจริงจังเชิงล้อเล่นว่า “อาหมิง ครั้งที่แล้วที่แอนดี้ไปที่แห่งนั้นของคุณ ต่อมาไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?”
จี้ตงหมิงใบหน้าร้อนผ่าว ครั้งที่แล้ว….ครั้งที่แล้วผ่านมานานแค่ไหนแล้ว?
แต่ว่า…..ทุกครั้งที่คิดขึ้นมา หัวใจก็สั่นอย่างรุนแรง
“นั่น…….ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
หลงเซียวขมวดคิ้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น? เวลาสถานที่คนที่เหมาะสม คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น?”
จี้ตงหมิงตกตะลึง หันมามองเจ้านายตนเอง “นี่…….ความหมายของเจ้านายคือ?”
หลงเซียวให้เขาหยิบเอกสารมาก่อน ดูไปพลางพูดไปพลาง “ปีนี้คุณอายุเท่าไรแล้ว?”
จี้ตงหมิงยิ้มแหยๆด้วยความอาย “ฉัน……สามสิบสองแล้ว”
เนื้อหาเอดสารคือการรับซื้อของบริษัทไห่ลุน เขียนอย่างละเอียดแม่นยำมาก “สามสิบสองแล้ว คุณไม่รู้ว่าสามสิบปีต้องสร้างเนื้อสร้างตัวหรอ? วางแผนจะอยู่คนเดียวไปตลอดหรอ? เพื่อนสมัยเรียนของคุณ เด็กโตจนไปซื้อซีอิ๊วได้แล้วมั้ง?
จี้ตงหมิงเกาศีรษะ “นี่……นี่ก็ไม่สามารถเร่งรีบได้หรือเปล่า?
มีโอกาสเหมาะสม……ฉันค่อย…..ค่อยคิดวางแผนอีกครั้ง”
เจ้านาย คุณเป็นทุกข์กับเรื่องมากมาย เรื่องใหญ่การแต่งงานก็ใส่ใจด้วยหรอ?
ช่างเอาใจใส่ลูกน้องจริงๆ!
หลงเซียวกล่าวอย่างหยอกเย้าว่า “ทำไม? คุณจะรอให้บริษัทเปลี่ยนนโยบายสวัสดิการ ปลายปีจะแจกจ่ายภรรยาเป็นรางวัลพนักงานผู้ชายหรอ?”
จี้ตงหมิง: “……..”
เจ้านาย คุณยิ้มเย็นชาคำพูดก็เย็นชา
หลงเซียวเซ็นต์ชื่อในเอกสารเสร็จ ก็นำปากกาปิดเข้าปลอก “วันนี้มีคนส่งดอกกุหลาบให้แอนดี้ช่อนึง”
“ห๊ะ?! จริงหรอ? แอนดี้?” การตอบโต้ของจี้ตงหมิงรุนแรงมาก คล้ายกับเหยียบระเบิด
“ยอมรับแล้วหรอ? ว่าคุณชอบแอนดี้ แอนดี้เป็นผู้หญิงแกร่ง แต่คุณก็อย่าลืมนะว่า ผู้หญิงแกร่งก็คือผู้หญิง ก็ต้องการผู้ชาย ตอนนี้คุณไม่เคลื่อนไหว หลังจากนั้นคุณจะทำได้เพียงไปเมาในงานแต่งของเธอ ไตร่ตรองเอาเองเถอะ”
จี้ตงหมิงกัดๆริมฝีปาก เขาลังเลขาดความเด็ดเดี่ยวเกินไปจริงๆใช่ไหม?
เขา…..จะต้องบุกเข้าไปลองด้วยตนเองสักเล็กน้อยจริงๆใช่ไหม?
“ฉัน……จะพยายาม”
“ตอนบ่ายไปงานประชุมเปิดประมูลแหล่งพลังงานใหม่ด้วยกันกับฉัน” หลงเซียวเปลี่ยนหัวข้อสนทนา คว้าสูทที่อยู่ที่พนักพิงมาสวมใส่
“เจ้านายคุณต้องไปด้วยตัวเองเลยหรอ? ฉันไปก็พอแล้ว”
“คุณไปได้ละก็ ฉันก็คงไม่ต้องไป คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตู้หลิงเซวียน เขาเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว วันนี้ตอนบ่ายเป็นไปได้ที่ฉันและตู้หลิงเซวียนจะต่อสู้กันจนหยดสุดท้าย”
สวมเสื้อสูทแล้ว จัดระเบียบเน็คไท ภาพเงารูปร่างสูงใหญ่งดงามหยิ่งในศักดิ์ศรีดั่งต้นยูคาลิปตัสที่ลู่ลม
จี้ตงหมิงอยากจะด่าคนซะจริงๆ ในความเป็นจริงเขาก็ด่าออกมาจริงๆ “ตู้หลิงเซวียน?! เจ้าคนนี้อะไรล้วนก็สอดแทรกไปหมด! แม่ง! จะไปฆ่าเขาให้ตาย!”