ตอนที่ 618 เธอนี่มันปัญญาอ่อนหรือเปล่า
เกาจิ่งอานเปิดประตู โจวโร่หลินเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยใบหน้าที่มืดมน ดวงตากลมโตของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธและเปลวไฟที่อยู่ภายใน สามารถเผาผลาญผู้คนให้กลายเป็นขยะได้โดยทันที
เชี้ย จำเป็นต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ?
“แม่บ้านตัวน้อย มาได้ทันเวลาดีนะ” เกาจิ่งอานอิงไปที่ประตู ประตูเปิดอ้าไว้ แต่โจวโร่หลินไม่รีบที่จะเข้ามา เขาก็ไม่รีบที่จะให้เธอเข้ามาด้วยเช่นกัน ทั้งสองคุยกันด้วยมีประตูกั้นไว้ชั้นหนึ่ง
ฉันเกรงว่าถ้ามาช้า จะไม่มีใครเก็บศพของคุณ ท่านประธานเกา ” คำพูดของโจวโร่หลินมีบางอย่างซ่อนอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ยังคงร้อนเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เธอพูดออกมานั้นนี่ฆ่าคนตายจริงๆ
เส้นเลือดฟาดบนหน้าผากของเกาจิ่งอานกระโดดขึ้นอย่างแผ่วเบาและมือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ม้วนขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ“กินกระสุนปืนเข้าไปไง ถึงได้พูดไม่น่าฟังงี้ออกมา”
ในใจของโจวโร่หลินพูดว่า ไอ่ลุงแก่เอ้ย ฉันไม่ได้สาปในใจก็บุญแค่ไหนแล้ว ยังมาหาว่าฉันพูดไม่น่าฟังอีก ทำไมไม่รู้สึกรังเกียจกับสิ่งที่ตัวเองทำล่ะ!
แต่ยังดีที่นิสัยโจวโร่หลินดี เธอยิ้มด้วยอารมณ์ที่ดีมากจนเผยให้เห็นถึงฟันขาวเกลี้ยงเกลาของเธอ แต่ปลายฟันของเธอดูเหมือนฟันเสือขนาดเล็กที่มีความอาฆาตแฝงอยู่ “ ฉันมีอาวุธอยู่ในท้องฉัน จะเปิดตรวจสอบดูไหมล่ะ”?
เชี้ย! ปากร้ายกว่าที่เจอกันครั้งที่แล้วอีก ผู้หญิงเปลี่ยนได้ขนาดนี้เลยเหรอ วันละอย่าง ไม่เจอสามวันนี่ลอยฟ้าเลย?
เกาจิ่งอานหัวใหญ่ขึ้น เมื่อก่อนล้วนมีแต่ผู้หญิงเอาใจใส่เขา เกาะติดเขาจนจะถ่อมตัวให้อยู่แล้ว แต่ดูตอนนี้สิ ไม่มีอะไรแถมยังแย่ไปกว่าเดิมอีก ไอ้น้องเอ้ย เจอยัยซวยเข้าแล้ว
“โจวโร่หลิน ปากร้ายอย่างนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเอาเธอแล้ว รู้หรือเปล่า!”
เกาจิ่งอานอยากจะเปิดหัวของเธอดูจริงๆ ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน มีฟางยัดอยู่ข้างในหรือเปล่า
โจวโร่หลินไม่ได้หวั่นไหวกับการใส่ร้ายของเขาเลย แต่เธอกลับรู้สึกภาคภูมิใจและยิ้มอย่างมีชัย “ประธานเกา อันนี้ล่ะก็คงไม่ต้องรบกวนคุณหรอก”
แม้ว่าฉันจะไม่รวย แต่ฉันก็มีหน้าตาที่ดี มีความสามารถ มีหุ่น มีสติปัญญา ฉันตั้งใจทำงานเพิ่มศักยภาพของตัวเองขึ้นเรื่อยๆ อีกอย่าง บอสของฉันก็ชื่นชมฉันมากด้วย
ที่สำคัญก็คือ “ฉันยังสาวอยู่ ชีวิตฉันยังมีเรื่องอะไรที่เป็นไปได้อยู่มากมาย!และไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีผู้ชายจีบฉันหรือเปล่า ถึงในอนาคตฉันไม่แต่งงาน ฉันก็สามารถอยู่กับชีวิตฉันได้อย่างสวยงามด้วยตัวเอง! ”
“เชี่ย!!”
เส้นเลือดฝาดบนหน้าผากของเกาจิ่งอานกระโดดอย่างบ้าคลั่งขึ้นกว่าเดิม ยัยนังนี่ พูดถึงเรื่องยั่วให้โมโหแล้วนี่เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ ยังสาวอยู่? หน้าตา? หุ่น? สติปัญญา?
“ท่านประธานเกานี่ยังไม่ทันพูดก็ด่าคนแล้ว? มีกาลเทศะจริงๆ!” โจวโร่หลินกัดฟันบดเขี้ยว
“เธอหยุดนิ่งไว้ตรงนั้นนะ! อย่าขยับ”
เกาจิ่งอานลากโจวโร่หลินเข้ามาที่ประตูอย่างรุนแรง ปิดประตูลง แล้วกดไหล่ของโจวโร่หลินด้วยมือใหญ่ของเขา เพราะแรงที่ใหญ่ของเขาเลยกดโจวโร่หลินลง
ก้มหัวลง เขาตรวจเช็คเธออย่างละเอียด
หุ่น เขาเคยเห็น ถึงแม้จะเห็นไม่ชัด แต่ความรู้สึกจากการสัมผัสนี่ไม่มีจะพูดจริงๆ
ก็ได้ อันนี้ถือว่าผ่าน
หน้าตา … แม้จะเทียบกับระดับประเทศไม่ได้ แต่เธอก็เป็นคนที่น่ามองยิ่งมองยิ่งรู้สึกสบาย จนบางทีถ้าเผลอหันหลังกลับถึงกับ โอเค อันนี้ก็ถือว่าผ่าน
สติปัญญา ?
ให้ตายเถอะ! เธอมีสติปัญญาเหรอ!หลายต่อหลายครั้งเมาหนักจนบังคับเธอมานอนด้วย เธอก็แค่กัดมาคำหนึ่งละตื่น หลังเกิดเรื่องก็ยังหาเธอไปตั้งหลายต่อหลายรอบ สมองนี่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ !
เขาไม่มีสติปัญญาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว! ไม่ผ่าน!
“โจวโร่หลิน เธอปัญญาอ่อน!”
หลังกลั้นมาครึ่งวัน เกาจิ่งอานก็กลั้นคำนี้ออกมา
โจวโร่หลินกัดฟัน “ประธานเกา ฉันว่าบนตัวคุณไม่เป็นอะไรตั้งแต่ต้นแล้ว ฉันกลับละ !”
“เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เกาจิ่งอานคว้าแขนเธออีกครั้งแล้ว แล้วกระแทกคนลงบนโซฟา
“พ้ม” เสียงคนกระแทกลงบนพื้น หลัง กระแทกลงไปที่หนังโซฟา เด้งขึ้นไม่กี่เซนติเมตรแล้วเด้งกลับไป แม้งเอ้ย กระแทกจนเละหมดแล้ว!
“เกาจิ่งอาน นายทำอะไร! อยากกระแทกฉันจนเละเหรอ?!”
เกาจิ่งอานโมโหจนไฟที่หัวจะลุกขึ้น
คนแรก!เธอเป็นคนแรกที่กล้าพูดแบบนี้กับเขา,เธอกล้าได้ไง!
“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ฉันหิว ไปทำกับข้าว” เกาจิ่งอานลากโจวโร่หลินจากที่ล้มอยู่ขึ้นมา ทำอย่างกับโจวโร่หลินเป็นของเล่นที่ลากเล่น
“ฉันจะกัดนายให้ตาย!”
โจวโร่หลิน คว้าแขนของเกาจิ่งอานมาอ้าปากกัดด้วยความโกรธ
“อ๊าก!”
ปากของเธอยังไม่ทันเตะปากของเขา เกาจิ่งอานก็กดหน้าผากของเธอด้วยมือใหญ่ และบังคับดึงศีรษะของเธอขึ้นสูงหัวของ โจวโร่หลินถูกบิดและยกขึ้นสูงใบหน้าของเธอยิ้มด้วยฟันที่แสยะ
“ปล่อย ฉัน นะ!!”
โจวโร่หลินใช้ทั้งมือและเท้าร่วมกันเตะไป แต่ยังไงเธอก็เตะไม่โดนเกาจิ่งอานได้เลย เธอพยายามอย่างเต็มที่เหมือนกระต่าย แต่เขาก็ควบคุมเธอจนตายได้อย่างง่ายดาย
แม่งเอ้ย!!
สุดท้ายโจวโร่หลินก็พ่ายแพ้ สู้จนผมยุ่งไปทั้งหัว ใบหน้าแค้นจัด “เกาจิ่งอาน นายหายดีแล้ว ไอ่คนหลอกลวง!”
กล้ามเนื้อกระตุกเป็นพัก ๆ … โอ้ย! “จู่ๆเกาจิ่งอานก็บีบเอวก้มลงอย่างเจ็บปวด “พยุงฉันเร็ว! ”
โจวโร่หลิน:“……”
นายแสดงได้ปลอมกว่านี้อีกได้ไหม?
“เครเครเคร!” โจวโร่หลินรับปากละไปพยุงเขา มือทั้งสองกางออก “โอเคร นั่งลงได้ละ”
“เพี้ย!”
ก้นเกาจิ่งอานยังไม่ทันลงโซฟา โจวโร่หลินปล่อยมือออกทันที ตัวเขาเสียความคงตัวเลยล้มลงที่พื้นอย่างเต็มๆทั้งตัว
เคอ ทีเดียวที่ล้มนั่น ฟังจากเสียงแล้วคงพิการแน่ๆ
“เชี่ย!” เกาจิ่งอานเจ็บจนหลุดคำหยาบออกมาจากปาก มือดันพื้นไว้จะลุกขึ้น แต่เจ็บเกินจนยังไงก็ลุกไม่ขึ้น ใบหน้าอันนิ่งเบี้ยวไปเพราะความเจ็บ
โจวโร่หลินตะโกน “ไอ๊หยา ประธานเกานี่ควรลดน้ำหนักแล้วหรือเปล่า พูดจริงๆนะ นายหนักไปแล้ว ฉันพยุงไม่ไหวตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหม ลุกขึ้นไหวไหม?”
ลุกขึ้นมาได้ไหมเนี่ย?
พูดเป็นหรือเปล่า? ถ้าไม่เป็นก็รีบหุบปากสัก!
แผลฉีกที่เอวเขาจะว่าหนักก็ไม่หนักแต่จะว่าเบามันก็ไม่เบา ล้มครั้งนี้ก็ถือว่าแรงอยู่
โจวโร่หลิน ผู้หญิงอย่างเธอนี่ ฉัน ชอบได้ไงเนี่ย!
“วันซวยหมานี่แม่งพอได้สักที!”
เกาจิ่งอานลุกขึ้นยืนบนโซฟาและขยับตัวขึ้นไป เขารู้สึกปวดไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว เหงื่อเย็นๆก็ไหลออกจากหลัง
โจวโร่หลินแบมือ “ประธานเกา คำพูดนี่ก็พูดไปเรื่อยไม่ได้นะ… คุณก็ต้อง พิจารณาความรู้สึกของหมาสักบ้าง”
เกาจิ่งอาน:“……”
โดนว่ากลับจนไม่มีอะไรจะพูดต่อ
ควันดินปืนอัดแน่นเป็นเวลานานอยู่สักพักใหญ่ๆ และในที่สุดทั้งสองก็สงบลง
โจวโร่หลินสังเกตเห็นท่าทางที่เกาจิ่งอานเจ็บอยู่ น้ำเสียงเบาลงเล็กน้อย“ เฮ้ นายจะไปโรงพยาบาลหรือเปล่า เป็นอะไรมากไหม?”
ตอนรับสายโม่หรูเฟย เกาจิ่งอานยังไม่โมโหขนาดนี้เลย ไฟในตัวของเขาถึงจุดที่สุดที่แล้ว ในมือกดเข้าที่ขมับอย่างรุนแรง “โจวโร่หลิน……”
เขาพบว่าเขาพูดอะไรไม่ออกมาแล้ว
“เอิ่ม ฉันอยู่”
เกาจิ่งอาน:“……”
โจวโร่หลินเห็นว่าริมฝีปากของเขาเป็นเริ่มเป็นสีดำและแสงในดวงตาทั้งสองก็เริ่มหายไป เลยรีบพูดว่า “งั้นไรนะ ฉันไปทำกับข้าวให้นายละ นายชอบกินอะไร”
เกาจิ่งอาน:“……”
คนอะไรเนี่ย!
“งั้น อาหารจานเนื้อหรืออาหารเจ? รสชาติไปทางหวานหรือเผ็ด?”
เกาจิ่งอานค่อยๆเงยหน้าขึ้น เขาโมโหสุดขีดจริงๆ ปากกระตุกเล็กน้อย“……”
“ฉันไปทำกับข้าว ฉันทำอะไรนายก็กินอะไร”
โจวโร่หลินรีบซิ่วไปที่ห้องครัว เหลือแต่เกาจิ่งอานที่ยังนั่งมึนงงตรงโซฟา
วงจรสมองกลับเส้นหรือเปล่าเนี่ย? โหมดการคิดช่างน่าทึ่งจริงๆ
รีสอร์ทหยีจิ่ง
เวลาเก้านาฬิกา มีไฟรถส่องเข้ามาจากด้านนอกวิลล่า ทำให้ต้นไม้สีเขียวในสนามสว่างขึ้นมาทันที
“คุณหญิง คุณชายกลับมาแล้ว! “คนรับใช้วิ่งไปที่ห้องโถงด้วยความรีบร้อน เปิดประตูออกด้วยมือทั้งสองข้าง ทันทีลมก็กระชัดเข้ามาในห้อง พัดไปที่มุ้งลวดของหน้าต่างและเสื้อผ้า ผมของลั่วหาน
ใบหน้าของลั่วหานปรากฏรอยยิ้มที่สบายขึ้น เดินไปต้อนรับหลงเซียว เฝ้าดูเขาที่มาจากไกลสู่ใกล้ ทั้งตัวถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์สีขาว
“สามี!”
ลั่วหานตะโกนออกมาด้วยความดีใจราวกับภรรยาตัวน้อยที่กำลังรอสามีกลับบ้านที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ เธอตะโกนสองคำนั้นออกมาอย่างมีความสุข
หลงเซียวก้าวเดินมาอย่างรวดเร็ว รีบร้อน แค่แปปเดียวก็ก้าวขึ้นบันไดมาแล้ว ค่อยๆประคองลั่วหานมาที่แขนของเขา ก้มหัวลงมองเธอด้วยสายตาที่เอ็นดู พูดเสียงต่ำๆเบาๆลงที่ข้างหูเธอ “ยืนรอฉันอยู่ตรงนี้ ไม่รู้หรือว่าฉันจะรู้สึกสงสาร? ข้างนอกลมแรง เดี๋ยวเป็นหวัดทำไง?”
ลั่วหานยกคางขึ้น ทั้งดวงตาเธอมีแต่เขาเต็มไปหมด “งั้นคุณก็กอดฉันให้แน่นๆ”
“ยิ่งอยู่ยิ่งขี้อ้อนเป็นแล้ว หื้ม? “หลงเซียวยิ้มและบีบไปที่จมูกของเธอ แต่แรงที่มือก็แน่นขึ้นกว่าเดิมแล้ว”
“โอเคโอเค ไม่อ้อนแล้ว” ลั่วหาน ก็ใช่ว่าอยากเกาะติดกับเขาอยู่จริงๆ เธอออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย พูดอย่างจริงจังว่า วิดีโอของเควินฉันได้ดูแล้ว เห็นใจเขาจริงๆ
หลงเซียวพยักหน้า ทั้งสองเดินเข้าประตู หลงเซียวได้กลิ่นกับข้าวทั้งโต๊ะ “เธอยังไม่กินข้าวเหรอ?”
ลั่วหานทำปากเล็กน้อย” กินแล้ว แต่ฉันตั้งครรภ์อยู่ หิวง่าย เพราะฉะนั้นก็จะกินกับคุณอีกรอบหนึ่ง”
หลงเซียวจะเชื่อเหรอ?
“ต่อไปก็ไม่ต้องรอฉัน ข้าวเย็นก็กินตามเวลาของเธอเลย ช่วงนี้งานที่บริษัทเยอะ ” หลงเซียวจับมือของลั่วหานไว้ ทั้งสองก็นั่งลงข้างๆกัน
คนรับใช้วางจาน ตะเกียบไว้ให้เรียบร้อย แล้วตักข้าวใส่
ลั่วหานว่า “วิดีโอขอโทษของเควิน คุณไม่มีอะไรที่อยากพูดเหรอ?”
หลงเซียวใช้ผ้าฆ่าเชื้อเช็คมือของตัวเองและลั่วหาน “เขา? คุณภรรยา หัวข้อที่มีผลต่อความยากอาหารอย่างนี้ เรากินเสร็จคอยพูดกันได้ไหม?”
ลั่วหานยิ้มแบบมองบน “ทำเป็น!”
“บางที ทำเป็นก็เพื่อความสัมพันธ์”
ลั่วหาน:“……”
ไปเรียนเรื่องไร้สาระพวกนี้มาจากไหนเนี่ย?
หลงเซียวถือตะเกียบหนีบผักขึ้นฉ่ายฝรั่งชิ้นหนึ่งขึ้นวางไว้บนจานให้ลั่วหาน พูดขึ้นมาด้วยความไม่ตั้งใจว่า “สุดสัปดาห์นี้หยุดไหม?”
ลั่วหานกัดผักไปคำหนึ่ง “สุดสัปดาห์นี้ หยุดสิ ช่วงนี้ที่แผนกยุ่งมาก ทางโรงพยาบาลเลยจัดวันหยุดให้สองวัน ไม่ได้หยุดสองวันงี้มานานมากแล้ว”
หลงเซียวคีบเนื้อปลาให้เธออีกครั้ง “มีแพลนอะไรไหม?”
ลั่วหานกัดเนื้อปลาไปคำหนึ่ง ก้างปลาถูกเขาเอาออกหมดจนสะอาด เนื้อปลาสีขาวนี่ช่างนุ่มอร่อยถูกปากจริงๆ ล่าสุดยังไม่มี คงนอนตื่นสายอยู่ที่บ้าน ลั่วหานยิ้ม การนอนตื่นสายเป็นเรื่องที่หรูหราสำหรับชาวพนักงาน
หลงเซียวพอใจกับคำตอบของเธอมาก ตัวเองก็กินผักไปคำหนึ่ง เคี้ยวอย่างช้าๆ “วันหยุดยังไม่ต้องวางแพลนอะไร เดี๋ยวเราไปที่ๆหนึ่งกัน”
ปากของลั่วหานเต็มไปด้วยข้าวกับผัก จนทำให้หน้าฝั่งซ้ายกลมขึ้นเป็นวงกลม “หือ?จะไปไหน?”
หลงเซียวเช็ดน้ำมันที่ติดอยู่บนมุมปากของเขานิดหน่อยออด ทำท่าทางลึกลับ “เดี๋ยวไปแล้วเธอก็รู้เอง เชื่อฉัน รับรองไม่ทำให้ผิดหวังแน่”
เชื่อ! เธอเชื่อแน่นอน!