ตอนที่ 643 ล้วนทำเพื่อคุณทั้งนั้น
วันรุ่งขึ้น หลงเซียวกับลั่วหานกลับไปก่อน คนที่เหลือยังอยู่ในบ้านพัก
นั่งเข้าไปในรถ ลั่วหานก็ใช้ipadค้นหาข้อมูล ค้นเจอข้อมูลผู้ป่วยเก่าๆ ยังทำการประชุมกับทีมแพทย์ทางโทรศัพท์
หลงเซียวไม่อยากให้ลั่วหานไปกังวล จึงบังคับเก็บipad “พอแล้ว เวลาทำงานห้ามเกินหนึ่งชั่วโมง ไม่อย่างนั้นผมไม่ให้คุณไปโรงพยาบาล พวกเรากลับบ้านกัน”
ลั่วหานจะไปแย่ง แต่หลงเซียวหลบ “ครั้งนี้มันพิเศษหน่อย ให้ฉันยุ่งเสร็จค่อยเก็บได้ไหม?”
“ลั่วลั่ว คุณเป็นหมอแผนกหัวใจ นี่มันไม่ใช่ความชำนาญของคุณ
“ฉันเป็นหมอทุกแผนก แต่ด้านหัวใจเป็นหลัก เป็นผู้หญิงด้วยกัน เรื่องร่างกายผู้หญิงฉันก็ชำนาญ”
“……” หมอทุกแผนก? หมอฉู่คนเก่งมหาลัยนี่เรียนอะไรกันแน่?
รถขับมาได้ครึ่งทางแล้ว หลงเซียวได้แต่เงียบและมองดูลั่วหานยุ่งอยู่กับงาน ก็พอคิดออกว่าเธอไปถึงโรงพยาบาลแล้วจะยุ่งขนาดไหน เพราะฉะนั้นก็ปฏิเสธคำขอของเธอ “ตอนนี้คุณต้องพักผ่อนดีๆ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง สะสมพลังไว้ ถึงโรงพยาบาลค่อยทำงาน”
หลงเซียวปิดเครื่องแล้วเก็บใส่ลิ้นชัก
ลั่วหานยิ้มอย่างเอือมระอา “ก็ได้ ฉันฟังคุณก็ได้ ฉันนอน คุณกอดฉัน”
ใบหน้าหลงเซียวถึงมีรอยยิ้มได้ รวบผมของลั่วหานแล้วกอดเธอไว้กลางอก “อืม ผมกอดคุณนอนดีๆ”
พูดว่านอนดีๆ แต่โทรศัพท์หลงเซียวดังขึ้น เสียงดังขึ้นมากะทันหัน ต่อจากคำพูดเมื่อกี้ มันดูเสียดสี
ลั่วหานแอบยิ้ม
หลงเซียวรู้สึกหน้าเสีย ก้มหน้าดูเบอร์หน้าจอ เป็นเบอร์ที่ต้องรับสาย หลงเซียววางหมอนใต้หัวลั่วหาน จูบหน้าผากเธอ “คุณนอนก่อน ผมรับโทรศัพท์แป๊บหนึ่ง”
“ได้”
คนที่โทรมาคือจางหย่ง
จางหย่งถึงเมืองหลงแล้ว ช่วงนี้กำลังยุ่ง “บอส สะดวกรับสายไหมครับ?”
หลงเซียวทำเสียงอืม “พูดได้”
ลั่วหานเห็นเขารับโทรศัพท์อย่างตั้งใจ เลยแอบเอามือยื่นไปข้างหลังเขา เปิดลิ้นชัก แอบเอาคอมออกมา
เหมือนหลงเซียวมีตาอยู่ข้างหลัง ใช้มืออุ่นของเขากดบนหลังมือของลั่วหานไว้ ยิ้มแต่ดูจริงจัง
ลั่วหานยิ้มแห้งๆ ใช้รูปปากพูด “แป๊บเดียว”
หลงเซียวไม่สนเธอ วางคอมไว้ข้างตัว กดมือเธอไว้ตรงขา ทำให้เธอล้มเลิกความตั้งใจในการแอบทำงานของเธอ
จางหย่งไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทำการรายงานเรื่องงานต่อ “บอส เหลียงหยู้คุนตื่นแล้ว กล้องวิดีโอที่ผมติดตั้งไว้โรงพยาบาลแสดงส่งข้อมูลกลับมา เหลียงหยู้คุนโกรธมาก โกรธจนจะบ้าตาย”
ลั่วหานเงยหน้าดูเขาคุยโทรศัพท์ กะพริบตาใส่เขา แสดงให้รู้ว่า คุณทำงานได้กลับไม่ให้ฉันทำ ไม่ยุติธรรม
ใครจะไปรู้ คราวนี้หลงเซียวกดตัวลั่วหานลงบนโซฟา ห่มผ้าให้เธอ ยังใช้มือปิดตาเธอไว้
ก็ได้ ทีนี้ลั่วหานก็ทำการคัดค้านอะไรไม่ได้อีกแล้ว ได้แต่หลับตานอน
เสียงต่ำหลงเซียวพูด “พูดต่อ”
จางหย่งนั่งอยู่บนโซฟา หาวไปทีหนึ่ง แล้วก็ดื่มกาแฟไปคำหนึ่ง “เหลียงหยู้คุนกำลังสืบหาร่องรอยสินค้าอยู่ เหลียงหยู้คุนสั่งการลงไป ถ้าหาของไม่เจอพวกเขาตายแน่”
เหอะ
หลงเซียวพูดต่อเสียงเรียบ “ถ้าแบบนี้แล้ว ก็หมายความว่าเหลียงหยู้คุนหมดขนทางแล้ว”
จางหย่งหัวเราะเสียงดัง ใส่ลูกอมเข้าปาก ใช้ลิ้นลิ้มรสหวานของลูกอม “ใช่เลย ฮาๆ คนของเหลียงหยู้คุนไปขอความช่วยเหลือจากคนคนหนึ่งแล้ว คนนั้นคุณต้องอยากรู้แน่นอน”
“ออ? ใคร?”
รถหักเลี้ยว ใกล้ถึงโรงพยาบาลหวาเซี่ยแล้ว สำหรับลั่วหานที่ถูกหลงเซียวกดไว้ เหมือนจะหลับแล้ว
“พ่อของคุณ ประธานบริษัทMBK คุณหลงถิง” จางหย่งกัดลูกอมในปากแตกเป็นชิ้นเล็กๆ หัวเราะอย่างกับนักเลง
แบบนี้นี่เอง เหลียงหยู้คุนกับหลงถิงทำธุรกิจด้วยกัน สมรู้ร่วมคิดกันลับหลังก็ไม่แปลก ขอแค่เหลียงหยู้คุนไม่สมองเสื่อมเอาของเขาออกไป เขาก็หลับหูหลับตาได้
“แล้วผลเป็นยังไง?”
จางหย่งหัวเราะต่อ “ผล……ผลก็คือพ่อของคุณโทรหาเกาจิ่งอานจะเอาของ ยังบอกให้เกาจิ่งอานเสนอราคาเต็มที่ ตอนนั้นเกาจิ่งอานน่าจะโกรธน่าดู เลยวางสายพ่อของคุณ”
ออ?
คำนวณเวลาแล้ว เวลาที่หลงถิงโทรหาเกาจิ่งอาน น่าจะเป็นตอนที่เกาจิ่งอานอยู่โรงพยาบาล พี่สาวตัวเองป่วยหนัก เขาก็ต้องไม่มีอารมณ์คุยกับใคร
“บอส ตอนนี้จะเอายังไงต่อ? เหลียงหยู้คุนกำลังเตรียมต่อต้าน บ่อนที่มาเก๊าวุ่นวายไปหมด เขาต้องลงมือกับบอสแน่ อีกอย่างผมว่ารอบนี้เหลียงหยู้คุนต้องลงมือหนักแน่”
สายตาอ่อนโยนของหลงเซียวมองลั่วหานที่หลับไป แล้วก็มองเห็นประตูทางเข้าของหวาเซี่ย พูดกับหยังเซินเสียงเบา “อย่าเพิ่งปลูกเธอ ให้เธอนอนจนอิ่ม”
หยังเซินพยักหน้า “ครับ”
คนถึงหน้าประตูโรงพยาบาลแล้ว กลับไม่ปลูกจะให้นอนจนอิ่ม เอาแต่ใจจริง
หลงเซียวพูด “ตอนนี้เหลียงหยู้คุนมีคนอยู่ทุกฝั่ง ถ้าปะทะกันซึ่งหน้าไม่มีอะไรดีกับเรา แต่ว่า…..” เขายื่นมือมาดีดนิ้ว หัวเราะพูด “แจ้งสถานีตำรวจ หาตำรวจเจิ้งซิ่วหยา บอกเขาว่าช่วงนี้มีคนค้ายาในจีน ให้เขาเข้าไปสืบค้น”
จางหย่งจะกระอักเลือด โอ้โห วิธีนี้สุดยอด
“ได้ ผมจะแจ้งเดี๋ยวนี้ ขอแค่จีนกดดัน สินค้าของเขาก็จะไม่กล้าเข้ามา อีกอย่าง…..เหอะเหอะ ถ้าไม่ได้จริงๆก็บอกมีคนกดดัน จะพูดให้มันสะอาดหรือสกปรก ก็ขึ้นอยู่กับเรา”
หลงเซียวหัวเราะ สายตาเหมือนมีลมอุ่นพัดผ่าน “ใช่ ทำตามนี้”
เวลานี้ จะเอาเหลียงหยู้คุนให้อยู่ไม่ใช่ปัญหาแล้ว
เมื่อลั่วหานตื่นมาก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอดึงแขนหลงเซียวมาดูเวลา พูดขึ้นอย่างตกใจ “สายขนาดนี้แล้ว พวกคุณจอดนานแค่ไหนแล้ว?”
หลงเซียวยักไหล่ “พวกเราเพิ่งถึง รถติด ติดไปครึ่งชั่วโมง คุณตื่นได้พอดีเลย พวกเราขึ้นไปกันเถอะ”
หยังเซิน “……”
ท่านประธานนะ โกหกเก่งจริงๆ
ลั่วหานไม่ได้ติดใจ หลงเซียวพยุงตัวขึ้นบันได ทั้งสองเดินเข้าลิฟต์ท่ามกลางสายตาของผู้คน เข้าไปถึงเขตห้องผู้ป่วยVIP
หน้าห้องที่เกาหยิ่งจือนอนพักมีตำรวจสองนายคอยเฝ้าไว้ ดูแล้วแม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็เข้าไปไม่ได้
ตำรวจเห็นหลงเซียว ก็พูดขึ้นอย่างเกรงใจ “คุณหลง คุณนายหลง”
หลงเซียวพยักหน้า “ลำบากพวกคุณแล้ว”
ลั่วหานมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ ลำบาก? คำพูดนี้……ออกมาจากปากหลงเซียว?
ตำรวจก็รู้สึกปลื้มใจ “ไม่ครับ ไม่ครับ ไม่ลำบาก”
หลงเซียวพูดกับหยังเซินที่ยืนอยู่ด้านข้าง “ตำรวจสองท่านนี้อยู่เวร คงยังไม่ได้กินข้าว พาพวกเขาไปกินข้าว”
ทั้งสองคนมองหน้ากัน “คุณหลง พวกเราอยู่เวร ออกจากหน้าที่ต้องโดนทำโทษ ท่านกับภรรยาเข้าไปเถอะครับ”
หลงเซียวยืนหยัดพูด “กฎระเบียบอะไร? ออ กลัวผมพาคนออกไปเหรอ? ผู้อำนวยการพวกคุณอยู่ที่สถานีไหม? เดี๋ยวผมโทรไปอธิบายกับเขา”
ผู้อำนวยการ?
ผู้อำนวยการพวกเขายศสูงกว่าพวกเขาตั้งกี่ขั้น พวกเขาจะกล้าให้ไปรบกวนถึงท่านได้ยังไง จึงรีบพูดขึ้น “ไม่ใช่ ไม่ใช่ คุณหลง พวกเราเชื่อมั่นในตัวคุณอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้น……พวกเราไปกินข้าว คุณหลงก็ระวังเวลานิดหนึ่งนะครับ”
ก็แค่ไปกินข้าว เพื่อให้ความสะดวก
หลงเซียวยิ้ม “แน่นอน”
ทั้งสองจากไป ลั่วหานถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมคุณต้องให้พวกเขาไปด้วย? เราไม่ได้จะปล้นนักโทษสักหน่อย”
หลงเซียวหัวเราะ ขยี้ผมเธออย่างรักใคร่ “โง่ไหมเนี่ย? ถ้าพวกเขาได้ยินว่าอาการป่วยของเกาหยิ่งจือไม่ถึงแก่ชีวิต อีกหน่อยอยากประกันตัวเกาหยิ่งจือออกมา มันก็ค่อนข้างยาก”
“ออ?” ลั่วหานเบิกตากว้าง “คุณ……คุณหมายความว่าจะประกันตัวเกาหยิ่งจือออกมา?”
หลงเซียวไม่ได้ตอบโดยตรง “เตรียมตัวด้านนี้ก่อน ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูด เกาหยิ่งจือกลายเป็นคนดีแล้ว ผมก็จะเห็นแก่คุณกับเกาจิ่งอานจะช่วยประกันตัวเธอ ใช้โอกาสนี้เธอจะได้ไม่ต้องกลับเข้าคุกอีก”
ลั่วหานรู้สึกอบอุ่นที่ใจ อบอุ่นมาก
“ได้ ขอบคุณนะคะ ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ขอบคุณมาก”
“เด็กโง่ ไม่เข้าไปเยี่ยมเธอหน่อย?”
ล้วนทำเพื่อคุณ เด็กโง่
“ค่ะ เข้าไป”
ผลักประตูห้องเข้าไป เกาจิ่งอานนั่งอยู่บนโซฟา มีหมอหลายคนยืนอยู่ข้างๆ กำลังพูดคุยอะไรกันอยู่
เห็นหลงเซียวกับลั่วหานเข้ามา ทุกคนก็หยุดพูด แล้วหันมาทักทายหลงเซียว
“สวัสดีคุณหลง”
“คุณหลง”
หลงเซียวพยักหน้าตอบ มองไปที่เกาจิ่งอาน ก็เห็นเขาตาแดงอ่อนเพลีย “เมื่อคืนไม่ได้นอน? พี่สาวนายอาการยังไม่ค่อยดี น่าจะพักผ่อนดีๆ เดี๋ยวฉันหาคนมาดูแลให้24ชั่วโมง นายพักผ่อนหน่อย”
เกาจิ่งอานรู้สึกอารมณ์หงุดหงิดมาก พยักหน้า “ครับ”
ตอบรับแล้วก็ไม่ได้กลับไปพักจริงหรอก
เกาหยิ่งจือมีสติดี เธอได้ยินเสียงของหลงเซียวกับลั่วหาน ก็ลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยล้า น้ำเสียงเย็นชา “พวกคุณมาแล้ว”
หลงเซียวเอามือใส่ในกระเป๋ากางเกง “ลั่วหานรีบมาเยี่ยมคุณจากบ้านพักตากอากาศ เพราะอาการป่วยของคุณ เธอไม่ได้นอนมาทั้งคืน ค้นหาข้อมูลมาตลอดทาง”
หยุดไปนิดหนึ่ง เขาไม่สนสายตาประหลาดใจของคนรอบด้าน พูดต่อ “ตอนแรกผมก็ไม่อยากช่วยคุณ แต่ลั่วหานทนดูคุณทรมานไม่ได้ ผมทนดูลั่วหานกังวลไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมจะลืมเรื่องเก่าๆไปชั่วคราว คุณก็ให้ความร่วมมือในการรักษา คุณก็อย่าให้น้องชายกับภรรยาผมผิดหวัง”
ลั่วหานฟังจนงง คุณหลงคุณพูดอะไรเนี่ย?
แต่ว่า ฟังดูแล้วก็มีเหตุผลดี ชมเธอก่อน ให้เกาจิ่งอานซาบซึ้งในใจ ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำในอดีต
อีกส่วนหนึ่งก็ให้กำลังใจเธอในการรักษา อย่าท้อแท้
ยังพ่วงไปถึงเกาจิ่งอาน ญาติคนเดียวของเธอ
ก็ได้ คุณหลงคุณพูดเก่งมาก
สีหน้าเกาหยิ่งจือรู้สึกผิด หลบสายตาไปทางอื่น “ขอบคุณมาก ฉันจะทำตาม”
สีหน้าอันเหน็ดเหนื่อยของเกาจิ่งอานเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมา “ของคุณมากพี่ใหญ่ พี่ไม่ถือสาเรื่องในอดีต ผมขอบคุณมาก”
ลั่วหานทำเสียงไอ แทรกขึ้นมา “พอแล้ว คำพูดพวกนี้รอคนป่วยหายดีแล้วค่อยพูด ตอนนี้เราจะดูอาการป่วยของคนไข้แล้ว คุณสุภาพบุรุษรบกวนออกไปรอนะคะ”
หลงเซียวกับแก้มลั่วหาน พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน “ผมรอคุณข้างนอก ดึกแค่ไหนก็รอ”
ลั่วหานพยักหน้า ยิ้มอย่างมีความสุข “อย่าต่อยคน รอฉันออกไป”
ต่อยคน? คนที่เขาอยากต่อยที่สุดคือตัวเอง ไม่ควรให้เธอมา
หลงเซียวกับเกาจิ่งอานเดินออกจากห้อง เหลือลั่วหานกับหมออีกหลายคนเพื่อดูอาการเกาหยิ่งจือ
ลั่วหานดึงเสื้อเกาหยิ่งจือขึ้น ก้มตัวไปตรวจดูร่างกายของเธอ ใช้มือคลำตรวจดู ลั่วหานขมวดคิ้วแน่น เงยหน้าขึ้นมองผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอก พูดขึ้นเสียงต่ำ “ทำไม่เป็นแบบนี้?”