บทที่ 288 ประสาทแห่งฮาเร็มได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว!
เมืองแห่งการศึกษา โรงเรียนเขต7 ณ บ้านวู่หยานที่แต่เดิมเงียบสงบทันใดนั่นเอง
ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้น!
“แงงงง!!!!”
ภายในบ้านตรงห้องรับแขกได้มีเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังนอนดิ้นไปมาบนโต๊ะโดยที่
เท้าก็เตะไปรอบๆ เจ้าของเสียงที่กำลังงอแงอยู่ก็คือฟราน!
ฮินางิคุ มิโคโตะ แอสเทรีย เฟรนด้า คินุฮาตะ และทาคิสึโบะ เหล่าหญิงสาวทั้งหก
ต่างก็กำลังยกมือปิดหูกันด้วยสีหน้าทรมาน มีเพียงแค่อิคารอสที่ยืนนิ่งมองฟราน
ร้อง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอไม่สนใจหรือเป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไง……
ฮินางิคุ มิโคโตะหันมามองตากันภายในแววตาทั้งสองนั่นเต็มไปด้วยความจน
ปัญญา นอกจากวู่หยานก็มีพวกเธอสองคนที่รับหน้าที่ดูแลคนในบ้าน แต่กับเด็กที่
กำลังร้องไห้ทั้งสองไม่รู้จริงๆว่าควรจะรับมือยังไง
อย่าว่าแต่พวกเธอสองคนเลย สาวๆคนอื่นทั้งหมดก็ไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก
ถึงแม้ ฮินางิคุ และ มิโคโตะ จะเคยดูแล ลิลิน อยู่ช่วงนึง แต่ลิลินเป็นเด็กดีเชื่อฟัง
ไม่ก่อปัญหา ดังนั้นสองสาวจึงทำไรไม่ถูกพอเจอเด็กอย่างฟราน
ฮินางิคุปวดหัวจี๊ดมองดูฟรานที่ดิ้นแด่วๆอยู่บนโต๊ะ จากนั้นเธอก็ก้าวเท้าไปหาแล้ว
พูดว่า “ฟรานเป็นเด็กดีนะช่วยหยุดร้องก่อนได้มั้ย?”
“ไม่เอา!ไม่เอา!ไม่เอา!”
ฟรานไม่ฟังแม้แต่น้อย เธอยังคงนอนดิ้นบนโต๊ะเท้าถีบไปทั่วและมือก็ป่ายปัดไป
รอบด้าน ทำให้ ฮินางิคุ กับ มิโคโตะ ไร้หนทางที่จะเดินเช้าใกล้
“ฉันต้องการโอนี่จัง! โอนี่จังคนเดียว! ฟรานต้องการโอนี่จัง!” (@ฟรานจังจะใช้คำ
ว่า ‘หนู’เฉพาะกับวู่หยานหรือคนที่ไว้ใจ)
ใช่แล้ว นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฟรานต้อลงมาดิ้นบนโต๊ะล่ะ!
ฟรานผู้ซึ่งได้มายังโลกแปลกใหม่ได้เจอผู้คนที่ไม่รู้จักและไม่มีคนของคฤหาสน์มาร
แดงเลยแม้แต่คนเดียว คนที่เธอพึ่งพาได้จึงมีแค่คนที่พบเจอกันเมื่อวาน ซึ่งได้
กลายเป็นคนที่สำคัญมากๆสำหรับเธอไปแล้ว!
บางทีอาจเป็นเพราะพลังถูกปิดผนึกไป ทำให้ความรู้สึกที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นของฟราน
มันรุนแรงขึ้น แต่จากอีกมุมมองนึงนี่ก็เป็นเรื่องปกติ
ลองคิดดู ถ้าเกิดเด็กคนนึงโดนผู้ปกครองพามาอยู่ในบ้านที่ไม่คุ้นเคยจากนั้นก็หาย
หัวไป แล้วคิดว่าเด็กคนนั้นจะรับได้เหรอ?
ก็อย่างที่ว่านี่คือสถานการณ์ของ ฟราน ในตอนนี้!
นอกจากนี้ยังมีสภาพจิตไม่ปกติของฟรานอีกเพราะงั้นมันจึงไม่แปลกถ้าเธอจะ
กลายมาเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพลังเธอถูกผนึกไว้อยู่ล่ะก็ ป่านนี้บ้านทั้งหลังคง
ไม่เหลือยให้เห็นแล้วรวมไปถึงตัวคนด้วย…….
เคยมีคนพูดอยู่ว่า เสียงร้องของเด็กมีแหมปวดแสบแก้วหูเกินจะทานทนไหว ถึงฟ
รานจะเสียพลังไปแต่เสียงร้องของเธอมันก็มากพอที่จะทำให้คนทั้งบ้านปวดหัว
แล้ว
อนึ่ง ฟรานจังได้เริ่มร้องมาตั้งแต่ตอนเช้ายาวมาจนถึงปัจจุบัน…….
นี่ทำให้สาวๆในบ้านปวดหัวสุดขีด ขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่พอใจพวกเธอต่างก็มี
ความคล้ายๆกันว่า ไอ้หมอนั่นมันมีเสน่ห์อะไรถึงทำให้เด็กน้อยน่ารักแบบนี้ติดแจ
ได้!
มองดูฟรานที่ยังคงดิ้นถีบเท้าไปมา ฮินางิคุกับมิโคโตะก็น้ำตาปริ่มๆแล้ว จากนั้นมิ
โคโตะก็ตะโกนออกมาด้วยความคลั่ง
“หยานอยู่ไหน! หมอนั่นมันไปตายอยู่ไหนกัน! รีบกลับมาเดี๊ยวนี้นะ!”
บางทีอาจเป็นเพราะได้ยินเสียงร้องของมิโคโตะ ทันใดนั่นเองตรงหน้าพวกเธอก็
เกิดแสงสว่างขึ้น ทำให้สาวๆนอกจากคินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ หน้า
สดใสขึ้นมาทันที
เมื่อแสงหายไป ร่างวู่หยานก็ปรากฏออกมาในห้องรับแขกต่อหน้าหญิงสาวของตน
พอเห็นเขาพวกเธอต่างก็โล่งอก
ส่วนพวกคินุฮาตะทั้งสามก็กำลังเบิกตากว้างด้วยความสงสัยว่าเขาโผล่ออกมาจาก
ไหน………
เพิ่งกลับมาถึงบ้านวู่หยานเห็นสีหน้าของสาวๆเขาก็อึ้งไป “เดี๊ยวสิพวกเธอเป็น
อะไรกัน? ทำไมถึงมองฉันแบบนั้น?”
“โอนี่จัง!!!”
เสียงตะโกนด้วยความสุขดังออกมาจากด้านหลังวู่หยานทำเขาสะดุ้ง ก่อนที่จะหัน
ไปมองและเห็นร่างเล็กๆกระโดดเข้าหาเขาจากบนโต๊ะ จากนั้นฟรานก็ได้กระแทก
เข้ากับหน้าอกวู่หยาน!
ด้วยสัญชาติญาณวู่หยานก็ได้กอดรับเธอเอาไว้เสร็จแล้วถามด้วยน้ำเสียงอึ้งๆ
“ฟรานจัง?”
“พี่ชายพี่ไปไหนมา รู้มั้ยฟรานคิดถึงมากเลย……”
ใบหน้าน้อยๆได้ถูไถกับตัววู่หยานไม่หยุด มือเล็กๆก็ได้จับเสื้อเขาแน่นราวกับกลัว
ว่าอีกฝ่ายจะหายไปอีกครั้ง ฟรานมองวู่หยานด้วยดวงตาที่ยังมีน้ำตาไหล เธอดู
ราวกับว่าจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อนี่ทำให้วู่หยานตกใจ
ยกมืกแตะหลังฟรานวู่หยานพูดด้วยเสียงอบอุ่น “พี่ชายไม่ได้ไปไหนเลยนะ ก็แค่มี
ธุระนิดหน่อย……”
“พี่ชายบ้าที่สุด อย่าได้ทิ้งฟรานไว้แบบนี้อีกนะ…….”
ฟรานพองแก้มด้วยความไม่พอใจจากนั้นหันหน้าหนีไม่มองวู่หยานอีก ทว่ามือ
เล็กๆของเธอก็ยังคงจับเสื้อเขาไม่ปล่อย นี่ทำให้วู่หยานรู้สึกขบขัน
“กลับมาจนได้นะ! ถ้ายังไม่กลับมาบ้านได้แตกแน่!”
ฮินางิคุมองฟรานที่สงบลงเธอถอนหายใจโล่งอก จากนั้นหันไปมองวู่หยานด้วย
ความดีใจ เห็นสีหน้าของพวกเธอวู่หยานผู้ที่ไม่ได้อยู่ฟังเสียงร้องดุจสิงโตคำราม
ของฟรานก็งุนงงไป
มิโคโตะเองก็มองวู่หานด้วยความสุขและดีใจเช่นกัน ถ้าเขากลับมาช้ากว่านี้เธอคง
ได้ปล่อยสายฟ้าโจมตีไปไปทั่วเพื่อระบายความอัดอั้นแน่ๆ นี่แสดงให้เห็นเลยว่ามิ
โคโตะสิ้นหวังขนาดไหน
เพียงแต่สีหน้ามีความสุขนี่ก็ได้ชะงักค้างไปเมื่อเธอได้ยินเสียงหัวเราะ
“Ara Ara คุณมิซากะนี่ยังร่าเริงเหมือนเดิมเลยนะ……”
รอยยิ้มบนหน้ามิโคโตะแข็งค้างบนหน้าผากมีเส้นสายไฟฟ้าเส้นเล็กๆโผล่ออกมา
“น้ำเสียงนี้ อย่าบอกนะว่า……”
มิโคโตะยังไม่ทันพูด ใกล้กันคินุฮาตะกับเฟรนด้าก็ร้องออกมา
“อันดับห้า!”
มิโคโตะยกมือตบหน้าผากตัวเอง จากนั้นเลื่อนลงมาปิดตา “เป็นเธอจริงๆสินะ โช
คุโฮ มิซากิ…….”
ได้ยินมิซากิก็ยกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก “อะไรค่ะ? ดูเหมือนคุณมิซากิจะไม่ดีใจ
เลยนะที่เห็นฉันน่ะ…..”
“เห็นเธอมันจะไปดีใจได้ยังไงกันห๊ะ!”
มิโคโตะตอบกลับทันทีแม้กระทั่งน้ำเสียงยังใช้สูงกว่าปกติ เธอไม่อยากได้แขก
แบบยัยนี้ จากนั้นมิโคโตะก็ชี้นิ้วใส่มิซากิแล้วพูดว่า
“ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่?”
มิซากิก็แบมือราวกับจะบอกว่าตนเองก็จนปัญญาเหมือนกัน จากนั้นเธอก็พูดตอบ
ด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าเป็นหยานจังพาฉันมาไง!”
ปากมิโคโตะบิดเบี้ยว “ถึงจะเดาไว้อยู่แล้วก็เถอะ แต่ถึงจะเดาได้ฉันก็ยังรู้สึก
อยากจะ……”
มิโคโตะหันมาหาวู่หยานที่ยืนใกล้กันแล้วพูดต่อโดยมีประกายไฟฟ้าเป็นเอฟเฟคห
ลัง “ช๊อตคนแถวนี้อยู่ดี…….”
เห็นมิโคโตะมองมา วู่หยานก็ยิ้มแห้งๆ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าการให้พี่สาวเรลกัน
กับควีนซามะมาเจอกันสุดท้ายคนที่เจ็บจะเป็นเขา แต่ว่าถ้าเพื่อฟรานจังล่ะก็……
ใกล้กัน คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ กำลังมองตาค้างกับบทสนทนาระหว่าง
มิโคโตะและมิซากิ พอได้ยินคำพูดมิซากิ คินุฮาตะก็ยกคิ้ว
“อย่าบอกนะว่าแม้แต่อันดับห้าก็ยังโดนไอ้โครตโรตจิตนี่พาเข้าแก๊งฮาเร็ม
น่ะ?…….”
เฟรนด้ามองขึ้นๆลงๆมิซากิ จากนั้นหันมามองวู่หยานด้วยสายตาอึ้งทึ้ง
“สุดท้ายแม้แต่ Mental Out ยังกลายเป็นผู้หญิงของหมอนี่…….”
คินุฮาตะกำหมัดแน่นแล้วพูดด้วยความเกลียดว่า “ไอ้โครตโรคจิตนี่ทั้งที่มีผู้หญิง
เยอะอยู่แล้วแท้ๆ แต่กลับยังเที่ยวไปไล่เก็บผู้หญิงคนอื่นอีก อย่าบอกนะว่าในหัว
นั่นมันไม่คิดอะไรอย่างอื่นเลยนอกจาะผู้หญิงน่ะ?”
เฟรนด้าที่ได้ยินก็ตอกกลับมาว่า “สุดท้ายแล้วไม่ใช่ว่าพวกเราเองก็เป็นผู้หญิงที่
หมอนั่นเล็งไว้?”
คินุฮาตะเงียบ ในแววตาของเธอกำลังหมุนวนไปมาราวกับกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่
ทาง ทาคิสึโบะ ก็กำลังมองวู่หยานด้วยแววตาเศร้าๆ……
เขา…ยังจำฉันได้อยู่มั้ย?……