บทที่ 294 จริงๆแล้วตูไม่ได้อยากเล่น4P!
วู่หยานโอบกอดร่างนุ่มนิ่มของคินุฮาตะ แล้วเอ็นจอยกับไปเสียงครางและกลิ่น
หอมหวานที่ออกมาจากเหงื่อเธอ เขาขยับร่างกานอย่างหนักขณะหลับตาไปด้วย
ในปัจจุบันมันมีอยู่สองเสียงที่หูเขาชมชอบที่สุด หนึ่งก็คือเสียงครวญครางของสาว
น้อย และสองคือเสียงเนื้อชนเนื้อที่ดังขึ้นทุกครั้งที่เขาขยับสะโพก ไม่ว่าจะฟังมากี่
ครั้งเขาไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยกับเสียงทั้งสองแบบ………
คินุฮาตะไม่ได้รู้สึกอย่างวู่หยาน เธออับอายมากกว่าทุกครั้งที่ได้เสียงตัวเองคราง
แบบนั้น และเธอยังต้องกัดฟันกรอดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเนื้อหนังปะทะกันของเธอ
กับเขา ถึงแม้เธอจะรู้สีก็เถอะ…….
เธอไม่ได้ผิวหน้าหนาเหมือนวู่หยาน ในฐานะที่เป็นผู้หญิงถึงเธอจะจะแข็งกระด้าง
แต่เธอก้รู้สึกอัดอัดและไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะส่งเสียงร้องน่าอายแบบนี้
เธอพยายามหยุดเสียงตัวเองหลายรอบแล้ว แต่ทุกครั้งที่วู่หยานโยกเอวเข้ามาชน
เธอก็รู้สึกยังโดนไฟฟ้าช๊อตไปทั้งตัว จากนั้นปากมันก็ร้องออกมาเอง ถึงอยากจะ
หยุดร้องก็ทำไม่ได้……..
นี่เป็นครั้งแรกของเธอ แต่แค่นี่เธอก็รู้สึกราวกับวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่าง
แล้ว สติที่เหลือส่วนสุดท้ายได้โบกมือลาเธอและนั่นทำให้คินุฮาตะรู้สึกว่าร่างกาย
ตัวเธอมันยังกับไม่ใช่ของเธอยังไงยังงั้น………
แต่คินุฮาตะก็ไม่ได้ปฏิเสธความจริงที่ว่าเธอเองก็รู้สึกดีสุดๆเช่นกัน……..
ทว่านี่ก็ไม่อาจปกปิดความอับอายของเธอได้ ใบหน้าของคินุฮาตะแดงก่ำโดย
ครึ่งนึงเป็นเพราะรู้สึกดีส่วนอีกครึ่งมาจากความอาย
วันนี้เป็นวันที่คินุฮาตะได้พบเจอประสบการณ์ใหม่ๆหลายอย่าง และยังเป็นวันที่
เธอรู้สึกได้ถึงความไร้พลังของตัวเองด้วย ทั้งโดนลักพาตัวมาโดยที่ขัดขืนไรไม่ได้
และโดนข่มขืนอีก ยังไม่พอเธอยังถูกบังคับให้อยู่ในท่าบ้าๆนี้ด้วย?!
หน้าก้มลงไปจนแทบจูบเตียงก้นยกขึ้น คินุฮาตะจับผ้าปูที่นอนด้วยจิตใต้สำนึก
มองดูผ้าปูที่นอนตรงหน้าพร้อมกับรับแรงกระแทกจากด้านหลังที่มาไม่หยุด คินุ
ฮาตะร้องไห้ในใจ
อย่างน้อยนายก็ช่วยใช้ท่าอื่นได้มั้ย?………
ประโยคนี้คินุฮาตะอยากพูดออกไปมากๆเพียงแต่ทุกครั้งที่จะพูดมันก็เปลี่ยนเป็น
เสียงครางอยู่ร่ำไป ท้ายที่สุดเธอก็ต้องอยู่ในท่าทุเรศนี่มานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
………….
ในหัวแทบไม่เหลือคำว่าเหตุผลแต่ทว่าความอับอายนี่ยังอยู่ครบไม่หายไปไหน
ภายใต้อิทธิพลของความอายบวกกับความขมขื่นในที่สุดคินุฮาตะก็ไม่ไหวอีก
ต่อไป!
หลังจากส่งเสียงครางยาวออกไป คินุฮาตะก็หน้าทิ่มเตียงผิวเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน
ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เห็นแบบนี้วู่หยานก็ขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจด้วยความ
ผิดหวังกับเรี่ยวแรงของเธอ
วู่หยานกดตัวเองลงบนตัวเธอ ใช้ร่างกายเขาเพื่อบอกเธอว่าตนเองยังห่างไกลจาก
คำว่า ‘พอ’………..
คินุฮาตะเพิ่งรื้อฟื้นสติมาได้เล็กน้อยพอที่จะรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดของเขา เธอหน้า
ขึ้นสีทันทีแต่ทว่าเธอยังไม่ทันได้พูดอะไร วู่หยานก็กระแทกเข้ามาอีกแล้ว บีบ
บังคับให้เธอต้องร้องเพลงอีกครั้ง………
ภายในห้อง นอกจากเสียงครางชนกันของทั้งสองและเสียงครางของคินุฮาตะ
มันก้ยังมีเสียงอื่นอยู่ นั่นก็คือสียงสั่นไหวของเตียง!
เสียง ‘แคร๊ก’ นี่ยิ่งทำให้วู่หยานคึกคัก เขาแทงเธอหนังหน่วงกว่าเดิม นี่ทำให้คินุ
ฮาตะเกลียดไอ้เตียงบ้านี่เข้าไส้
คินุฮาตะเริ่มที่จะพังเหมือนเตียง เธอครางออกมาจากนั้นเกร็งตัวเสร็จเป็นครั้งที่
สองของวัน……..
แน่นอนว่ามันเหมือนรอบแรก วู่หยานไม่ให้โอกาสเธอได้พักหายใจหายคอ เขายัง
ส่งน้องชายเข้าไปเหมือนเดิม…..
คินุฮาตะหวาดกลัว แล้วหันสายตาเบลอๆที่ปริ่มไปด้วยน้ำตามองเขา “นะ…นาย
ยังไม่เหนื่อยอีก?”
วู่หยานตอบคำถามด้วยการกระแทก……..
สวรรค์ ใครก็ได้ โปรดมาช่วยฉัน…….
คินุฮาตะร้องไห้ในใจเป็นครั้งที่เก้าของวันแล้ว ก่อนหน้านี้เธอยังเชื่อมั่นและมั่นใจ
ในความอึดของตัวเอง เป็นเพราะพลัง Offense Armor ของเธอจำเป็นต้องมี
ร่างกายที่แข็งแรงเพื่อใช้มัน
ทว่าตอนนี้ความมั่นอกมั่นใจของเธอได้ปลิวหายไปแล้ว เมื่อมาเจอความอึดอย่าง
กับไม่ใช่คนของวู่หยาน!
พูดตามตรงต่อให้เธอฝึกร่างกายมาดีแค่ไหน แต่มันจะสามารถเอามาเทียบกับ
True Ancestor ได้เหรอ?
ดังนั้นคินุฮาตะจึงได้เริ่มูดร้องขอความเมตา วู่หยานก็ตอบรับเธอโดยการเปิด
สงครามอีกครั้ง……..
คินุฮาตะทำได้แค่ยอมรับโชคชะตา เธอหลับตาลงแล้วคิด ‘ร่างกายอันมีเสน่ห์ของ
ฉัน หวังว่าเธอจะอดทนไปได้จนจบน่ะ…….’
ทันใดนั่นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาขัดทั้งสอง ถึงมันจะดังแค่แป๊ปเดียว แต่มันก็ดึงความ
สนใจของทั้งคู่ไปได้
ที่ต้องสนก็เพราะ….มันเป็นเสียงประตูเปิดไงล่ะ!!!
วู่หยานหยุดตัวเองด้วยจิตใต้สำนึก จากนั้นทั้งคินุฮาตะที่หอบหายใจหนักและวู่
หยานก็หันไปมองประตู ก่อนจะอึ้งไปทั้งคู่
“เฟรนด้า! ทาคิสึโบะ!” คินุฮาตะตะโกนออกมาให้กับแขกทั้งสองคน
เฟรนด้า ทาคิสึโบะ ยืนตรงประตูมองวู่หยานและคินุฮาตะที่กอดกับแบบเนื้อแนบ
เนื้อ แต่ถึงจะเห็นภาพบัดสีนี้แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าเลย ราวกับที่เห็นไม่ใช่มี
อะไรกัน แต่เห็นเป็นเล่นหมากรุกแทน………
ทั้งสองคนที่กำลังอึ้งไม่ได้สังเกตุเห็นความผิดของเฟรนด้า ทาคิสึโบะที่ดูเหมือนคน
ไม่ได้สติ!
คินุฮาตะตอบสนองก่อน เธอหน้าแดงก่ำเมื่อตระหนักได้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของตน
กำลังมองตัวเองเปลือยอยู่ ความอายได้ระเบิดขึ้นจากข้างในตัว!
“ว้าย!!!”
ตะโกนร้องเสียงดังเสร็จ คินุฮาตะก็ยกมือปิดหน้าตัวเอง ร่างกายเองก็ดิ้นไปมา
พยายามสลัดตัวให้หลุดจากวู่หยาน ขณะเดียวกันเสียงพูดที่เต็มไปด้วยความอับ
อายก็ดังลอดออกมา
“ฮื้อออ…..เฟรนด้า ทาคิสึโบะ อย่ามองนะ อย่ามองฉันนะ……”
เสียงของเธอส่งไปไม่ถึงเพื่อนทั้งสอง แต่ถึงวู่หยานแทน เขาได้สติกลับมา พอเห็น
สายตาที่มองมาของเฟรนด้า กับ ทาคิสึโบะ ขณะที่น้องชายของเขายังอยู่ในตัวคินุ
ฮาตะ ทันใดนั้นความตื่นเต้นก็ทะลักเข้ามาในตัวเขา!
วู่หยานอ้าแขนยอมรับดาร์คไซด์(ด้านมืด) แล้วปล่อยตัวไปกับแรงปรารถนา
เขาเริ่มกระแทกเข้าและออกใหม่อย่างหนักหน่วงและรวดเร็วราวกับเครื่องยนต์
ดังนั้งผลคือคินุฮาตะของเราก็ครางออกมาดวยความสุขผสมอาย
อย่างที่คิด ไอ้บ้านี่มันเป็นโครตโรคจิต!
คินุฮาตะไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าสภาพตอนนี้ของเธอมันเป็นยังไง เธอรู้อยู่
อย่างเดียวคือ ตัวเธอจบสิ้นแล้ว หลังจากนี้เธอคงไม่กล้าที่จะเจอผู้คนแล้ว……
ทว่าคินุฮาตะไม่ได้รู้เลยว่าคนที่อายจนไม่กล้าไปเจอคนอื่นมากกว่าเธอก็คือสอง
สาวที่เข้ามาในรังรักนี้………..
เสียงปิดประตูอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้วู่หยานหยุดเคลื่อนไหว และคินุ
ฮาตะก็ได้ใช้โอกาสล้ำค่านี้หันไปมองด้วยเช่นกัน
และการมองนี่ก็ได้ทำให้หนึ่งชายและหนึ่งโลลิอึ้งไปอีกครั้ง…….
เฟรดด้า กับ ทาคิสึโบะ ไม่เพียงไม่วิ่งหนีออกไป แต่กับปิดประตูเข้าห้องแทน!
นี่ยังไม่เท่าไหร่นะ พอปิดประตูเสร็จ สองสาวก็ยืนนิ่งมองวู่หยานกับคินุฮาตะอยู่
ชั่วครู่ ก่อนที่จะ…..ถอดเสื้อผ้าตัวเอง!
คินุฮาตะนิ่งอึ้ง วู่หยานนิ่งอึ้ง……..
นี่อย่ายอกนะว่าตูกำลังจะทำลายสถิติของตัวเอง? นี่เขากำลังจะได้เล่น4P?………..