ตอนที่ 818 ฉันจะฟ้องร้องคุณ
หลังจากห้านาที…….
เส้นผมของลั่วหานที่อยู่หน้าผากเปียกจนติดอยู่บนผิวหนัง คนทั้งหลายจ้องมองจอแสดงผลพร้อมกัน ข้างบนก็ยังเป็นเส้นตรงหนึ่งเส้นที่ดื้อรันมากเหมือนเดิม
ลั่วหานหลับตาลง วางเครื่องช็อกไฟฟ้าลง
หวาเทียนอ้าปากคำพูดติดที่ปาก ดึงผ้าขาวที่สะอาดผืนหนึ่ง ปิดคนตายไว้
หมอหวังจนถึงตอนนี้จึงใช้หลังมือเช็ดหน้าผากหนึ่งที ทั้งจับแว่นตาที่ถูกเช็ดจนเอียงไปแล้วให้ตรง น้ำเสียงหนักอึ้งเสียงเบาๆพูดว่า “หมอฉู่ พวกเราสุดความพยายามแล้ว……”
ลั่วหานหลับตาอยู่เหมือนเดิม สีหน้าที่เจ็บปวดทรมานของเธอเพราะว่าก้มหัวอยู่คนอื่นมองไม่เห็น เธอไม่ได้พูด
ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ไม่รู้ว่าจะอธิบายถึงอารมณ์ในเวลานี้ได้ยังไง
ในมือพยาบาลถือหนังสือยืนยันการตายไว้ ไม่รู้ว่าควรให้ลั่วหานเซนต์ชื่อในตอนนี้หรือไม่ ดังนั้นเสียงเบามากถามอย่างระมัดระวังมากว่า “หมอฉู่ จำเป็นต้อง…….ติดต่อหมอถังไหม?”
ถึงยังไงก็เป็นคนไข้ของถังจิ้นเหยียน เขาเป็นแพทย์เจ้าของไข้คนแรก
ในที่สุดลั่วหานก็พูดแล้ว “ไม่ต้อง ใครๆก็บอกเรื่องความตายของคนไข้ให้กับหมอถังไม่ได้ เอาหนังสือยืนยันให้ฉัน”
พยาบาลไม่รู้จะทำยังไง จ้องมองหมอหวังที่ประวัติประสบการณ์ลึกกว่า และมองไปยังหวาเทียนอีก
ทันทีนั้นหมอหวังก็ไม่มีความคิดเช่นกัน จะพูดถึงการรับคนไข้แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่ว่าคนไข้มาถึงมือกลับตายแล้ว ก็จะซับซ้อนมากเลย
หวาเทียนคิดแล้ว แย่งหนังสือยืนยันไป “ผมจะมาเซนต์ชื่อ ก็บอกว่าคนไข้นี่เป็นของผม เกิดเรื่องแล้วผมมาแบกรับ ภรรยาที่ยุ่งยากมากคนนั้นของเขาจะไม่ยอมปล่อยแน่ หากว่าให้หมอฉู่แบกรับทั้งหมด ผลลัพธ์ยากที่จะคิด”
ลั่วหานตาเย็นชาจ้องมองเขา “หวาเทียน คุณกินจนอ้วนแล้วหรือว่าเติบโตสูงแล้วล่ะ? เนื้อเยอะสะดวกในการฆ่าหรือ? รูปร่างสามารถดันฟ้าหรือ?”
หวาเทียนถูกเธอเยาะเย้ยจนอึดอัดใจเล็กน้อย “หมอฉู่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นก็เอาหนังสือยืนยันให้ฉัน ฉันยังไม่ได้ให้สำเร็จการฝึกงานจากที่นี่ล่ะ ก็จะรับกระสุนแทนฉันแล้วหรือ” ลั่วหานแทบจะเป็นการแย่งหนังสือไป
ดึงปากกาแท่งหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อหวาเทียนด้วย เซนต์ชื่อเสร็จอย่างว่องไว “หยิบออกมาเถอะ เข็นคนไข้ออกไปด้วย ฉันรับผิดชอบไปบอกกับญาติคนไข้”
หวาเทียนกับหมอหวังนึกถึงภาพการกระชากในวันนั้นทันที “หมอฉู่ คุณอย่าออกไปเถอะ? พวกเราส่งคนตายไปที่ห้องดับจิต คุณอย่าออกหน้าชั่วคราว”
“ช่างหัวมันเถอะ หนีพ้นต้นเดือนหนีไม่พ้นกลางเดือน ไม่ช้าก็เร็วล้วนต้องแบกรับภาระนี้ไว้ ตอนนี้ฉันออกไปยังพูดง่ายกว่า ซ่อนตัวขึ้นมานับได้ว่าเป็นอะไรล่ะ?”
ลั่วหานสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที แท้จริงแล้วในใจของตนเองก็กลุ้มใจมากเช่นกัน คุณนายหลัวเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลคนหนึ่ง แต่ก่อนกังวลถึงความแข็งแรงของสามียังมีความหวาดกลัวเล็กน้อย ตอนนี้เป็นคนเท้าเปล่าไม่กลัวคนสวมใส่รองเท้าแล้วจริงๆ
สงบสติอารมณ์สักหน่อย ลั่วหานเดินออกจากห้องผู้ป่วย
หวาเทียนกับหมอหวังจ้องหน้ากัน ไม่กล้าหน่วงถ่วงเวลา รีบเข็นเตียงติดตามขึ้นไป
คุณนายหลัวมองเห็นคนออกมา ใจว้าวุ่นจนขึ้นไปถาม “สามีของฉันล่ะ? เขาเป็นยังไงแล้วล่ะ? ตื่นหรือยัง?”
สีหน้าของลั่วหานหนักอึ้ง เธอก้มหัวแล้ว ก้มหัวอีก “ขอโทษค่ะ คุณนายหลัว”
คุณนายหลัวเห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจความหมายที่เธอพูด ลืมตากว้างถามอีกรอบหนึ่ง “ขอโทษหรือ? ขอโทษอะไรหรือ? สามีของฉันล่ะ? ตัวเขาล่ะ?”
“พวกเราทำการช่วยชีวิตอย่างสุดแรงแล้ว แต่ว่าหัวใจสามีของคุณแย่ลง ทำการช่วยเหลือไม่มีผล เขาไปแล้ว” ลั่วหานพูดจบอย่างสงบ
คำพูดแบบเดียวกันเธอเคยพูดไปแล้วมากมาย เริ่มแรกที่พูดคำพูดเหล่านี้ ระดับความเจ็บปวดในความรู้สึกของเธอไม่ด้อยกว่าญาติคนไข้ แต่ว่าพูดไปมากแล้ว หัวใจก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
แค่แข็งแกร่งยังไม่ถึงระดับร้อยพิษไม่กล้ำกราย เธอเจ็บปวดใจเหมือนเดิม น่าเสียดายเหมือนเดิม สัมผัสถึงอะไรเรียกว่าช่วยอะไรไม่ได้เหมือนเดิม
“อ่า!! เหล่าหลัว! เหล่าหลัว คุณใจร้าย!”
คนตายเข็นออกมาแล้ว คุณนายหลัววิ่งขึ้นไปกอดศพไว้ร้องไห้เสียงลั่น คิดไม่ถึงว่าไม่ไปตีกันกับลั่วหาน
หวาเทียนกับหมอหวังก็แสดงถึงว่าพวกเขาสุดแรงแล้วเช่นกัน อีกทั้งหวังว่า คุณนายหลัวสามารถเข้าใจ การแพทย์ไม่ใช่แค่นิยาย มักจะมีเทคนิคบางส่วนที่ทำไม่ได้
คุณนายหลัวฟังไม่เข้าแม้แต่ครึ่งตัว กอดสามีร้องไห้จนเสียงเปลี่ยน แหกคอร้องจนสะเทือนฟ้าดิน ระเบียงทางเดินทั้งหมดล้วนเป็นเสียงร้องไห้ของเธอ
ขอบตาลั่วหานแดงขึ้นเล็กน้อย เธอยืนอยู่อย่างไร้เรี่ยวแรงเล็กน้อย อยากจะพิงกำแพงอย่างมากสักพัก แต่ว่าอยู่ต่อหน้าคนไข้เธอทำเช่นนี้ไม่ได้
นี่เป็นคนไข้ของถังจิ้นเหยียน เธอเคยรับปากเขาจะช่วยจัดการทุกอย่างให้เขาอย่างดี เธอเคยรับปากเขาให้เขาวางใจ
แต่ว่าเธอทำไม่ได้
“ฉู่ลั่วหาน! ความตายของสามีฉันคุณอย่าคิดจะผลักความรับผิดชอบ!”
คุณนายหลัวอยู่ดีๆ มีปฏิกิริยาขึ้นมา พุ่งขึ้นไปตีคนเหมือนอย่างหมาบ้า ลั่วหานหลบหนี ก็ยังถูกเธอดึงชายเสื้อไว้
“คุณนายหลัวคุณปล่อยมือ!”
เธอไม่ปล่อยกลับยิ่งจับแน่น “ฉู่ลั่วหาน! คุณเป็นหมอ กลับกลายเป็นว่าสายขนาดนี้จึงมาโรงพยาบาล! หากว่าคุณมาเร็วกว่านี้อีกครึ่งชั่วโมงก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา! ล้วนเป็นคุณ! ล้วนเป็นคุณ!”
เธอร้องไห้อยู่เสียงร้องกับน้ำตาออกมาพร้อมกัน เสียงดังจนสามารถทำให้หูของคนสะเทือนจนเกิดปัญหาโดยตรง
หัวใจของลั่วหานเหมือนถูกมีดเล่มหนึ่งแทงเข้าไป พอดีเสียบอยู่ในที่ที่อ่อนแอที่สุด
วันนี้เธอมาสายแล้วจริงๆ บิดเบี้ยวไม่ได้ ในการช่วยเหลือเธอขาดจริงๆ เธอมาสายแล้ว
หวาเทียนกับหมอหวังจับแขนเธอขึ้นมา “คุณนายหลัวคุณใจเย็น เรื่องนี้โทษหมอฉู่ไม่ได้ หมอฉู่ทุ่มสุดแรงแล้ว ไม่ว่าเธออยู่หรือไม่ ระดับการแพทย์ของพวกเราในปัจจุบันนี้ล้วนมีความยากที่เอาชนะไม่ได้”
คุณนายหลัวไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆอยู่แล้ว ขาทั้งสองข้างเตะมั่วไปสักพัก ในปากยิ่งทั้งด่าทั้งบ่นยากที่จะฟังได้
ลั่วหานพยักหน้าอย่างรู้สึกผิด “คุณนายหลัวอาการของสามีคุณพวกเราใช้ยาที่ดีที่สุด ใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุดรักษาแล้ว หมอที่ออกมาก็เป็นหมอที่ดีที่สุดในโรงพยาบาล…….”
“คำพูดไร้สาระ! หมอที่ดีที่สุดหรือ? ถังจิ้นเหยียนเดิมทีเป็นหมอของสามีฉัน อยู่ดีๆทำไมเขาไปแล้วล่ะ เขาส่งมอบสามีของฉันให้กับผู้หญิงอย่างคุณคนนี้ คุณไม่รับผิดชอบหน้าที่เห็นชีวิตคนเสมือนต้นหญ้า!”
ทันทีที่เธอด่าขนาดนี้ กลับทำให้หมอกับพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นล้วนเงียบไปเลย
“คุณนายหลัวสภาพการณ์ของสามีคุณถึงแม้ว่ามีฮัวโต๋กลับชาติมาเกิด ก็ไม่แน่ที่จะมีวิธีเช่นกัน นี่ไม่ได้เกี่ยวกับหมอโดยตรงเลย” ลั่วหานพยายามจะอธิบายให้ชัดเจน แต่คนตายอยู่ต่อหน้า คำพูดใดๆก็เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยมีผล
“โจรกลุ่มหนึ่ง! ให้พวกเราใช้ยาที่ดีที่สุด ให้พวกเราใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุด ดี ฉันใช้แล้ว ฉันเชื่อฟังพวกคุณแม้แต่ขนข้าวของออกให้หมดก็จะรักษาโรคให้สามีฉันเช่นกัน แต่ว่าตอนนี้ล่ะ พวกคุณทำให้คนตายแล้ว! พวกคุณถึงขนาดรักษาคนของฉันจนตายแล้ว! พวกคุณชดใช้สามีให้ฉัน ชดใช้ฉัน! คืนสามีของฉันให้ฉัน เปลี่ยนกลับมาให้ฉัน!”
อารมณ์ลั่วหานซับซ้อนจนไม่มีคำตอบ ญาติคนไข้ตอนนี้อารมณ์รุนแรงมาก ไม่เหมาะสมที่จะคุยหลักการกับเธอจริงๆ
“คุณนายหลัวฉันขออภัย ฉันขออภัยมากจริงๆ”
หวาเทียนกลัวว่า คุณนายหลัวจะพูดคำพูดอะไรที่ยิ่งเกินกว่านี้อีก ดึงแขนของลั่วหานดึงแล้วดึงอีก “หมอฉู่ ญาติคนไข้ตอนนี้อารมณ์รุนแรงมากคุณกลับไปก่อนเถอะ ยังไงก็ตามข่าวก็ส่งมาถึงแล้วรับหรือไม่รับล้วนเป็นปัญหาของเธอแล้ว”
ลั่วหานพยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า “คำพูดพูดแบบนี้ก็ไม่ได้เช่นกัน ยังไงก็ตามคนไม่อยู่แล้ว ฉันเข้าใจถึงความรู้สึกของเธอ”
คุณนายหลัวดิ้นออกจากมือของหมอหวัง พุ่งขึ้นไปจับลั่วหานไว้อีก “ผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้น! ฉันจะฟ้องร้องคุณ! ฉันจะฟ้องร้องคุณที่เห็นชีวิตคนเสมือนต้นหญ้า!”
ฟ้องร้องเธอหรือ?
ลั่วหานขมวดคิ้วขึ้นมา จะเอะอะก่อกวนจนถึงระดับขึ้นศาลจริงๆหรือ?
“คุณนายหลัว…….”
“พี่ลั่ว!”
หลินซีเหวินอยู่ดีๆ หยิบมือถือวิ่งเข้ามา เห็นได้ชัดว่าน่าจะระหว่างทางรีบวิ่งเร็วเกินไป ลมหายใจไม่ต่อเนื่องกัน “พี่ลั่ว คุณเข้ามาสักหน่อย”
หลินซีเหวินฉวยโอกาสดึงลั่วหานไป ทั้งสองคนเดินไปถึงปากทางบันได หลินซีเหวินกัดฟันหยิบมือถือให้เธอดู
“กระจายทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว”
ลั่วหานตานิ่งจ้องมองหนึ่งที ทันทีนั้นสีหน้าเขียวหมด!
บนหน้าจอสะดุดตามากเขียนว่า “การแข่งรถเวอร์ชั่นเรียลลิตี้ รถสปอร์ตหรูหญิงงามความสามารถน่าทึ่งอย่างบ้าคลั่ง”
“ชายหญิงในเมืองเล่นแข่งรถ เส้นทางอันตรายถึงความตายกลับกลายเป็นทางแข่งรถ”
และภายใต้หัวข้อ เป็นภาพที่เธอแข่งรถในวันนี้ หน้ากล้องบันทึกป้ายทะเบียนของเธอไว้พอดี
รถมายบัคของเธอ ทะเบียนรถของเธอ
พวกนักข่าวรู้ได้ชัดว่าเธอเป็นใคร ดังนั้นบนข่าวไม่ได้เอ่ยถึงฐานะใดๆ
แต่รถที่เป็นสัญญาลักษณ์คันนั้น ใครจะไม่รู้หรือ?
หลินซีเหวินกัดฟันไว้มองไปยัง คุณนายหลัวฝั่งโน้น “หมอฉู่ ในเวลานี้ไม่ค่อยดีต่อคุณเลย เป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับกำลังช่วยชีวิตของคุณหลัวอยู่”
“เมื่อกี้……..เธอบอกว่าจะฟ้องร้องฉัน” ลั่วหานพูดออกจากปากอย่างไร้เรี่ยวแรง
ตาของหลินซีเหวินโตขึ้นในทันที “ไอ้ควย! ถ้าเอะอะก่อกวนถึงศาลจริงๆ เรื่องนี้……พี่ลั่ว รีบโทรหาท่านเซียวทันที ให้เขากดข่าวลง! ไม่ไม่ไม่ ลบทิ้ง! ทั้งหมดจะต้องลบทิ้งอย่างหมดจด!”
“คุณคิดว่าเป็นไปได้หรือ? กระจายกว้างขวางไปแล้ว” ตาของ
ลั่วหานเมื่อยบวม
“เรื่องนี้…….” หลินซีเหวินไม่มีคำพูดเลย
เสียงแหกคอร้องของ คุณนายหลัวก้องอยู่ข้างหู “ฉันจะฟ้องร้องคุณ! ฉู่ลั่วหานคุณคิดว่าคุณอาศัยอำนาจรังแกคนอื่นก็จะไม่มีคนจัดการกับคุณได้หรือ! บนศีรษะสามฟุตมีเทพเทวดา!”
“ฉู่ลั่วหาน คุณเห็นชีวิตคนเสมือนต้นหญ้า! คุณทำให้สามีของฉันตาย!”
“แพทย์เจ้าของไข้ทำไมไม่อยู่ในโรงพยาบาล!”
“คุณทำไมไม่อยู่ในโรงพยาบาล!!”
ลั่วหานเพียงแค่รู้สึกว่าในสมอง วิ้งๆ หนึ่งที เหมือนดั่งถูกตัดสายไฟไปแล้ว ย่างก้าวเซไปหนึ่งที “ซีเหวิน ฉันออกไปก่อนสักพัก