ตอนที่ 823 เล่นพิเรนทร์
ฮ่าๆๆ !
อย่าทำให้ถึงตายก็พอ? ข้อแม้นี้จะง่ายเกินไปหน่อยไหม?
อีกทั้งพี่ใหญ่ยังตอบข้อความกลับมาในวินาทีเดียวอีก? ตอบกลับในวินาทีเดียว!
เกาจิ่งอานรีบโทรศัพท์ไป เสียงรอสายดังขึ้นสองทีก็ถูกรับขึ้น “พี่ใหญ่! เมื่อกี้พี่ตอบข้อความเองเหรอ?”
ไม่มีเรื่องก็หาเรื่องมาคุยได้
หลงเซียวตอบอืมกลับมา “มีปัญหาเหรอ?”
เกาจิ่งอานยกนิ้วทำเท่ขึ้นมา “ไม่มีปัญหา! ไม่มีปัญหาแน่นอน พี่ใหญ่วางใจได้! รับรองว่าสำเร็จแน่นอน! ผมลงมือเอง พี่ใหญ่มีเรื่องให้กังวลด้วยเหรอ?”
หลงเซียวนำมือมาป้องปาก ก่อนทำเป็นกระแอมขึ้นมา “นายวางแผนจะทำอะไร?”
เกาจิ่งอานหัวเราะขึ้นมา “เรื่องนี้เหรอ พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวลหรอก คนชั่วอย่างตู้หลิงเซวียนต้องโดนสั่งสอนสักหน่อย เจอสถานการณ์ไหนก็ต้องรู้จักรับมือให้ดี อย่าทำเหมือนตนเองเป็นคนใหญ่คนโต”
หลงเซียวรู้จักนิสัยของเกาจิ่งอานดี ก่อนจะหัวเราะออกมาหนึ่งที “นายจัดการเองเถอะ”
“อืม”
ได้ยินท่าทีราวกับจะวางสายของหลงเซียวแล้ว เกาจิ่งอานรีบกอดโทรศัพท์แน่นขึ้น “พี่ใหญ่พี่ใหญ่ อย่าเพิ่งรีบวาง ผมยังพูดไม่จบเลย!”
หลงเซียวหยิบมือถือขึ้นมาแนบหูอีกครั้ง “อืม? ยังมีเรื่องอะไรอีก?”
เกาจิ่งอานลังเลอยู่นาน “อ้อ ใช่แล้ว ชูชูเป็นอย่างไรบ้าง? เป็นเด็กดีหรือเปล่า?”
ถามจบ เกาจิ่งอานรีบตบหน้าตนเองทันที ถามอะไรออกไป น้ำเข้าสมองเหรอ?
“ชูชูสบายดี เป็นเด็กดีมาก”
น่ารักมาก ฉลาดมาก น่ารักที่สุด!
พูดถึงลูกสาว หลงเซียวมีคำพูดชมเชยเต็มไปหมด
“อีกไม่กี่วันผมก็จะกลับประเทศแล้ว ถึงตอนนั้นผมจะไปเล่นที่บ้านพี่ใหญ่!” เกาจิ่งอานจินตนาการถึงภาพที่ตนได้กอดชูชูแล้ว ก็ยิ้มอย่างโง่เขลาออกมา
“อืม พี่สาวของนายล่ะ? พักฟื้นเป็นอย่างไรบ้าง?” หลงเซียวยังมีธุระอีก เลขามาเตือนเขาเป็นครั้งที่สองว่าต้องเข้าประชุมแล้ว
เกาจิ่งอานยิ้มออกมาอย่างโง่เขลา “พี่สาวผม……เธอฟื้นตัวได้ดี สร้างสถิติใหม่ให้ทางการแพทย์เลยล่ะ พี่ใหญ่ผมขอบอกว่าหมอที่นี่ล้วนชมพี่สาวผมว่ามีสภาพจิตใจที่ดี……”
พูดพล่ามไปเรื่อย เกาจิ่งอานไม่อยากวางสายลง
หลงเซียวหัวเราะขึ้นมา “อย่างนั้นก็ดีแล้ว ฉันไปประชุมก่อนนะ ตู้หลิงเซวียนให้นายจัดการแทนแล้วกัน”
“ได้เลย!”
เพียงแค่ประโยคตู้หลิงเซวียนให้นายจัดการประโยคเดียว ก็ทำให้เกาจิ่งอานคึกคะนองขึ้น ตื่นเต้นจนกระโดดขึ้นมาอ้าปากเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปมา
ระหว่างประตู เกาจิ่งอานเคาะประตูขึ้น “ประธานตู้ ประธานตู้ยังอยู่ดีอยู่ไหม?”
ตู้หลิงเซวียนได้ยินเสียงเกาจิ่งอานแทบอยากจะบีบคอเขาให้ตาย!
“เกาจิ่งอาน คุณอยากทำอะไรกันแน่?” ตู้หลิงเซวียนหมดความอดทนอีกต่อไป เขาปลดเน็กไทให้คลายออก ก่อนจะเพ่งเล็งไปที่ประตู หวังว่าประตูเปิดออกแล้วตนจะพุ่งออกไปทันที
เกาจิ่งอานทำเป็นน่ารักขึ้นมา “ประธานตู้ คุณคิดซะว่าผมเป็นคนโหดร้ายไปได้? ผมจะทำอะไรได้? ถ้าเทียบกับการกระทำของคุณ ผลลัพธ์การกระทำของคุณแล้ว ผมเป็นได้แค่กระต่ายน้อยที่น่ารักตัวหนึ่งเท่านั้นเอง”
“เรื่องของแอนน่าไม่เกี่ยวกับผม กักขังผมไว้ก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ผมขอเตือนให้คุณรีบปล่อยผมไป”
ตู้หลิงเซวียนยังจะมาเจรจาข้อเสนอกับเขาอีก แต่ว่าเกาจิ่งอานไม่อยากฟังอีกต่อไป “ตู้หลิงเซวียน คุณลงมือด้วยแผนการต่ำทรามตั้งมากมาย สอนผมสักหน่อยจะได้ไหม? แนวๆ ใส่ร้ายคนอื่นน่ะ”
“พูดแบบนี้ คุณไม่คิดจะปล่อยผมไป?” ในเมื่อร้องขอไม่ได้ผล ตู้หลิงเซวียนจึงเปลี่ยนเป็นอารมณ์แข็งขันขึ้นมา
“ความหมายประมาณนั้นล่ะ”
เกาจิ่งอานตอบรับกลับไป แต่ในใจกลับคิดเสมอว่าเมื่อไหร่ที่ตู้หลิงเซวียนจะดื่มน้ำ ดื่มเหล้า แต่ไม่ว่าเขาจะดื่มอะไร ก็จะสลบไปอย่างแน่นอน!
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะขึ้นมา “ถ้าหากคนของผมรู้ว่าผมหายตัวไปแล้ว คุณคงรู้ถึงผมที่ตามมา”
เกาจิ่งอานแกล้งทำเป็นตกใจขึ้นมา “โห! ทำไมผมถึงคิดไม่ได้กัน! คุณพูดแบบนี้ทำให้ผมกลัวขึ้นมานะ ถ้าอย่างนั้นขอถามคุณตู้หน่อยว่าจะมีผลอะไรตามมา?”
ตู้หลิงเซวียนเทน้ำออกมาครึ่งแก้วด้วยความรำคาญ ก่อนจะกระดกเข้าไป “ผู้ช่วยผมรู้ว่าผมหายไปกับใคร เรื่องนี้สืบหายากขนาดนั้นเหรอ?”
ตุบ!
ในห้องมีเสียงของสิ่งหนึ่งตกลงไป
เกาจิ่งอานเคาะประตูอีกครั้ง “ตู้หลิงเซวียน? ตู้หลิงเซวียน?”
ไม่มีเสียงแล้ว
ดีมาก!
ณ บริษัทฉู่ซื่อ
หวังเค่ยตรวจหาคำที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา ใจที่กังวลอยู่ตลอดนั้นสงบลงได้สักที
“แอนดี้ คุณมาลองเช็กดูอีกครั้ง ตอนนี้โอเคหรือยัง?” หวังเค่ยเริ่มฉลาดขึ้นมาแล้ว ไม่รีบนำไปให้หลงเซียวดูทันที
แต่ว่าความรู้สึกบนใบหน้าของแอนดี้กลับไม่ได้ผ่อนคลายลง กลับเอียงหัวและหัวเราะเย็นขึ้นมา “ทำไม? เป็นโรคกลัวขึ้นมาแล้วเหรอ?”
หวังเค่ยเกาหัวขึ้นมา “เริ่มเป็นขึ้นมาจริงๆ คราวหลังคงต้องระวังไว้ก่อน ถ้าหากทำได้ไม่ดีล่ะก็……เหอะๆ ๆ ๆ”
แอนดี้ช่วยเขาเช็กดูอีกที ยืนยันว่าไม่มีปัญหาแล้ว “ขอเพียงแค่โรงพยาบาลและสื่อไม่ออกข่าวอะไรขึ้นมาอีก อย่างน้อยพวกเราสามารถรับประกันได้ว่าก่อนขึ้นศาลความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตจะไม่รุนแรงขึ้นมาอีก”
โจวโร่หลินและทีมงานเพิ่งจะประชุมเสร็จ แต่ละคนเชิดหน้าชูตา เห็นได้ชัดว่ามีข่าวดีบางอย่าง
แอนดี้มองเห็นโจวโร่หลินจากที่ไกลๆ ก่อนจะเข้าไปขวางทางของเธอ “คุณนายเกา มีเรื่องอะไรให้ใจแบบนี้เหรอ? ประธานให้โบนัสพวกคุณเหรอ?”
โจวโร่หลินตั้งใจกะพริบตาทำเป็นไม่รู้เรื่องขึ้น “คุณแอนดี้ ประธานเป็นผู้หญิง สิ่งที่เธอมีพวกเราก็มีเช่นกัน มีอะไรที่ต้องตื่นเต้นเหรอ?”
แอนดี้ถูกแขวะกลับไป “ถ้าอย่างนั้นเรื่องอะไรล่ะ?”
โจวโร่หลินตบแฟ้มงานที่ตนกอดอยู่ “การคำนวณฝ่ายบัญชีน่ะ หลักฐานบ่งบอกชัดเจนว่าเดือนนี้กำไรของพวกเราสูงถึงสิบเอ็ดจุด สิบเอ็ดจุดเลยนะ!”
“เร็วขนาดนี้? ให้ฉันดูหน่อย!”
แอนดี้จะฉวยแฟ้มมาดู แต่ถูกโจวโร่หลินแย่งกลับไปกอดไว้แน่น
“แอนดี้ เรื่องของสาวเทพธิดาบ้านฉันน่ะ ประธานพูดว่าอย่างไร? ฉันได้ยินมาว่าญาติผู้เสียชีวิตจะเอาเรื่องขึ้นศาล ไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน จะเหยียบให้จมมิดกันไปเลย ยังทำเป็นเหมือนตัวเองมีเหตุผลอีก”
เรื่องนี้……
“ประธานจะเชิญทีมทนายมา รอก่อน เธอเอารายงานของฝ่ายบัญชีมาให้ฉันดูก่อนตอนนี้ ประธานไม่อยู่ห้องทำงาน”
แอนดี้ถือโอกาสหยิบแฟ้มมาหนึ่งเล่ม กลับพบว่าหยิบผิดแล้ว
ตั้งใจจะยื่นไปหยิบอีกครั้ง โจวโร่หลินกลับกอดไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม “ไม่อยู่? เป็นไปไม่ได้ ผู้ช่วยจี้บอกว่าหลังจากประชุมเสร็จเขาจะกลับห้องทำงาน ยังเรียกให้ฉันมาพบอีก”
ระหว่างสนทนา กู้เยนเซินและไป๋เวย อีกทั้งผู้นำระดับสูงของบริษัทฉู่ซื่อเดินพร้อมหลงเซียวมาจนถึงช่องทางเดิน กู้เยนเซินกำลังอธิบายสิ่งหนึ่งอยู่ ไป๋เวยเดินอยู่ด้านข้างคอยพูดเสริม คนด้านหลังพยักหน้าเห็นด้วยเป็นพักๆ
และผู้ที่เดินนำหน้าสุดอย่างหลงเซียวกลับมีใบหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึก จะมีเพียงแค่ขายรับออกมาไม่กี่คำบ่งบอกว่าตนรับรู้แล้ว
โจวโร่หลินถอยหลังไปสองก้าว ท่าทีแบบนี้ไม่ควรที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า
กลุ่มคนมีความสามารถเดินจากไปแล้ว โจวโร่หลินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม “เกิดอะไรขึ้น? เมื่อครู่ที่ท่านประธานเดินผ่านไปนั้น ฉันรับรู้ได้ถึงคลื่นใต้น้ำขนาดใหญ่!”
แอนดี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นเช่นกัน “ประธานกู้และประธานไป๋เดินขนาบข้างเช่นนี้ คงจะเป็นโครงการชานเมืองหลวงกระมัง”
“ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นนะ?” โจวโร่หลินพูดจบก็รีบถุยน้ำลายไล่สิ่งไม่ดีออกไปทันที
ไม่มีทาง!
ณ ห้องทำงานประธาน
หลงเซียวนั่งอยู่ที่เก้าอี้ประธาน “เรื่องนี้พวกเราสามารถประสานงานกับเมืองเจียงเฉิงได้ เจิ้งเฉิงหลินแสดงจุดยืนที่ชัดเจนออกมาแล้ว เขาและหวังคางมีจุดยืนการปกครองที่ไม่เหมือนกันเรื่องนี้เป็นความลับที่ถูกเปิดเผยออกมานานแล้ว ตอนนี้สืบได้ว่าหวังคางมีปัญหา ต้องดูสถานการณ์และรีบหาที่ต้นไม้ใหญ่ที่พึ่งพาได้แล้ว”
ดวงตาของกู้เยนเซินเปล่งประกายขึ้นมา “ช่วงนี้เสิ่นเหลียวมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหวังคาง หวังคางดึงดูดผลประโยชน์ไปได้ ดั่งคำกล่าวที่ว่าคนเลวที่อยู่ด้วยกันมักจะถูกจับ เพียงแค่ทำการตรวจสอบ เขาก็จบเห่ลงได้”
นักธุรกิจต่อกรกับนักการเมืองก็จะมีแผนการของตนเอง เมื่อนักธุรกิจเติบโตมาถึงจุดๆ หนึ่ง ไม่ว่าจะเยอะหรือน้อยก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องเกี่ยวข้องกับนักการเมือง
จะเลือกอยู่ฝั่งไหน จะใช้เงินไปกับสิ่งไหน จะทำเรื่องอะไร วงการนี้ซับซ้อนยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกมากนัก
หลงเซียวลูบคลำแหวนที่นิ้วของตน “คนที่หนุนหลังหวังคางอยู่คงไม่ยอมให้เขาล้มลงง่ายๆแน่ ก่อนที่จะรวบรวมรายชื่อผู้ให้สินบนมาได้ครบ เราอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวอะไร ให้เจิ้งเฉิงหลินลงมือเหนี่ยวไกไปก่อน”
กู้เยนเซินและไป๋เวยพยักหน้าแสดงออกว่ารับทราบ “ตอนนี้หวังคางกำลังถูกตรวจสอบอยู่ เสิ่นเหลียวคงจะไม่นิ่งนอนใจแน่ ไม่รู้ว่าหวังคางจะทนได้ถึงเมื่อไหร่”
ไป๋เวยถามออกมาอย่างกังวล
ดวงตาของกู้เยนเซินเข้มขึ้นมา “เสิ่นเหลียวเลียขาของเจิ้งเฉิงหลินไม่สำเร็จ ก็ไปกอดขาหวังคางต่อ ไม่นึกว่าหวังคางจะล้มเหลวเช่นกัน ถือว่าเขาช่างโชคร้ายจริงๆ”
ไป๋เวยหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ “แน่นอนว่าโชคร้ายสิ! แม้แต่ลูกชายของตนยังไม่ใช่ลูกแท้ๆ เลย ฉันว่าเขาโชคร้ายไปจนแม้กระทั่งเรื่องครอบครัวเลย”
เมื่อหารือเรื่องเมืองเจียงเฉิงจบ หลงเซียวนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง “เชือกเส้นนี้ของตู้หลิงเซวียน ฉันว่าควรจะตัดทิ้งลงได้แล้ว”
ปั้ง!
กู้เยนเซินและไป๋เวยมองไปยังหลงเซียวที่เหมือนกับพายุตอนนี้
หลงเซียวตบโต๊ะดังขึ้นมา “เกาจิ่งอานไปดักลักพาตัวตู้หลิงเซวียนที่สนามบิน และบอกว่าเตรียมเซอร์ไพรส์ให้เขาไว้ด้วยเล็กน้อย
กู้เยนเซิน:“……”
ไป๋เวย:“……”
เกาจิ่งอานคนนี้บางทีก็ตัดสินใจอย่างตรงไปตรงมา บางทีก็ค่อนข้างป่าเถื่อน ไม่รู้ครั้งนี้เขาเตรียมเซอร์ไพรซ์อะไรให้กับตู้หลิงเซวียน?
จู่ๆก็ขนลุกขึ้นมา แผ่นหลังเย็นเฉียบไปหมด
ณ นิวยอร์ก ห้องสโมสรส่วนตัว
เกาจิ่งอาน
“เฮ้ย ตื่นเร็ว ตื่นขึ้นมาเร็ว”
รอจนหมดความอดทน เกาจิ่งอานใช้ท่อนแขนของตนตบเข้าไปที่หน้าผากของตู้หลิงเซวียน
ตู้หลิงเซวียนดื่มน้ำที่ผสมยาหมดสติลงไปเมื่อครู่ โดนคนตะโกนเรียกให้ตื่น สมองตอนนี้มีแต่ความเบลอร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ก่อนจะพบว่าแขนของตนไม่สามารถขยับได้
เขาถูกล่ามไว้แล้ว!
ใช้แรงในการต่อต้าน แต่ได้ยินแค่เสียงของโซ่ที่ครูดดังไปมา
“เหอะๆ ๆ ประธานตู้ อย่าดิ้นรนไปเลย ไม่มีประโยชน์หรอก” เกาจิ่งอานยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย มือที่สวมถุงมือสีขาวอยู่นั้นค่อยๆ ขยับเข้ามาหาเขา……
ตู้หลิงเซวียนรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา “เกาจิ่งอาน! คุณบ้าไปแล้วเหรอ!”
มือของเกาจิ่งอานขยับเขยื้อนไปมาอยู่ใต้สะดือของเขาประมาณสามนิ้ว “ผมไม่ได้บ้าสักหน่อย แต่อยากรู้เฉยๆ ว่าคุณตู้ที่เหมือนกับเจ้าชายแบบนี้ ใหญ่หรือเปล่า ประสิทธิภาพดีหรือเปล่า”
ทั้งมือและเท้าของตู้หลิงเซวียนดิ้นรนไปไหนไม่ได้ แผ่นหลังของเขาขดตัวจนบีบแน่นไปหมด!
เกาจิ่งอานจิ๊ๆ ๆ “ประธานตู้ เพื่อเวลานี้ ผมรอมานานมาก คุณดูกล้องวิดีโอพวกนี้ ความคมชัดแบบFull HD สามารถจับได้ทุกรายละเอียด”
ปฏิกิริยาแรกของตู้หลิงเซวียนก็คือ ไอ้นี่เล่นพิเรนทร์!!
“คุณจะอัดวิดีโอมาแบล็กเมล์ผมเหรอ? เกาจิ่งอาน นี่เป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ!”บนร่างของ ตู้หลิงเซวียนตอนนี้มีเพียงผ้าผืนเดียวที่ปกปิดอยู่ ถ้าเปิดออกมาแล้ว……
เกาจิ่งอานสะบัดมือไปมา ก็ปรากฏกลุ่มผู้หญิงขาเรียวเอวคอด ผิวสีต่างๆ สีผมหลากหลาย สไตล์ที่แตกต่างกันไปค่อยๆเดินเข้ามา
เกาจิ่งอานหัวเราะดัง ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา “ผิดกฎหมาย? โห……ถ้าอย่างนั้นผมอยากถามประธานตู้ รวมตัวหมู่ทำเรื่องเช่นนี้ ผิดกฎหมายไหม?”
เมื่อเกาจิ่งอานให้สัญญาณมือแล้ว ผู้หญิงที่ใส่บิกินีก็เริ่มคลานขึ้นเตียงโดยท่าทางที่ต่างกันไป